The History of Whoo สกินแคร์ ราคาล่าสุด ซื้อเซ็ตไหนดีน่าลงทุน?


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยเรื่องสกินแคร์ที่ได้ยินชื่อแล้วถึงกับต้องยกมือทาบอก เพราะความอลังการดาวล้านดวงจริงๆ นั่นก็คือ The History of Whoo นั่นเอง! แบรนด์เกาหลีที่ไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาพร้อมกับความปังแบบฉบับราชวงศ์ ใครที่กำลังเล็งๆ อยากลองสกินแคร์ระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เซ็ตไหนน่าโดน มาค่ะ! เราจะพาไปเจาะลึกเรื่องราคากับเซ็ตน่าลงทุนแบบเข้าใจง่าย สไตล์เพื่อนสาวเม้าท์มอยกันเองนี่แหละ!
1. สกินแคร์นี้มันคืออะไรกันนะ? แล้วทำไมต้องตำ?
เอาล่ะค่ะ มาทำความรู้จักกับ The History of Whoo หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "ฮูว" เค้าเป็นสกินแคร์เกาหลีระดับ Luxury จากเครือ LG Household & Health Care ที่ดังมากๆ ในเรื่องการนำส่วนผสมสมุนไพรเกาหลีหายากตามตำรับยาโบราณในราชสำนักเกาหลี มาผสมผสานกับวิทยาการสมัยใหม่ คิดดูสิคะว่าสกินแคร์ที่เราใช้เนี่ย ได้แรงบันดาลใจมาจากเคล็ดลับความงามของจักรพรรดินีเกาหลีเลยนะ! ฟังแล้วก็ขนลุกซู่ อยากหน้าปังแบบองค์หญิงกันเลยทีเดียว
ฮูวเค้าเน้นแก้ปัญหาผิวที่กังวลกันวัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ความหมองคล้ำ หรือผิวขาดความชุ่มชื้น เค้ามีหลายไลน์มากๆ ให้เลือกตามสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เข้ากับผิว เพราะเค้าคิดค้นมาให้เหมาะกับผิวคนเอเชียโดยเฉพาะค่ะ กลุ่มเป้าหมายหลักๆ ก็จะเป็นสาวๆ วัย 30+ ที่เริ่มมองหาสกินแคร์ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและรู้สึกถึงความพรีเมียม ตั้งแต่แพ็กเกจจิ้งที่สวยงามอลังการเหมือนของในวัง ไปจนถึงเนื้อสัมผัสและกลิ่นหอมสมุนไพรที่ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้ทำสปาผิวทุกวันค่ะ
2. ราคาในไทยเป็นยังไงบ้าง? มีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่นเลยเหรอ?
มาถึงเรื่องที่ทำให้หลายคนคิดหนัก นั่นก็คือ ราคา นั่นเองค่ะ! ต้องบอกว่า The History of Whoo เนี่ย เป็นสกินแคร์ในกลุ่ม Luxury เพราะฉะนั้นราคาก็จะค่อนข้างสูงตามไปด้วย แต่เค้าก็มีหลากหลายราคาให้เลือกตำกันตามกำลังทรัพย์นะคะ
ถ้าเป็นขนาดจริง ไซส์ปกติ ราคาเคาน์เตอร์ในห้างก็จะเริ่มต้นที่ประมาณหลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักหมื่นเลยค่ะ อย่างไลน์ยอดนิยมอย่าง Bichup (บิชับ) หรือ Cheongidan (ชองกิดัน) ที่เน้นเรื่องลดเลือนริ้วรอยและผิวอ่อนเยาว์ ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 6,000 - 9,000 บาท สำหรับเซรั่มตัวดัง หรือถ้าเป็นไลน์ท็อปสุดอย่าง Hwanyu (ฮวานยู) ที่เน้นฟื้นฟูผิวแบบจัดเต็ม อันนี้ราคาพุ่งไปถึงหลักหมื่นปลายๆ เลยจ้า
ส่วนช่องทางช้อปในไทยเนี่ย ถ้าอยากได้ของแท้ชัวร์ๆ และได้รับบริการแบบเต็มที่ ก็ต้องไปที่เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เลยค่ะ เช่น Central หรือ The Mall นอกจากนี้ ตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada กับ Shopee ก็มี Official Store หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือหลายร้านนะคะ บางทีก็มีราคาดีลเด็ดๆ หรือเป็นเซ็ตพิเศษที่คุ้มค่ากว่าซื้อแยกชิ้นค่ะ
แต่ถ้าอยากลองแบบสบายกระเป๋าหน่อย เค้าก็มี ไซส์ทดลอง (Tester) หรือขนาดเล็กๆ ที่มักจะมาในรูปแบบเซ็ตของขวัญ หรือ Travel Set อันนี้ราคาจะน่ารักลงมาเยอะเลยค่ะ บางทีเริ่มต้นแค่หลักร้อยก็มีให้เห็น เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากลองเนื้อสัมผัส หรือดูว่าเข้ากับผิวเราไหมก่อนจะลงทุนซื้อไซส์จริงค่ะ
เรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนเนี่ย สำหรับสกินแคร์เกาหลีแบรนด์ใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ราคาในไทยก็จะบวกจากราคาที่เกาหลีอยู่แล้วค่ะ เพราะมีเรื่องภาษี ค่าขนส่ง และค่าการตลาดต่างๆ แต่ถ้าซื้อช่วงโปรโมชั่นดีๆ บางทีก็ได้ราคาที่ใกล้เคียงกับตอนไปซื้อที่เกาหลีเลยนะคะ
3. แล้วเทียบกับแบรนด์อื่นในตลาดล่ะ? คุ้มมั้ย?
เมื่อเอา The History of Whoo ไปเทียบกับสกินแคร์เคาน์เตอร์แบรนด์ระดับใกล้เคียงกันในตลาดไทย อย่าง Sulwhasoo (โซลวาซู) ที่เป็นสายสมุนไพรเกาหลีเหมือนกัน หรือแบรนด์ฝั่งยุโรปอย่าง SK-II, La Mer, หรือ Lancôme ไลน์พรีเมียม ต้องบอกว่าฮูวเค้าก็อยู่ในกลุ่ม High-End ที่มีราคาสูงพอๆ กันค่ะ
ความแตกต่างหลักๆ อาจจะอยู่ที่ Concept และ ส่วนผสมเด่น ค่ะ ฮูวจะเน้นตำรับราชสำนักเกาหลี ใช้สมุนไพรโบราณที่ผ่านการปรุงตามศาสตร์แพทย์แผนตะวันออก ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา คลาสสิก และความลับนางในวัง ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ อาจจะเน้นวิทยาศาสตร์ล้ำๆ หรือส่วนผสมจากธรรมชาติในรูปแบบอื่น
ถามว่าคุ้มไหม? อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและผลลัพธ์ที่ได้กับแต่ละบุคคลเลยค่ะ หลายคนที่ใช้ฮูวแล้วชอบมากๆ ก็จะรู้สึกว่าเค้าให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ผิวดูสุขภาพดี เปล่งปลั่งขึ้นจริง บางคนอาจจะรู้สึกว่าราคาสูง แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพและปริมาณที่ต้องใช้ (บางทีใช้แค่นิดเดียวก็ทั่วหน้าแล้ว) ก็อาจจะมองว่าคุ้มค่าที่จะลงทุนในระยะยาวค่ะ
4. ซื้อเซ็ตแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีของแถมจุกๆ ไหม?
จุดเด่นที่ทำให้ The History of Whoo น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะในตลาดไทยที่สายช้อปอย่างเราชอบอะไรคุ้มๆ นั่นก็คือ "เซ็ตพิเศษ" ค่ะ! เวลาซื้อแบบเป็นเซ็ต โดยเฉพาะช่วงที่มีโปรโมชั่น มักจะได้ของแถมจุกๆ เกินราคาที่จ่ายไปเยอะเลยค่ะ
ในเซ็ตส่วนใหญ่มักจะประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลักในขนาดจริง และมีขนาดทดลองหรือขนาดดีลักซ์ไซส์ของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในไลน์เดียวกัน หรืออาจจะต่างไลน์กันมาให้ลองใช้ด้วย นี่แหละคือข้อดี เพราะทำให้เราได้ลองผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวในราคาที่คุ้มกว่าซื้อแยกเยอะ แถมขนาดทดลองบางทีก็ใช้ได้นานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนเลยนะคะ
ส่วนเรื่องที่รวมมาด้วยในเซ็ตหรือการซื้อปกติ ก็จะมีเรื่อง แพ็กเกจจิ้ง ที่บอกเลยว่าอลังการงานสร้างมากๆ กล่องสวยงาม ขวดสวยหรู เก็บไว้ตั้งโชว์ได้เลยค่ะ ส่วน ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์จาก Official Store หรือร้านใหญ่ๆ มักจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีเมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด ต้องลองเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านดูค่ะ
เรื่อง การรับประกัน สำหรับสกินแคร์จะไม่ได้มีแบบรับประกันตัวเครื่องเหมือนพวกอิเล็กทรอนิกส์นะคะ แต่ถ้าซื้อจากเคาน์เตอร์หรือร้านค้าทางการ ถ้าสินค้ามีปัญหา เช่น แพ็กเกจชำรุด หรือเนื้อผลิตภัณฑ์ผิดปกติ ก็สามารถติดต่อขอเปลี่ยนหรือคืนได้ตามนโยบายของร้านค่ะ คนไทยเราก็ให้ความสำคัญกับความสบายใจหลังการขายนี่แหละเนอะ!
นอกจากขนาดทดลองในเซ็ต บางครั้งเคาน์เตอร์หรือร้านค้าออนไลน์ก็อาจจะมี ของแถมพิเศษ เพิ่มเติม เช่น กระเป๋า เครื่องสำอางขนาดเล็ก หรือคูปองส่วนลดต่างๆ อันนี้ก็ต้องคอยติดตามโปรโมชั่นของแต่ละที่ค่ะ
5. ช่วงไหนน่ากดที่สุด? โปรโมชั่นมาเมื่อไหร่กันนะ?
สำหรับสายช้อปที่เน้นความคุ้มค่า การรอซื้อช่วง โปรโมชั่น คือคำตอบสุดท้ายค่ะ! The History of Whoo ก็เหมือนกับแบรนด์เคาน์เตอร์อื่นๆ ที่มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือจัดเซ็ตพิเศษออกมาเป็นระยะๆ
ช่วงที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือ เทศกาลลดราคาใหญ่ๆ อย่างช่วงปลายปี 11.11 หรือ 12.12 ที่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee จัดหนักจัดเต็ม อันนี้มีโอกาสเจอเซ็ตพิเศษที่ราคาดีมากๆ หรือมีส่วนลดเพิ่มจากโค้ดต่างๆ ค่ะ
นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลสำคัญของไทย หรือช่วงที่เป็นวันหยุดยาวต่างๆ ห้างสรรพสินค้าเองก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือสะสมคะแนนพิเศษสำหรับสินค้ากลุ่มบิวตี้ ซึ่งก็รวมถึง The History of Whoo ด้วยค่ะ ลองเช็คโปรโมชั่นของห้าง Central, The Mall หรือ King Power Duty Free ดูก่อนก็ได้นะคะ
ร้านค้าระดับ Flagship Store หรือ Official Store บน Lazada/Shopee ก็มักจะมีโปรโมชั่นของตัวเองบ่อยๆ ค่ะ บางทีไม่ได้ลดราคาตรงๆ แต่จะมีโค้ดส่วนลดสำหรับร้าน หรือเป็นของแถมพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น
สรุปคือ ถ้าไม่รีบมาก และอยากได้แบบคุ้มสุดๆ แนะนำให้ อดใจรอช่วงโปรโมชั่น ค่ะ หรือถ้าเห็นเซ็ตพิเศษที่ถูกใจในราคาที่รับได้ ก็อย่าลังเล เพราะบางทีเซ็ตพวกนี้มีจำนวนจำกัดนะคะ!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงบ้างนะ? รีวิวจากผู้ใช้จริง!
มาดูกันที่เสียงตอบรับจากผู้ใช้ชาวไทยกันบ้างค่ะ จากที่ส่องๆ ดูตามรีวิวต่างๆ ทั้งใน Shopee, Lazada หรือตามเว็บบอร์ด/กลุ่มรีวิวสกินแคร์ ต้องบอกว่าหลายคนประทับใจในผลลัพธ์ของ The History of Whoo พอสมควรเลยค่ะ
จุดที่คนไทยพูดถึงบ่อยๆ ก็คือเรื่อง ผลลัพธ์ในการลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น หลายคนรู้สึกว่าผิวดูเฟิร์ม กระชับ และเรียบเนียนขึ้น บางคนบอกว่าช่วยเรื่องความกระจ่างใสและทำให้ผิวดูโกลว์ๆ สุขภาพดี นอกจากนี้ เรื่อง ความชุ่มชื้น ก็เป็นอีกจุดที่ได้รับคำชม เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง หรือต้องการเติมน้ำให้ผิวค่ะ
เนื้อสัมผัส ก็เป็นอีกเรื่องที่ถูกพูดถึง บางคนชอบที่เนื้อเข้มข้น แต่ซึมเข้าผิวได้ดี ไม่เหนอะหนะเกินไป บางไลน์อาจจะเนื้อหนักหน่อย เหมาะกับการใช้ตอนกลางคืน หรือคนที่มีผิวแห้งมากๆ
ส่วนเรื่องกลิ่น หลายคนชอบ กลิ่นหอมสมุนไพร ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ รู้สึกผ่อนคลายเหมือนทำสปา แต่บางคนที่Sensitive กับน้ำหอมอาจจะต้องลองทดสอบดูก่อนค่ะ
โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยส่วนใหญ่เน้นไปที่ ประสิทธิภาพในการบำรุงผิว และ ความรู้สึกหรูหรา ที่ได้รับจากการใช้ค่ะ
7. จะไปสอยได้จากที่ไหนดีนะ? แหล่งช้อปที่น่าเชื่อถือ
เพื่อความสบายใจว่าจะได้ของแท้ คุณภาพดี แนะนำให้ช้อปผ่านช่องทางที่เป็นทางการหรือน่าเชื่อถือนะคะ
- เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า: อันนี้ชัวร์สุด ได้ลองเนื้อผลิตภัณฑ์จริง ได้ปรึกษา BA (Beauty Advisor) ผู้เชี่ยวชาญ และมักจะมีโปรโมชั่นร่วมกับห้างค่ะ ลองดูได้ที่ Central หรือ The Mall ค่ะ
- Official Online Store: บางทีแบรนด์ก็มีเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง อันนี้ก็มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ (Lazada, Shopee): เป็นแหล่งที่สะดวกมากๆ มีสินค้าให้เลือกเยอะ และมักมีโปรโมชั่นดีๆ แต่ต้อง เลือกซื้อจากร้านค้าที่เป็น Official Store ของ The History of Whoo เอง หรือร้านค้าที่เป็นผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ นะคะ ระวังร้านที่ขายราคาถูกจนผิดปกติ อาจจะเป็นของปลอมได้ค่ะ
- King Power Duty Free: สำหรับคนที่มีแพลนเดินทางต่างประเทศ หรือช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ของ King Power ก็เป็นอีกทางเลือกที่ได้ของแท้ในราคาดีค่ะ
ส่วนร้านค้าปลีกอื่นๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ หรือร้านค้าออนไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษนะคะ
8. สรุปแล้ว เซ็ตไหนน่าลงทุน? เหมาะกับใครบ้าง?
มาถึงช่วงสรุปตัดสินใจ! ถามว่า The History of Whoo น่าลงทุนไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่มีงบประมาณสำหรับสกินแคร์ระดับพรีเมียม และกำลังมองหาสกินแคร์ที่เน้นเรื่องลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง และชอบความรู้สึกหรูหราจากการบำรุงผิว ก็น่าลงทุนมากๆ ค่ะ!
สำหรับเซ็ตที่น่าลงทุน ลองพิจารณาจากปัญหาผิวและงบประมาณได้เลยค่ะ
- เซ็ต Bichup: ถ้าเน้นเรื่องริ้วรอย ผิวไม่แข็งแรง ต้องการการฟื้นฟูแบบเร่งด่วน ไลน์ Bichup ที่มีเซรั่มตัวดัง (Bichup Self-Generating Anti-Aging Concentrate) ถือเป็นไลน์เริ่มต้นที่หลายคนแนะนำค่ะ ลองดูเป็นเซ็ต Bichup Special Set ที่มักจะมีขนาดจริงคู่กับขนาดทดลองอื่นๆ มาให้ค่ะ
- เซ็ต Cheongidan: ถ้าเน้นเรื่องความกระจ่างใส ผิวเปล่งปลั่ง พร้อมๆ กับช่วยเรื่องริ้วรอย ไลน์ Cheongidan ก็น่าสนใจค่ะ เซ็ต Cheongidan Radiant Special Gift Set หรือ Cheongidan Rejuvenating Special Set ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ได้ลองหลายตัวในไลน์นี้ค่ะ
- เซ็ต Hwanyu: ถ้ามีปัญหาผิวที่ค่อนข้างหนัก ต้องการการบำรุงและฟื้นฟูแบบเข้มข้น และมีงบถึง ไลน์ Hwanyu คือที่สุดของแบรนด์นี้ค่ะ ราคาสูง แต่ส่วนผสมจัดเต็มมากๆ ลองดูเป็น Hwanyu Special Gift Set ที่เป็นขนาดทดลองรวมหลายๆ ตัวในไลน์นี้ เพื่อทดลองก่อนก็ได้ค่ะ
- เซ็ตขนาดทดลอง (Travel Set/Mini Set): ถ้าเพิ่งเริ่มต้นอยากลอง หรือมีงบจำกัด แนะนำให้มองหาเซ็ตขนาดทดลองเลยค่ะ ได้ลองหลายผลิตภัณฑ์ในราคาหลักร้อยถึงพันต้นๆ คุ้มสุดๆ ไว้ถ้าใช้แล้วชอบจริงๆ ค่อยขยับไปซื้อไซส์จริงตอนมีโปรโมชั่นใหญ่ๆ ค่ะ
โดยสรุป The History of Whoo เหมาะกับคนที่มองหาสกินแคร์ที่ให้ผลลัพธ์เรื่อง Anti-Aging และความเปล่งปลั่งอย่างชัดเจน ชอบความหรูหรา และยอมลงทุนกับสกินแคร์เพื่อผิวที่ดีในระยะยาวค่ะ เลือกเซ็ตที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณ แล้วเตรียมผิวปังแบบจักรพรรดินีกันได้เลยจ้า!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- เฟียร์ซบุก History of Whoo พาดูแบบจัดเต็มครั้งแรก ตัวไหนเด็ด ตัว ...
- รีวิวอีกรอบหลังใช้ครบ 6 ปีเต็ม THE HISTORY OF WHOO BICHUP ...
- Review The History of Whoo ที่ชอบที่สุด ใช้มาหลายขวด
- เคาน์เตอร์แบรนด์เหล่านี้คุ้มค่าจริงหรอ? รวม Dupe ราคาเบาที่คุ้มเงิน ...
- The History of Whoo unboxing and review Bichup | แกะกล่อง ...
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา Adidas Alphaedge 4D รองเท้าวิ่ง พื้น 4D Print สุดล้ำ รีวิว
ราคา Feora ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร/บำรุงผิว รุ่นยอดนิยม รีวิวแน่น
ราคา Mercedes-Benz GLE Class รุ่นล่าสุด SUV หรูหรา น่าใช้ไหม?
ราคา โครงกระบะสแตนเลส รับทำ พร้อมประมาณราคา
ราคา Epiphone Les Paul Century กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า เสียงดี
ราคา Samsung Galaxy J6 ล่าสุด ยังมีขายไหม?