รีวิว Nike Mercurial Superfly 7 (รองเท้าฟุตบอล): รองเท้าตัวท็อป เหมาะกับตำแหน่งไหน?

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวลูกหนัง! วันนี้ผมมีไอเทมเด็ดที่จะมารีวิวให้ฟังแบบเจาะลึกถึงกึ๋นกันเลยทีเดียว นั่นก็คือรองเท้าฟุตบอลตัวท็อปในตำนานอย่าง Nike Mercurial Superfly 7 นั่นเอง! หลายคนอาจจะสงสัยว่ารองเท้าคู่นี้มันมีดียังไง ทำไมนักบอลระดับโลกถึงใส่กันเยอะ แล้วถ้าเราเป็นนักเตะบ้านๆ แบบเน้นความสนุกเป็นหลักเนี่ย มันเหมาะกับเรามั้ย? คุ้มค่ากับเงินที่ต้องแลกไปหรือเปล่า? บทความนี้มีคำตอบให้ครบทุกข้อสงสัย พร้อมแฉหมดเปลือก ไม่มีกั๊ก!

1. ภาพรวมของ Nike Mercurial Superfly 7: ตัวแรงแซงทุกโค้ง

แบรนด์: Nike
รุ่น: Mercurial Superfly 7 (มีรุ่น Vapor 13 ที่เป็นข้อสั้นด้วย คุณสมบัติส่วนใหญ่เหมือนกัน ต่างแค่ตรงคอเสื้อ Dynamic Fit Collar)
ปีที่วางขาย: เปิดตัวช่วงเดือนกรกฎาคม 2019
ช่วงราคาขาย: ตอนเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 300 USD (หมื่นกว่าบาท) ปัจจุบันราคาอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย (Elite, Pro, Academy, Club) และช่วงโปรโมชั่น อาจเจอราคาดีๆ ในออนไลน์ได้

การวางตำแหน่งสินค้า: เป็นรองเท้าฟุตบอล รุ่นตัวท็อป (Elite) เน้นความเร็ว ความคล่องตัว และการสัมผัสบอลที่ดี เหมาะกับนักฟุตบอลที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในสนาม

สรุปจุดเด่นหลัก (ตามที่ Nike เคลมมา):

• Upper Flyknit แบบใหม่: ใช้เส้นด้ายความทนทานสูง ทำให้ผิวนุ่ม แต่ยังคงโครงสร้างและให้ความรู้สึกกระชับเหมือนใส่ถุงเท้า
• สัมผัสบอลขั้นเทพ: มีผิวสัมผัสแบบ Microtexturized พร้อมเทคโนโลยี All Conditions Control (ACC) ช่วยให้ควบคุมบอลได้ดี ไม่ว่าจะเปียกหรือแห้ง
• ชุดพื้น Aerotrak: ออกแบบมาเพื่อการระเบิดความเร็ว ยึดเกาะพื้นได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะพื้นสนามหญ้าจริง (FG)
• Dynamic Fit Collar: ส่วนหุ้มข้อเท้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเดียวกับขา ช่วยเพิ่มความกระชับและมั่นคง (เฉพาะรุ่น Superfly)

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เห็นแล้วใจละลาย!

ดีไซน์ของ Superfly 7 บอกเลยว่าเตะตาตั้งแต่แรกเห็น! มันดูเพรียว ดูพุ่ง ดูพร้อมจะระเบิดความเร็วตลอดเวลา วัสดุหลักเป็นผ้าถัก Flyknit ผสมผสานกับ NikeSkin บางๆ คลุมทับ ทำให้รองเท้าดูเนียนเป็นชิ้นเดียว

การออกแบบ: ทรงเพรียว บางเบา มีส่วนหุ้มข้อ Dynamic Fit Collar ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Superfly ลวดลาย Swoosh ของ Nike บางสีก็จะดูโดดเด่นเป็นพิเศษ

วัสดุที่ใช้: Flyknit ผสมเส้นด้ายความทนทานสูง (High-tenacity yarn) และ NikeSkin

ขนาดและน้ำหนัก: เป็นรองเท้าที่เน้นความเบา เพื่อความรวดเร็วตามสไตล์ Mercurial น้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย

สีที่มีให้เลือก: มีออกมาหลายสีมากกกก ตามคอลเลคชั่นต่างๆ ทั้งสีฉูดฉาด สีเรียบๆ หรือสีพิเศษสำหรับนักเตะดังก็มี

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: โดยทั่วไปรุ่นท็อป (Elite) มักจะมีถุงผ้าใส่รองเท้ามาให้ด้วย ส่วนคู่มือหรือกล่องก็เป็นไปตามมาตรฐาน Nike

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: วิ่งฉิว ยึดเกาะหนึบ

หัวใจหลักของ Mercurial คือ "ความเร็ว" และ Superfly 7 ก็ทำได้ดีเยี่ยมในจุดนี้

ความเร็วและการตอบสนอง: ชุดพื้น Aerotrak ที่ปลายเท้าช่วยให้รู้สึกเหมือนมีสปริงใต้ฝ่าเท้า เวลาออกตัวหรือเปลี่ยนทิศทางทำได้รวดเร็วมาก การยึดเกาะของปุ่มสตั๊ดก็เด็ดขาด ทำให้วิ่งสปรินท์ได้เต็มที่โดยไม่กลัวลื่น

การสัมผัสบอล: Upper Flyknit ที่บางและกระชับเท้าทำให้รู้สึกเหมือนสัมผัสบอลด้วยเท้าเปล่า การเลี้ยงบอล การจับบอลทำได้เนียนมือ (เอ้ย! เนียนเท้า) มากๆ เทคโนโลยี ACC ก็ช่วยได้จริงเวลาเจอสนามเปียกๆ

ความกระชับและมั่นคง: Flyknit ที่ใช้เส้นด้ายความทนทานสูงช่วยล็อคเท้าได้ดี ไม่ให้เท้าขยับไปมาในรองเท้าเวลาวิ่งเร็วๆ หรือเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน ส่วนหุ้มข้อ Dynamic Fit Collar ก็เพิ่มความรู้สึกกระชับและเป็นส่วนหนึ่งกับข้อเท้า

สถานการณ์จริง: ลองใส่ลงสนามหญ้าจริง (FG) คือสุดยอดมาก! ทั้งการออกตัว การวิ่งแซงคู่แข่ง การเลี้ยงบอลติดเท้าทำได้ดั่งใจนึก เวลาพลิกบอล ยิงประตู ก็รู้สึกได้ถึงความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นด้วย

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใส่แล้วรู้สึกเป็นซุปเปอร์สตาร์!

เรื่องความง่ายในการใช้งานอาจจะต้องปรับตัวเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่เคยใส่รองเท้าหุ้มข้อ แต่ถ้าชินแล้วจะรู้สึกเลยว่ามันเพิ่มความมั่นคงได้ดี

ความง่ายในการใส่: ช่วงแรกอาจจะรู้สึกว่าใส่ยากนิดหน่อย เพราะส่วนหุ้มข้อค่อนข้างกระชับ แต่พอใส่ไปสักพัก Flyknit จะยืดหยุ่นเข้ากับรูปเท้าได้ดีขึ้น

ความสบาย: Upper Flyknit ค่อนข้างนุ่ม ทำให้ใส่สบายตั้งแต่ครั้งแรกๆ ไม่ต้อง Break-in นานเหมือนหนังสังเคราะห์รุ่นเก่าๆ แต่ถ้าคนเท้ากว้างมากๆ อาจจะรู้สึกบีบหน่อยในช่วงแรก เพราะทรงรองเท้าค่อนข้างเพรียว

การระบายอากาศ: วัสดุ Flyknit ช่วยให้ระบายอากาศได้ดีในระดับหนึ่ง เท้าไม่ถึงกับอับชื้นมากนัก

5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: ลงทุนเพื่อประสิทธิภาพ

รองเท้าตัวท็อปอย่าง Superfly 7 ราคาสูงแน่นอน แต่ถ้ามองในแง่ของประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่อัดแน่นมาให้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับคนที่จริงจังกับการเล่นฟุตบอล

ความทนทาน: วัสดุ Flyknit ที่ใช้เส้นด้ายความทนทานสูงค่อนข้างแข็งแรง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพสนามด้วย หากดูแลรักษาดีๆ ก็ใช้ได้นานพอสมควร

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ คือค่าตัวรองเท้าเอง การซ่อมแซมอาจทำได้ยากหากเกิดความเสียหายร้ายแรง

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้าคุณคือนักเตะที่ต้องการรองเท้าคู่ใจเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุดในสนาม ไม่ว่าจะแข่งหรือซ้อมอย่างจริงจัง Superfly 7 คือตัวเลือกที่น่าลงทุน แต่ถ้าเตะบอลแค่ออกกำลังกายขำๆ อาจจะลองดูรุ่นรองลงมา (Pro, Academy) ที่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามากกว่า

6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีทั้งเรื่องฟินและเรื่องที่ต้องทำใจ

ข้อดี:

• ความเร็วสุดยอด: ชุดพื้นและ Upper ส่งเสริมการสปรินท์และเปลี่ยนทิศทางได้ดีเยี่ยม
• สัมผัสบอลดีมาก: รู้สึกถึงบอลได้เต็มที่ ควบคุมบอลได้แม่นยำ
• กระชับเท้าเหมือนถุงเท้า: Upper Flyknit และ Dynamic Fit Collar ช่วยล็อคเท้าได้ดี
• ดีไซน์สวยงาม: หล่อเหลา เตะตาในสนาม
• น้ำหนักเบา: ไม่ถ่วงให้รู้สึกอืดอาด

ข้อเสีย:

• ราคาสูง: เป็นรองเท้าตัวท็อป ราคาแรงตามไปด้วย
• อาจไม่เหมาะกับคนเท้ากว้าง: ทรงรองเท้าค่อนข้างเพรียว คนเท้ากว้างอาจรู้สึกบีบ ไม่สบาย
• ส่วนหุ้มข้ออาจไม่ให้การซัพพอร์ตข้อเท้ามากนัก: แม้จะช่วยเรื่องความกระชับ แต่ไม่ได้ซัพพอร์ตเต็มที่เหมือนที่บางคนคาดหวัง
• ปุ่ม FG อาจไม่เหมาะกับสนามหญ้าเทียม: หากเล่นบนหญ้าเทียมเป็นหลัก ควรเลือกรุ่นปุ่ม AG หรือ MG แทน เพื่อลดแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรจัด ใครควรรอ?

เหมาะกับ:

• นักฟุตบอลที่เน้นความเร็ว: ปีก, กองหน้า, กองกลางตัวรุก ที่อาศัยการสปรินท์และการเปลี่ยนทิศทางเป็นหลัก (แม้ Nike จะบอกว่าเหมาะกับทุกตำแหน่ง แต่ Mercurial เด่นสุดเรื่องความเร็ว)
• นักฟุตบอลที่ต้องการสัมผัสบอลแบบเท้าเปล่า: คนที่ชอบฟีลลิ่งการควบคุมบอลที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด
• นักฟุตบอลระดับจริงจัง: คนที่ลงแข่งบ่อยๆ หรือซ้อมหนัก ต้องการรองเท้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสนาม

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: ลงเล่นในสนามจริงที่สภาพดี (ปุ่ม FG) หรือสนามหญ้าเทียม (เลือกรุ่นปุ่ม AG/MG)

ควรซื้อเลยไหม? ถ้าเป็นสายสปีดตัวจริง งบถึง และชอบฟีลลิ่งแบบกระชับเหมือนถุงเท้า จัดเลยไม่ผิดหวัง! แต่ถ้าเพิ่งเริ่มเล่น หรือนานๆ เตะที หรือมีงบจำกัด ลองดูรุ่นรองลงมา หรือรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ จะคุ้มกว่า

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: คู่แข่งมีใครบ้าง?

ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นในกลุ่มรองเท้าสายสปีด ก็จะมี Adidas X หรือ Puma Ultra ที่เป็นคู่แข่งโดยตรง ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดเด่นและฟีลลิ่งที่แตกต่างกันไป ต้องลองไปสัมผัสเองถึงจะรู้ว่าชอบแนวไหน

ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นของ Nike เอง อย่าง Mercurial Vapor 13 (รุ่นข้อสั้น) สองรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีและวัสดุส่วนใหญ่เหมือนกันเป๊ะ ต่างกันแค่ตรงที่มี/ไม่มี Dynamic Fit Collar เท่านั้น ถ้าไม่ชอบความรู้สึกหุ้มข้อ ก็จัด Vapor ได้เลย ประสิทธิภาพไม่ต่างกัน ส่วนรุ่น Elite กับรุ่น Pro/Academy/Club ก็จะแตกต่างกันที่วัสดุและเทคโนโลยีที่ใช้ รุ่น Elite จะเป็นตัวท็อปสุด วัสดุพรีเมียมสุด

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ช้อปที่ไหนดี มีโปรมั้ย?

การรับประกัน: โดยทั่วไปรองเท้าฟุตบอล Nike ของแท้ที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยมักจะมีการรับประกันตามเงื่อนไขของแบรนด์

ช่องทางการซื้อ: สามารถหาซื้อได้ทั้งที่ร้าน Supersports หรือตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วไป รวมถึงร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Nike หรือร้านค้าบนแพลตฟอร์มอย่าง Lazada, Shopee ก็มีให้เลือกเยอะมาก แต่ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือและเป็นของแท้!

โปรโมชั่น: ช่วงเทศกาลสำคัญๆ เช่น วันเกิด Lazada/Shopee, 11.11, 12.12 หรือช่วงปลายปี มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือโค้ดส่วนลดพิเศษ ทำให้ได้รองเท้าในราคาที่ถูกลงเยอะ บางร้านอาจมีตัวเลือกผ่อนชำระ หรือเก็บเงินปลายทางด้วย

คำแนะนำ: เช็คราคาจากหลายๆ ที่ เปรียบเทียบโปรโมชั่น และอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ จะได้ของดีราคาโดนใจครับ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ควรตำ หรือควรเท?

จากที่รีวิวมาทั้งหมด Nike Mercurial Superfly 7 เป็นรองเท้าฟุตบอลตัวท็อปที่เกิดมาเพื่อความเร็วโดยแท้จริง เหมาะมากๆ สำหรับนักเตะที่เน้นการสปรินท์ การใช้ความเร็ว และต้องการสัมผัสบอลที่ยอดเยี่ยม

ถ้าคุณเป็นนักเตะสายสปีด งบประมาณถึง และชอบฟีลลิ่งกระชับเหมือนใส่ถุงเท้า รองเท้าคู่นี้คือ “ต้องตำ” เลยครับ! มันจะช่วยให้คุณปลดปล่อยความเร็วได้อย่างเต็มที่ในสนาม

แต่ถ้า:

• คุณไม่ได้เน้นความเร็วเป็นพิเศษ
• เท้าค่อนข้างกว้าง
• มีงบจำกัด
• หรือส่วนใหญ่เล่นในสนามหญ้าเทียมที่ไม่ใช่ปุ่ม FG

อาจจะต้องพิจารณาตัวเลือกอื่น หรือมองหารุ่นรองลงมาของ Nike Mercurial (Pro, Academy) หรือลองดูแบรนด์อื่นที่อาจจะเหมาะกับเท้าและสไตล์การเล่นของคุณมากกว่าครับ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะครับ เพื่อนๆ คนไหนเคยใช้ Superfly 7 แล้วรู้สึกยังไง มาแชร์ประสบการณ์กันได้ในคอมเมนต์เลยนะคร้าบบบ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• Nike Mercurial Superfly 7 Elite FG 'Dream Speed 003' Review ...
• รีวิว EP4 : สตั๊ด Nike Mercurial Superfly 7 Elite fg
• รีวิวรองเท้าสตั๊ด Nike Mercurial Vapor13 & Superfly7 ตัวใหม่ล่าสุด
• Review EP.5 Nike mercurial superfly 7 FG&AG
• สตั๊ดไนกี้ออกแบบเอง คู่ดียวในไทย (Superfly 7 Elite -​W2R ...