ราคา ตั๋วรถไฟนอน เส้นทางยอดนิยม จองยังไงให้ได้ที่นั่งดีที่สุด?


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ขอเม้าท์มอยเรื่องการเดินทางแบบคลาสสิกที่หลายคนยังอินไม่หาย นั่นก็คือออ ตั๋วรถไฟนอน นั่นเองจ้า! ใครที่กำลังแพลนเที่ยวแบบชิลๆ ไม่รีบร้อน อยากนอนยาวๆ ไปโผล่อีกจังหวัดตอนเช้าแบบไม่เหนื่อย ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักๆ วิ่งขึ้นเครื่องตั้งแต่ไก่โห่ มาฟังทางนี้เลย เพราะเราจะมาเจาะลึกราคา เส้นทางยอดฮิต และเคล็ดลับจองยังไงให้ได้ที่นอนดีที่สุด! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วขึ้นรถไฟแห่งความสุขไปพร้อมกันเล้ยยย!
1. "ผลิตภัณฑ์" นี้มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ สงสัยล่ะสิว่ารถไฟนอนมันคือ "ผลิตภัณฑ์" ยังไง? แหม ก็มันเป็นเหมือนบริการสุดพิเศษจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไงล่ะ! แทนที่จะนั่งปวดเมื่อยก้นไปตลอดคืน เค้าก็มีเบาะที่ปรับเป็นเตียงให้เรานอนเหยียดยาวไปได้สบายๆ เลยจ้า คิดภาพตามนะ... ขึ้นรถไฟตอนกลางคืน ได้เตียงนุ่มๆ (อะแฮ่ม...นุ่มตามมาตรฐาน รฟท. นะจ๊ะ) มีผ้าห่ม มีหมอน พร้อมหลับยาวๆ ตื่นเช้ามาก็ถึงที่หมาย พร้อมเที่ยวต่อได้เลย! เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่เดินทางไกลๆ ข้ามคืน อย่างเช่น เส้นทางยอดนิยมสุดคลาสสิกอย่าง กรุงเทพฯ ไป เชียงใหม่, กรุงเทพฯ ไปโซนอีสานอย่าง อุบลราชธานี หรือ หนองคาย หรือจะลงใต้ไป หาดใหญ่, ตรัง, นครศรีธรรมราช ก็มีหมด เป็นการเดินทางที่ได้ฟีลไปอีกแบบ ไม่เหมือนขึ้นเครื่องบินแป๊บเดียวถึง หรือนั่งรถทัวร์ที่บางทีก็หลับไม่ค่อยสบายนะจ๊ะ
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง? (ค่าตั๋วนั่นเอง!)
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนต้องคำนวณในใจ นั่นก็คือ ราคาตั๋วรถไฟนอน นี่แหละ! ราคาก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนะจ๊ะ ทั้งเส้นทาง ระยะทาง และที่สำคัญคือ "ชั้น" ที่เราเลือกนอน ซึ่งหลักๆ ก็จะมี:
- ชั้น 1 (ปรับอากาศเตียงนอน): อันนี้จะมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพราะเป็นห้องส่วนตัวเลยจ้า ส่วนใหญ่จะมี 2 เตียงในห้องเดียว ใครอยากนอนคนเดียวก็สามารถ เหมาห้อง ไปได้เลย ราคาจะสูงที่สุดตามความสบายและเป็นส่วนตัวนะจ๊ะ ราคาคร่าวๆ สำหรับเส้นทางยอดฮิต อย่าง กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ชั้น 1 เตียงบนจะอยู่ที่ประมาณ 1,446 - 1,453 บาท เตียงล่าง 1,646 - 1,653 บาท ถ้าเหมาห้องก็จะประมาณ 2,446 - 2,453 บาท หรือเหมา 2 คนอยู่ที่ประมาณ 3,380 บาท เส้นทางอื่นก็จะมีราคาแตกต่างกันไป เช่น กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี ชั้น 1 เตียงบนประมาณ 1,317 บาท เตียงล่าง 1,517 บาท กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ ชั้น 1 เตียงบนประมาณ 1,590 บาท เตียงล่าง 1,790 บาท
- ชั้น 2 (ปรับอากาศเตียงนอน): อันนี้จะเป็นแบบรวมๆ หน่อย แต่เค้าก็มีม่านกั้นเป็นสัดส่วนนะ ไม่ต้องกลัวโป๊! เป็นที่นิยมมากๆ เพราะราคาก็จะน่ารักกว่าชั้น 1 เยอะเลยจ้า มีทั้งเตียงบนและเตียงล่าง ราคาสำหรับเส้นทาง กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ชั้น 2 เตียงบนประมาณ 938 - 941 บาท เตียงล่างประมาณ 1,038 - 1,041 บาท เส้นทาง กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี ชั้น 2 เตียงบนประมาณ 879 บาท เตียงล่าง 979 บาท กรุงเทพฯ - หนองคาย ชั้น 2 เตียงบนประมาณ 898 - 938 บาท เตียงล่าง 998 - 1,038 บาท กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ ชั้น 2 เตียงบนประมาณ 898 - 938 บาท เตียงล่าง 998 - 1,038 บาท
ราคาที่บอกเป็นแค่ราคาประมาณการนะ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ แนะนำให้เช็คราคาล่าสุดจากช่องทางทางการของ รฟท. อีกทีจ้า!
3. แล้วเทียบกับ "คู่แข่ง" ล่ะ ราคาเป็นไง?
ถ้าให้เทียบกับวิธีการเดินทางยอดฮิตอื่นๆ ในระยะทางไกลๆ ข้ามคืนเนี่ย รถไฟนอนก็มีข้อดีข้อเสียเรื่องราคาที่น่าคิดนะจ๊ะ
- เทียบกับรถทัวร์: ราคาตั๋วรถไฟนอนชั้น 2 ส่วนใหญ่จะใกล้เคียงหรือสูงกว่ารถทัวร์ VIP เล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้คือพื้นที่นอนที่เหยียดยาวได้สบายกว่า และไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดเท่ารถทัวร์นะจ๊ะ แต่รถทัวร์ก็อาจจะมีรอบเยอะกว่าและไปได้หลายจุดหมายปลายทางกว่า
- เทียบกับเครื่องบิน: อันนี้เห็นชัดเลยว่า ราคาตั๋วรถไฟนอนถูกกว่าตั๋วเครื่องบินเยอะมากกกก (ยกเว้นช่วงโปรโมชั่นหฤโหดจริงๆ) แต่ก็ต้องแลกกับเวลาเดินทางที่นานกว่ามากๆ ด้วย เครื่องบินใช้เวลาแค่ชั่วโมงนิดๆ แต่รถไฟนอนใช้เวลาข้ามคืนกันเลยทีเดียว
ดังนั้น ถ้าเน้นเรื่อง ความคุ้มค่า ในงบประมาณที่จำกัด และมีเวลาเดินทางแบบไม่เร่งรีบมากนัก รถไฟนอนนี่แหละคือตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยจ้า!
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? (สิ่งที่มาพร้อมตั๋ว)
เวลาซื้อตั๋วรถไฟนอน สิ่งที่เราจะได้มาไม่ใช่แค่กระดาษ (หรือไฟล์ PDF) นะจ๊ะ แต่สิ่งที่มาพร้อมกับตั๋วก็คือ:
- ที่นอนของเราเอง: ไม่ว่าจะเป็นเตียงบนหรือเตียงล่างในชั้น 2 หรือห้องส่วนตัวในชั้น 1 นี่คือพื้นที่ของเราตลอดการเดินทาง!
- ผ้าปูที่นอน หมอน และผ้าห่ม: เค้ามีเตรียมไว้ให้เรียบร้อย (อาจจะไม่ได้นุ่มฟูเหมือนโรงแรม 5 ดาว แต่ก็นอนได้อยู่นะ!) พอถึงเวลานอน พนักงานก็จะมาปูที่นอนให้จ้า
- ปลั๊กไฟ: อันนี้สำคัญมากสำหรับคนยุคนี้! รถไฟนอนรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่มีปลั๊กไฟให้ชาร์จแบตมือถือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างทาง
- ไฟอ่านหนังสือ: บางขบวนอาจจะมีไฟเล็กๆ ที่หัวเตียงให้ด้วย สะดวกสำหรับคนชอบอ่านหนังสือก่อนนอน
- ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ (รวม): มีให้บริการบนรถไฟนะจ๊ะ แม้จะเป็นแบบรวม แต่หลายคนก็รีวิวว่าค่อนข้างสะอาดใช้ได้เลย
- ค่าจัดส่ง?: ถ้าจองออนไลน์แล้วเลือกรับตั๋วแบบ E-Ticket ก็ไม่ต้องเสียค่าจัดส่งนะจ๊ะ สะดวกสุดๆ
- ประกัน?: อันนี้ไม่ใช่ประกันแบบสินค้าทั่วไปนะจ๊ะ แต่ถ้ามีการยกเลิกการเดินทาง หรือรถไฟดีเลย์มากๆ อาจจะมีเงื่อนไขการคืนเงินหรือเปลี่ยนแปลงตั๋วได้ ลองสอบถามกับทางการรถไฟฯ ดูนะจ๊ะ
ส่วนเรื่องของแถมพิเศษ หรือคูปองส่วนลด สำหรับตั๋วรถไฟตรงๆ อาจจะไม่ค่อยมีบ่อยเท่าสินค้าอื่นๆ แต่บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ (อย่างเช่นโปรฯ ของ KTC สำหรับ MRT ที่เจอจากการค้นหา แต่นั่นคนละอันกันนะจ๊ะ) หรือโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวตามฤดูกาล ลองติดตามข่าวสารจาก รฟท. ดูนะจ๊ะ
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย? (ช่วงเวลาโปรโมชั่น!)
ถ้าถามว่ามีช่วงไหนที่ตั๋วรถไฟนอนจะมีโปรโมชั่นลดราคาพิเศษแบบจัดเต็มเหมือนพวก 11.11 หรือ 12.12 ไหม? ต้องบอกว่าไม่บ่อยเท่าสินค้าออนไลน์จ้า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะ!
- ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว: อันนี้ไม่ใช่ช่วงโปรโมชั่นลดราคา แต่เป็นช่วงที่คนแย่งกันจองหนักมากกกก! ถ้าอยากได้ตั๋วช่วงปีใหม่ สงกรานต์ หรือหยุดยาวอื่นๆ ต้องรีบจองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ เลยนะจ๊ะ ไม่งั้นอาจจะเต็มก่อนได้
- โปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยว: บางที รฟท. อาจจะมีแคมเปญพิเศษร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานอื่นๆ จัดโปรโมชั่นสำหรับเส้นทางท่องเที่ยวต่างๆ ลองติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ หรือ Facebook Page ของการรถไฟฯ ดูนะจ๊ะ อาจจะมีส่วนลดหรือสิทธิพิเศษอื่นๆ ให้
- โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต/พันธมิตร: อย่างที่บอกไป บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นเมื่อใช้บัตรเครดิตที่ร่วมรายการจองตั๋ว ลองเช็คกับธนาคารที่เราใช้บริการดูนะ
โดยรวมแล้ว ถ้าอยากได้ตั๋วชัวร์ๆ โดยเฉพาะช่วงพีคๆ แนะนำให้จองล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่ามารอโปรโมชั่นที่ไม่แน่นอนนะจ๊ะ
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย (คนไทยเค้าว่าไงกัน?)
จากการแอบส่องรีวิวของคนไทยที่เคยใช้บริการรถไฟนอนมาเนี่ย ส่วนใหญ่ก็จะฟีดแบ็กประมาณนี้จ้า:
- ความสบาย: หลายคนบอกว่านอนสบายกว่าที่คิด ยืดขาได้เต็มที่ หลับยาวได้ยันเช้า โดยเฉพาะ เตียงล่าง นี่ฮิตสุดๆ เพราะกว้างกว่า ได้วิวข้างทางด้วย ส่วนเตียงบนบางคนก็บอกว่าโยกๆ หน่อย
- ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบราคากับการเดินทางข้ามคืนแบบอื่น ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า คุ้มค่าเงิน ที่จ่ายไปมากๆ เลยจ้า
- ประสบการณ์: การเดินทางด้วยรถไฟนอนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ได้เห็นวิวสวยๆ (ถ้าตื่นเช้าหน่อยนะ) ได้สัมผัสบรรยากาศการเดินทางแบบคลาสสิก บางคนก็ได้เพื่อนใหม่จากการพูดคุยกับเพื่อนร่วมทางด้วยนะ
- ความสะอาด: ส่วนใหญ่รีวิวบอกว่ารถไฟรุ่นใหม่ๆ ค่อนข้างสะอาดใช้ได้ ทั้งที่นอนและห้องน้ำ
- ความตรงต่อเวลา: อันนี้ก็แล้วแต่ดวงนิดนึง บางทีก็ตรงเวลาเป๊ะ แต่บางทีก็มีดีเลย์บ้างตามสไตล์รถไฟไทยนะจ๊ะ!
- ข้อควรรู้: ตู้เสบียงบางทีอาจจะยังไม่เปิดให้บริการ ดังนั้น ควรเตรียมเสบียงไปเองด้วยนะจ๊ะ แล้วก็ควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย เพราะแอร์เย็นเจี๊ยบได้ใจเลย! ที่สำคัญ เก็บของมีค่าไว้กับตัวให้ดี ถึงจะมีเจ้าหน้าที่ดูแล แต่ป้องกันไว้ก่อนดีที่สุดจ้า
สรุปคือ คนไทยส่วนใหญ่ที่เคยลองนั่งรถไฟนอนก็ประทับใจกับประสบการณ์และความคุ้มค่ามากๆ เลยนะจ๊ะ
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
ยุคนี้การจองตั๋วรถไฟง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้วจ้า ไม่ต้องไปยืนต่อคิวยาวเหยียดที่สถานีอย่างเดียวแล้วนะ ช่องทางแนะนำก็มีตามนี้เลย:
- เว็บไซต์ D-Ticket ของการรถไฟแห่งประเทศไทย: อันนี้คือช่องทาง Official เลยจ้า เข้าไปที่ www.dticket.railway.co.th หรือ www.thairailwayticket.com สามารถเช็คที่นั่งว่าง เลือกรถ เลือกรอบ เลือกชั้น เลือกเตียง ได้ครบวงจร ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็ได้ จองล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 60 วัน (สำหรับบางขบวน) หรือบางทีอาจได้ถึง 180 วันสำหรับขบวนยอดนิยมมากๆ ถ้าอยากได้ที่นั่งดีๆ ต้องรีบจองแต่เนิ่นๆ เลยนะจ๊ะ!
- แอปพลิเคชัน SRT D-Ticket: โหลดติดมือถือไว้เลย สะดวกมากๆ ทำรายการได้เหมือนบนเว็บไซต์เลยจ้า
- เคาน์เตอร์สถานีรถไฟ: ยังคงเป็นช่องทางหลักสำหรับบางคนนะจ๊ะ ถ้าไม่สะดวกจองออนไลน์ ก็ไปซื้อที่สถานีได้เลยทั่วประเทศ แต่ต้องเผื่อเวลาหน่อยนะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาล คนอาจจะเยอะมากๆ
- Call Center 1690: ถ้ามีข้อสงสัย หรือต้องการจองทางโทรศัพท์ ก็โทรไปได้เลย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงนะจ๊ะ
- ตัวแทนจำหน่าย/เว็บไซต์จองตั๋วอื่นๆ: บางเว็บไซต์อย่าง 12Go ก็มีบริการจองตั๋วรถไฟไทยด้วยเหมือนกัน อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสำหรับบางคน
แนะนำให้ใช้ช่องทาง ออนไลน์ของ รฟท. เป็นหลักนะจ๊ะ สะดวก รวดเร็ว เช็คข้อมูลได้เอง ที่สำคัญคือสามารถเลือกที่นั่ง (เตียง) ได้ด้วยตัวเองเลย!
8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา (และที่นั่ง!)
โดยสรุปแล้ว การเดินทางด้วยรถไฟนอนเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไกลข้ามคืนในไทย ด้วยงบประมาณที่ไม่สูงเท่าเครื่องบิน และได้พักผ่อนแบบสบายๆ กว่ารถทัวร์
เหมาะกับใคร? เหมาะกับคนที่ชอบเดินทางแบบชิลๆ ไม่รีบร้อนนัก อยากประหยัดค่าที่พัก 1 คืน และอยากได้ประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร
แล้วที่นั่งแบบไหนดีที่สุด? อันนี้เป็นคำถามยอดฮิตเลย! จากรีวิวต่างๆ และประสบการณ์ส่วนตัว (มโน) เนี่ย เตียงล่าง ชั้น 2 มักจะเป็นตัวเลือกที่คนส่วนใหญ่ชอบที่สุดนะจ๊ะ เพราะ:
- กว้างกว่าเตียงบน: มีพื้นที่เหนือหัวเยอะกว่า ไม่อึดอัด
- ได้วิว: มีหน้าต่างให้มองวิวข้างทางได้ (ถ้าไม่ดึกมากจนปิดม่านหมดนะ)
- ขึ้นลงสะดวก: ไม่ต้องปีนป่ายเหมือนเตียงบน
- เป็นที่นั่งตอนกลางวัน: ก่อนที่จะกางเตียง เตียงล่างก็คือที่นั่งริมหน้าต่างนั่นเองจ้า
ส่วนเตียงบนก็มีข้อดีคือ ราคาถูกกว่า เล็กน้อย และอาจจะส่วนตัวกว่านิดๆ เพราะคนเดินผ่านไปมาน้อยกว่า แต่ก็จะแคบกว่า ไม่มีหน้าต่าง และต้องปีนขึ้นลงนะจ๊ะ
ถ้ามีงบเยอะหน่อยและอยากได้ความเป็นส่วนตัวเต็มที่ ชั้น 1 แบบเหมาห้อง คือที่สุด! เหมือนได้นอนโรงแรมเคลื่อนที่เลยจ้า
ดังนั้น ถ้าอยากได้ที่นั่งดีที่สุดในใจ (ส่วนใหญ่คือเตียงล่างนั่นแหละ!) รีบจองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ผ่านระบบออนไลน์ของ รฟท. เลยนะจ๊ะ เพราะที่นั่งดีๆ เต็มเร็วมากกก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว!
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับการวางแผนเดินทางด้วยรถไฟนอนของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพและมีความสุขกับการนอนฟังเสียงรถไฟกล่อมนะ บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ครีม Smooth E ราคาล่าสุดปี 2025 แก้ปัญหาผิว จุดด่างดำ รอยแผลเป็น ได้จริงไหม?
Toyota Sienna ราคาล่าสุดในไทย อัปเดตทุกรุ่นย่อยก่อนใคร!
Physiogel AI Cream ราคาล่าสุด หาซื้อได้ที่ไหน ลดราคาอยู่ไหม?
มอเตอร์ไซค์ Kawasaki Z400 ราคาล่าสุด ผ่อนดาวน์เริ่มต้นเท่าไหร่?
ราคา Dice Cup อุปกรณ์เสริมสำหรับ Board Game ซื้อแบบไหนดี
เป๊ปซี่ขวดเล็ก ราคาล่าสุด ซื้อแบบแพ็คถูกกว่าจริงไหม คุ้มกว่า?