อัปเดตราคาตั๋วเครื่องบินไปดูไบ สายการบินไหนถูกสุด? วิธีจองให้ได้ราคาดี


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องสุดฮิตที่หลายคนกำลังเล็งๆ นั่นก็คือ การตีตั๋วไปลั้นลาที่ดูไบ! เมืองที่เต็มไปด้วยความอลังการดาวล้านดวง ตึกสูงเสียดฟ้า ห้างใหญ่เบิ้ม ทะเลทรายสุดคูล และแน่นอนว่า… ช้อปปิ้งกระจาย! แต่ก่อนจะพุ่งตัวไปรูดปรื๊ดๆ สิ่งสำคัญที่ต้องเคลียร์ก่อนเลยก็คือ "ตั๋วเครื่องบิน" นี่แหละค่ะ จะจองยังไงให้ได้ราคาดี กระเป๋าตังค์ไม่ฉีก ตามมาดูกันเลยยย!
1. ทำไมต้องดูไบ? แล้วทำไมต้องรีบจองตั๋ว?
เอาล่ะค่ะซิส! ดูไบเนี่ย ไม่ใช่แค่เมืองทางผ่าน แต่เป็น Destination สุดปังที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว ทั้งแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก (ภาษีถูกด้วยนะ กระซิบๆ) สถาปัตยกรรมสุดล้ำ กิจกรรมแอดเวนเจอร์ในทะเลทราย ไปจนถึงชายหาดสวยๆ และที่เที่ยวทางวัฒนธรรมอีกเพียบ! เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากเปิดโลกใหม่ๆ หรือไปพักผ่อนแบบหรูหราอลังการสักหน่อย
ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบินนั้น สำคัญไม่แพ้การวางแผนเที่ยวเลยค่ะ เพราะราคาตั๋วเนี่ยขึ้นๆ ลงๆ ยิ่งกว่ารถไฟเหาะตีลังกา! ถ้าจองไม่ดี ไม่ถูกจังหวะ อาจจะต้องจ่ายแพงกว่าชาวบ้านไปหลายเท่าตัวเลยนะเออ เพราะฉะนั้น การหาข้อมูลและจองตั๋วแต่เนิ่นๆ หรือตอนที่มีโปรโมชั่นนี่แหละ คือหัวใจสำคัญของการไปดูไบแบบสบายใจ ไม่ต้องมานั่งปาดเหงื่อเรื่องค่าตั๋วค่ะ
2. ราคาตั๋วไปดูไบ ช่วงไหนแรง ช่วงไหนแผ่ว?
มาถึงเรื่องตัวเลขที่ทำให้ใจสั่นกันบ้าง! ราคาตั๋วเครื่องบินไปดูไบเนี่ย มันไม่มีราคาตายตัวเป๊ะๆ หรอกค่ะ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากๆ แต่หลักๆ เลยคือ ช่วงเวลาเดินทาง และ สายการบิน
ถ้าเป็นช่วง High Season หรือช่วงเทศกาลท่องเที่ยวสำคัญๆ ของโลก เช่น ช่วงปลายปี (คริสต์มาส ปีใหม่) ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ของไทย หรือช่วงที่มีอีเวนต์ใหญ่ๆ ที่ดูไบ ราคาก็จะ พุ่งกระฉูด เป็นเรื่องปกติค่ะ อาจจะเจอตั้งแต่ 2x,xxx บาท ไปจนถึง 4x,xxx บาท หรือมากกว่านั้น ก็มีนะจ๊ะ (อันนี้สำหรับตั๋วไปกลับエコノミー Class แบบปกติ)
แต่ถ้าเป็นช่วง Low Season เช่น ช่วงหน้าร้อนจัดๆ ของดูไบ (อันนี้ต้องใจสู้แดดหน่อยนะ!) หรือช่วงที่ไม่ตรงกับวันหยุดยาวๆ ราคาก็จะ ซอฟต์ลงมา หน่อย อาจจะเจอราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1x,xxx บาท ปลายๆ ไปจนถึง 2x,xxx บาท ต้นๆ ก็เป็นไปได้ค่ะ
ส่วนสายการบินก็มีผลนะ ถ้าเป็นสายการบิน Full Service ชื่อดังอย่าง Emirates หรือ Thai Airways ราคาก็จะสูงกว่า แต่ก็แลกมาด้วยบริการที่ครบครันกว่า ในขณะที่สายการบินอย่าง Air Arabia (อันนี้ Low Cost จาก UAE เลย) ก็จะมีราคาที่ย่อมเยากว่า แต่ก็อาจจะต้องแลกกับบริการบางอย่างที่ต้องจ่ายเพิ่ม หรือเวลาบินที่ไม่ใช่ช่วง Prime Time นะคะ
ช่องทางในการเช็คราคาเนี่ยเพียบเลยค่ะ ลองเข้าไปดูตามเว็บไซต์ของสายการบินโดยตรง หรือตาม Online Travel Agencies (OTAs) ยอดฮิตในไทยอย่าง Traveloka, Agoda (ส่วนใหญ่คนใช้จองโรงแรม แต่ก็มีตั๋วเครื่องบินด้วยนะ), Skyscanner, Kayak พวกนี้เค้าจะช่วยเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ สายการบินให้เราดูได้ในหน้าเดียว สะดวกมากๆ ค่ะ
3. สายการบินไหนน่าสอยสุด? เปรียบเทียบความคุ้มค่า!
มาดูกันชัดๆ ว่าสายการบินไหนน่าสอย ถ้าเน้นเรื่องราคาเป็นหลักนะคะ
- Air Arabia: ถ้าเน้น ความถูก มาก่อน! สายการบินนี้มักจะมีราคาตั๋วที่ย่อมเยาที่สุดสำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ-ดูไบค่ะ แต่เค้าเป็นสายการบิน Low Cost นะคะ เพราะฉะนั้น น้ำหนักกระเป๋า อาหารบนเครื่อง การเลือกที่นั่ง อาจจะต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่มเองนะ เหมาะกับคนที่ของน้อยๆ ไม่เน้นบริการเสริม เน้นแค่ไปถึงปลายทางค่ะ
- Emirates: สายการบินแห่งชาติของ UAE บินตรงจากกรุงเทพฯ ไปดูไบเลยค่ะ! อันนี้คือ Full Service จัดเต็ม! บริการดี เครื่องใหม่ ที่นั่งสบาย อาหารอร่อย ระบบความบันเทิงเพียบ แถมน้ำหนักกระเป๋าก็ให้เยอะพอสมควรเลย เหมาะกับคนที่เน้นความสบาย เดินทางแบบไม่ต้องคิดเยอะ มีบริการครบจบในตั๋วเดียว แต่ราคาก็จะ สูงกว่า Air Arabia อย่างเห็นได้ชัดค่ะ
- Thai Airways: การบินไทยของเรานี่เองค่ะ ก็มีบินตรงไปดูไบเหมือนกัน เป็น Full Service คุณภาพดี บริการตามมาตรฐานการบินไทย เหมาะกับคนที่อยากบินกับสายการบินของคนไทย ได้บริการแบบไทยๆ ค่ะ ราคาก็จะอยู่ในระดับเดียวกับ Emirates หรืออาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและโปรโมชั่น
- สายการบินอื่นๆ ที่แวะเปลี่ยนเครื่อง: บางทีการเลือกบินแบบมี Transit หรือแวะเปลี่ยนเครื่อง ก็ช่วยให้ได้ราคาที่ถูกลงได้นะคะ เช่น บินกับ Singapore Airlines (แวะสิงคโปร์), Malaysia Airlines (แวะกัวลาลัมเปอร์), Qatar Airways (แวะโดฮา), Etihad Airways (แวะอาบูดาบี) เป็นต้น สายการบินเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็น Full Service คุณภาพดีเช่นกันค่ะ ราคาก็จะ ถูกกว่าบินตรง กับ Emirates หรือ Thai Airways เล็กน้อย แต่ก็ต้องแลกกับเวลาเดินทางที่นานขึ้นจากการแวะพักเครื่องค่ะ
สรุปคือ ถ้าเน้นถูกสุดๆ ไปเลย ฟันธงที่ Air Arabia ค่ะ! แต่ถ้าอยากได้ความสบาย บินตรง บริการครบๆ Emirates หรือ Thai Airways ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ส่วนถ้าเวลาไม่ใช่ปัญหา อยากได้ราคาดีลงมาอีกหน่อย ลองดูแบบมี Transit ค่ะ
4. ตั๋วเครื่องบินรวมอะไรให้บ้าง? ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกมั้ยเนี่ย?
อันนี้แหละที่ต้องอ่าน รายละเอียด ให้ดีก่อนจองเลยค่ะ เพราะตั๋วแต่ละแบบ แต่ละสายการบิน เค้าให้มาไม่เท่ากันนะจ๊ะ
- น้ำหนักกระเป๋า: อันนี้สำคัญมากกกก สำหรับนักช้อปอย่างเรา! สายการบิน Full Service อย่าง Emirates หรือ Thai Airways เนี่ย โดยทั่วไปเค้าจะให้ น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่องประมาณ 30-35 กิโลกรัม ต่อคนเลยค่ะ เพียงพอต่อการขนของกลับมาอยู่! แต่ถ้าเป็น Low Cost อย่าง Air Arabia เนี่ย ตั๋วแบบถูกสุดอาจจะไม่มีน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่องให้เลย นะคะ ต้องซื้อเพิ่มต่างหาก! ส่วนกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ส่วนใหญ่จะให้ 7 กิโลกรัมค่ะ
- อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง: Full Service เค้าก็มีบริการอาหารร้อนให้ฟรีระหว่างเที่ยวบินค่ะ ส่วน Low Cost ก็ต้อง ซื้อเพิ่ม นะจ๊ะ อยากกินอะไรก็กดสั่งในเว็บหรือแอปตอนจองได้เลย
- การเลือกที่นั่ง: สายการบิน Full Service ส่วนใหญ่ให้เลือกที่นั่งได้ฟรี (อาจจะมีบางโซนที่ต้องเสียเงินเพิ่ม) แต่ Low Cost เนี่ย ถ้าอยากเลือกที่นั่งเองเพื่อจะได้นั่งใกล้ๆ กับเพื่อน หรือได้ที่นั่งริมหน้าต่าง/ริมทางเดินที่ถูกใจ ก็ต้อง เสียเงินค่าเลือกที่นั่ง เพิ่มค่ะ
- ระบบความบันเทิงบนเครื่อง: Full Service เค้าก็มีจอส่วนตัวให้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เพลินๆ ตลอดทางค่ะ ส่วน Low Cost ก็... ทำใจค่ะ เตรียมหนังสือ เพลง หรือซีรีส์ไปดูในมือถือตัวเองนะจ๊ะ
- ประกันการเดินทาง: บางทีตอนจองตั๋ว อาจจะมีให้เลือกซื้อประกันการเดินทางพ่วงไปด้วย อันนี้แล้วแต่ความสมัครใจค่ะ
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ: เช็คดีๆ นะคะ ว่าราคาที่เห็นรวมภาษีสนามบิน ค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ หรือยัง ส่วนใหญ่ราคาที่แสดงบน OTA หรือเว็บไซต์สายการบินมักจะรวมมาแล้ว แต่ก็อ่านรายละเอียดอีกทีเพื่อความชัวร์ค่ะ
สำหรับเรื่อง ค่าขนส่ง หรือ ฟรีค่าจัดส่ง ที่มีในบทความตัวอย่าง ชัดเจนว่าใช้ไม่ได้กับตั๋วเครื่องบินนะจ๊ะ! ตั๋วเครื่องบินเนี่ย จ่ายเงินปุ๊บ ได้ E-ticket ปั๊บ ไม่ต้องรอให้เค้ามาส่งถึงหน้าบ้านจ้า
ส่วนเรื่อง ระยะเวลารับประกัน ก็ไม่มีในตั๋วเครื่องบินแบบสินค้าทั่วไปค่ะ แต่จะเป็นเรื่องของ เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลง/ยกเลิกตั๋ว มากกว่า ซึ่งแต่ละสายการบินและตั๋วแต่ละประเภทก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป บางทีตั๋วโปรโมชั่นราคาถูกมากๆ อาจจะ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้เลย นะคะ หรือถ้าได้ ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่อาจจะแพงกว่าราคาตั๋วอีก! เพราะฉะนั้น ถ้าแผนการเดินทางยังไม่ชัวร์ ควรเลือกซื้อตั๋วที่ยืดหยุ่นได้มากกว่าค่ะ
ของแถม หรือคูปองโปรโมชั่น อันนี้มีอยู่บ้างค่ะ บางทีสายการบินอาจจะจัดโปรโมชั่น แถมไมล์สะสมเพิ่ม หรือมีส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตบางประเภท ก็ต้องคอยติดตามข่าวสารจากสายการบิน หรือดูตอนจองในเว็บไซต์ค่ะ
5. ช่วงไหนควรกดจอง? มีโปรฯ เด็ดๆ มั้ย?
อยากได้ตั๋วถูก ต้องจับจังหวะให้เป็นค่ะ! ช่วงเวลาที่น่ากดจองที่สุดคือ:
- จองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ: ยิ่งจองล่วงหน้านานเท่าไหร่ (ประมาณ 2-3 เดือนก่อนเดินทาง) ยิ่งมีโอกาสได้ราคาดีและมีที่นั่งให้เลือกเยอะค่ะ
- ช่วงที่ไม่ตรงกับวันหยุดยาว/เทศกาล: อย่างที่บอกไปแล้วว่าช่วง High Season ราคาจะแพงมาก ถ้าไม่ติดเรื่องวันลา พยายามเลี่ยงช่วงวันหยุดยาวของไทยและของดูไบค่ะ
- ช่วงที่มีโปรโมชั่นของสายการบิน: อันนี้ต้องหมั่นติดตามข่าวสารจากสายการบินต่างๆ เลยค่ะ เค้ามักจะมีโปรโมชั่นลดราคาออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงเปิดเส้นทางใหม่ๆ หรือช่วงโลว์ซีซั่นค่ะ
- ช่วง Double Digit Sale บน OTA: แม้จะไม่ได้ลดราคาตั๋วเครื่องบินโดยตรงเหมือนสินค้าทั่วไป แต่ช่วง 11.11 หรือ 12.12 เนี่ย OTA บางเจ้าอาจจะมี โค้ดส่วนลด สำหรับการจองตั๋วเครื่องบิน หรือมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ ที่ทำให้ได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นได้ค่ะ
- ช่วงที่ราคาน้ำมันลง: อันนี้อาจจะคาดเดายากหน่อย แต่บางทีราคาน้ำมันที่ลดลงก็อาจจะส่งผลให้สายการบินปรับลดราคาตั๋วลงตามได้ค่ะ (แต่มักจะไม่เยอะเท่าโปรโมชั่นโดยตรงนะ)
ร้านค้าที่เป็น Flagship Store บน Lazada/Shopee ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายสินค้าไม่ใช่บริการอย่างตั๋วเครื่องบินค่ะ แต่ให้ไปดูที่ Official Website ของสายการบิน หรือ หน้าเว็บไซต์/แอปของ OTA ใหญ่ๆ แทนค่ะ เค้ามักจะมีส่วนลดหรือโปรโมชั่นออกมาบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ค่ะ
คำแนะนำคือ: ถ้าเห็นราคาที่รับได้แล้วก็ กดเลยค่ะ อย่าลังเล! เพราะราคาตั๋วเครื่องบินเนี่ยเปลี่ยนไวมากๆ บางทีลังเลไปๆ มาๆ ราคาขึ้นซะงั้น! แต่ถ้ายังพอมีเวลา ลองใช้พวกเครื่องมือเปรียบเทียบราคาของ OTA ต่างๆ ดูก่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมของราคาในช่วงที่เราอยากเดินทางค่ะ
6. คนไทยที่เคยไปดูไบ เค้าว่ายังไงกันบ้าง?
จากที่ลองไปส่องๆ ตามรีวิวในพันทิป หรือตามโซเชียลเนี่ย คนไทยที่ไปดูไบส่วนใหญ่ก็แฮปปี้กับการเดินทางนะคะ จุดที่เค้ามักจะพูดถึงกันบ่อยๆ ก็คือ:
- ความสะดวกสบายของสนามบินดูไบ (DXB): เป็นสนามบินที่ใหญ่ ทันสมัย เดินทางง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะแก่การต่อเครื่อง หรือเดินเล่นรอเวลามากๆ ค่ะ
- การบริการของสายการบิน: ส่วนใหญ่ถ้าบินกับ Full Service อย่าง Emirates หรือ Thai Airways ก็มักจะชมเรื่องบริการดี อาหารอร่อยค่ะ ถ้าบินกับ Low Cost อย่าง Air Arabia ก็จะบอกว่าสมเหตุสมผลกับราคาที่จ่ายไป คือเน้นไปถึงอย่างปลอดภัยค่ะ
- น้ำหนักกระเป๋า: อันนี้เป็นเรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญมากกกก! หลายคนมักจะเลือกลงทุนกับตั๋ว Full Service เพราะได้น้ำหนักกระเป๋าเยอะ จะได้ช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวน้ำหนักเกินค่ะ
- เวลาบิน: เที่ยวบินตรงไปดูไบส่วนใหญ่มักจะเป็นเที่ยวบินกลางคืน (Red Eye Flight) ไปถึงตอนเช้า ซึ่งหลายคนก็ชอบ เพราะไปถึงแล้วเที่ยวต่อได้เลย หรือเข้าโรงแรมพักผ่อนก่อนได้ค่ะ
โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กจากคนไทยเรื่องการบินไปดูไบเน้นไปที่ ความคุ้มค่าของราคาตั๋วกับบริการที่ได้รับ และ ความสะดวกในการเดินทาง เป็นหลักค่ะ
7. จะจองตั๋วไปดูไบได้ที่ไหนบ้าง?
ช่องทางหลักๆ ในการจองตั๋วเครื่องบินไปดูไบก็มีตามนี้เลยจ้า:
- เว็บไซต์ของสายการบินโดยตรง: อันนี้คือช่องทาง Official ข้อดีคือข้อมูลถูกต้อง ได้โปรโมชั่นตรงจากสายการบิน และติดต่อประสานงานได้ง่ายกว่าถ้ามีปัญหาค่ะ
- Online Travel Agencies (OTAs) ยอดนิยมในไทย: เช่น Traveloka, Agoda, Skyscanner, Kayak พวกนี้เป็นเหมือนนายหน้าขายตั๋ว ข้อดีคือช่วยเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ สายการบินให้เราดูง่ายๆ ในหน้าเดียว ทำให้เราเห็นภาพรวมและหาราคาที่ถูกที่สุดได้สะดวก มีระบบการจองและจ่ายเงินที่ค่อนข้างง่ายและปลอดภัยค่ะ บางทีก็มีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้ด้วย
- บริษัททัวร์หรือตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน: ช่องทางแบบดั้งเดิมหน่อย เหมาะกับคนที่ไม่ถนัดจองออนไลน์ หรืออยากได้คำแนะนำแบบส่วนตัวค่ะ บางทีบริษัททัวร์อาจจะมีตั๋วราคาพิเศษที่ได้จากการเหมามาก็ได้ค่ะ แต่ก็ต้องเช็คความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วยนะจ๊ะ
ถ้าเน้นความสะดวก รวดเร็ว เปรียบเทียบราคาได้ง่าย แนะนำให้จองผ่าน OTA ใหญ่ๆ ที่น่าเชื่อถือ ค่ะ แต่ถ้าอยากได้โปรโมชั่นแบบตรงๆ จากสายการบิน หรือมีปัญหาอะไรจะได้ติดต่อได้โดยตรง ก็จองผ่าน เว็บไซต์ของสายการบิน ไปเลยค่ะ
8. สรุปแล้ว ตั๋วไปดูไบ ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าคุ้ม? เหมาะกับใครบ้าง?
มาถึงโค้งสุดท้ายแล้วค่ะ! ถามว่าราคาตั๋วไปดูไบเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าคุ้มเนี่ย มันขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับอะไรค่ะ
- ถ้าเน้น ประหยัดงบที่สุด ได้ราคา 1x,xxx บาท ปลายๆ - 2x,xxx บาท ต้นๆ (แบบ Low Cost หรือมี Transit) เนี่ย ถือว่า คุ้มมากๆ เลยค่ะ เหมาะกับคนที่มีงบจำกัด ไม่ได้ขนของเยอะ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องบริการเสริมบนเครื่อง ขอแค่ไปถึงดูไบได้ก็พอใจแล้ว
- ถ้าอยากได้ ความสะดวกสบาย บินตรง บริการครบ ได้ราคา 2x,xxx บาท กลางๆ - 3x,xxx บาท ต้นๆ (แบบ Full Service บินตรง) เนี่ย ถือว่า คุ้มค่า กับเงินที่จ่ายไปค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบความสบาย เดินทางแบบไม่เหนื่อยมาก หรือต้องขนของเยอะๆ ค่ะ
- ถ้าเจอราคา ต่ำกว่า 1x,xxx บาท อันนี้คือ โปรโมชั่นฟ้าประทาน ค่ะ! เจอปุ๊บ กดปั๊บได้เลย อย่าคิดเยอะ! (แต่ก็ต้องอ่านเงื่อนไขดีๆ นะคะว่ารวมอะไรบ้าง)
สรุปแล้ว การไปดูไบเนี่ย คุ้มค่าที่จะไปสัมผัสความอลังการสักครั้งในชีวิตค่ะ! ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบิน ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องบริการมากนัก และอยากประหยัดงบ ตั๋ว Low Cost หรือตั๋วแบบมี Transit ในช่วงโลว์ซีซั่น คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ แต่ถ้าเน้นความสบาย ได้บริการดีๆ ขนของกลับมาเยอะๆ ตั๋ว Full Service บินตรง ก็ตอบโจทย์ได้ดีกว่าค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจจองตั๋วไปดูไบของทุกคนนะคะ ขอให้ได้ตั๋วราคาดีๆ ไปเที่ยวให้สนุก ช้อปปิ้งให้เพลินที่ดูไบกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
Passport Scotch ราคาล่าสุดในไทย ซื้อที่ไหนได้ราคาดีที่สุด?
นาฬิกา Rolex ราคาเริ่มต้นกี่บาท? อัปเดตรุ่นยอดนิยมและราคาล่าสุด
ราคา หลวงพ่อแดง รุ่นแจกแม่ครัว วัดเขาบันไดอิฐ: เหรียญยอดนิยม เช็คก่อนเช่าบูชา
หน้ากากผ้าแฟชั่น ราคาดี ดีไซน์สวย ป้องกันฝุ่นได้จริงไหม หาซื้อได้ที่นี่!
ราคา พระพุทธรูป หน้าตัก 30 นิ้ว: ปางสมาธิ ปางมารวิชัย วัสดุต่างๆ ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่?
การ์ดจอ GTX 1050 Ti ราคาล่าสุดในไทย ซื้อตอนนี้ยังคุ้มไหม?