ราคา ดัมเบล 10 กิโลกรัม ซื้อแบบไหนคุ้มสุด? เหล็กหรือยางดี?

โย่วๆๆ! สวัสดีสายฟิตทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องน้ำหนักๆ ที่หลายคนกำลังเล็งอยู่ นั่นก็คือ ดัมเบล 10 กิโลกรัม นั่นเอง! ใครที่เริ่มออกกำลังกายที่บ้านแล้วรู้สึกว่าถึงเวลาอัปเลเวล หรืออยากมีอุปกรณ์คู่ใจไว้ปั้นกล้ามเนื้อที่บ้านแบบไม่ต้องง้อฟิตเนส มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะคำถามโลกแตกที่หลายคนสงสัยคือ ซื้อแบบไหนคุ้มสุด? เหล็กหรือยางดี? งั้นไปลุยกันเลย!

1. เจ้าดัมเบล 10 กิโลกรัม มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับพระเอกของเราหน่อย ดัมเบล 10 กิโลกรัม เนี่ย พูดง่ายๆ มันก็คือแท่งเหล็กหรือวัสดุอื่นๆ ที่มีน้ำหนัก ข้างละ 10 กิโลกรัม นั่นแหละ! รวมสองข้างก็ 20 กิโลกรัมนะจ๊ะ ถือเป็นน้ำหนักระดับกลางๆ ที่กำลังดีเลยสำหรับหลายๆ คน ที่เริ่มมีพื้นฐานการออกกำลังกายมาบ้างแล้ว หรือสำหรับคนที่ผู้หญิงที่อยากสร้างกล้ามเนื้อแบบจริงจัง หรือผู้ชายที่ใช้วอร์มอัพหรือเล่นท่าที่เน้นจำนวนครั้งเยอะๆ

เจ้าดัมเบลเนี่ย ฟังก์ชันหลักๆ คือใช้เป็น แรงต้าน ในการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น อก ไหล่ แขน หลัง หรือแม้กระทั่งขาและก้นถ้าเรารู้จักพลิกแพลงท่าเล่นให้ถูกนะ!

กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ก็คือคนที่ออกกำลังกายมาสักพักแล้ว ใช้ดัมเบลน้ำหนักน้อยกว่านี้แล้วรู้สึกว่าง่ายไป อยากเพิ่มความท้าทาย หรือคนที่อยากมีอุปกรณ์ชิ้นเดียวที่ค่อนข้างครอบคลุมท่าออกกำลังกายได้หลากหลายในบ้าน พูดง่ายๆ คือเป็นน้ำหนักที่ กำลังก้าวเข้าสู่โหมดจริงจัง นิดๆ แล้วนั่นเองจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทุกคนสนใจ! ราคาของ ดัมเบล 10 กิโลกรัม ในตลาดเมืองไทยเนี่ย มีความหลากหลายมากๆ จ้า ขึ้นอยู่กับวัสดุ แบรนด์ คุณภาพ และแหล่งที่ซื้อเป็นหลัก

ถ้าเป็น ดัมเบลเหล็กล้วนๆ แบบคลาสสิกเลย ราคาต่อข้างจะอยู่ที่ประมาณ 500 - 1,000 บาท (฿) หรืออาจจะถูกกว่านั้นถ้าเจอร้านขายส่งดีๆ แต่ถ้าเป็นแบบ ดัมเบลยาง หรือหุ้มยาง ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย อาจจะอยู่ที่ประมาณ 800 - 1,500 บาท (฿) ต่อข้างได้เลยนะ

แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee คือแหล่งใหญ่ที่เราจะเจอผู้ขายดัมเบลเยอะมากๆ มีให้เลือกตั้งแต่แบบราคาถูกไปจนถึงราคาสูง ลองใช้คีย์เวิร์ดว่า "ดัมเบล 10 kg" หรือ "Dumbbell 10kg" ดูนะ

นอกจากนี้ ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, หรือ The Mall ในแผนกอุปกรณ์กีฬา ก็มักจะมีดัมเบลขายเหมือนกัน แต่ราคาอาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์เล็กน้อยนะ ส่วนร้านขายอุปกรณ์กีฬาโดยเฉพาะ เช่น Supersports ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบเลย แนะนำให้ลองไปเดินดู ไปยกของจริง สัมผัสของจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้จ้า

สรุปช่วงราคาคร่าวๆ ในไทยสำหรับ ดัมเบล 10 กิโลกรัม (ต่อข้าง) ก็จะประมาณนี้จ้า:

• แบบเหล็ก: ฿500 - ฿1,000+
• แบบยาง/หุ้มยาง: ฿800 - ฿1,500+

อันนี้คือราคาต่อข้างนะจ๊ะ อย่าลืมคูณสองถ้าจะซื้อเป็นคู่นะจ๊ะ!

3. เทียบราคากับแบบอื่น หรือน้ำหนักอื่น เป็นไงบ้าง?

เมื่อเทียบกับ ดัมเบลน้ำหนักอื่นๆ แล้ว ดัมเบล 10 กิโลกรัมเนี่ย ถือว่าอยู่ในช่วงราคาที่ค่อนข้างมาตรฐาน ไม่ได้ถูกเวอร์หรือแพงลิบลิ่วจนเกินไปนะ

ถ้าเทียบระหว่าง ดัมเบลเหล็กกับดัมเบลยาง ในน้ำหนัก 10 กิโลกรัมเท่ากัน ส่วนใหญ่แล้ว ดัมเบลเหล็กจะมีราคาถูกกว่า อย่างเห็นได้ชัดเลยจ้า บางทีข้างละเป็นร้อยสองร้อยเลยนะ ถ้าซื้อเป็นคู่ ส่วนต่างก็จะเยอะขึ้นไปอีก

ส่วนถ้าเทียบกับ แบรนด์อื่นๆ ในตลาด ดัมเบลเนี่ยเป็นอุปกรณ์ค่อนข้างพื้นฐาน ทำให้ไม่ค่อยมีแบรนด์ "หรูหรา" ที่ทำให้ราคากระโดดไปไกลมากนัก ส่วนใหญ่ราคาจะแปรผันตามวัสดุ คุณภาพการผลิต และชื่อเสียงร้านค้าที่ขายมากกว่า

ดังนั้น ถ้าถามว่าแบบไหนคุ้มค่ากว่ากันในแง่ราคาล้วนๆ ดัมเบลเหล็กคือผู้ชนะ จ้า! แต่ถ้ามองถึงฟังก์ชันอื่นๆ ที่ยางให้ได้ (เดี๋ยวจะเล่าต่อในข้อต่อไป) ส่วนต่างของราคาก็อาจจะคุ้มค่ากับการลงทุนนะ

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อดัมเบล 10 กิโลกรัม เนี่ย ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่เราจะได้ก็คือ ตัวดัมเบล นั่นแหละจ้า! เป็นแท่งๆ มาเลย เดี่ยวๆ หรือเป็นคู่ ก็แล้วแต่เราเลือกซื้อ

สิ่งที่เราควรเช็คเลยก็คือ:

• รวมค่าจัดส่งหรือไม่: อันนี้สำคัญมากกกก! เพราะดัมเบล 10 กิโลกรัมเนี่ย มันหนักนะจ๊ะ ค่าส่งไม่ใช่ถูกๆ เลย! เวลาดูราคาใน Lazada หรือ Shopee ให้ดูดีๆ ว่าราคานั้น รวมค่าส่งแล้วหรือยัง หรือมีโปรโมชั่น ส่งฟรี หรือเปล่า ถ้ามีคือประหยัดไปได้เยอะเลย!
• การรับประกัน: สำหรับดัมเบลเนี่ย ไม่ค่อยมีการรับประกันแบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นะ ส่วนใหญ่จะเป็นการรับประกันความเสียหายจากการขนส่ง หรือถ้าสินค้ามีตำหนิแต่แรก ก็สามารถเคลมได้ภายในระยะเวลาที่ร้านกำหนด (ส่วนใหญ่ก็ 7 วัน) ก็ต้องสอบถามกับผู้ขายให้ชัดเจนนะจ๊ะ
• ของแถม/โปรโมชั่น: บางร้านอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ มาให้ เช่น ถุงมือยกน้ำหนัก (อันนี้มีประโยชน์มาก! ช่วยลดการเจ็บมือและกันลื่น) หรือบางทีอาจจะมี แผ่นรองพื้น มาให้ด้วย เพื่อป้องกันพื้นเป็นรอย (อันนี้สำคัญสำหรับดัมเบลเหล็ก!) หรือบางทีอาจจะมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ ก็ลองดูรายละเอียดสินค้าดีๆ นะจ๊ะ
• อุปกรณ์เสริมอื่นๆ: ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ (Adjustable Dumbbell) บางรุ่นอาจจะมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาให้ด้วย เช่น แกนต่อบาร์เบล แต่สำหรับดัมเบล 10 กิโลกรัมแบบตายตัว ส่วนใหญ่ก็จะได้แค่ตัวดัมเบลเลยจ้า

ดังนั้น ก่อนกดสั่งซื้อ อย่าลืมเช็คเรื่อง ค่าจัดส่ง และ นโยบายการรับประกัน/คืนสินค้า ให้ดีๆ นะจ๊ะ!

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ของดีราคาโดน ช่วง โปรโมชั่น เนี่ยคือเวลาทองสุดๆ เลยจ้า! ถึงแม้ดัมเบลจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน แต่ร้านค้าออนไลน์เค้าก็มักจะจัดโปรโมชั่นร่วมกับแพลตฟอร์มอยู่บ่อยๆ

ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยอย่าง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ระดับโลกที่ฮิตสุดๆ ในไทยอย่าง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) และ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) เนี่ย เป็นช่วงที่ Lazada และ Shopee เค้าจัดแคมเปญลดราคาใหญ่ประจำปีเลยจ้า! ผู้ขายดัมเบลก็มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นด้วย ลดราคาบ้าง แจกโค้ดส่วนลดบ้าง บางทีก็มีโปรโมชั่นส่งฟรี! ต้องหมั่นเข้าไปเช็ค เข้าไปเก็บโค้ดส่วนลดให้ดีๆ เลยนะ

นอกจากนี้ บางทีร้านค้าที่ขายอุปกรณ์กีฬาบน Lazada หรือ Shopee ที่เป็น LazMall หรือ Shopee Mall (เหมือนเป็นร้านค้าทางการหรือร้านใหญ่ที่น่าเชื่อถือ) เค้าก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาประจำสัปดาห์ หรือประจำเดือนด้วยนะ ก็ลองกดติดตามร้านค้าพวกนี้ไว้ จะได้ไม่พลาดโปรโมชั่นเด็ดๆ

สรุปคือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ย มีโอกาสได้ดัมเบล 10 กิโลกรัม ในราคาที่ถูกลงอย่างแน่นอนจ้า! เตรียมเงินให้พร้อม แล้วพุ่งชนได้เลย!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยที่ซื้อดัมเบล 10 กิโลกรัมมาใช้เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างหลากหลายนะ ขึ้นอยู่กับว่าซื้อแบบไหนมาใช้

สำหรับ ดัมเบลเหล็ก คนไทยส่วนใหญ่จะชอบในเรื่องของ:

• ความทนทาน: เหล็กก็คือเหล็กจ้ะ! ทนทานแน่นอน ใช้ได้ยาวๆ
• ราคาถูก: อันนี้คือเหตุผลหลักเลยที่หลายคนเลือกแบบเหล็ก เพราะประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะ

แต่ก็มีข้อติบ้าง เช่น เสียงดัง เวลายกแล้ววางบนพื้น หรืออาจจะ ทำให้พื้นเป็นรอยได้ง่าย ถ้าไม่ระวัง และบางทีก็ มีกลิ่นเหล็ก หรือ มีคราบน้ำมัน เล็กน้อยช่วงแรกๆ ที่ซื้อมา

ส่วน ดัมเบลยาง หรือหุ้มยาง คนไทยจะชอบในเรื่องของ:

• ไม่ทำให้พื้นเป็นรอย: ยางช่วยป้องกันพื้นได้ดีมาก! อันนี้ถูกใจคนรักบ้านสุดๆ
• ไม่ค่อยมีเสียงดัง: เวลากระแทกพื้นเสียงจะไม่ดังเท่าเหล็กเปลือยๆ
• จับถนัดมือกว่า: บางคนรู้สึกว่าดัมเบลยางจับกระชับมือกว่าแบบเหล็ก

แต่ข้อเสียหลักๆ ก็คือ ราคาแพงกว่า แบบเหล็ก และบางทีดัมเบลยาง อาจจะมีกลิ่นยางแรงๆ ในช่วงแรกๆ ที่ซื้อมา ซึ่งอาจจะต้องเอาไปผึ่งลมก่อนใช้จ้า

โดยรวมแล้ว ทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป คนไทยก็จะเลือกตามความเหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของตัวเองเลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางการซื้อ ดัมเบล 10 กิโลกรัม ที่แนะนำในไทยก็มีหลากหลายเลยจ้า หลักๆ ก็ตามนี้เลย:

• แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: Shopee และ Lazada คือแหล่งใหญ่สุดๆ เลยจ้า มีร้านค้าให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งร้านใหญ่ร้านเล็ก ข้อดีคือ ตัวเลือกหลากหลาย, เปรียบเทียบราคาง่าย, และมี โปรโมชั่นส่วนลด/ส่งฟรี บ่อยๆ แต่ข้อเสียคือไม่ได้เห็นของจริงก่อนซื้อ ต้องดูจากรูปและรีวิวของคนอื่น แนะนำให้เลือกร้านที่มีรีวิวดีๆ คะแนนสูงๆ นะจ๊ะ
• ร้านค้าในห้างสรรพสินค้า: เช่น แผนกกีฬาใน Central, Big C, The Mall หรือร้าน Supersports ข้อดีคือ ได้เห็นและสัมผัสของจริง ก่อนตัดสินใจซื้อ พนักงานให้ข้อมูลได้ และสามารถหิ้วกลับบ้านได้เลย (ถ้าไหว!) แต่ข้อเสียคือ ราคาอาจจะสูงกว่า ซื้อออนไลน์เล็กน้อย และตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าในออนไลน์
• ร้านขายอุปกรณ์กีฬาโดยเฉพาะ: บางร้านอาจจะเป็นร้านเล็กๆ หรือร้านใหญ่ๆ ที่เน้นขายอุปกรณ์กีฬาโดยตรง ข้อดีคล้ายกับร้านในห้าง คือได้เห็นของจริง ได้ลองจับ แต่บางทีราคาอาจจะต่อรองได้ หรือมีแบบให้เลือกเยอะกว่าในห้าง

ถ้าเน้นความสะดวก ตัวเลือกเยอะ และราคาดีงาม แนะนำให้ส่องๆ ใน Shopee กับ Lazada เลยจ้า แต่ถ้าอยากลองยก ลองจับของจริงก่อนซื้อ ก็ไปที่ร้านในห้าง หรือร้านอุปกรณ์กีฬาได้เลย!

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า ดัมเบล 10 กิโลกรัม น่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ จ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ออกกำลังกายมาสักพักแล้ว และต้องการเพิ่มความท้าทาย
• อยากมีอุปกรณ์คู่ใจไว้สร้างกล้ามเนื้อที่บ้าน
• มีพื้นที่จำกัด ไม่อยากซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหญ่ๆ
• ต้องการน้ำหนักที่ครอบคลุมท่าออกกำลังกายได้หลากหลาย สำหรับคนทั่วไป

เจ้าดัมเบล 10 กิโลกรัมเนี่ย ถือเป็นน้ำหนักที่เป็นเหมือน "มาตรฐาน" สำหรับการเวทเทรนนิ่งที่บ้านเลยก็ว่าได้ ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ขึ้นอยู่กับท่าและความแข็งแรงของแต่ละบุคคล

แล้วจะเลือก เหล็กหรือยางดี? อันนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เลยจ้า:

• ถ้า งบประมาณจำกัด และไม่ได้กังวลเรื่องพื้นเป็นรอย หรือเสียงดังนิดหน่อย แบบเหล็กคือคุ้มสุด ในแง่ราคา!
• ถ้า เน้นเรื่องการดูแลรักษาพื้น ไม่กลัวพื้นเป็นรอย ไม่อยากให้มีเสียงดังมากนัก และมีงบประมาณเพิ่มขึ้นมาหน่อย แบบยาง/หุ้มยาง คือตัวเลือกที่ดีกว่า แม้ราคาจะสูงกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความสบายใจในการใช้งานจ้า

สรุปคือ ทั้งสองแบบมีข้อดีต่างกันไป ไม่มีแบบไหนดีกว่าแบบไหนแบบ100% หรอกจ้า อยู่ที่เราพิจารณาจากความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเราเอง!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อดัมเบล 10 กิโลกรัม ของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้ดัมเบลที่ถูกใจ เอาไปฟิตหุ่น ปั้นกล้ามให้ปังๆ กันทุกคนเลยจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ใช้ดัมเบลแบบไหนดี? เเต่ละเเบบต่างกันยังไง? มีแบบไหนบ้าง เลือกยัง ...
• ดัมเบลเหล็ก vs. ดัมเบลพลาสติก: อุปกรณ์ออกกำลังกายที่คุ้มค่า
• เลือกดัมเบลอย่างไร? คู่มือซื้อตามน้ำหนักที่เหมาะสม
• MARTINPHU : สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อดัมเบลเปลี่ยนแผ่นน้ำหนักได้ ...
• เปรียบเทียบ ดัมเบลกลม กับ ดัมเบลเหลี่ยม: อันไหนคุ้มค่ากว่ากัน?