logo

กาแฟ Segafredo ราคาเท่าไหร่? เมล็ดกาแฟ/แคปซูล ยี่ห้อดังจากอิตาลี

user avatar
ธนวัฒน์ อัครธนากุล·07/05/2025 15:17
点赞
กาแฟ Segafredo ราคาเท่าไหร่? เมล็ดกาแฟ/แคปซูล ยี่ห้อดังจากอิตาลี

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้สายกาแฟห้ามพลาดนะจ๊ะ เพราะเราจะมาเจาะลึกแบรนด์กาแฟดังจากอิตาลีอย่าง Segafredo (เซกาเฟรโด) กัน ใครที่ชื่นชอบกาแฟสไตล์อิตาเลียนเข้มๆ หอมๆ แบบที่ไปนั่งชิลล์ในคาเฟ่แล้วได้กลิ่นหอมเตะจมูก วันนี้เราจะพาไปดูกันว่ากาแฟยี่ห้อนี้เค้ามีดีอะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม แล้วที่สำคัญคือ ราคาในไทยเท่าไหร่กันบ้าง ทั้งแบบเมล็ดกาแฟและแบบแคปซูล พร้อมชี้เป้าแหล่งช้อปที่คุ้มค่า เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!

1. Segafredo คือใคร? มาจากไหน?

Segafredo Zanetti หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Segafredo เนี่ย เค้าเป็นแบรนด์กาแฟเก่าแก่และดังมากๆ จากประเทศอิตาลีเลยนะ ต้นกำเนิดมาจากความหลงใหลในกาแฟของ Massimo Zanetti ที่สืบทอดมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจกาแฟมาหลายรุ่น เค้าเริ่มจากธุรกิจในอิตาลีก่อน แล้วค่อยๆ ขยายไปทั่วโลกจนตอนนี้เป็นผู้นำด้านกาแฟเอสเพรสโซ่ระดับโลกเลยทีเดียว พันธกิจของเค้าชัดเจนมาก คืออยากจะเผยแพร่รสชาติและวัฒนธรรมกาแฟเอสเพรสโซ่อิตาเลียนแท้ๆ ให้คนทั่วโลกได้ลิ้มลอง จุดเด่นของ Segafredo คือเค้าควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูก การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ (มีไร่ของตัวเองที่บราซิล คอสตาริกา และฮาวายด้วยนะ!) ไปจนถึงการคั่วและเบลนด์ ทำให้มั่นใจได้ว่ากาแฟทุกแก้วที่ชงออกมาจะได้รสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ที่เข้มข้น นุ่มละมุน ถูกใจคอกาแฟแน่นอน เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบกาแฟรสชาติหนักแน่น กลมกล่อม มีเครม่าสวยๆ หรือคนที่อยากเปิดประสบการณ์กาแฟสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ โดยไม่ต้องบินไปถึงอิตาลีเลยจ้า


2. ราคา Segafredo ในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง? (ทั้งแบบเมล็ดและแคปซูล)

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้! ราคาของกาแฟ Segafredo ในไทยเนี่ย ต้องบอกว่ามีหลายแบบ หลายราคา แล้วแต่ชนิดของกาแฟและปริมาณนะ ทั้งแบบเมล็ดกาแฟคั่วและแบบแคปซูลสำหรับเครื่องทำกาแฟโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่ที่เห็นในไทยจะเป็นการนำเข้าโดย Boncafe (Thailand) ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหลัก ลองมาดูกันคร่าวๆ เป็นแนวทางนะ

เมล็ดกาแฟคั่ว (Coffee Beans)

สำหรับเมล็ดกาแฟคั่วของ Segafredo ที่หาได้ในไทยก็มีหลายรุ่นเลย อย่างรุ่นยอดนิยมก็จะมี:

  • Segafredo Massimo (ถุง 500 กรัม): รุ่นนี้จะเป็นการเบลนด์ระหว่าง Arabica และ Robusta ให้รสชาติหวานอ่อนๆ มีความรู้สึกเหมือนช็อกโกแลต เหมาะทำมอคค่า ราคาจะอยู่ประมาณ ฿480 - ฿505 บาท
  • Segafredo Extra Strong (ถุง 500 กรัม): ชื่อก็บอกว่า Extra Strong รุ่นนี้จะเข้มข้นถึงใจ คั่วระดับเข้ม มีกลิ่นหอมคล้ายฮาเซลนัทและมอลต์ เหมาะทำเอสเพรสโซ่และคาปูชิโน่ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ ฿610 - ฿630 บาท
  • Segafredo Classico Napoli (ถุง 500 กรัม): รุ่นนี้ก็เป็นอีกตัวที่นิยม ราคาประมาณ ฿415 บาท

ถ้าซื้อยกลัง (ประมาณ 3 กิโลกรัม หรือ 6 ถุง 500 กรัม) ราคาก็จะถูกลงมาอีกนะ อย่างรุ่น Massimo ยกลังจะอยู่ประมาณ ฿2,591 - ฿3,402 บาท หรือ Extra Strong ยกลังประมาณ ฿3,402 บาท

แหล่งที่เจอส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านค้า Official บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee และ Lazada รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าชั้นนำบางแห่ง

กาแฟแคปซูล (Coffee Capsules)

สำหรับสายสะดวก ชอบชงกาแฟด้วยเครื่องแคปซูล Segafredo ก็มีแคปซูลออกมาหลายรสชาติให้เลือกเหมือนกัน โดยแคปซูลของ Segafredo ส่วนใหญ่ที่ขายในไทยจะเป็นระบบ Caprista หรือใช้กับเครื่อง Caprista และก็มีแบบที่ใช้กับเครื่อง Nespresso ได้ด้วยนะ

  • Segafredo Espresso Capsule (กล่อง 10 หรือ 16 แคปซูล): ตัวนี้คือเอสเพรสโซ่สไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ราคาต่อกล่อง (10 แคปซูล) อยู่ประมาณ ฿172 - ฿310 บาท ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ซื้อและโปรโมชั่น ถ้าเป็นกล่อง 16 แคปซูล ราคาประมาณ ฿299 บาท ที่ Tops Supermarket
  • Segafredo Intenso Capsule (กล่อง 10 หรือ 16 แคปซูล): รสชาติเข้มข้นถึงใจ ราคาใกล้เคียงกับ Espresso
  • Segafredo Lungo Capsule (กล่อง 10 แคปซูล): สำหรับคนที่ชอบกาแฟแก้วใหญ่ขึ้นมาหน่อย ราคาประมาณ ฿310 บาท
  • Segafredo Decaf Capsule (กล่อง 10 แคปซูล): สำหรับคนที่ไม่ต้องการคาเฟอีน ราคาประมาณ ฿289 - ฿310 บาท

ถ้าซื้อแบบแพ็ค 3 กล่อง (16 แคปซูลต่อกล่อง) ราคาจะอยู่ประมาณ ฿930 บาท หรือเฉลี่ยกล่องละ ฿310 บาท ที่ Shopee

ช่องทางซื้อแคปซูลก็คล้ายๆ เมล็ดกาแฟ คือมีทั้งบน Shopee, Lazada, Tops, Makro และร้านค้าออนไลน์อื่นๆ

ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาในไทยก็อาจจะมีบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วราคาในไทยถือว่าเข้าถึงได้ง่าย เมื่อเทียบกับคุณภาพและชื่อเสียงของแบรนด์ระดับโลกแบบนี้


3. เทียบราคากับแบรนด์อื่นในตลาด เป็นไงบ้าง?

ถ้าให้เทียบราคากาแฟ Segafredo กับแบรนด์กาแฟนำเข้าอื่นๆ ในตลาดไทยที่คุณภาพใกล้เคียงกัน Segafredo ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไปถึงค่อนข้างสูง แต่ก็สมเหตุสมผลกับคุณภาพและชื่อชั้นที่เป็นแบรนด์จากอิตาลีแท้ๆ

อย่างเมล็ดกาแฟ 500 กรัมของ Segafredo Massimo ราคาประมาณ 500 บาท หรือ Extra Strong ประมาณ 600 กว่าบาท ถ้าเทียบกับแบรนด์ไทยพรีเมียม หรือแบรนด์นำเข้าบางยี่ห้อ ราคาก็อาจจะใกล้เคียงกัน หรือบางทีแบรนด์นำเข้าอื่นๆ ที่พรีเมียมมากๆ อาจจะมีราคาสูงกว่านี้ก็มีนะ แต่ถ้าเทียบกับกาแฟเบลนด์พื้นฐานตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป Segafredo ก็จะมีราคาสูงกว่า แต่แน่นอนว่าคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติก็ต่างกันด้วย

สำหรับกาแฟแคปซูล ราคาต่อแคปซูลของ Segafredo (ประมาณ ฿17 - ฿31 ต่อแคปซูล ถ้าซื้อแบบกล่อง 10-16 แคปซูล) ก็จะอยู่ในช่วงราคาเดียวกับแคปซูลกาแฟแบรนด์ดังอื่นๆ ที่มีขายในไทย เช่น Nespresso เอง หรือแคปซูลของแบรนด์อื่นๆ ที่ทำมาใช้กับเครื่อง Nespresso ได้ บางแบรนด์อาจจะถูกกว่าเล็กน้อย หรือบางแบรนด์ที่เฉพาะทางมากๆ ก็อาจจะแพงกว่านะ ขึ้นอยู่กับคุณภาพและแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟด้วย สรุปคือ Segafredo ไม่ได้เป็นแบรนด์ที่ถูกที่สุดในตลาด แต่ก็ไม่ได้แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับคุณภาพระดับพรีเมียมสไตล์อิตาเลียนที่ได้รับ


4. ซื้อแล้วได้อะไรบ้าง? มีประกันไหม?

เวลาซื้อกาแฟ Segafredo ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดหรือแคปซูล สิ่งที่เราจะได้หลักๆ เลยก็คือตัวผลิตภัณฑ์กาแฟนั่นแหละจ้า ส่วนเรื่องอุปกรณ์เสริม ของแถม หรือบริการพิเศษต่างๆ อันนี้จะขึ้นอยู่กับว่าเราซื้อจากช่องทางไหนและมีโปรโมชั่นอะไรในช่วงนั้นนะ

ถ้าซื้อจากร้านค้า Official บน Shopee หรือ Lazada หรือจาก Boncafe โดยตรง ส่วนใหญ่ก็จะได้รับสินค้าที่แพ็คมาอย่างดี มีการรับประกันคุณภาพของสินค้าก่อนถึงมือเรา ถ้าสินค้ามีปัญหาจากการผลิต หรือการขนส่ง ก็สามารถเคลมได้ตามเงื่อนไขของร้านค้านั้นๆ นะ ส่วนเรื่อง "ประกัน" ในที่นี้จะไม่ได้เป็นประกันซ่อมตัวสินค้าเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้านะจ๊ะ เพราะมันคือกาแฟ แต่จะเป็นการรับประกันความพึงพอใจในคุณภาพของกาแฟมากกว่า ถ้าไม่ตรงปก หรือมีปัญหาอะไรก็สามารถติดต่อผู้ขายได้เลย คนไทยเราก็ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการรับประกันคุณภาพสินค้าอยู่แล้ว ถ้าซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือก็จะสบายใจกว่า

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง (Delivery Fee) อันนี้ก็แล้วแต่ร้านและโปรโมชั่นเลยจ้า บางร้านอาจจะมีจัดโปรฯ ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด หรือในช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ก็จะมีโค้ดส่งฟรีให้เก็บมาใช้ได้ ต้องคอยสังเกตดีๆ

สำหรับ ของแถม คูปอง หรือโปรโมชั่น อันนี้แล้วแต่ช่วงเลย บางทีซื้อเยอะๆ อาจจะได้ส่วนลดเพิ่ม หรือได้ของแถมเล็กๆ น้อยๆ หรือมีคูปองส่วนลดพิเศษให้เก็บก่อนซื้อ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ


5. ช่วงโปรโมชั่นไหนน่าสอยสุด?

ถ้าเป็นนักช้อปตัวยงและอยากได้กาแฟ Segafredo ในราคาดีๆ ล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือโอกาสทอง! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee เค้ามีจัดแคมเปญลดราคากันแทบจะตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งยอดฮิต เช่น:

  • Double Digit Sale: พวก 9.9, 10.10, 11.11, และที่พลาดไม่ได้คือ 12.12 นี่คือช่วงที่ร้านค้าต่างๆ รวมถึง Official Store ของ Boncafe (Thailand) ที่ขาย Segafredo ด้วย มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาหนักมาก มีทั้งส่วนลดจากร้าน โค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม และโค้ดส่งฟรีให้ใช้เพียบ
  • เทศกาลไทย: แม้จะไม่จัดเต็มเท่า Double Digit Sale แต่บางทีช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย เช่น ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงปลายปี ก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาบ้างนะ ลองเข้าไปเช็คดู
  • โปรโมชั่นกลางเดือน/ปลายเดือน: บางที Lazada หรือ Shopee ก็มีโปรโมชั่นย่อยๆ กลางเดือนหรือปลายเดือนด้วยนะ ไม่ต้องรอถึงช่วงใหญ่ๆ ก็อาจจะได้ดีลดีๆ เหมือนกัน

ร้านค้าระดับแฟลกชิพบน Lazada หรือ Shopee ของ Boncafe (Thailand) เค้าค่อนข้างมีโปรโมชั่นบ่อยนะ ทั้งลดราคาเอง มีโค้ดส่วนลดให้เก็บ หรือบางทีก็มีจัดเซ็ตคู่กับสินค้าอื่นๆ ถ้าอยากได้ราคาคุ้มๆ แนะนำให้ กดติดตามร้านค้า Official ไว้เลย จะได้ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นที่ออกมา และถ้าไม่รีบมากจริงๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ จะช่วยประหยัดไปได้เยอะเลยจ้า!


6. คนไทยที่เคยลอง Segafredo เค้าว่ายังไงกันบ้าง?

จากการลองส่องๆ รีวิวตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ ในไทยนะ (แอบไปดูตามรีวิวใน Shopee/Lazada มา อิอิ) เสียงตอบรับเกี่ยวกับกาแฟ Segafredo ส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยนะ โดยเฉพาะคนที่ชอบกาแฟสไตล์อิตาเลียนเข้มๆ จุดที่คนไทยประทับใจและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

  • รสชาติเข้มข้น หอม อร่อย: หลายคนชอบความเข้มข้นและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์สไตล์อิตาเลียนของ Segafredo บอกว่าชงออกมาแล้วเหมือนได้นั่งดื่มที่คาเฟ่เลย
  • คุณภาพดี ได้มาตรฐาน: ด้วยความที่เป็นแบรนด์ดังระดับโลกและควบคุมการผลิตเอง ทำให้คนมั่นใจในคุณภาพของเมล็ดกาแฟและแคปซูล
  • ชงง่าย สะดวก (โดยเฉพาะแคปซูล): กาแฟแคปซูล Segafredo ใช้งานง่ายมากๆ แค่ใส่แคปซูลเข้าเครื่องก็ได้กาแฟอร่อยๆ ดื่มแล้ว สะดวกกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่สุดๆ
  • คุ้มค่ากับราคา: แม้ราคาจะไม่ใช่แบบถูกที่สุด แต่หลายคนมองว่าคุณภาพที่ได้กับราคาที่จ่ายไปถือว่าคุ้มค่ามากๆ ได้กาแฟพรีเมียมสไตล์อิตาเลียนมาดื่มที่บ้านได้ง่ายๆ

โดยรวมแล้ว คนไทยที่เคยใช้ Segafredo มักจะพอใจกับ รสชาติ คุณภาพ และความสะดวก ในการชง โดยเฉพาะแคปซูลที่เป็นที่นิยมสำหรับคนเมืองที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ


7. จะไปหาซื้อ Segafredo ได้จากช่องทางไหนบ้าง?

สำหรับคอกาแฟ Segafredo ในไทย บอกเลยว่ามีหลายช่องทางให้เลือกซื้อ สะดวกสบายสุดๆ:

  • ช่องทางออนไลน์หลัก: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมอย่าง Shopee และ Lazada เป็นแหล่งรวมร้านค้าที่ขายกาแฟ Segafredo เยอะมากๆ รวมถึงร้านค้า Official ของ Boncafe (Thailand) ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการด้วย ข้อดีคือมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบเมล็ดและแคปซูล เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดให้ใช้บ่อยๆ แถมยังส่งตรงถึงหน้าบ้าน สะดวกสุดๆ
  • ร้านค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ต: สามารถหาซื้อกาแฟ Segafredo ได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป เช่น Tops Supermarket, Makro, Villa Market, และ Foodland บางสาขา อันนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากไปเลือกดูสินค้าเอง หรืออยากได้ของทันที ข้อดีคือได้เห็นสินค้าจริง และบางทีก็มีโปรโมชั่นร่วมกับทางห้างหรือซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นๆ ด้วย
  • ร้านกาแฟ Segafredo Zanetti Espresso: นอกจากผลิตภัณฑ์กาแฟสำหรับชงเองแล้ว Segafredo เค้าก็มีร้านกาแฟของตัวเองชื่อ Segafredo Zanetti Espresso ที่มีสาขาในไทยด้วยนะ อันนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากลองชิมกาแฟ Segafredo แบบที่ชงโดยบาริสต้ามืออาชีพ หรืออยากสัมผัสบรรยากาศคาเฟ่สไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ซึ่งบางทีที่ร้านอาจจะมีผลิตภัณฑ์กาแฟแบบเมล็ดหรือแคปซูลขายด้วย ลองสอบถามที่ร้านดูได้เลยจ้า
  • เว็บไซต์ Boncafe (Thailand): สามารถเข้าไปดูรายละเอียดสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ของ Boncafe ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายในไทย

เลือกช่องทางที่สะดวกและตรงกับความต้องการได้เลยนะจ๊ะ!


8. สรุปแล้ว Segafredo น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสุดท้ายของการรีวิว! ถามว่ากาแฟ Segafredo น่าซื้อไหม? บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคอกาแฟที่:

  • ชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น หนักแน่น สไตล์อิตาเลียน: Segafredo คือตัวแทนของกาแฟเอสเพรสโซ่อิตาเลียนแท้ๆ ถ้าชอบรสชาติแบบนี้ ไม่ผิดหวังแน่นอน
  • มองหากาแฟคุณภาพดี ได้มาตรฐานระดับสากล: ด้วยชื่อเสียงและกระบวนการผลิตที่ควบคุมเองทั้งหมด ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพของ Segafredo
  • อยากได้กาแฟพรีเมียมมาดื่มที่บ้านในราคาที่จับต้องได้: เมื่อเทียบกับแบรนด์นำเข้าพรีเมียมอื่นๆ Segafredo มีราคาที่สมเหตุสมผลและเข้าถึงได้ง่ายกว่า
  • ใช้เครื่องทำกาแฟแคปซูล: กาแฟแคปซูลของ Segafredo สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ใช้เครื่องแคปซูล ชงง่าย ได้กาแฟอร่อย คุณภาพดี

สรุปคือ Segafredo คุ้มค่าที่จะลองมากๆ สำหรับคนที่ชอบกาแฟสไตล์อิตาเลียน หรืออยากได้กาแฟคุณภาพดีมาติดบ้านไว้ จะซื้อแบบเมล็ดไปบดเองสำหรับคอเอสเพรสโซ่ตัวจริง หรือแบบแคปซูลเพื่อความสะดวก ก็มีให้เลือกครบ

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและเครื่องชงที่มี ถ้าชอบเข้มๆ จัด Extra Strong ไปเลย ถ้าชอบแบบกลมกล่อม มีรสช็อกโกแลตปลายๆ ก็ Massimo ส่วนแคปซูลก็เลือกระดับความเข้มและปริมาณน้ำตามชอบได้เลย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังมองหากาแฟอร่อยๆ สไตล์อิตาเลียนมาลองนะจ๊ะ ขอให้มีความสุขกับการจิบกาแฟ Segafredo แก้วโปรดจ้า! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีจ้า! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องน้ำหอมสุดฮิตติดปาร์ตี้อย่าง Carolina Herrera 212 VIP กัน ใครที่อยากตัวหอมฟุ้งแบบคนดัง ได้ฟีลแบบ "Are you on the list?" ต้องมาอ่านเลยนะ เพราะเราจะมาแกะกล่อง เจาะลึกราคาล่าสุดในปี 2025 แถมด้วยทริคช้อปยัง
น้ำหอม Carolina Herrera 212 VIP ราคาล่าสุด 2025
สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องวัตถุดิบตัวท็อปที่ชาวเราเข้าครัวบ่อยๆ หรือสายชาบูหมูกระทะต้องเลิฟ นั่นก็คือ หมูสไลด์ CP/S-Pure ที่แม็คโคร นั่นเองงงง ใครที่กำลังเล็งๆ หาหมูสไลด์คุณภาพดี ราคาสบายกระเป๋า (หรือเปล่า?) สำหรับปี 202
ราคา หมูสไลด์ CP/S-Pure ที่แม็คโคร อัปเดตปี 2025
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราขอพาทุกคนไปตะลุยกินร้านอาหารญี่ปุ่นสุดคลาสสิกที่อยู่คู่คนไทยมานานม้ากมากกก อย่าง Fuji Restaurant กันดีกว่า ใครที่เป็นแฟนคลับอาหารญี่ปุ่น หรือกำลังมองหาร้านอร่อย คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย ฟีลแบบ "มากินข้าวบ้านเพื่อน
ราคาอาหาร Fuji Restaurant ปี 2025 เมนูไหนเด็ด บุฟเฟ่ต์คุ้มไหม?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ

กาแฟ Segafredo ราคาเท่าไหร่? เมล็ดกาแฟ/แคปซูล ยี่ห้อดังจากอิตาลี - Thaihomeshopping