จักรยานพับ Dahon Curve D3: ราคา รีวิว และเหมาะพกพาเดินทางไหม?

Based on the search results, the Dahon Curve D3 is a 16-inch folding bike, typically with a Shimano 3-speed internal gear hub. It's known for being compact when folded and suitable for city commuting and combining with public transport. It appears to be an older model, more commonly found in the used market in Thailand. Prices for used ones vary but seem to be in the ฿7,000 - ฿15,000 range, with some listed around ฿11,900. Dahon is a reputable international brand in folding bikes. The smaller 16-inch wheels make it very portable but might be less comfortable or fast compared to 20-inch bikes, although the wider tires can help with comfort. Some reviews highlight its affordability and suitability as a Brompton alternative on a lower budget. Thai users appreciate its portability and ease of use. Buying channels are mostly online platforms like Shopee and Lazada, as well as specialized used bike shops or Facebook groups. New Dahon Curve models exist, like the Curve D7 (7-speed, 16-inch), priced around ฿15,900, which could be a comparison point. I have sufficient information to construct the article following the user's requirements.

ฮัลโหลลล ทุกคน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องจักรยานพับไซส์น่ารัก พกพาง่าย ที่ชื่อว่า Dahon Curve D3 กัน ใครที่กำลังมองหาจักรยานคู่ใจไว้ปั่นในเมือง ไปจ่ายตลาด หรือเอาขึ้นรถไฟฟ้าไปเที่ยวต่อ มาฟังทางนี้เลยจ้า เพราะเจ้าคันนี้เค้ามีดีกว่าที่คุณคิดเยอะ! เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมทริคการช้อปยังไงให้ได้รถถูกใจในราคาโดนๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!

1. เจ้า Dahon Curve D3 นี่มันคืออะไรกันแน่?

มาเริ่มที่ตัวเอกของเราก่อนเลย Dahon Curve D3 เนี่ย เค้าคือจักรยานพับได้ขนาดเล็ก ล้อ 16 นิ้ว จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Dahon ซึ่งเป็นแบรนด์จักรยานพับชื่อดังจากประเทศที่เค้าเก่งเรื่องนวัตกรรมจักรยานอย่าง อเมริกา/ไต้หวัน เค้ามีประวัติมายาวนานมากๆ และเป็นที่ยอมรับเรื่องคุณภาพและกลไกการพับที่เจ๋งสุดๆ เลย

เจ้า Curve D3 เนี่ย ออกแบบมาให้ พับง่าย เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวกมากๆ เหมาะสุดๆ สำหรับชีวิตคนเมืองที่ไม่ค่อยมีพื้นที่เก็บรถ หรือคนที่ต้องเดินทางแบบ Multimodal คือปั่นจักรยานไปต่อรถไฟฟ้า ต่อรถไฟ หรือใส่ท้ายรถยนต์ไปเที่ยว ด้วยล้อขนาด 16 นิ้ว ทำให้มันคล่องตัวในที่แคบๆ เกียร์ที่มีมาให้ 3 เกียร์ (ส่วนใหญ่เป็นเกียร์ดุม Shimano) ก็เพียงพอสำหรับการปั่นในเมืองทางเรียบๆ หรือขึ้นเนินนิดหน่อยๆ กลุ่มคนที่เหมาะกับเจ้านี่ก็มีตั้งแต่ นักเรียน นักศึกษา คนทำงานที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือแม้แต่คนที่อยากได้จักรยานคันที่สองไว้ปั่นเล่นชิลๆ หรือพกไปเที่ยวต่างจังหวัดค่ะ

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

เรื่องราคาเนี่ย ต้องบอกก่อนว่า Dahon Curve D3 เป็นรุ่นที่ออกมานานพอสมควรแล้วค่ะ ส่วนใหญ่ที่เราจะเห็นขายกันในไทยตอนนี้เลยมักจะเป็น จักรยานมือสอง นะคะ ราคาเนี่ยก็จะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ปีที่ผลิต และร้านที่ขายค่ะ

เท่าที่ไปสำรวจดูตามแหล่งต่างๆ ราคามือสองของเจ้า Curve D3 ในตลาดไทยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 7,000 - 15,000 บาท (฿) โดยประมาณค่ะ บางคันสภาพดีๆ หรือมีการอัพเกรดมาบ้างแล้วราคาก็อาจจะขยับขึ้นไปอีกหน่อย ถ้าเทียบกับตอนที่เป็นรถใหม่ๆ เมื่อหลายปีก่อน ราคามือสองตอนนี้ถือว่าน่ารักกับกระเป๋าสตางค์มากๆ เลยล่ะ

แหล่งที่เราจะเจอเจ้านี่บ่อยๆ ก็คือพวกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada กับ Shopee ลองใช้คีย์เวิร์ดว่า "Dahon Curve D3 มือสอง" หรือ "จักรยานพับ Dahon มือสอง" ดูนะคะ จะมีร้านค้าและผู้ขายรายย่อยลงขายอยู่เยอะเลย นอกจากนี้ ตามกลุ่มซื้อขายจักรยานมือสองใน Facebook ก็เป็นอีกแหล่งที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ

ส่วนร้านจักรยานใหญ่ๆ อย่าง 888BIKE หรือร้านตัวแทนจำหน่าย Dahon ในไทย ตอนนี้เค้าอาจจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ มากกว่าค่ะ อย่างรุ่นใกล้เคียงกันที่เป็นล้อ 16 นิ้ว เฟรมโค้งเหมือนกันก็จะมี Dahon Curve D7 ซึ่งเป็นเกียร์นอก 7 สปีด ราคามือหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 15,900 บาท (฿) ค่ะ ซึ่งราคาก็จะสูงกว่า D3 มือสองพอสมควรเลย

สำหรับเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคานานาชาติ อันนี้อาจจะไม่ชัดเจนมากนักสำหรับรุ่นเก่าที่หาซื้อใหม่ยากแล้ว แต่ถ้าเทียบกับรุ่นใหม่ๆ ที่ขายในไทย ราคาตั้งก็จะมีการบวกค่าขนส่ง ค่าภาษี และการตลาดต่างๆ เข้าไปอยู่แล้ว ทำให้ราคาสูงกว่าราคาที่เห็นในเว็บเมืองนอกเป็นเรื่องปกติค่ะ

3. แล้วเทียบกับจักรยานพับรุ่นอื่นล่ะ คุ้มไหม?

ถ้าเอา Dahon Curve D3 มือสอง มาเทียบกับจักรยานพับรุ่นอื่นๆ ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน หรือจักรยานพับล้อ 16 นิ้ว ยี่ห้ออื่นๆ ในตลาด ต้องบอกว่าเจ้า D3 เนี่ยมีความน่าสนใจในแง่ของ แบรนด์และคุณภาพงานสร้าง ค่ะ

จักรยานพับยี่ห้ออื่นๆ ที่ราคาประมาณหลักพันกลางๆ ถึงปลายๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์รองๆ ลงมา หรือแบรนด์ไทย ซึ่งคุณภาพ วัสดุ และกลไกการพับอาจจะยังไม่เทียบเท่า Dahon ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ถึงแม้ D3 จะเป็นรุ่นเก่า แต่ความแข็งแรงทนทานและชื่อชั้นของ Dahon ยังคงเป็นจุดเด่นที่ทำให้มันน่าสนใจในตลาดมือสองค่ะ

เมื่อเทียบกับจักรยานพับตัวท็อปๆ ที่ราคาสูงลิ่ว อย่าง Brompton หรือ Tern Verge/Link รุ่นแพงๆ แน่นอนว่า D3 สเปกสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งในเรื่องน้ำหนัก จำนวนเกียร์ หรือฟังก์ชันพิเศษต่างๆ แต่ถ้ามองในแง่ของ ความคุ้มค่าในการใช้งานจริงสำหรับคนเมืองที่ต้องการความสะดวกในการพับและพกพา ในงบประมาณที่ไม่สูงมาก Dahon Curve D3 ถือเป็นตัวเลือกที่ โคตรคุ้ม เลยค่ะ

บางคนอาจจะเทียบกับ Dahon รุ่นใหม่ๆ ที่ล้อ 16 นิ้วเหมือนกัน เช่น Dahon K3 (เน้นเบามาก) หรือ Curve D7 (เกียร์เยอะขึ้น) รุ่นใหม่ๆ พวกนี้ก็จะมีข้อดีเรื่องน้ำหนักที่เบาลง หรือมีเกียร์ให้เลือกใช้หลากหลายกว่า แต่ราคามือหนึ่งก็โดดไปถึงหมื่นปลายๆ หรือสองหมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว ดังนั้น D3 มือสองจึงเป็นเหมือนสะพานที่ทำให้เราได้สัมผัสคุณภาพของ Dahon ในราคาที่เอื้อมถึงง่ายกว่านั่นเอง

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้เป็นเรื่องที่ต้อง เช็คกับผู้ขายให้ละเอียดสุดๆ เลยนะคะ เวลาซื้อ Dahon Curve D3 มือสอง เพราะสิ่งที่ได้มาอาจจะไม่ครบเหมือนซื้อใหม่ หรือแตกต่างกันไปในแต่ละคันค่ะ

สิ่งที่เราควรสอบถามและตรวจสอบก็คือ:

• ตัวรถ: สภาพเฟรม จุดพับต่างๆ มีรอยแตก รอยบุบ หรือสนิมตรงไหนไหม กลไกการพับยังแน่นหนาดีอยู่หรือเปล่า
• ระบบขับเคลื่อน: เกียร์ดุม 3 สปีด ใช้งานได้ปกติทุกเกียร์ไหม (ลองสับดูทีละเกียร์) โซ่ จานหน้า เฟืองหลัง (ที่ดุม) อยู่ในสภาพดีไหม
• ล้อและยาง: ล้อตรงไม่คด ไม่ดุ้งไหม ยางสภาพเป็นยังไง ดอกยางยังเหลือเยอะไหม มีรอยแตกลายงาหรือเปล่า (ยาง Schwalbe Big Apple ที่ติดมากับ D3 บางรุ่นเนี่ยขึ้นชื่อเรื่องความนุ่ม แต่ก็ต้องดูสภาพด้วยนะคะ)
• ระบบเบรก: เบรกหน้าหลังใช้งานได้ปกติ ผ้าเบรกยังหนาอยู่ไหม
• อุปกรณ์ติดรถ: ส่วนใหญ่ D3 มักจะมีบังโคลนหน้า-หลัง และตะแกรงหลังมาให้จากโรงงาน (บางคันอาจถูกถอดออก) เช็คดูว่ามีมาครบไหม แม่เหล็กช่วยยึดรถตอนพับยังทำงานดีอยู่หรือเปล่า
• แบตเตอรี่/ที่ชาร์จ: (กรณีมีไฟติดรถหรือรุ่นพิเศษ)
• อุปกรณ์พื้นฐาน: มักจะไม่มีขาตั้งมาให้จากโรงงานนะคะ แต่บางคันเจ้าของเดิมอาจจะติดเพิ่มมา
• การรับประกัน: อันนี้สำคัญมากสำหรับคนไทยที่ห่วงเรื่องซ่อม! จักรยานมือสองส่วนใหญ่จะ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วค่ะ บางร้านที่นำเข้ารถมือสองมาขายอาจจะมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 1 เดือน ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขดีๆ ค่ะ หรือถ้าซื้อกับผู้ใช้โดยตรง ส่วนใหญ่มักจะไม่มีประกันเลย ต้องทำใจและเช็คสภาพให้ละเอียดที่สุดก่อนจ่ายเงินค่ะ
• ของแถมอื่นๆ: บางผู้ขายอาจจะมีแถมอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ เช่น ไฟหน้า-หลัง, กระดิ่ง, กระเป๋าใต้อาน ก็แล้วแต่ตกลงกันไปค่ะ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะคะ เว้นแต่ผู้ขายจะจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี ก็ต้องดูเงื่อนไขและพื้นที่บริการดีๆ ค่ะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษไหม?

ถ้าอยากได้ Dahon Curve D3 มือสองในราคาดีๆ ช่วง โปรโมชั่น ก็เป็นโอกาสทองเหมือนกันค่ะ ถึงแม้จะเป็นรถมือสอง แต่ร้านค้าหรือผู้ขายรายย่อยบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada กับ Shopee ก็มักจะเข้าร่วมแคมเปญลดราคาใหญ่ๆ ในช่วง Double Digit Sale เช่น 11.11 หรือ 12.12 ค่ะ ช่วงนี้อาจจะมีโค้ดส่วนลดเฉพาะร้าน โค้ดลดจากแพลตฟอร์ม หรือโปรโมชั่น ส่งฟรี ออกมาให้เราได้ใช้ ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงกว่าเดิมค่ะ

นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลไทย อย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ บางร้านก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขายเช่นกัน ก็ต้องคอยติดตามข่าวสารจากร้านที่เราสนใจดูนะคะ

สำหรับร้านค้าที่เป็น Official Store ของ Dahon บน Lazada หรือ Shopee (ถ้ามี) เค้าอาจจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ เป็นหลักค่ะ แต่อาจจะมีโปรโมชั่นสำหรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ของ Dahon ซึ่งเอามาใช้ร่วมกับ D3 ได้ ก็ลองเข้าไปดูเผื่อเป็นไอเดียในการแต่งรถเพิ่มเติมได้ค่ะ

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าไม่ได้รีบใช้งานมากๆ การ รอซื้อในช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ หรือเทศกาล ก็มีโอกาสที่จะได้ Dahon Curve D3 มือสองในราคาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากการรวบรวมข้อมูลและอ่านรีวิวจากผู้ใช้ในไทยตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มต่างๆ เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Dahon Curve D3 ถือว่าค่อนข้างดีเลยค่ะ จุดที่โดนใจผู้บริโภคไทยมากๆ ก็คือ:

• พับแล้วเล็ก พกพาสะดวกสุดๆ: อันนี้คือจุดขายหลักเลยค่ะ หลายคนซื้อเพราะต้องการจักรยานที่พับแล้วเอาขึ้นรถไฟฟ้า (BTS/MRT) ได้ง่าย ใส่ท้ายรถเก๋งได้สบายๆ ไม่กินที่ ขนาดล้อ 16 นิ้วทำให้พับแล้วมีขนาดเล็กกว่ารถพับล้อ 20 นิ้วอย่างเห็นได้ชัด
• ดีไซน์เฟรมโค้ง สวย น่ารัก: หลายคนชอบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูล Curve ที่เฟรมโค้งๆ ดูมินิมอล น่ารัก ปั่นไปไหนคนก็มอง
• ปั่นดีเกินคาดสำหรับล้อเล็ก: ถึงแม้จะเป็นล้อ 16 นิ้ว แต่ผู้ใช้หลายคนบอกว่าปั่นได้ดี ลื่นไหล ไม่ได้อืดอย่างที่คิด ยิ่งถ้าได้ยางดีๆ อย่าง Schwalbe Big Apple ก็ช่วยเรื่องความนุ่มนวลได้เยอะเลย
• ความทนทานของแบรนด์ Dahon: ชื่อชั้นของ Dahon ทำให้ผู้ใช้มั่นใจในคุณภาพและความทนทานค่ะ ถึงจะเป็นรถมือสองแต่ถ้าสภาพดีๆ ก็ยังใช้งานได้อีกนาน
• ราคาคุ้มค่า (เมื่อซื้อมือสอง): สำหรับคนที่งบไม่สูงมาก แต่ได้จักรยานแบรนด์ดี คุณภาพไว้ใจได้ในราคามือสอง ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ
• เกียร์ดุมดูแลง่าย: เกียร์ดุม 3 สปีด ดูแลง่าย ไม่จุกจิก ลดปัญหาเรื่องโซ่ตก หรือเกียร์เป็นสนิม เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราในระดับหนึ่งค่ะ

โดยรวมแล้ว คนไทยที่ใช้ Dahon Curve D3 มักจะแฮปปี้กับ ความคล่องตัวในการเดินทาง พกพาสะดวก และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ค่ะ

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนบ้างนะ?

อย่างที่บอกไปค่ะว่าหลักๆ เลย Dahon Curve D3 ในไทยตอนนี้จะอยู่ในตลาด มือสอง นะคะ ช่องทางที่แนะนำให้ไปส่องมีดังนี้ค่ะ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม: Shopee และ Lazada คือแหล่งรวมใหญ่เลยค่ะ มีผู้ขายทั้งที่เป็นร้านค้าและผู้ใช้ทั่วไปนำมาลงขายเยอะมาก ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ค่อนข้างปลอดภัย และบางทีมีโค้ดส่วนลด/โปรโมชั่นส่งฟรีให้ใช้ แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้เห็นของจริง ต้องพึ่งรูปถ่ายและรายละเอียดจากผู้ขาย และต้องเช็คเครดิตร้านหรือผู้ขายให้ดีก่อนโอนเงินค่ะ
• กลุ่มซื้อขายจักรยานมือสองใน Facebook: กลุ่มพวกนี้ก็เป็นแหล่งที่ดีมากๆ ค่ะ มักจะเจอผู้ใช้ด้วยกันเองที่นำรถมาปล่อย ราคาอาจจะต่อรองได้ง่ายกว่าซื้อจากร้าน และสามารถสอบถามรายละเอียด ขอดูรูป/วิดีโอเพิ่มเติม หรือนัดเจอเพื่อดูรถจริงได้โดยตรง ซึ่งปลอดภัยที่สุดค่ะ แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยนะคะ
• ร้านจักรยานมือสองโดยเฉพาะ: ในกรุงเทพฯ หรือตามหัวเมืองใหญ่ๆ อาจจะมีร้านที่นำเข้าจักรยานญี่ปุ่นมือสองมาขายโดยเฉพาะ ซึ่งบางทีก็มี Dahon Curve D3 เข้ามาด้วยค่ะ ข้อดีคือเราสามารถไป ดูรถ ลองปั่น เช็คสภาพ ได้ด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ ได้พูดคุยสอบถามกับคนขายโดยตรง แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าการซื้อขายกันเองผ่านออนไลน์นิดหน่อยค่ะ
• ร้านตัวแทนจำหน่าย Dahon ในไทย: อันนี้อาจจะต้องลองสอบถามดูค่ะว่ายังมีรุ่น Curve D3 หรือรุ่นเก่าๆ หลงเหลืออยู่บ้างไหม ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ มากกว่า แต่บางทีอาจจะมีสต็อกเก่า หรือมีข้อมูลแนะนำร้านที่ขายมือสองได้ค่ะ

ช่องทาง Official ของ Dahon ในไทย ตอนนี้เค้าก็จะเน้นไปที่รุ่นใหม่ๆ เป็นหลักค่ะ สำหรับ D3 ต้องพึ่งพาตลาดมือสองเป็นหลักอย่างที่บอกไปค่ะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครบ้าง?

มาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว! สรุปว่าเจ้า Dahon Curve D3 มือสอง เนี่ย ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? บอกเลยว่า น่าสอยมากๆ ค่ะ ถ้าคุณเข้าข่ายคุณสมบัติเหล่านี้:

• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้จักรยานพับแบรนด์ดัง คุณภาพดี
• เน้นพกพาขั้นสุด ต้องการจักรยานที่พับแล้วเล็กมากๆ เอาขึ้นรถสาธารณะบ่อยๆ หรือพื้นที่เก็บจำกัด
• ชอบดีไซน์น่ารัก เฟรมโค้งๆ ปั่นแล้วดูมีสไตล์
• ใช้งานในเมืองเป็นหลัก เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางเรียบ หรือมีเนินไม่มาก
• ต้องการจักรยานที่ดูแลรักษาง่าย เกียร์ดุม 3 สปีดไม่จุกจิก

เจ้า Dahon Curve D3 มือสองคือคำตอบที่ คุ้มค่าตัวสุดๆ ค่ะ มันเป็นจักรยานที่ตอบโจทย์การเดินทางในเมืองและการพกพาได้ดีเยี่ยม ด้วยขนาดที่เล็กและกลไกการพับที่เชื่อถือได้จาก Dahon

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการจำนวนเกียร์เยอะๆ ไว้ออกกำลังกายหนักๆ ปั่นขึ้นเขา หรือต้องการน้ำหนักที่เบาแบบสุดๆ อาจจะต้องมองข้าม D3 ไปหารุ่นใหม่ๆ หรือรุ่นที่สเปกสูงกว่านี้แทน เช่น Dahon Curve D7 หรือรุ่นอื่นๆ ที่มีเกียร์เยอะกว่า หรือเฟรมวัสดุพิเศษที่เบากว่า แต่สำหรับงบเท่านี้และโจทย์การใช้งานในเมืองแบบทั่วไป Dahon Curve D3 มือสองถือเป็นตัวเลือกที่ น่าสอยและปั่นสนุก แน่นอนค่ะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจสอยเจ้า Dahon Curve D3 นะคะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ ปั่นสนุก เดินทางสะดวกกันทุกคนจ้า! เจอกันบทความหน้า บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• แนะนำจักรยานพับในงบราคา 15000-20000 บาท | Bike-monster
• Dahon Curve เดิมๆสักคันสำหรับออกกำลังกายและใช้ประจำวัน | MY ...
• Update จักรยานพับ Dahon ทุกรุ่นต้นปี 2568 จัดเต็มกว่า 20+ รุ่นให้ ...
• [02-2024] Update จักรยานพับ Dahon ทุกรุ่นที่ร้าน Bike-monster ...
• rEViEW จักรยานพับได้ dAHON D:ZERO | mY 80 BiKE