อัปเดต ราคา ตั๋วรถไฟ ไป พิษณุโลก: ชั้น พัดลม แอร์ นั่ง นอน ราคาเท่าไหร่?

สวัสดีค้าบบบทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องการเดินทางสุดคลาสสิกที่หลายคนคิดถึง นั่นก็คือการนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองรองสุดเก๋อย่าง พิษณุโลก นั่นเอง! ใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปแอ่วเมืองสองแคว แต่ยังงงๆ ว่าเอ๊ะ ค่าตั๋วรถไฟแต่ละชั้นนี่มันราคาเท่าไหร่กันนะ มีทั้งพัดลม แอร์ นั่ง นอน เลือกแบบไหนดี วันนี้เราจะมาอัปเดตให้ฟังแบบเข้าใจง่าย สบายๆ สไตล์เพื่อนเล่าสู่กันฟัง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่ามีออปชันไหน ราคาเท่าไหร่บ้างจ้า!

1. รถไฟไปพิษณุโลก มีชั้นไหนให้เลือกบ้าง?

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า การเดินทางด้วยรถไฟเนี่ยมันมีเสน่ห์เฉพาะตัวจริงๆ นะ ได้มองวิวเพลินๆ ระหว่างทาง ไม่ต้องปวดหัวเรื่องรถติดเหมือนขับรถไปเอง ส่วนขบวนรถไฟที่วิ่งจากกรุงเทพฯ ไปพิษณุโลกเนี่ย เค้าก็มีให้เลือกหลายแบบ หลายระดับความสบาย ตามกำลังทรัพย์ในกระเป๋าเลยจ้า หลักๆ ที่เราจะเจอก็จะมี:

• ชั้น 3 (รถนั่งพัดลม): อันนี้คือสายประหยัดตัวจริง! เป็นที่นั่งแบบพัดลม อากาศถ่ายเทสะดวก ได้ฟีลโลคอลสุดๆ
• ชั้น 2 (รถนั่งพัดลม / รถนอนพัดลม / รถนั่งปรับอากาศ / รถนอนปรับอากาศ): ชั้นนี้ตัวเลือกจะเยอะขึ้นมาหน่อย มีทั้งแบบนั่งพัดลม (บางขบวนอาจจะเจอ) แบบนั่งแอร์เย็นๆ หรือถ้าเดินทางกลางคืนก็มีแบบตู้นอนให้เลือก ทั้งแบบพัดลมและแบบแอร์เลยจ้า
• ชั้น 1 (รถนอนปรับอากาศ): อันนี้คือสายเปย์ เน้นความสบายส่วนตัว เป็นห้องนอนเล็กๆ แยกต่างหาก มีแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมเตียงนอนส่วนตัวเลยจ้า

เห็นไหมล่ะว่ามีให้เลือกหลากหลายสไตล์มากๆ ทีนี้มาดูกันที่เรื่องของ "ราคา" กันบ้างดีกว่า!

2. อัปเดตราคาตั๋วรถไฟ กรุงเทพฯ - พิษณุโลก

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! ราคาตั๋วรถไฟเนี่ย มันไม่ได้ตายตัวเป๊ะๆ นะจ๊ะ เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งประเภทขบวนรถ (รถด่วนพิเศษ, รถด่วน, รถเร็ว, รถธรรมดา) ประเภทของตู้โดยสาร และชั้นที่เราเลือกนี่แหละ แต่เอาเป็นว่าเราจะให้เป็นช่วงราคาคร่าวๆ พอให้เห็นภาพรวมนะ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรเช็คกับการรถไฟฯ โดยตรงอีกทีจ้า)

• ชั้น 3 (รถนั่งพัดลม): ราคาเริ่มต้นเบาๆ สบายกระเป๋ามากๆ จ้า อยู่ที่ประมาณ 178 - 219 บาท (฿) เหมาะสำหรับสายชิล เน้นประหยัด ไม่รีบร้อน
• ชั้น 2 (รถนั่งพัดลม): ราคาก็ขยับขึ้นมานิดหน่อย ประมาณ 269 - 309 บาท (฿) แต่ก็ยังเป็นราคาที่เข้าถึงง่ายอยู่
• ชั้น 2 (รถนอนพัดลม): สำหรับสายที่อยากนอนยาวๆ แต่ยังเน้นประหยัด รุ่นนี้ก็มีนะ ราคาจะสูงกว่าแบบนั่งพัดลมพอสมควร แต่อาจจะหาขบวนยากหน่อยสำหรับเส้นทางนี้ ราคาอาจจะประมาณ 377 บาท (฿) ขึ้นไป (อิงจากขบวนกลางคืนที่ราคาสูงกว่านั่งพัดลมปกติ)
• ชั้น 2 (รถนั่งปรับอากาศ): อันนี้เริ่มมีความเย็นสบายเข้ามาเกี่ยวข้อง! ราคาประมาณ 397 - 479 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับประเภทขบวนนะ ใครขี้ร้อนหน่อยแต่อยากนั่งสบายๆ ก็จัดเลย!
• ชั้น 2 (รถนอนปรับอากาศ): ยอดฮิตสำหรับสายเดินทางกลางคืน! หลับสบาย ได้พักผ่อนเต็มที่ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 549 - 889 บาท (฿) โดยเตียงบนจะถูกกว่าเตียงล่างเล็กน้อยนะจ๊ะ (เตียงล่างประมาณ 617 ฿, เตียงบนประมาณ 547 ฿ โดยประมาณ)
• ชั้น 1 (รถนอนปรับอากาศ): สุดยอดความสบายและเป็นส่วนตัว ราคาโดดไปอีกระดับ อยู่ที่ประมาณ 964 - 1,354 บาท (฿) ถ้าอยากได้ห้องส่วนตัวแบบฟีลโรงแรมเล็กๆ บนรถไฟ ก็ต้องชั้นนี้เลยจ้า

เห็นราคาแล้วพอจะตัดสินใจได้หรือยังว่าจะเลือกชั้นไหนดี? แต่เดี๋ยวก่อน! ยังมีข้อมูลอีกเพียบที่เราต้องรู้!

3. เปรียบเทียบราคาแต่ละชั้น เลือดยังไงให้โดนใจ?

เมื่อเห็นราคาแต่ละชั้นแล้ว ก็จะเห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจนเลยใช่ไหมล่ะ ชั้น 3 พัดลม นี่คือมิตรแท้ของคนงบน้อย เน้นการเดินทางแบบเรียบง่าย ไม่ติดหรู แต่ก็ต้องแลกมากับความเมื่อยและอากาศที่อาจจะร้อนอบอ้าวหน่อยถ้าเดินทางช่วงกลางวัน

ขยับมาที่ ชั้น 2 ตัวเลือกจะหลากหลายขึ้น ทั้งแบบนั่งและแบบนอน ถ้าเน้นความเย็นสบาย ไม่กลัวเปลืองงบเพิ่มอีกนิด ชั้น 2 ปรับอากาศ ทั้งแบบนั่งและนอนก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ยิ่งถ้าเดินทางกลางคืน ตู้นอนปรับอากาศชั้น 2 นี่แหละคือคำตอบยอดฮิต เพราะได้พักผ่อนเต็มที่ไปในตัว แถมราคาก็ยังไม่แรงเท่าชั้น 1 ด้วย

ส่วน ชั้น 1 ตู้นอนปรับอากาศ ก็คือสุดทางของความสบายและความเป็นส่วนตัว เหมาะกับคนที่เดินทางเป็นคู่ หรืออยากได้พื้นที่ส่วนตัวมากๆ ไม่วุ่นวายกับใคร แต่อันนี้ราคาก็จะพุ่งปรี๊ดขึ้นไปเลยนะจ๊ะ

สรุปง่ายๆ คือ งบน้อย เน้นประหยัด >> ชั้น 3 หรือ ชั้น 2 นั่งพัดลม | อยากสบายขึ้นมาหน่อย ไม่กลัวแอร์ >> ชั้น 2 นั่ง/นอนปรับอากาศ | เน้นส่วนตัว สบายเต็มที่ >> ชั้น 1 นอนปรับอากาศ นั่นเองจ้า

4. ซื้อตั๋วแล้วได้อะไรติดมาบ้างนะ? (บริการบนรถไฟ)

นอกเหนือจากที่นั่งหรือที่นอนแล้ว บริการบนรถไฟก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาแต่ละชั้นแตกต่างกันนะเออ

• ชั้น 3 และ ชั้น 2 (พัดลม/นั่งปรับอากาศ): โดยทั่วไปจะได้แค่ที่นั่งตามประเภทตั๋ว ไม่ได้มีบริการอาหารเครื่องดื่มรวมอยู่ในค่าตั๋ว แต่จะมีพนักงานนำของมาขายบนรถตลอดทาง สำหรับตู้นั่งพัดลมอาจจะต้องเตรียมรับมือกับสภาพอากาศและสิ่งไม่พึงประสงค์เล็กๆ น้อยๆ เช่น แมลง หรือห้องน้ำที่อาจจะไม่ได้ทันสมัยมากนัก
• ชั้น 2 และ ชั้น 1 (ตู้นอน): อันนี้ดีงามหน่อย เพราะจะมีผ้าห่มและหมอนเตรียมไว้ให้จ้า! ได้เหยียดตัวนอนสบายๆ ตลอดคืน แถมบางขบวน (โดยเฉพาะขบวนรถด่วนพิเศษ) อาจจะมีบริการอาหารหรือเครื่องดื่มรวมอยู่ในค่าตั๋วแล้ว หรือมีตู้เสบียงให้นั่งทานอาหารได้ ส่วนเรื่องห้องน้ำ ตู้นอนปรับอากาศมักจะมีห้องน้ำที่สะอาดและสะดวกสบายกว่าแบบพัดลมนะ

เรื่องสัมภาระก็ไม่ต้องห่วง การรถไฟฯ เค้าให้เรานำสัมภาระขึ้นรถไฟได้ตามปกติ ไม่ได้มีกฎเข้มงวดเหมือนขึ้นเครื่องบิน สามารถวางไว้บนชั้นเหนือศีรษะ หรือบางทีก็มีพื้นที่ใต้เบาะให้นะจ๊ะ

5. ช่วงไหนน่าซื้อตั๋วเป็นพิเศษ? มีโปรโมชั่นอะไรไหม?

เรื่องโปรโมชั่นตั๋วรถไฟเนี่ย ไม่ได้จัดหนักจัดเต็มเหมือนพวกสินค้าออนไลน์นะจ๊ะ แต่ก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง โดยเฉพาะโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้โดยสารบางกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) คนไทย ได้ลด 50% ของค่าโดยสารในช่วงเดือนมิถุนายน - กันยายนของทุกปี อันนี้คือดีงามมากๆ!

ส่วนโปรโมชั่นทั่วไปแบบลดราคาเป็นพิเศษ อาจจะต้องคอยติดตามจากช่องทางของการรถไฟฯ โดยตรง หรือเว็บไซต์/แอปพลิเคชันที่รับจองตั๋วออนไลน์นะจ๊ะ บางทีอาจจะมีโค้ดส่วนลดถ้าจองผ่านแอปฯ หรือเว็บไซต์ในเครือต่างๆ

แต่เคล็ดลับสำคัญในการได้ตั๋วที่นั่ง/เตียงที่เราต้องการ โดยเฉพาะช่วงเทศกาล วันหยุดยาว หรือช่วงที่คนเดินทางเยอะๆ คือ รีบจองล่วงหน้า! การรถไฟฯ เค้าเปิดให้จองล่วงหน้าได้สูงสุด 30 วัน (หรือบางขบวนอาจได้ถึง 60 วัน) ยิ่งถ้าเล็งตู้นอนยอดฮิต รีบจองแต่เนิ่นๆ รับรองไม่พลาดแน่นอนจ้า!

6. คนที่เคยนั่งรถไฟไปพิษณุโลก เค้าว่ายังไงกันบ้าง?

จากการลองไปส่องรีวิวตามโซเชียลต่างๆ คนที่เคยนั่งรถไฟไปพิษณุโลกส่วนใหญ่ก็มีฟีดแบ็กหลากหลายนะเออ

• สายประหยัด (ชั้น 3 / ชั้น 2 พัดลม): หลายคนบอกว่าคุ้มค่ากับราคาดี ได้สัมผัสบรรยากาศการเดินทางแบบดั้งเดิม แต่ก็มีคอมเม้นท์เรื่องความเมื่อยล้าถ้านั่งนานๆ หรือเจอปัญหาเรื่องห้องน้ำและสภาพตู้โดยสารที่อาจจะเก่าหน่อย แต่โดยรวมก็พอรับได้ถ้าเน้นประหยัดงบ
• สายสบาย (ชั้น 2 / ชั้น 1 ปรับอากาศ): ส่วนใหญ่จะบอกว่าสบาย หลับเพลิน แอร์เย็นฉ่ำ เหมาะกับการเดินทางไกลๆ กลางคืนมากๆ ได้พักผ่อนเต็มที่ ตื่นเช้ามาพร้อมเที่ยวเลย การบริการของพนักงานก็ดีใช้ได้

โดยรวมแล้ว การนั่งรถไฟไปพิษณุโลกก็ถือเป็นประสบการณ์การเดินทางที่น่าสนใจนะ ได้เห็นวิวสวยๆ (ถ้าเดินทางกลางวัน) หลีกเลี่ยงรถติด และรู้สึกผ่อนคลายกว่าการขับรถเอง

7. แล้วจะไปซื้อตั๋วรถไฟได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ไม่ต้องวิ่งไปสถานีรถไฟอย่างเดียวเหมือนสมัยก่อนแล้วนะจ๊ะ เดี๋ยวนี้เค้ามีช่องทางให้เลือกซื้อตั๋วรถไฟสะดวกสบายมากๆ เลย

• ช่องทางออนไลน์ยอดฮิต: เข้าไปเลยที่เว็บไซต์ SRT D-Ticket (dticket.railway.co.th) หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SRT D-Ticket มาไว้ในมือถือ สมัครสมาชิกง่ายๆ แล้วก็กดเลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง วันเดินทาง ชั้นที่ต้องการ ระบบก็จะโชว์ขบวนรถและที่นั่งที่ว่างให้เลือกเลย สะดวก รวดเร็ว จ่ายเงินได้ทั้งบัตรเครดิต/เดบิต หรือสแกน QR Code ได้ด้วยนะ
• เคาน์เตอร์สถานีรถไฟ: อันนี้คือช่องทางดั้งเดิม ไปที่สถานีรถไฟใกล้บ้าน (เช่น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือสถานีอื่นๆ) แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ช่องจำหน่ายตั๋วได้เลยจ้า เหมาะกับคนที่ไม่สะดวกจองออนไลน์ หรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่โดยตรง
• Call Center การรถไฟฯ 1690: โทรไปจองได้เหมือนกันนะ แต่จะต้องไปออกตั๋วและชำระเงินที่สถานีรถไฟภายในเวลาที่กำหนด เหมาะกับคนที่อยากเช็คเที่ยวรถ จองที่นั่งไว้ก่อน แล้วค่อยไปจ่ายเงินทีหลัง
• ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์อื่นๆ: บางทีก็มีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเอกชนที่รับจองตั๋วรถไฟของการรถไฟฯ ด้วยนะ ลองเช็คดูได้ เช่น 12Go หรือ BusOnlineTicket

เลือกช่องทางที่สะดวกได้เลยจ้า!

8. สรุปแล้วตั๋วรถไฟไปพิษณุโลก ราคาเท่าไหร่ดี? เหมาะกับใครบ้าง?

มาถึงบทสรุปส่งท้ายกันแล้ว! การเลือกซื้อตั๋วรถไฟไปพิษณุโลกเนี่ย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งงบประมาณ เวลาในการเดินทาง และความต้องการเรื่องความสบายส่วนตัวนะ

• ถ้าเป็น สายประหยัดตัวจริง ไม่ติดเรื่องความสบายมากนัก เดินทางช่วงกลางวัน หรือพอทนได้กับการนั่งนานๆ ชั้น 3 หรือ ชั้น 2 รถนั่งพัดลม คือคำตอบ ราคาเบาๆ สบายกระเป๋าแน่นอน
• ถ้าอยากได้ความสบายขึ้นมาหน่อย แต่ยังอยู่ในงบที่ไม่สูงมาก เดินทางช่วงกลางวันแล้วอยากได้แอร์เย็นๆ ชั้น 2 รถนั่งปรับอากาศ ก็น่าสนใจนะ
• ถ้าเดินทางกลางคืน อยากถึงพิษณุโลกเช้าแล้วพร้อมเที่ยวเลย และอยากได้พักผ่อนเต็มที่ ชั้น 2 รถนอนปรับอากาศ นี่แหละคือตัวเลือกยอดนิยม คุ้มค่าคุ้มราคา ได้นอนสบายๆ ตลอดคืน
• ส่วนถ้าเน้นความหรูหรา เป็นส่วนตัวขั้นสุด ไม่เกี่ยงราคา ชั้น 1 รถนอนปรับอากาศ ก็ตอบโจทย์มากๆ เหมือนได้ห้องนอนส่วนตัวบนรถไฟเลยทีเดียว

ไม่ว่าคุณจะเป็นสายไหน การเดินทางด้วยรถไฟไปพิษณุโลกก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยนะ ลองพิจารณาจากงบและความต้องการ แล้วเลือกชั้นที่ใช่สำหรับทริปของคุณได้เลยจ้า ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพและมีความสุขกับการเที่ยวพิษณุโลกนะค้าบบบ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• การเดินทางรถไฟสุดน่ารัก กับแมว 2 ตัวจากกรุงเทพฯ-พิษณุโลก
• รีวิวการนั่งรถไฟนอนที่กรุงเทพอภิวัฒน์ 2568
• นั่งรถไฟชั้น 2 คนละ 377 บาท จากรุงเทพ ไปพิษณุโลก 6 ชั่วโมง
• วิธีการจองตั๋วรถไฟตู้นอนชั้น 1 ผ่าน D-Ticket
• นั่งรถไฟชั้น 2 พัดลม ไปเชียงใหม่คนเดียว 14 ชั่วโมง คนละ 468 บาท ...