VR Full Body Tracking ราคาเท่าไหร่? ชุดไหนน่าลงทุนสำหรับสาย VR ต้องมีอะไรบ้าง?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เรามาสายเทคฯ แบบสุดๆ เพราะจะมาเม้าท์มอยเรื่อง VR Full Body Tracking หรือเจ้าอุปกรณ์ที่จะทำให้เราขยับตัวในโลก VR ได้แบบสมจริงเป๊ะๆ เหมือนเราเข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ เลย! ใครที่เล่น VR อยู่แล้ว หรือกำลังเล็งๆ อยากจะเข้าวงการนี้ แล้วสงสัยว่าไอ้เจ้า Full Body Tracking เนี่ยมันคืออะไร? ราคาเท่าไหร่? แล้วชุดไหนน่าโดนน่าเปย์ที่สุด? มามุงตรงนี้เลยจ้า เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบเข้าใจง่าย สไตล์เป็นกันเองเหมือนนั่งคุยกับเพื่อนซี้ ไม่มีศัพท์เทคฯ ยากๆ ให้ปวดหัวแน่นอน! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่าเงินในกระเป๋าเราจะปลิวไปกับเจ้าสิ่งนี้เท่าไหร่กันนะ!

1. ไอ้เจ้า VR Full Body Tracking นี่มันคืออะไรกันแน่?

เอาล่ะ เริ่มที่คำถามเบสิกสุดๆ เจ้า VR Full Body Tracking (FBT) เนี่ย พูดง่ายๆ มันคืออุปกรณ์เสริมสำหรับแว่น VR ของเราเนี่ยแหละค่ะคุณ! ปกติเวลาเราใส่แว่น VR เล่นเกมหรือเข้าโลกเสมือนจริงเนี่ย แว่นกับคอนโทรลเลอร์มันจะจับการเคลื่อนไหวแค่ส่วนหัวกับมือของเราใช่ป่ะ? ทีนี้ไอ้เจ้า FBT เนี่ยมันจะเข้ามาช่วย จับการเคลื่อนไหวของส่วนอื่นๆ ของร่างกายเราด้วย เช่น ขา ลำตัว หรือแม้กระทั่งสะโพก!

นึกภาพตามนะ จากที่เราเคยเป็นแค่ตัวละครครึ่งท่อนที่ขยับได้แค่หัวกับมือ พอมี FBT ปุ๊บ เราก็จะเป็นตัวละครเต็มตัวที่เตะขาได้ โยกย้ายส่ายสะโพกได้ หรือจะนอนกลิ้งไปมาในโลก VR ก็ยังได้! มันช่วยเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกม VR, เข้าไปสังสรรค์ในแอปโซเชียล VR อย่าง VRChat หรือแม้กระทั่งเอาไปใช้ในการจับการเคลื่อนไหว (Motion Capture) ทำอนิเมชัน หรือทำ VTuber ก็ได้ด้วยนะ

ถามว่าใครควรมี? ก็สายที่เน้นความอิน ความสมจริงขั้นสุดในการเล่น VR นั่นแหละจ้า ไม่ว่าจะสายเกมเมอร์ที่อยากเตะต่อยในเกมได้สมจริงขึ้น สายเต้นที่อยากโชว์สเต็ปในโลกเสมือน หรือสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่อยากทำ Motion Capture แบบง่ายๆ เจ้า FBT นี่แหละคือสิ่งที่ช่วยให้เราขยับในโลกเสมือนได้เหมือนอยู่โลกจริงเลย

ส่วนแบรนด์ดังๆ ในตลาดตอนนี้ก็มีหลายเจ้า ที่คุ้นหูคนไทยหน่อยก็คงเป็น HTC VIVE Tracker ที่เป็นเหมือนเจ้าตลาดมานาน แล้วก็มีน้องใหม่มาแรงอย่าง PICO Motion Tracker ที่ทำมาเพื่อแว่น PICO โดยเฉพาะ หรือจะเป็นพวก SlimeVR ที่เน้นความ affordability และเป็น Open Source ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีข้อดีข้อเสีย ราคา และเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไปจ้า

2. แล้วราคาในไทยมันเท่าไหร่กันนะ? มีกี่รุ่น?

มาถึงเรื่องที่ทำให้ใจสั่น นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! บอกเลยว่าเจ้า VR Full Body Tracking เนี่ย ไม่ใช่ของเล่นราคาเบาๆ เหมือนแว่น VR Cardboard แน่นอนนะจ๊ะ! ราคาจะขึ้นอยู่กับรุ่น แบรนด์ และจำนวนตัว Tracker ที่เราต้องการ

แบรนด์ที่เป็นที่นิยมอย่าง HTC VIVE Tracker 3.0 เนี่ย ราคาต่อชิ้นก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ จากที่ส่องๆ ดูในตลาดไทย ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6,xxx - 7,xxx บาท (฿) ต่อตัว ซึ่งถ้าจะเอาแบบ Full Body Tracking ขั้นต่ำที่ใช้ Tracker 3 ตัว (ติดที่เอว 1 ขา 2) ก็ต้องมีงบคร่าวๆ คูณสามเข้าไปนะจ๊ะ ยังไม่รวมอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อย่าง Base Station หรือสายรัดต่างๆ อีกนะ

ทีนี้ถ้าอยากได้แบบจัดเต็มกว่าเดิม เช่น 5 จุด (เอว 1 ขา 2 แขน 2) หรือ 6 จุด (เพิ่มหน้าอกอีก 1) ราคาก็พุ่งขึ้นไปอีกจ้า! ชุด 3 ตัวก็มีตั้งแต่ประมาณสองหมื่นบาทขึ้นไปได้เลย ส่วนชุด 5 ตัวราคาก็จะแรงขึ้นไปอีก แต่บางทีก็มีโปรเป็นชุดที่อาจจะคุ้มกว่าซื้อแยกนะ

ส่วนอีกตัวที่น่าสนใจคือ PICO Motion Tracker อันนี้จะเน้นใช้งานกับแว่น PICO โดยเฉพาะ ราคาต่อชิ้นจะถูกกว่า VIVE Tracker พอสมควรเลยนะ จากที่เห็นในร้านค้าออนไลน์บางร้าน ตัว Tracker ที่ใช้ติดเอวหรือเท้าเนี่ย ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,xxx บาท (฿) ต่อตัว ซึ่งถ้าซื้อครบชุดที่ใช้ Tracker 3 ตัว ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 6,xxx - 7,xxx บาท ซึ่งถือว่าเข้าถึงง่ายกว่า VIVE Tracker เยอะเลย

นอกจากนี้ก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ อย่างพวก SlimeVR ที่เป็นแบบ IMU-based ไม่ต้องใช้ Base Station ราคาก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจำนวน Tracker ที่ซื้อ และช่องทางการสั่งซื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นการสั่งจากต่างประเทศหรือร้านที่นำเข้ามาเอง ราคาต่อชุด 5 ตัวอาจจะอยู่ราวๆ 6,xxx - 1x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มานะ

ลองไปส่องๆ ดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ ในไทยอย่าง Lazada กับ Shopee จะมีร้านค้าที่ขายอุปกรณ์พวกนี้อยู่เยอะเลย ทั้งร้านค้าทางการของแบรนด์เอง (ถ้ามี) หรือร้านที่นำเข้ามาขายเอง บางทีก็เจอในกลุ่มซื้อขายอุปกรณ์ VR มือสองใน Facebook ด้วยนะ ส่วนร้านค้าปลีกด้านไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย อาจจะต้องเช็คเป็นรายสาขา หรือดูหน้าร้านออนไลน์อีกที เพราะสินค้า VR เฉพาะทางแบบนี้อาจจะไม่ได้มีวางขายทุกที่เท่าไหร่จ้า

ถ้าเทียบราคาต่างประเทศกับในไทย ส่วนใหญ่ราคาในไทยก็จะมีบวกเพิ่มนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ จากค่าขนส่ง ค่าภาษี หรือค่าดำเนินการต่างๆ แต่บางทีช่วงโปรโมชั่นก็อาจจะได้ราคาที่ใกล้เคียงกับต่างประเทศเลยก็ได้นะ

3. เทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกันแล้วเป็นไงบ้าง?

ทีนี้ถ้าเอาเจ้า VR Full Body Tracking มาเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆ ในโลก VR เนี่ย ต้องบอกว่ามันเป็นเหมือน "ออปชันเสริม" ที่ทำให้ประสบการณ์ของเราดีขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเลยนะ

ถ้าเทียบกับแค่ซื้อแว่น VR มาเล่นเฉยๆ เช่น Meta Quest 3 หรือ PICO 4 ซึ่งราคาเริ่มต้นก็อยู่ประมาณหมื่นกลางๆ ไปจนถึงสองหมื่นกว่าบาท การเพิ่มชุด Full Body Tracking เข้าไปเนี่ย คือการ เพิ่มงบอีกเท่าตัวหรือมากกว่านั้น เลยนะ

สำหรับคนที่งบน้อย แต่อยากลอง Full Body Tracking แบบพอหอมปากหอมคอ ก็มีวิธีที่ประหยัดกว่านี้อยู่บ้างนะ เช่น การใช้โปรแกรมเสริมอย่าง Driver4VR ที่อาจจะใช้กล้อง Webcam หรือแม้กระทั่งมือถือของเราในการ Track การเคลื่อนไหวแทน อันนี้ราคาซอฟต์แวร์หลักร้อยบาทเท่านั้นเอง แต่ข้อจำกัดก็คือความแม่นยำอาจจะไม่เท่าพวก Tracker เฉพาะทางนะ

หรือถ้าเทียบระหว่างแบรนด์ Tracker ด้วยกันเอง อย่างที่บอกไปว่า HTC VIVE Tracker จะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมและค่อนข้างแพง ในขณะที่ PICO Motion Tracker จะเป็นทางเลือกที่ราคาย่อมเยากว่ามากสำหรับผู้ใช้แว่น PICO ส่วน SlimeVR ก็เป็นอีกทางเลือกที่ราคาเข้าถึงง่ายกว่า VIVE Tracker แต่ก็ต้องแลกมากับการตั้งค่าที่อาจจะจุกจิกกว่านิดหน่อย และความแม่นยำอาจจะไม่เป๊ะเท่าแบบใช้ Base Station

สรุปคือ ถ้ามองหา Full Body Tracking ที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในตลาด ตัวเลือกหลักๆ ก็จะมีราคาสูงพอสมควร แต่ก็มีทางเลือกที่ราคาประหยัดลงมา ขึ้นอยู่กับงบและความคาดหวังในเรื่องความแม่นยำเลยจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันไหม?

เวลาซื้อชุด VR Full Body Tracking เนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ ก็คือ ตัว Tracker หรือเซ็นเซอร์ที่จะนำไปติดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเรานี่แหละ จำนวน Tracker ก็แล้วแต่ชุดที่เราเลือกซื้อ ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 3 ตัว (เอว 1 เท้า 2) หรือ 5 ตัว (เอว 1 เท้า 2 แขน 2)

นอกจากตัว Tracker แล้ว บางชุด โดยเฉพาะของ HTC VIVE Tracker ที่ใช้ระบบ SteamVR Tracking เนี่ย เราอาจจะต้องซื้อ Base Station หรือตัวปล่อยสัญญาณมาด้วยนะ อย่างน้อย 1 ตัว หรือถ้าอยากได้พื้นที่ติดตามที่กว้างขึ้นก็ต้องใช้ 2 ตัว ซึ่ง Base Station นี่ก็ราคาหลายพันบาทอยู่เหมือนกันนะจ๊ะ

สิ่งที่มักจะมาในกล่องด้วยก็คือ สายรัด (Straps) สำหรับเอาไว้รัด Tracker ติดกับตัวเรา บางชุดอาจจะมีสายชาร์จ USB-C มาให้ด้วย

ส่วนเรื่อง การรับประกัน อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทยอย่างเราที่ค่อนข้างกังวลเรื่องนี้! แบรนด์อย่าง PICO Motion Tracker ที่ขายในไทยจะมี ประกันศูนย์ไทยให้ 1 ปี อันนี้สบายใจได้เลย ส่วน HTC VIVE Tracker ถ้าซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยก็น่าจะมีประกันให้เหมือนกันนะ แต่ถ้าซื้อจากร้านหิ้ว หรือร้านที่ไม่ใช่ตัวแทน อาจจะต้องเช็คเรื่องประกันให้ดีๆ นะจ๊ะ เพราะบางทีอาจจะไม่มีประกัน หรือมีแค่ประกันร้านสั้นๆ เท่านั้นเอง

เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบคิดค่าส่งตามจริง หรือบางทีร้านค้าบน Lazada/Shopee ก็จะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี ให้ด้วยนะ ก็ต้องคอยสังเกตดีๆ จ้า

สำหรับ ของแถม คูปอง หรือโปรโมชั่น เนี่ย อันนี้แล้วแต่ช่วงเวลาและร้านค้าเลย บางทีช่วงเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือช่วงเทศกาล อาจจะมีของแถมเป็นสายรัดพิเศษ หรือคูปองส่วนลดให้ด้วย ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อได้นะ

5. ช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ? มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?

ถ้าอยากได้เจ้า VR Full Body Tracking ในราคาที่ดีต่อใจ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเปย์ที่สุดก็หนีไม่พ้นช่วง โปรโมชั่น นี่แหละจ้า! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Lazada กับ Shopee เค้าจัดโปรโมชั่นลดราคาแทบจะทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งยอดฮิตอย่าง 11.11 (ดับเบิ้ลวัน ดับเบิ้ลเซล) และ 12.12 เนี่ย จัดหนักจัดเต็มแน่นอน

นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ก็อาจจะมีร้านค้าจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษออกมาให้ใช้ได้เหมือนกันนะ

สำหรับร้านค้าที่เป็น Flagship Store หรือร้านค้าทางการของแบรนด์บน Lazada หรือ Shopee เนี่ย มักจะมีโปรโมชั่น มีส่วนลด หรือมีแคมเปญพิเศษบ่อยๆ นะ ก็แนะนำให้กดติดตามร้านค้าพวกนี้ไว้เลย จะได้ไม่พลาดข่าวสารโปรโมชั่นดีๆ

คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้แบบด่วนจี๋ ให้รอซื้อช่วงที่มีโปรโมชั่น จะคุ้มค่ากว่าเยอะเลยจ้า บางทีได้ส่วนลดเยอะ หรือได้ของแถมคุ้มๆ ทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลยนะ แต่ก็ต้องไวหน่อยนะ เพราะของดีราคาโดนอาจจะหมดไว!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง? รีวิวจากผู้ใช้จริง!

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวหรือกระทู้พูดคุยของคนไทยในเว็บบอร์ดต่างๆ เนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับ VR Full Body Tracking ส่วนใหญ่จะไปในทิศทางบวกนะ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาอยู่บ้าง

สิ่งที่คนไทยที่ใช้ FBT แล้วชอบมากๆ เลยก็คือ ความสมจริงที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด! หลายคนบอกว่าพอมี FBT แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเข้าไปอยู่ในโลก VR จริงๆ มากขึ้น การขยับร่างกายแล้วเห็นตัวละครในเกมขยับตามเป๊ะๆ มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการใช้แค่คอนโทรลเลอร์มากๆ โดยเฉพาะพวกสาย VRChat หรือเกมเต้นเนี่ย ฟินสุดๆ ไปเลยจ้า

บางคนก็ชอบที่มันช่วยเรื่อง การออกกำลังกาย ในโลก VR ด้วยนะ เพราะพอขยับตัวได้ทั้งตัว การเล่นเกมบางประเภทก็เหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัวเลย

แต่ข้อที่หลายคนพูดถึงเหมือนกันก็คือเรื่อง การตั้งค่าและความยุ่งยากในการใช้งานช่วงแรกๆ โดยเฉพาะระบบที่ใช้ Base Station เนี่ย ต้องหามุมติดตั้งดีๆ ต้อง Calibrate บ่อยๆ บางทีก็มีปัญหาเรื่องสัญญาณหลุดบ้างอะไรบ้าง ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการปรับจูนให้เข้าที่เข้าทางนิดนึงนะ

เรื่อง แบตเตอรี่ ก็เป็นอีกจุดที่คนพูดถึง บางทีใช้งานต่อเนื่องได้ไม่นานเท่าที่ต้องการ ก็ต้องคอยชาร์จ หรือมีแบตสำรองไว้ด้วย

ส่วนเรื่องความ ทนทาน อันนี้แล้วแต่แบรนด์และรุ่นเลย บางคนใช้มานานก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่บางคนก็อาจจะเจอเคสที่ Tracker มีปัญหาบ้าง ซึ่งก็ต้องอาศัยการดูแลรักษาและใช้งานอย่างระมัดระวังด้วยนะ

โดยรวมแล้ว คนไทยที่ลงทุนกับ Full Body Tracking ส่วนใหญ่จะบอกว่ามัน คุ้มค่ากับการลงทุน ถ้าเราเป็นคนที่ใช้ VR เป็นประจำและต้องการประสบการณ์ที่สมจริงที่สุดนะ!

7. จะหาซื้อได้ที่ไหนบ้างนะ?

สำหรับช่องทางการซื้อ VR Full Body Tracking ในไทย มีหลายช่องทางให้เลือกเลยจ้า ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: แน่นอนว่าต้องเป็น Lazada และ Shopee สองเจ้านี้มีร้านค้าที่ขายอุปกรณ์ VR รวมถึง Full Body Tracking เยอะมากๆ มีทั้งร้านค้าทางการของแบรนด์ (ถ้ามี) และร้านที่นำเข้ามาขายเอง ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการชำระเงินและขนส่งที่ค่อนข้างสะดวกและปลอดภัย และมักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดหรือโค้ดส่งฟรีให้ใช้ด้วย
• ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: บางแบรนด์อาจจะมีตัวแทนจำหน่ายในไทยโดยเฉพาะ ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ ว่ามีรายชื่อตัวแทนในไทยไหม การซื้อจากตัวแทนอย่างเป็นทางการมักจะมั่นใจเรื่องสินค้าว่าเป็นของแท้ และบริการหลังการขาย รวมถึงการรับประกันได้มากกว่า
• กลุ่มซื้อขายอุปกรณ์ VR ใน Facebook: อันนี้เป็นแหล่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาอุปกรณ์มือสอง หรืออยากได้ราคาที่ถูกลงนะ มักจะมีคนนำอุปกรณ์ VR รวมถึง Tracker มือสองมาปล่อยขาย ข้อดีคืออาจจะได้ราคาดีมากๆ แต่ก็ต้องระวังเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ขายด้วยนะ แนะนำให้นัดเจอเพื่อเช็คของและจ่ายเงินกับมือจะปลอดภัยที่สุด
• ร้านค้าปลีกด้านไอที/เกม: ร้านอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy อาจจะมีอุปกรณ์ VR หรืออุปกรณ์เสริมบางอย่างวางขาย แต่สำหรับ Full Body Tracking ที่เป็นอุปกรณ์เฉพาะทางมากๆ อาจจะต้องเช็คกับทางร้านโดยตรงอีกทีว่ามีสินค้ารุ่นที่เราต้องการหรือไม่ ส่วนใหญ่แล้วตัวเลือกบนช่องทางออนไลน์จะเยอะกว่านะ

ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองเช็คราคาและโปรโมชั่นจากหลายๆ แหล่ง เปรียบเทียบเงื่อนไขการรับประกัน และอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะจ๊ะ

8. สรุปแล้วน่าลงทุนไหม? เหมาะกับใครกันแน่?

มาถึงช่วงสรุปแล้ว! ถามว่า VR Full Body Tracking น่าลงทุนไหม? คำตอบคือ น่าลงทุนมากๆ ถ้า...

• คุณเป็นสาย VR ตัวจริงเสียงจริง: คือเล่น VR เป็นประจำ ใช้เวลาอยู่ในโลกเสมือนจริงเยอะ และต้องการประสบการณ์ที่สมจริงขั้นสุด การลงทุนกับ FBT จะยกระดับการเล่นของคุณไปอีกขั้นเลย
• คุณเน้นกิจกรรมที่ต้องการการเคลื่อนไหวทั้งตัว: เช่น เล่นเกมเต้น, เข้า VRChat เพื่อสังสรรค์หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้การขยับร่างกายเยอะๆ, หรือใช้สำหรับ Motion Capture
• คุณมีงบประมาณเพียงพอ: อย่างที่บอกไปว่า FBT ไม่ใช่ของถูก ต้องเตรียมงบไว้พอสมควร

ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นกับ VR หรือไม่ได้ใช้ VR บ่อยมากนัก การลงทุนกับ Full Body Tracking อาจจะยังไม่จำเป็นเท่าไหร่ หรืออาจจะลองใช้โซลูชันราคาประหยัดอย่างการใช้ Webcam หรือมือถือดูก่อนก็ได้นะ

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีระหว่างรุ่นสูง (เช่น VIVE Tracker) กับรุ่นประหยัด (เช่น PICO Motion Tracker หรือ SlimeVR) อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบและความต้องการเลยจ้า ถ้าเน้นความแม่นยำขั้นสุด อยากได้ระบบที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง มีคนใช้เยอะ และงบถึง VIVE Tracker ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าใช้แว่น PICO อยู่แล้ว และอยากได้ FBT ที่ราคาจับต้องได้ PICO Motion Tracker ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ส่วน SlimeVR ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่เน้นความคุ้มค่า และไม่ติดเรื่องการตั้งค่าที่อาจจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติม

สรุปง่ายๆ คือ VR Full Body Tracking เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับคนที่จริงจังกับโลก VR และต้องการประสบการณ์ที่สมจริงแบบสุดๆ แต่ถ้าเพิ่งเริ่มต้น หรือใช้งานไม่บ่อย อาจจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือทดลองใช้โซลูชันที่ประหยัดกว่าดูก่อนนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนได้ Full Body Tracking ที่ถูกใจ และสนุกกับการผจญภัยในโลกเสมือนจริงยิ่งกว่าเดิมค่า! บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• การกระตุ้นเหมือนกระตุ้นไฟฟ้า ที่งาน 0110 Asia Techland
• เข้าใจความรู้สึกลุงเอกับเกม VR
• การออกกำลังกายแบบดัมเบลล์สำหรับไหล่
• ซื้อของเข้าบ้าน ทำอาหารคลีน สำหรับสองคน
• แคร์ตัวเองมากขึ้น ด้วยการออกกำลังกาย