โครงเหล็กป้ายโฆษณา ราคาตารางเมตรละเท่าไหร่? ขนาดและวัสดุมีผลแค่ไหน?

สวัสดีจ้าพี่น้องชาวไทย หัวใจนักธุรกิจ! วันนี้ไม่ได้จะมาชวนช้อปปิ้งออนไลน์แบบฟินๆ แต่จะมาเม้าท์มอยเรื่องที่อาจจะปวดหัวกว่านิดหน่อย นั่นก็คือเรื่อง โครงเหล็กป้ายโฆษณา นี่แหละ! ใครที่กำลังคิดอยากจะมีป้ายใหญ่ๆ เด่นๆ ไว้หน้าร้าน หน้าบริษัท หรือริมถนน บอกเลยว่าเรื่องโครงสร้างนี่สำคัญมากนะจ๊ะ ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว ต้องแข็งแรง ทนทาน ไม่ล้มใส่ใครให้เสียชื่อเสียงและเสียทรัพย์ด้วย! มาดูกันซิว่าไอ้เจ้าโครงเหล็กนี้ มันราคาประมาณไหน ขนาดและวัสดุต่างกันมีผลยังไงบ้าง ไปลุย!

1. โครงเหล็กป้ายโฆษณา มันคืออะไร มีไว้ทำไม?

เอาล่ะ! เข้าเรื่องเลยนะ โครงเหล็กป้ายโฆษณา มันก็คือพระเอกตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังความปังของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ทั้งหลายนั่นแหละ! นึกภาพป้ายบิลบอร์ดริมถนนใหญ่ๆ หรือป้ายที่ติดอยู่บนอาคารสูงๆ นั่นแหละจ้า เบื้องหลังความอลังการงานสร้างคือโครงเหล็กที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลัง คอยรับน้ำหนักของตัวป้าย (ส่วนใหญ่เป็นไวนิล) และต้องยืนหยัดท้าแดด ท้าฝน ท้าลมพายุของเมืองไทยให้ได้ กลุ่มผู้ใช้งานหลักๆ ก็หนีไม่พ้นเจ้าของธุรกิจที่อยากจะโปรโมทสินค้าและบริการให้คนเห็นเยอะๆ หรือจะเป็นหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ข้อมูล บางทีก็ใช้ตามงานอีเว้นท์ชั่วคราว หรือตามสถานที่ก่อสร้างเพื่อบอกรายละเอียดโครงการ พูดง่ายๆ คือใครก็ตามที่อยากมีป้ายใหญ่ๆ แบบไม่ต้องพึ่งผนังหรือกำแพงถาวร ก็ต้องพึ่งพี่โครงเหล็กนี่แหละจ้า

2. ราคาโครงเหล็กป้ายโฆษณา ตารางเมตรละเท่าไหร่? ขนาดและวัสดุมีผลแค่ไหน?

มาถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ที่สุด! ราคา! บอกเลยว่าเรื่องราคาโครงเหล็กป้ายโฆษณานี่มันมีความยืดหยุ่นสูงมากกกกกก ยิ่งกว่าโยคะขั้นแอดวานซ์ซะอีก! จะบอกราคาเป๊ะๆ ตารางเมตรละกี่บาทนี่ฟันธงยาก เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ เลย แต่ถ้าให้ประเมินคร่าวๆ จากข้อมูลที่หามาได้ ราคาโครงเหล็กอย่างเดียว (ไม่รวมงานพิมพ์และติดตั้ง) อาจจะเริ่มต้นตั้งแต่หลัก ร้อยปลายๆ ไปจนถึงหลักพันบาทต่อตารางเมตร เลยทีเดียว

ทีนี้มาดูกันว่า ขนาดและวัสดุ มันมีผลยังไงบ้าง:

• ขนาด: แน่นอนว่าป้ายยิ่งใหญ่ โครงสร้างก็ต้องยิ่งแข็งแรงและใช้วัสดุเยอะขึ้น ราคาก็พุ่งตามไปด้วย! ป้ายเล็กๆ อย่างพวกป้ายกองโจรริมถนน หรือป้ายตั้งพื้นปรับขนาดได้ ราคาต่อชิ้นอาจจะไม่กี่ร้อยถึงพันบาท แต่ถ้าเป็นป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์ 6x12 เมตร หรือ 10x16 เมตร เตรียมงบไว้ได้เลยจ้า งานนี้ไม่ใช่เล่นๆ
• วัสดุ: โครงเหล็กก็มีหลายแบบนะจ๊ะ ส่วนใหญ่ที่ใช้กันคือ เหล็กกล่อง หรือ เหล็กรูปพรรณ ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน ความหนาของเหล็กก็มีผล ถ้าใช้เหล็กหนาขึ้น โครงสร้างก็แข็งแรงขึ้น แต่ราคาก็แพงขึ้นด้วย บางทีอาจจะมีการทำ เหล็กกัลวาไนซ์ เพื่อป้องกันสนิมก็จะมีราคาสูงกว่าเหล็กธรรมดา นอกจากนี้ยังมีเรื่องของฐานราก การเชื่อม การทำสีกันสนิม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นต้นทุนที่บวกเข้าไปในราคาต่อตารางเมตรทั้งสิ้นจ้า

สรุปคือ ยิ่งป้ายใหญ่ ยิ่งสูง ยิ่งต้องการความแข็งแรงมาก วัสดุก็ต้องดีขึ้น หนาขึ้น ราคาก็จะยิ่งขยับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จ้า!

3. แล้วเทียบกับป้ายแบบอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าเทียบกับป้ายแบบอื่นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกันเนี่ย โครงเหล็กถือเป็นโครงสร้างมาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับป้ายขนาดใหญ่ที่ต้องการความแข็งแรงถาวรนะจ๊ะ ถ้าไปเทียบกับป้ายชั่วคราวเล็กๆ อย่าง X-Stand หรือป้ายไวนิลขึงโครงไม้จ๊อย พวกนั้นราคาถูกกว่าเยอะ เพราะโครงสร้างไม่ซับซ้อน วัสดุไม่แข็งแรงเท่า และไม่ได้ออกแบบมาให้อยู่ถาวร แต่ถ้าเทียบกับป้ายประเภทอื่นที่ต้องใช้วัสดุโครงสร้างอย่างอื่น เช่น ป้ายทาวเวอร์ขนาดใหญ่ หรือป้ายดิจิทัล LED 3 มิติ พวกนั้นราคาก็จะพุ่งไปอีกระดับเลยจ้า

ดังนั้น โครงเหล็กป้ายโฆษณาก็เป็นตัวเลือกที่อยู่ตรงกลางระหว่างป้ายชั่วคราวราคาเบาๆ กับป้ายถาวรขนาดใหญ่ที่มีเทคโนโลยีซับซ้อนกว่า ถือเป็นความคุ้มค่าสำหรับป้ายที่ต้องการความแข็งแรง มองเห็นได้จากระยะไกล ในงบประมาณที่จับต้องได้ (แต่ก็ต้องดูขนาดและสเปกด้วยนะจ๊ะ)

4. ซื้อโครงเหล็กป้ายโฆษณา ได้อะไรมาบ้างนะ?

การซื้อโครงเหล็กป้ายโฆษณามันไม่เหมือนซื้อของสำเร็จรูปแกะกล่องนะจ๊ะ ส่วนใหญ่เป็นการสั่งทำหรือเหมาติดตั้งกับผู้รับเหมาโดยตรง สิ่งที่มักจะรวมมาในแพ็คเกจก็ประมาณนี้:

• ตัวโครงเหล็ก: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว
• ค่าแรงช่าง: ค่าแรงในการประกอบและติดตั้งโครงสร้าง
• ค่าออกแบบโครงสร้าง: สำหรับป้ายขนาดใหญ่มักจะต้องมีแบบโครงสร้างที่ผ่านการคำนวณทางวิศวกรรมเพื่อความปลอดภัย
• วัสดุประกอบ: พวกเพลท โบ้ลท์ น็อต และอุปกรณ์ยึดต่างๆ
• งานสีกันสนิม: สำคัญมากสำหรับโครงเหล็กที่อยู่กลางแจ้ง

ส่วนเรื่องที่อาจจะ ไม่รวม หรือต้องตกลงเพิ่มเติมก็มี:

• งานพิมพ์ป้าย: ส่วนใหญ่ราคาโครงเหล็กมักจะไม่รวมงานพิมพ์ไวนิลนะจ๊ะ ต้องสั่งพิมพ์ต่างหาก
• ค่าติดตั้งป้ายไวนิล: บางทีก็รวม บางทีก็แยก ก็ต้องคุยให้ชัด
• ระบบไฟส่องสว่าง: ถ้าอยากมีสปอร์ตไลท์ส่องป้ายตอนกลางคืน อันนี้มักจะเป็นรายการแยกต่างหาก
• ค่าขนส่งและค่าเครื่องจักร: ถ้าหน้างานเข้าถึงยาก หรือป้ายใหญ่มาก อาจมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่ม
• ค่าขออนุญาตก่อสร้าง/ติดตั้งป้าย: อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของป้ายต้องจัดการเอง แต่ผู้รับเหมาอาจให้คำปรึกษาได้
• การรับประกัน: ส่วนใหญ่จะเป็นการรับประกันโครงสร้างระยะเวลาหนึ่ง เช่น 6 เดือน หรือตามที่ตกลงกับผู้รับเหมา ต่างจากสินค้าทั่วไปที่รับประกันเป็นปีๆ นะจ๊ะ

เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าเป็นงานติดตั้งก็มักจะคิดรวมไปในราคาเหมาแล้ว แต่ถ้าสั่งซื้อโครงเหล็กสำเร็จรูปขนาดเล็กๆ อาจมีค่าส่งเหมือนซื้อของออนไลน์ทั่วไปจ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อ (หรือน่าทำ) เป็นพิเศษมั้ย?

สำหรับโครงเหล็กป้ายโฆษณานี่ไม่เหมือนสินค้าทั่วไปที่ลดราคาช่วง 12.12 เป๊ะๆ นะจ๊ะ แต่มันก็มีช่วงเวลาที่อาจจะได้ราคาดีขึ้น หรือได้ข้อเสนอพิเศษบ้างเหมือนกัน:

• ช่วงปลายปี/ต้นปี: บางทีผู้รับเหมาอาจมีโปรโมชั่นเคลียร์งาน หรือกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี หรือต้นปีงบประมาณใหม่ ลองสอบถามดูได้จ้า
• ช่วงที่ราคาเหล็กไม่แพง: ราคาเหล็ก fluctuate ได้ตามตลาดโลก ถ้าจับจังหวะได้ช่วงที่ราคาเหล็กดิบไม่สูงมาก ก็อาจจะได้ราคาโครงสร้างที่ถูกลง (อันนี้ต้องติดตามข่าวสารหน่อยนะ!)
• ช่วงเทศกาลก่อสร้างซบเซา: อย่างช่วงหน้าฝนที่งานก่อสร้างทั่วไปอาจจะน้อยลง ผู้รับเหมาอาจจะมีคิวว่างและเสนอราคาพิเศษให้ (แต่ก็ต้องแลกกับความท้าทายในการทำงานหน้าฝนนะจ๊ะ!)
• การเจรจาต่อรอง: อันนี้แหละทีเด็ดของคนไทย! ลองขอใบเสนอราคาจากหลายๆ เจ้า แล้วเอามาเปรียบเทียบเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการต่อรองราคาดูนะจ๊ะ

ส่วนตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักอย่าง Lazada หรือ Shopee ส่วนใหญ่จะเจอแต่โครงป้ายสำเร็จรูปขนาดเล็กๆ ที่ถอดประกอบได้มากกว่า ไม่ใช่โครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องติดตั้งหน้างานแบบจริงจังนะจ๊ะ

6. คนไทยทำโครงเหล็กป้ายโฆษณาแล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงกันบ้างนะ?

เท่าที่ลองดูๆ ตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มที่คุยกันเรื่องงานป้ายเนี่ย ฟีดแบ็กจากผู้ประกอบการไทยที่เคยทำโครงเหล็กป้ายโฆษณาก็มีหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ก็จะเน้นเรื่องสำคัญๆ คล้ายๆ กัน:

• ความแข็งแรงและปลอดภัย: อันนี้คือหัวใจหลักเลยจ้า ถ้าโครงไม่แข็งแรง มีปัญหาตอนลมพายุเข้า อันตรายถึงชีวิตเลยนะ! หลายคนเลยเน้นหาผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์
• ราคาที่สมเหตุสมผล: แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากได้ของดีราคาถูก การเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เจ้าสำคัญมาก
• ความรวดเร็วในการทำงาน: บางทีรีบใช้ป้ายเปิดร้าน เปิดโครงการ ผู้รับเหมาที่ทำงานเร็ว งานไม่ดองก็เป็นที่ต้องการ
• บริการหลังการขาย (ถ้ามี): เช่น การรับประกันโครงสร้าง หรือมีบริการซ่อมแซมถ้ามีปัญหา
• ความตรงไปตรงมาเรื่องค่าใช้จ่าย: ไม่อยากให้มีค่าใช้จ่ายจุกจิกงอกมาทีหลัง คุยราคาเหมาจบๆ ไปเลยสบายใจกว่า

โดยรวมแล้ว ถ้าเจอผู้รับเหมาดี คุยง่าย ราคาไม่แรงเวอร์ งานเนี้ยบ ปลอดภัย คนไทยส่วนใหญ่ก็แฮปปี้จ้า

7. แล้วจะไปหาผู้รับทำโครงเหล็กป้ายโฆษณาได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

สำหรับโครงเหล็กป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ไม่เหมือนเดินเข้าร้านค้าทั่วไปแล้วซื้อกลับบ้านนะจ๊ะ ช่องทางหลักๆ ที่น่าไปส่องก็คือ:

• บริษัทรับทำป้ายโฆษณาโดยเฉพาะ: บริษัทพวกนี้มักจะมีทีมงานครบวงจร ตั้งแต่ออกแบบ ผลิตโครงสร้าง พิมพ์ป้าย และติดตั้ง สะดวกตรงที่จบที่เดียว คุยง่าย มีประสบการณ์ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าหน่อย
• โรงงาน/ร้านรับทำโครงสร้างเหล็ก: บางร้านอาจจะเน้นงานโครงสร้างเหล็กโดยตรง อาจจะได้ราคาโครงสร้างที่ถูกลง แต่ต้องหาทีมพิมพ์ป้ายและทีมติดตั้งเอง หรือต้องคุยกับทางร้านว่าเขามีพาร์ทเนอร์ครบวงจรให้ไหม
• ผู้รับเหมาอิสระ: ช่าง หรือทีมผู้รับเหมาที่รับงานเป็นโปรเจกต์ๆ ไป อาจจะหาได้จากคนรู้จักแนะนำ หรือตามกลุ่มออนไลน์ต่างๆ ข้อดีคืออาจจะได้ราคาที่ยืดหยุ่นกว่า แต่ก็ต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ให้ดีนะจ๊ะ
• แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับหาผู้รับเหมา: บางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันรวบรวมผู้รับเหมาด้านต่างๆ ไว้ให้เราเลือกและขอใบเสนอราคาได้ ลองค้นหาดูเผื่อเจอตัวเลือกที่น่าสนใจ

ส่วนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย อย่างที่บอกว่าจะเจอแต่โครงสำเร็จรูปเล็กๆ ซะมากกว่าจ้า สำหรับงานโครงสร้างใหญ่ๆ ต้องติดต่อผู้เชี่ยวชาญโดยตรงนะ

8. สรุปแล้วน่าทำโครงเหล็กป้ายโฆษณาไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า! ถามว่าการทำโครงเหล็กป้ายโฆษณาน่าลงทุนไหม? คำตอบคือ น่าลงทุนแน่นอน ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ต้องการป้ายขนาดใหญ่ ที่มองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล
• อยากให้ป้ายดูมีความแข็งแรง ทนทาน อยู่ได้นาน
• มีทำเลที่เหมาะสม ที่จะติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ได้โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่บดบังทัศนียภาพ
• มีงบประมาณ ที่พร้อมลงทุนกับโครงสร้างที่แข็งแรงและปลอดภัย

โครงเหล็กป้ายโฆษณาเหมาะมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้าง Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ร้านค้าขนาดใหญ่ โชว์รูม โครงการอสังหาริมทรัพย์ หรือหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์สำคัญ

ส่วนจะเลือกสเปก ขนาด หรือวัสดุแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณเลยจ้า ถ้าอยากประหยัดหน่อย อาจจะเลือกโครงสร้างที่ไม่ต้องใหญ่มาก หรือใช้เหล็กขนาดมาตรฐานที่เพียงพอต่อการรับน้ำหนักและทนทานต่อสภาพอากาศในพื้นที่ แต่ถ้าเน้นความอลังการ อยู่ได้นานสุดๆ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีลมพายุแรงๆ ก็อาจจะต้องยอมลงทุนกับโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น ใช้เหล็กหนาขึ้น และมีฐานรากที่มั่นคงเป็นพิเศษ อย่าลืมคำนึงถึงเรื่อง ภาษีป้าย ที่ต้องจ่ายรายปีตามขนาดของป้ายด้วยนะจ๊ะ!

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนที่กำลังเล็งๆ อยากมีป้ายโครงเหล็กเป็นของตัวเองได้ไอเดียและข้อมูลไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจนะจ๊ะ ขอให้ได้ป้ายสวย เด่น ปลอดภัย เฮงๆ ปังๆ กันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ข้อควรระวังในการสร้างป้ายโครงเหล็กด้านหน้าอาคาร
• เมทัลชีท VS ไวนิล: เปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติ
• ประมาณราคาหลังคา ทรงจั่ว ทรงเพิง
• LIVE02 การคิดค่าแรงช่าง (โดยละเอียด)
• การคิดราคาป้ายโครงการก่อสร้าง ของ อปท.