HarborLand ราคาบัตรเข้า เด็ก/ผู้ใหญ่ ราคาเท่าไหร่? อัปเดตโปรโมชั่นล่าสุด


สวัสดีค่าทุกคนนนน! วันนี้มาเม้าท์มอยเรื่องแหล่งปล่อยพลังของเจ้าตัวเล็กและผู้ใหญ่หัวใจเด็กกันดีกว่า นั่นก็คือ HarborLand นั่นเองงงง! ใครกำลังวางแผนจะพาลูกหลาน เหลน โหลน หรือน้องๆ ที่บ้านไปตะลุยแดนมหาสนุกในร่มที่ไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝน มาฟังทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาอัปเดตเรื่องราคาบัตรและโปรโมชั่นล่าสุดแบบเข้าใจง่าย สไตล์กันเองสุดๆ ไปเลย!
1. HarborLand คืออะไร? ทำไมใครๆ ก็พาลูกไป?
เอาล่ะ เริ่มต้นสำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก HarborLand เค้าคืออาณาจักรสวนสนุกในร่มขนาดใหญ่ยักษ์ ที่มีเครื่องเล่นอลังการงานสร้างเพียบ! นึกภาพตามนะ มีทั้งสไลเดอร์สูงๆ อุโมงค์ให้มุด บ่อบอลยักษ์ ปีนป่ายสารพัดรูปแบบ คือเด็กๆ เห็นแล้วต้องร้องว้าวววว แถมผู้ใหญ่ก็แอบไปสนุกด้วยได้นะ เค้ามีหลายโซนให้เลือกเล่นด้วยนะ ไม่ใช่แค่โซนปีนป่าย แต่บางที่ก็มีโซนโรลเลอร์เบลด โซนแทรมโพลีน โซนเลเซอร์แท็ก หรือแม้กระทั่งโซนเมืองหิมะก็มี! คือมาที่เดียวครบ จบ ทุกความสนุกจริงๆ
HarborLand เค้าเป็นแบรนด์ของไทยนี่แหละ แต่คุณภาพเครื่องเล่นและมาตรฐานความปลอดภัยนี่ระดับโลกเลยนะ เค้ามีสาขาเยอะแยะมากมายทั่วประเทศเลยจ้า ไม่ว่าอยู่จังหวัดไหนก็มีสิทธิ์เจอ HarborLand อยู่ใกล้ๆ เหมาะมากๆ สำหรับครอบครัวที่อยากหากิจกรรมทำร่วมกันช่วงวันหยุด หรือวันที่อากาศไม่เป็นใจ จะแดดจ้า ฝนตก ก็เข้าไปวิ่งเล่นในร่มได้อย่างสบายใจหายห่วง แถมยังช่วยให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกาย เสริมสร้างพัฒนาการ ได้ใช้พลังงานเต็มที่ กลับบ้านไปหลับปุ๋ยแน่นอนจ้า
2. ราคาบัตรเข้าเท่าไหร่? เด็ก/ผู้ใหญ่ ราคาต่างกันไหม?
มาถึงเรื่องสำคัญที่หลายคนอยากรู้! ราคาบัตรเข้า HarborLand เนี่ย จะมีหลายแบบ หลายราคานะจ๊ะ ขึ้นอยู่กับ สาขา, โซนที่เลือกเล่น, และ ความสูงของเด็ก เป็นหลักเลย
โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะแบ่งคร่าวๆ แบบนี้:
- เด็ก: ราคาบัตรเด็กจะแบ่งตามความสูงนะ ส่วนใหญ่จะมีเรทสำหรับเด็กสูง 65-80 ซม. กับเด็กสูงตั้งแต่ 81 ซม. ขึ้นไป เด็กที่สูงน้อยกว่า 65 ซม. หรืออายุน้อยกว่า 6 เดือน ส่วนใหญ่ เข้าฟรี จ้า
- ผู้ใหญ่: ผู้ใหญ่ หรือผู้ปกครองที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ก็จะมีราคาบัตรเข้าเหมือนกันนะ ซึ่งบางทีราคาผู้ใหญ่ก็เท่ากับราคาเด็กเล็ก หรือถูกกว่าราคาเด็กโตหน่อยนึง
- ผู้สูงอายุ: คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ เข้าฟรี จ้า! ดีงามมากๆ พกบัตรประชาชนไปด้วยนะจ๊ะ
ราคาบัตรมาตรฐาน (อาจมีการเปลี่ยนแปลง) ยกตัวอย่างบางสาขาจากข้อมูลที่เจอ เช่น:
- สาขา ตึกคอม ชลบุรี/ศรีราชา/อุดร: เด็ก 65-80 ซม. ประมาณ 140 บาท, เด็ก 81 ซม. ขึ้นไป ประมาณ 380 บาท, ผู้ปกครอง ประมาณ 140 บาท (สำหรับเวลา 2.5 ชั่วโมง)
- สาขา โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ: เด็ก 65-80 ซม. ประมาณ 160 บาท, เด็ก 81 ซม. ขึ้นไป ประมาณ 440 บาท, ผู้ปกครอง ประมาณ 160 บาท (สำหรับเวลา 2.5 ชั่วโมง)
- สาขา Gateway Ekamai กรุงเทพฯ: ผู้ใหญ่ประมาณ 170 บาท สำหรับ 2.5 ชั่วโมง, เด็กสูงต่ำกว่า 80 ซม. ประมาณ 130 บาท (สำหรับ 2.5 ชั่วโมง)
แต่ราคาที่เห็นตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือ Shopee/Lazada อาจจะเป็นราคาโปรโมชั่น หรือบัตรแบบ E-ticket ที่มีส่วนลดพิเศษนะจ๊ะ แนะนำให้เช็คราคาล่าสุดจากช่องทาง Official ของ HarborLand หรือแพลตฟอร์มขายบัตรออนไลน์ต่างๆ อีกที เพราะราคาและเงื่อนไขอาจแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาและสาขามากๆ เลยจ้า
3. เทียบราคากับที่อื่น คุ้มไหม?
ถ้าให้เทียบกับสวนสนุกในร่มอื่นๆ หรือสนามเด็กเล่นตามห้างบางที่เนี่ย HarborLand เค้าอาจจะมีราคาสูงกว่านิดหน่อยนะ แต่! สิ่งที่ได้กลับมาคือ ขนาดพื้นที่, ความหลากหลายของเครื่องเล่น, และ มาตรฐานความปลอดภัย ที่เค้าจัดเต็มจริงๆ บางที่อาจจะราคาถูกกว่า แต่เครื่องเล่นมีน้อยกว่า หรือพื้นที่เล็กกว่าเยอะเลย
อย่างที่บอกว่า HarborLand มีหลายโซนมากๆ บางทีเราซื้อบัตรเข้าได้แค่โซนเดียว แต่ถ้าอยากเล่นหลายๆ โซน เช่น HarborLand + RollerLand + Laser Battle + SnowLand ก็อาจจะต้องซื้อบัตรแบบ Combo หรือบัตรที่รวมหลายโซน ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวนโซนที่เลือกนะ การเปรียบเทียบราคาเลยต้องดูที่ เราอยากเล่นโซนไหนบ้าง และ สาขานั้นมีโซนที่เราต้องการหรือเปล่า ด้วยจ้า
ลองดูราคาบัตร Kidzoona เป็นตัวอย่างก็ได้ ราคาอาจจะเริ่มต้นถูกกว่า HarborLand อยู่บ้าง แต่ขนาดและประเภทเครื่องเล่นก็อาจจะแตกต่างกันไป ดังนั้น ถ้าเน้นความอลังการ เครื่องเล่นเยอะๆ หลากหลาย ปล่อยพลังได้เต็มที่ HarborLand ถือว่า คุ้มค่า กับราคาที่จ่ายไปมากๆ เลยจ้า!
4. ซื้อบัตรแล้วได้อะไรบ้าง? มีอะไรแถมไหม?
อันนี้สำคัญ! เวลาซื้อบัตร HarborLand สิ่งที่เราจะได้แน่ๆ คือ สิทธิ์ในการเข้าเล่นตามโซนและระยะเวลาที่ระบุในบัตร จ้า ระยะเวลาเล่นส่วนใหญ่จะเป็นแบบจำกัดเวลา เช่น 2.5 ชั่วโมง หรือ 3 ชั่วโมง แต่บางโปรโมชั่นหรือบางสาขาอาจจะมีแบบเล่นได้ทั้งวันก็มีนะ!
สิ่งที่ ไม่รวม ในค่าบัตรส่วนใหญ่คือ ถุงเท้ากันลื่น จ้า! อันนี้บังคับใส่เพื่อความปลอดภัยนะ สามารถเตรียมไปเองได้ หรือจะไปซื้อที่เคาน์เตอร์ของ HarborLand ก็ได้ (ราคาประมาณ 60 บาท) แนะนำให้ซื้อติดบ้านไว้เลย เพราะใช้ได้หลายครั้ง คุ้มกว่านะ
ส่วนเรื่อง ของแถม หรือ อุปกรณ์เสริม อื่นๆ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ เลย บางทีอาจจะมีคูปองส่วนลดค่าอาหาร หรือโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าอื่นๆ แต่หลักๆ คือได้แค่สิทธิ์เข้าเล่นนะจ๊ะ
เรื่อง การรับประกัน อันนี้ไม่เหมือนซื้อสินค้าเนอะ ซื้อบัตรสวนสนุกก็คือได้สิทธิ์เข้าเล่นในวันที่กำหนดไปเลย ไม่มีประกันตัวเครื่องเล่นจ้า แต่ทาง HarborLand เค้าก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วบริเวณนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้มากจ้า
สำหรับ ค่าขนส่ง อันนี้พูดถึงกรณีซื้อบัตรแบบ E-ticket ออนไลน์นะจ๊ะ ส่วนใหญ่จะ ไม่มีค่าจัดส่ง เพราะเค้าส่งเป็นรหัสหรือ QR Code มาให้ทางแชทหรืออีเมลแทน สะดวกสุดๆ!
5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าสอยบ้าง?
ถ้าอยากได้บัตร HarborLand ในราคาดีๆ ต้องบอกเลยว่ามีโอกาสมาเรื่อยๆ จ้า! เค้าชอบจัดโปรโมชั่นตาม ช่วงเทศกาล หรือ วันหยุดยาว โดยเฉพาะช่วง วันเด็กแห่งชาติ นี่จัดหนักจัดเต็ม ลดราคาบัตรเด็กไปเลย 50% ก็มีนะ! หรือจะเป็นช่วง ปิดเทอมใหญ่ นี่ก็เป็นอีกช่วงที่มักจะมีโปรโมชั่นออกมาเอาใจเด็กๆ และผู้ปกครอง
นอกจากนี้ ลองจับตาดูโปรโมชั่นในช่วง วันหยุดนักขัตฤกษ์ ต่างๆ ของไทย เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ หรือวันหยุดยาวอื่นๆ ก็มักจะมีอะไรพิเศษๆ ออกมาให้เห็นเสมอ
ช่องทางที่มักจะมีโปรโมชั่นดีๆ คือ:
- เว็บไซต์หรือ Line Official ของ HarborLand: เป็นแหล่งรวมโปรโมชั่น Official โดยตรง
- แพลตฟอร์ม E-commerce ยอดนิยม (Shopee / Lazada): บนแพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีร้านค้าที่เป็น Official Partner หรือร้านค้าตัวแทนนำบัตรมาขาย ซึ่งมักจะมีราคาพิเศษ หรือใช้ร่วมกับโค้ดส่วนลดของแพลตฟอร์มได้อีกด้วย บางทีเจอราคาดีกว่าซื้อหน้างานเยอะเลยนะ!
- หน้าเคาน์เตอร์ HarborLand: บางโปรโมชั่นก็มีเฉพาะที่หน้าเคาน์เตอร์เท่านั้น เช่น โปรโมชั่น "Pay Half After 6" ที่ลด 50% สำหรับบัตรเด็กหลัง 6 โมงเย็นในบางสาขา
- โปรโมชั่นร่วมกับพาร์ทเนอร์: บางที HarborLand ก็มีโปรโมชั่นร่วมกับห้างสรรพสินค้า (เช่น แลกคะแนนสะสม), โรงแรม, หรือร้านค้าอื่นๆ ก็ต้องคอยติดตามข่าวสารดีๆ จ้า
สรุปคือ ถ้าไม่รีบมาก รอซื้อช่วงมีโปรโมชั่น เนี่ย ได้ราคาที่คุ้มค่ากว่าแน่นอนจ้า โดยเฉพาะช่วงวันเด็ก ปิดเทอม หรือส่องตาม Shopee/Lazada ไว้ดีๆ อาจจะเจอดีลลับๆ ที่คาดไม่ถึงก็ได้นะ!
6. คนไทยไปเล่นแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
จากเสียงตอบรับของพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กๆ ที่ไปเล่น HarborLand ในไทย ส่วนใหญ่จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า:
- เด็กๆ ชอบมากกกก: อันนี้แน่นอน! เครื่องเล่นเยอะ หลากหลาย ปล่อยพลังได้เต็มที่ เด็กๆ สนุกสุดเหวี่ยงแน่นอน
- ผู้ใหญ่ก็สนุกได้: ไม่ใช่แค่เด็กนะ ผู้ใหญ่หลายคนก็ชอบไปเล่นโซนอื่นๆ ด้วย หรือบางทีก็แอบไปสไลเดอร์กับลูกๆ ก็สนุกดีเหมือนกันจ้า
- เครื่องเล่นเยอะ อลังการ: เห็นรีวิวหลายคนบอกว่าเครื่องเล่นเยอะมากจริงๆ เล่นได้ไม่มีเบื่อ
- พื้นที่กว้างขวาง: ไม่ได้อึดอัดเหมือนสนามเด็กเล่นเล็กๆ ตามห้างบางที่
- ช่วยแก้ปัญหาแดดร้อน ฝนตก: เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ ไม่ต้องกังวลว่าเด็กๆ จะไม่ได้ออกไปเล่น
- ปลอดภัยในระดับหนึ่ง: แม้บางคนอาจจะติเรื่องความสะอาดบ้างในบางจุด แต่โดยรวมแล้วเครื่องเล่นดูแข็งแรง ปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่บ้าง
ส่วนข้อติที่อาจจะเจอบ้างก็คือเรื่องราคาที่บางทีอาจจะรู้สึกว่าสูงไปหน่อยถ้าไม่มีโปรโมชั่น และเรื่องความสะอาดในบางวันที่คนเยอะมากๆ ก็อาจจะดูแลไม่ทั่วถึงเท่าที่ควรนะ
แต่โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กส่วนใหญ่คือ ประทับใจ กับความสนุกสนานและขนาดของสวนสนุกจ้า
7. จะไปซื้อบัตร HarborLand ได้ที่ไหนบ้าง?
ช่องทางการซื้อบัตร HarborLand ก็มีหลากหลายให้เลือกตามสะดวกเลยจ้า
- หน้าเคาน์เตอร์ HarborLand ทุกสาขา: ง่ายที่สุด เดินเข้าไปซื้อได้เลย แต่บางทีราคาอาจจะไม่ใช่ราคาโปรโมชั่นที่ดีที่สุดนะจ๊ะ
- เว็บไซต์หรือ Line Official ของ HarborLand Group: ซื้อตรงกับ Official สะดวก ปลอดภัย เช็คโปรโมชั่นล่าสุดได้ง่าย
- แพลตฟอร์ม E-commerce (Shopee / Lazada): เป็นแหล่งยอดฮิตในการหาซื้อบัตรราคาพิเศษ หรือ E-ticket ที่ส่งรหัสทางแชท สะดวกมากๆ ไม่ต้องเดินทางไปซื้อเอง มีร้านค้าให้เลือกเยอะ ลองเปรียบเทียบราคาและอ่านรีวิวร้านก่อนซื้อนะจ๊ะ
- Online Travel Agencies (OTA): บางแพลตฟอร์มอย่าง Klook หรือ Trip.com ก็มีขายบัตร HarborLand ด้วยนะ บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว หรือโปรโมชั่นร่วมกับบริการอื่นๆ
- แอปพลิเคชั่นของห้างสรรพสินค้าที่เป็นที่ตั้งสาขา: บางทีห้างฯ ที่ HarborLand ไปตั้งอยู่ก็อาจจะมีโปรโมชั่นร่วมกัน เช่น แลกคะแนนสะสมเพื่อเป็นส่วนลด
เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลย แต่ถ้าอยากได้ราคาดีที่สุด แนะนำให้ส่องตามช่องทางออนไลน์และช่วงโปรโมชั่นไว้ก่อนนะจ๊ะ
8. สรุปแล้ว HarborLand น่าไปไหม? ใครควรซื้อบัตรแบบไหนดี?
มาถึงบทสรุป! ถามว่า HarborLand น่าไปไหม? บอกเลยว่า น่าไปมากๆ จ้า! โดยเฉพาะถ้ามีเด็กๆ ในบ้านที่พลังเหลือเฟือ อยากหาที่ปล่อยพลังแบบจัดเต็ม ไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝน HarborLand คือคำตอบที่ใช่เลย
ส่วนใครควรซื้อบัตรแบบไหนดี?
- ถ้าเน้นเล่นแค่โซนเครื่องเล่นหลักๆ (HarborLand Playground) และมีงบจำกัด บัตรเข้าเฉพาะโซน HarborLand ก็เพียงพอแล้วจ้า
- ถ้าอยากลองเล่นโซนอื่นๆ ด้วย เช่น โซนปีนผา โซนโรลเลอร์เบลด โซนแทรมโพลีน ลองดู บัตรแบบ Combo ที่รวมหลายโซนในราคาพิเศษ จะคุ้มกว่าซื้อแยกนะจ๊ะ
- ถ้าไปหลายคน (เด็ก 1 ผู้ใหญ่ 1 หรือ เด็ก 2 คน) ลองมองหา บัตรแบบแพ็คคู่ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ อาจจะได้ราคาที่ถูกลงต่อคนนะ
- ถ้าเป็นช่วง วันหยุดยาว หรือ เทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะวันเด็กแห่งชาติ อย่าพลาด! รีบไปเช็คโปรโมชั่นลดราคาบัตรเด็กด่วนๆ เลยจ้า คุ้มสุดๆ!
- ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เตรียมตัวเข้าฟรีได้เลยจ้า อย่าลืมพกบัตรประชาชนนะ!
- เด็กเล็กมากๆ (ต่ำกว่า 65 ซม. หรือ 6 เดือน) ก็เข้าฟรีเหมือนกันจ้า
สรุปคือ HarborLand เป็นสวนสนุกในร่มที่ตอบโจทย์ครอบครัวที่มองหากิจกรรมสนุกๆ ในวันที่อากาศไม่เป็นใจ เครื่องเล่นเยอะ ได้ใช้พลังงานเต็มที่ ราคาบัตรมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับโซน สาขา และช่วงเวลา แต่ถ้าซื้อช่วงโปรโมชั่น หรือหาดีลดีๆ บนช่องทางออนไลน์ ก็จะได้ราคาที่คุ้มค่ามากๆ เลยจ้า!
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนพาครอบครัวไปตะลุย HarborLand กันนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเล่นให้เต็มที่ไปเลย! บ๊ายบายยยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
Passport Scotch ราคาล่าสุดในไทย ซื้อที่ไหนได้ราคาดีที่สุด?
นาฬิกา Rolex ราคาเริ่มต้นกี่บาท? อัปเดตรุ่นยอดนิยมและราคาล่าสุด
ราคา หลวงพ่อแดง รุ่นแจกแม่ครัว วัดเขาบันไดอิฐ: เหรียญยอดนิยม เช็คก่อนเช่าบูชา
หน้ากากผ้าแฟชั่น ราคาดี ดีไซน์สวย ป้องกันฝุ่นได้จริงไหม หาซื้อได้ที่นี่!
ราคา พระพุทธรูป หน้าตัก 30 นิ้ว: ปางสมาธิ ปางมารวิชัย วัสดุต่างๆ ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่?
การ์ดจอ GTX 1050 Ti ราคาล่าสุดในไทย ซื้อตอนนี้ยังคุ้มไหม?