ไป Tomorrowland ใช้เงินเท่าไหร่? อัปเดตราคาบัตร ค่าเดินทาง ที่พัก ครบ!

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้จะชวนมาเม้าท์มอยเรื่องความฝันของใครหลายๆ คน นั่นก็คือการได้เหยียบย่างเข้าสู่ดินแดนเวทมนตร์แห่งดนตรี EDM ระดับโลกอย่าง Tomorrowland นั่นเองงง! บอกเลยว่างานนี้ไม่ใช่แค่ไปฟังเพลงนะ แต่เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึงเลยล่ะ ทั้งโปรดักชัน แสง สี เสียง อลังการดาวล้านดวง! แต่ความฝันนี้มันก็ต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่าง... ใช่แล้วจ้า "เงินในกระเป๋า" นั่นเอง! วันนี้เราจะมาตีแผ่ค่าใช้จ่ายแบบหมดเปลือก ว่าถ้าอยากไป Tomorrowland สักครั้งในชีวิต ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่บ้าง จะได้วางแผนเก็บเงินถูกไงล่ะ พร้อมยัง? ไปลุยกันเล้ยยย!

1. Tomorrowland คืออะไร ทำไมต้องไปให้ได้?

ก่อนอื่นเลย ขอเกริ่นสำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Tomorrowland มันคือเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ (EDM) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จัดขึ้นที่เมืองบูม ประเทศเบลเยียมโน่นเลยจ้า เค้าจัดกันมานานมากแล้ว และโด่งดังเรื่องการเนรมิตพื้นที่จัดงานให้เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย มีเวทีอลังการงานสร้างหลายสิบเวที ดีเจระดับโลกมาเพียบ! ไม่ใช่แค่ฟังเพลงนะ บรรยากาศในงานคือทุกคนมาจากทั่วโลก มาด้วยใจรักในเสียงเพลงเหมือนกัน มันเลยเป็นเหมือนการรวมตัวของผู้คนจากหลากวัฒนธรรมที่มาปาร์ตี้ด้วยกันอย่างสันติและมีความสุขสุดๆ แค่คิดก็ฟินแล้วป้ะ!

2. ราคาบัตรเข้างาน Tomorrowland แสนแพงจริงไหม?

มาถึงเรื่องร้อนใจของทุกคน นั่นก็คือเรื่อง ราคาบัตร นั่นเอง! ต้องบอกว่าบัตร Tomorrowland เนี่ย มีหลายแบบ หลายราคามากกก แล้วแต่ว่าเราอยากได้สิทธิ์เข้างานแบบไหน พักที่ไหน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปพอสมควรเลยล่ะ

ราคาบัตรหลักๆ จะแบ่งเป็น:

• บัตรเข้างานอย่างเดียว (Festival Pass): อันนี้คือบัตรที่ให้เราเข้าไปแดนซ์ในงาน Tomorrowland ได้อย่างเดียว ไม่รวมที่พักนะ มีทั้งแบบ 1 วัน (Day Pass) และแบบ 3 วันเต็มๆ (Full Madness Pass) ราคา Full Madness Pass ในช่วง Pre-sale หรือ Worldwide Sale (ซึ่งกดซื้อยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร!) จะอยู่ประมาณ 300 - 400 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยคร่าวๆ ก็ ประมาณ 12,000 - 16,000 บาท (อันนี้คือราคาบัตรอย่างเดียวยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ นะ),,, ส่วน Day Pass ก็จะถูกลงมาหน่อย ประมาณ 100 กว่ายูโร หรือ ประมาณ 4,000 - 6,000 บาท,,
• บัตรพร้อมที่พักใน DreamVille (Global Journey / Magnificent Greens / Easy Tent etc.): อันนี้คือแพ็กเกจที่รวมบัตรเข้างาน 3 วัน และที่พักใน DreamVille ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งแคมป์ของ Tomorrowland ที่อยู่ติดกับบริเวณงานเลย มีที่พักให้เลือกหลายแบบมาก ตั้งแต่เอาเต็นท์ไปกางเอง (Magnificent Greens) ไปจนถึงเต็นท์แบบหรูๆ มีเตียงมีไฟให้พร้อม (Easy Tent, Relax Room, Montagoe) ราคาแพ็กเกจพวกนี้จะพุ่งขึ้นไปอีกเยอะเลยนะ อย่าง Magnificent Greens (เอาเต็นท์ไปเอง) พร้อมบัตร Full Madness ราคาเริ่มต้นก็ประมาณ 400 - 500 ยูโร หรือ ประมาณ 16,000 - 20,000 บาทต่อคน,,, ถ้าเป็น Easy Tent หรือ Relax Room ที่นอนสบายขึ้น ราคาก็จะดีดไปถึง 1,000 - 2,000 ยูโรต่อคน หรือ ประมาณ 40,000 - 80,000 บาทเลยทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นแพ็กเกจหรูๆ ใน Montagoe หรือพวก Mansion นี่ราคาหลักแสนก็มีนะ!
• Global Journey Packages: อันนี้คือแพ็กเกจที่รวมครบวงจร ทั้งบัตรเข้างาน ที่พัก และ ค่าเดินทาง จากเมืองต่างๆ ทั่วโลกมายังเบลเยียมเลยจ้า สะดวกสบายมากๆ แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่! ถ้าเลือกแบบ Flight Package ที่รวมตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ด้วยเนี่ย จากข้อมูลรีวิวเก่าๆ บางคนบอกว่าเจอราคาไป 5,000 USD เลยก็มีนะ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยก็ แสนกว่าบาท!!! แต่ราคาก็ขึ้นอยู่กับประเภทที่พักที่เลือกด้วยนะ ถ้าเลือกพักใน DreamVille แบบธรรมดาๆ ก็จะถูกลงกว่าพักโรงแรมในเมืองหน่อยนึง

สรุปคือ ราคาบัตรอย่างเดียวก็ไม่ใช่ถูกๆ แล้วนะ ยิ่งรวมที่พักและการเดินทางเข้าไปด้วย งบประมาณหลักหลายหมื่นบาทนี่คือขั้นต่ำเลยจ้า ถ้าอยากได้แบบสบายๆ งบหลักแสนเตรียมไว้เลยไม่ผิดหวัง!

3. แพ็กเกจไหนคุ้มสุด เทียบกับแบบอื่นเป็นไง?

ถ้าให้เทียบราคากับประสบการณ์ที่ได้ แต่ละแพ็กเกจก็มีความน่าสนใจต่างกันนะ:

• บัตรเข้างานอย่างเดียว: เหมาะกับคนที่มีที่พักหรือวางแผนหาที่พักเองอยู่แล้ว หรืออาจจะอยากไปแค่ 1 วัน ราคาเป็นมิตรกับงบที่สุด แต่ก็ต้องจัดการเรื่องการเดินทางจากที่พักไปงานเอง ซึ่งอาจจะต้องเผื่อค่ารถไฟหรือค่าเดินทางอื่นๆ ด้วย
• บัตรพร้อมที่พักใน DreamVille: อันนี้คือประสบการณ์ Tomorrowland ที่แท้ทรู! ได้ซึมซับบรรยากาศงานตลอด 3-4 วันเต็มๆ ตื่นมาก็เจอเพื่อนๆ จากทั่วโลก อยู่ใน Community ของงานเลย ข้อดีคือประหยัดเวลาเดินทางไป-กลับจากที่พัก แต่ข้อเสียคืออาจจะไม่สะดวกสบายเท่าพักโรงแรม (โดยเฉพาะ Magnificent Greens ที่ต้องกางเต็นท์เอง), ราคาหลากหลายมาก เลือกได้ตามงบและความสบายที่ต้องการเลย
• Global Journey: อันนี้คือที่สุดของความสบาย! เค้าจัดการให้หมดทุกอย่าง ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก การเดินทางไปงาน เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการวางแผนเดินทางเอง หรือคนที่กดบัตรทั่วไปไม่ทัน (เพราะโควตาร์ Global Journey จะแยกต่างหากและมีโอกาสได้ง่ายกว่า) แต่ราคาก็จะแพงที่สุดตามความสะดวกสบายที่ได้รับนั่นแหละ,

ถ้าเทียบกับงานเทศกาลดนตรีอื่นๆ ในยุโรป Tomorrowland ถือเป็นงานระดับท็อปๆ ที่มีชื่อเสียงมากๆ เรื่องโปรดักชันและประสบการณ์ที่ได้รับ ดังนั้นราคาที่จ่ายไปก็ถือว่าแลกกับความอลังการที่ไม่เหมือนใครนั่นแหละจ้า

4. ซื้อบัตรแล้วได้อะไรมาบ้าง?

สิ่งที่ได้มาก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทบัตรและแพ็กเกจที่เราเลือกซื้อนะ:

• บัตรเข้างาน (Festival Pass): ได้สายรัดข้อมือ (Bracelet) ที่เป็นเหมือนตั๋วเข้างานนั่นแหละ และจะได้กล่องสวยๆ ที่เรียกว่า Treasure Case ส่งมาให้ที่บ้านก่อนวันงานด้วย (มีค่าธรรมเนียมจัดส่งต่างหากนะ)
• บัตรพร้อมที่พักใน DreamVille: นอกจากสายรัดข้อมือและ Treasure Case แล้ว ก็จะได้สิทธิ์เข้าพักในพื้นที่ DreamVille ตามประเภทแพ็กเกจที่เลือก ถ้าเป็น Magnificent Greens ก็ได้พื้นที่กางเต็นท์เปล่าๆ ส่วนพวก Easy Tent หรือ Relax Room ก็จะได้เต็นท์หรือห้องพักพร้อมอุปกรณ์นอนต่างๆ ให้เลย ทุกแพ็กเกจ DreamVille จะได้สิทธิ์เข้างาน The Gathering ซึ่งเป็นปาร์ตี้พรี-ปาร์ตี้ในคืนวันพฤหัสบดีก่อนที่งานหลักจะเริ่มด้วยนะ,
• Global Journey: อันนี้ได้ครบเซ็ต! ทั้งตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (ถ้าเลือก Flight Package), ที่พัก (เลือกได้ทั้ง DreamVille หรือโรงแรมในเมือง), การเดินทางจากสนามบิน/ที่พักไปงาน,, สายรัดข้อมือ, Treasure Case และบางแพ็กเกจอาจจะมีของแถมพิเศษอื่นๆ ด้วยนะ

ส่วนเรื่อง การรับประกัน หรือการคืนเงินเนี่ย บัตร Tomorrowland ปกติแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อหรือคืนเงินได้นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นตัดสินใจให้ดีก่อนซื้อ แต่บางกรณีเช่น ซื้อผ่าน Global Journey หรือมีประกันเพิ่มเติม อาจจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ต้องเช็ครายละเอียดของแพ็กเกจนั้นๆ ให้ละเอียดเลยจ้า

5. ช่วงไหนน่าซื้อบัตร มีโปรโมชั่นบ้างไหม?

การซื้อบัตร Tomorrowland เนี่ย บอกเลยว่าเป็นการต่อสู้! เพราะคนอยากไปเยอะมากกกกก และบัตรมีจำนวนจำกัดสุดๆ เค้าจะมีช่วงเวลาเปิดขายบัตรที่ต้องจับตาดูให้ดีเลย:

• Pre-registration: ขั้นตอนแรกที่สำคัญสุดคือการลงทะเบียนล่วงหน้าบนเว็บไซต์ Tomorrowland ช่วงปลายปีก่อนที่บัตรจะเริ่มขาย ใครไม่ลงทะเบียนจะซื้อบัตรช่วง Pre-sale และ Worldwide Sale ไม่ได้นะจ๊ะ!,
• Worldwide Pre-sale: หรือที่เรียกกันว่า Early Bird นั่นแหละ ราคาจะถูกกว่า Worldwide Sale นิดหน่อย แต่บัตรจะหมดไวมากกกก!
• Worldwide Sale: เป็นการขายบัตรล็อตใหญ่สุด แต่ก็ยังหมดไวอยู่ดี! ต้องใช้ความเร็วเน็ตและความไวของนิ้วกดอย่างสูง!
• Global Journey Sale: การขายแพ็กเกจ Global Journey มักจะเปิดขายก่อนบัตรทั่วไป และมีโอกาสได้บัตรสูงกว่า แต่ราคาก็แพงกว่าด้วย, เหมาะสำหรับคนที่อยากการันตีว่าจะได้ไปชัวร์ๆ

ส่วนเรื่องโปรโมชั่นลดราคาแบบกระหน่ำเหมือนช่วง 11.11 หรือ 12.12 ในไทยเนี่ย บอกเลยว่าไม่มีจ้า! ราคาบัตร Tomorrowland ค่อนข้างคงที่และมีแต่จะแพงขึ้นในตลาดรีเซลด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้ราคาดีที่สุดคือต้องพยายามกดให้ทันในช่วง Pre-sale หรือ Worldwide Sale ของทาง Official เท่านั้นนะจ๊ะ, ส่วนโปรโมชั่นอื่นๆ อาจจะมีบ้างจาก Travel Partner อย่างพวกแพ็กเกจ Global Journey ที่อาจจะมีออฟชั่นพิเศษหรือของแถมบ้างเล็กๆ น้อยๆ จ้า

6. คนไทยที่เคยไป Tomorrowland เค้าว่าไงกันบ้าง?

จากรีวิวและฟีดแบ็กของคนไทยที่เคยไป Tomorrowland เนี่ย ส่วนใหญ่จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "โคตรคุ้มค่า" กับเงินที่จ่ายไปเลยนะ!

• ประสบการณ์สุดยอด: ทุกคนพูดถึงความอลังการของงาน โปรดักชันที่จัดเต็ม เวทีสวยงามตระการตา บรรยากาศในงานที่เต็มไปด้วยความสุขและมิตรภาพจากผู้คนทั่วโลก มันเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้จริงๆ
• ดีเจระดับโลกมาเพียบ: ได้ดูดีเจในดวงใจแบบติดขอบเวที ได้ฟังเพลง EDM ที่ชอบในระบบเสียงที่ดีที่สุด
• คุ้มค่ากับความเหนื่อยและเงินที่เสียไป: แม้จะต้องจ่ายเยอะ ต้องเดินทางไกล ต้องเหนื่อยกับการตะลุยกดบัตร แต่พอได้ไปสัมผัสบรรยากาศในงานจริงๆ แล้ว ทุกคนบอกว่ามันลืมความเหนื่อยและความแพงไปหมดเลย!
• การไป DreamVille ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี: การพักใน DreamVille ทำให้ได้สัมผัส Community ของ Tomorrowland อย่างแท้จริง ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

โดยรวมแล้ว คนไทยที่ไป Tomorrowland กลับมามักจะประทับใจมากๆ และยกให้เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตเลยล่ะ

7. จะซื้อบัตร Tomorrowland ได้จากช่องทางไหนบ้าง?

ช่องทางการซื้อบัตร Tomorrowland ที่แนะนำและปลอดภัยที่สุดคือ:

• เว็บไซต์ทางการของ Tomorrowland: www.tomorrowland.com นี่คือช่องทางหลักและเป็น Official ที่สุด บัตรช่วง Pre-sale และ Worldwide Sale จะขายที่นี่เท่านั้น ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าและเตรียมตัวให้พร้อมวันขายให้ดีมากๆ เพราะหมดไวอย่างที่บอก!,
• Official Global Journey Travel Partners: Tomorrowland มีพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัททัวร์ต่างๆ ทั่วโลกที่ได้รับอนุญาตให้ขายแพ็กเกจ Global Journey ได้, การซื้อผ่านพาร์ทเนอร์เหล่านี้ก็เป็นการการันตีว่าจะได้บัตรเหมือนกัน แต่ราคาก็จะรวมค่าบริการของทัวร์เข้าไปด้วยนะ ลองหาข้อมูลพาร์ทเนอร์ในประเทศไทยดูว่ามีเจ้าไหนบ้าง

ข้อควรระวัง!!! หลีกเลี่ยงการซื้อบัตรจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการ หรือผู้ขายที่ไม่น่าเชื่อถือเด็ดขาด! เพราะมีการหลอกขายบัตรปลอม หรือขายบัตรในราคาที่สูงเกินจริงเยอะมากๆ ถ้าซื้อจากช่องทางเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงที่จะโดนโกงและไม่ได้เข้างานนะจ๊ะ!

8. สรุปแล้ว Tomorrowland น่าไปไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้ว! ถามว่า Tomorrowland น่าไปไหม? ถ้าคุณรักดนตรี EDM ชอบบรรยากาศเฟสติวัล ชอบพบปะผู้คนใหม่ๆ จากทั่วโลก และมีงบประมาณพร้อมที่จะจ่ายหนักเพื่อประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต บอกเลยว่า โคตรน่าไป!!! มันคือดินแดนแห่งความสุข ดินแดนแห่งเวทมนตร์ที่สาย EDM ทุกคนควรไปสัมผัสสักครั้ง

เหมาะกับใคร?

• สาย EDM ตัวจริง: ถ้าคลั่งไคล้ดนตรีแนวนี้ ชอบดีเจระดับโลก นี่คือสวรรค์ของคุณ!
• คนที่ต้องการประสบการณ์ระดับโลก: ถ้าอยากไปสัมผัสงานเฟสติวัลที่มีโปรดักชันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บรรยากาศผู้คนนานาชาติ Tomorrowland ตอบโจทย์แน่นอน
• คนที่มีกำลังทรัพย์: ต้องยอมรับว่าการไป Tomorrowland มีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าบัตร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ ในงาน ดังนั้นต้องเตรียมงบไว้พอสมควรเลยนะ
• คนที่ชอบวางแผนล่วงหน้าและรับความเสี่ยงได้นิดหน่อย: การกดบัตรให้ทันต้องอาศัยการวางแผนและโชคช่วยนิดหน่อย หรือถ้าเลือก Global Journey ก็ต้องจองล่วงหน้านานๆ

แล้วควรเลือกแพ็กเกจแบบไหน?

• ถ้า งบน้อยที่สุด และพร้อมลุยเอง หาที่พักเอง แนะนำให้ลองกดบัตรแบบ Festival Pass ให้ทัน แล้วค่อยหาที่พักและเดินทางไปงานเอง (อาจจะพักในเมืองใกล้เคียงแล้วนั่งรถไฟไปงาน),
• ถ้าอยากได้ ประสบการณ์เต็มรูปแบบของ Tomorrowland ได้ซึมซับบรรยากาศใน DreamVille แนะนำแพ็กเกจที่พักใน DreamVille โดยเลือกประเภทที่พักตามงบที่สบายใจ,
• ถ้าต้องการ ความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการเดินทางและที่พัก การันตีว่าจะได้ไปชัวร์ๆ และมีงบประมาณสูง แนะนำ Global Journey Package เลยจ้า

ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน ขอให้เตรียมตัวให้พร้อม ทั้งเรื่องงบประมาณ การกดบัตร และการเดินทาง แล้วไปสนุกให้เต็มที่ในดินแดนแห่งเวทมนตร์อย่าง Tomorrowland นะจ๊ะ! รับรองว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Tomorrowland winter 2024 สรุปค่าใช้จ่าย
• รีวิวแบบเต็มรูปแบบที่สุดจาก Tomorrowland ที่บอกถึงทิปส์ในการ ...
• เครื่องเล่นไม่ควรพลาดที่ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง
• คู่มือการเที่ยว Disney Land ฮ่องกง ที่คุณไม่ควรพลาด
• รวมทริปต่างประเทศในเอเชียและค่าใช้จ่าย