ตู้น้ำเย็น ราคาเท่าไหร่? เลือกซื้อแบบไหนดี ปี 2025


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ และจำเป็นสุดๆ ในอากาศเมืองไทยที่ร้อนเหมือนซ้อมตกนรกอย่าง "ตู้ทำน้ำเย็น" กันค่า! ใครที่กำลังคิดว่าจะซื้อตู้กดน้ำเย็นมาไว้ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ในหอพัก มามุงตรงนี้เลยนะ เพราะเราจะพาไปเจาะลึกว่าราคาประมาณเท่าไหร่ มีแบบไหนให้เลือกบ้าง แล้วที่สำคัญ ช้อปยังไงให้ได้ของดีราคาโดนใจในปี 2025 นี้ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปคลายร้อนกันเลยจ้า!
1. ตู้ทำน้ำเย็นคืออะไร แล้วใครควรมีไว้ในครอบครอง?
เอาล่ะ เริ่มต้นที่พื้นฐานสุดๆ ตู้ทำน้ำเย็น หรือบางทีเราก็เรียกติดปากว่า ตู้กดน้ำ เนี่ย หน้าที่หลักๆ ของมันก็คือเปลี่ยนน้ำอุณหภูมิปกติให้กลายเป็นน้ำเย็นชื่นใจ พร้อมกดดื่มได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปกรอกน้ำแช่ตู้เย็นให้วุ่นวายอีกต่อไป บางรุ่นท็อปๆ หน่อยก็มีฟังก์ชันทำน้ำร้อนได้ด้วยนะ สะดวกสุดๆ สำหรับคนรักกาแฟ ชา หรือชงเครื่องดื่มอื่นๆ
แล้วใครบ้างที่ควรมีเจ้าสิ่งนี้? บอกเลยว่าเหมาะกับทุกคนในครอบครัว! โดยเฉพาะบ้านที่มีสมาชิกหลายคน กดน้ำเย็นกันทั้งวัน หรือออฟฟิศ สำนักงาน ที่มีพนักงานเยอะๆ การมีตู้กดน้ำเย็นนี่ช่วยชีวิตได้เยอะมาก ไม่ต้องเดินไปกดน้ำแข็งบ่อยๆ ส่วนใครที่อยู่คอนโด หอพัก หรือมีร้านค้า ร้านอาหารเล็กๆ ตู้ทำน้ำเย็นก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าและคนในพื้นที่ได้ดีเลยจ้า
สำหรับแบรนด์ในตลาดไทยตอนนี้ก็มีให้เลือกเพียบเลยนะ ทั้งแบรนด์คุ้นหูอย่าง Toshiba, Sharp, Electrolux, Midea, Imarflex, Victor, Clarte' และอีกมากมาย แต่ละแบรนด์ก็มีรุ่นและดีไซน์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณเลยจ้า
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างในปี 2025 นี้?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ใจจะขาด นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! ราคาของตู้ทำน้ำเย็นเนี่ยมีหลากหลายมากๆ เลยนะ ขึ้นอยู่กับประเภทของตู้ ฟังก์ชัน และแบรนด์ด้วย
โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งราคาคร่าวๆ ได้ตามประเภทดังนี้:
- แบบตั้งโต๊ะ (Tabletop Water Dispenser): รุ่นเล็ก กะทัดรัด เหมาะสำหรับห้องหรือพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มาก ส่วนใหญ่เป็นแบบคว่ำถังน้ำไว้ด้านบน ราคาก็จะน่ารักหน่อย เริ่มต้นประมาณ หลักพันต้นๆ ไปจนถึงประมาณ 3,000 - 5,000 บาท (฿)
- แบบตั้งพื้น (Floor Standing Water Dispenser): รุ่นใหญ่ขึ้นมาหน่อย มีทั้งแบบคว่ำถังด้านบนและแบบซ่อนถังไว้ด้านล่าง (อันนี้สะดวก ไม่ต้องยกถังน้ำหนักๆ) บางรุ่นมีช่องเก็บของด้านล่างด้วย ฟังก์ชันก็จะครบครันกว่า บางทีมีทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น น้ำธรรมดาในเครื่องเดียว ราคาก็จะสูงขึ้น เริ่มตั้งแต่ประมาณ 3,000 - 10,000 บาท (฿) หรือบางรุ่นที่มีระบบกรองในตัวหรือดีไซน์พิเศษๆ ก็อาจจะทะลุไปหลักหมื่นก็มีจ้า
ถ้าลองไปส่องดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee จะเห็นราคาที่หลากหลายมากๆ เลยนะ มีตั้งแต่ร้านค้าทั่วไปไปจนถึง Official Store ของแบรนด์ต่างๆ บางทีมีโปรโมชั่นลดราคาเยอะแยะเลย ส่วนตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Central, Big C, The Mall, Power Buy ก็มีให้เลือกเหมือนกัน แต่ราคาอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าออนไลน์ แต่ก็มีข้อดีตรงที่ได้เห็นของจริง ได้ลองจับ ลองกด (แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เสียบปลั๊กให้ลองทำความเย็นนะ!)
สำหรับความต่างของราคานานาชาติกับราคาในไทย ส่วนใหญ่แล้วสินค้าประเภทนี้ราคาในไทยก็ถือว่าสมเหตุสมผล ไม่ได้มีความต่างจากต่างประเทศแบบก้าวกระโดดอะไรมากนักจ้า
3. เทียบราคากับชาวบ้านชาวช่องแล้วเป็นไงบ้าง?
ถ้าลองเปรียบเทียบตู้ทำน้ำเย็นกับอุปกรณ์ทำน้ำเย็นอื่นๆ ในบ้าน ก็ต้องบอกว่ามันมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนะ
- เทียบกับตู้เย็นธรรมดา: การแช่น้ำในตู้เย็นอาจจะประหยัดไฟกว่านิดหน่อย แต่ก็เปลืองพื้นที่ในตู้เย็น แถมเวลาจะดื่มน้ำเย็นทีก็ต้องคอยเปิด-ปิดตู้ เสียเวลา และความเย็นก็อาจจะไม่สม่ำเสมอเท่าตู้ทำน้ำเย็นที่ทำความเย็นได้คงที่กว่า
- เทียบกับเครื่องกรองน้ำแบบต่อท่อแล้วมีน้ำเย็น: อันนี้สะดวกตรงที่มีน้ำใช้ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องคอยเปลี่ยนถัง แต่ข้อจำกัดคือต้องมีพื้นที่สำหรับติดตั้งระบบกรองและเดินท่อ อาจจะไม่เหมาะกับทุกที่ แถมราคาเครื่องกรองน้ำที่มีฟังก์ชันน้ำเย็นก็มักจะสูงกว่าตู้ทำน้ำเย็นแบบใช้ถังพอสมควรเลย
สรุปแล้ว ตู้ทำน้ำเย็นเนี่ยถือเป็นทางเลือกที่ คุ้มค่า และ สะดวกสบาย มากๆ ถ้าเทียบกับความง่ายในการใช้งาน การบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก (แค่คอยเปลี่ยนถังน้ำ) และราคาที่เข้าถึงได้ง่าย มีให้เลือกหลากหลายระดับราคาตามงบประมาณเลยจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? (สำคัญมากสำหรับคนไทย!)
อันนี้เป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ คือเรื่องของการรับประกันและของแถม! เวลาซื้อตู้ทำน้ำเย็นก็ต้องเช็คให้ดีว่าในกล่องมีอะไรมาให้บ้าง และได้รับบริการอะไรหลังการขายบ้างนะ
- ค่าขนส่ง: ส่วนใหญ่ร้านค้าออนไลน์บน Lazada/Shopee มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี ให้เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด ซึ่งช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย แต่ถ้าซื้อจากร้านค้าปลีกก็อาจจะต้องเสียค่าขนส่งเพิ่ม หรือถ้าไปรับเองก็ไม่ต้องเสียจ้า
- ระยะเวลารับประกัน: อันนี้สำคัญสุดๆ! ส่วนใหญ่ตู้ทำน้ำเย็นจะมีการรับประกันตัวเครื่องและคอมเพรสเซอร์ (หัวใจหลักของการทำความเย็น) ระยะเวลาการรับประกันก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและแบรนด์นะ บางรุ่นรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี คอมเพรสเซอร์ 5 ปี ยิ่งรับประกันนานยิ่งอุ่นใจ เพราะถ้ามีปัญหาขึ้นมาจะได้ไม่ต้องควักเงินซ่อมเองจ้า
- ของแถม/อุปกรณ์เสริม: บางทีร้านค้าอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ มาให้ เช่น แก้วน้ำ หรืออาจจะมีคูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป หรือมีโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% ก็ต้องลองสอบถามหรือดูรายละเอียดในหน้าร้านค้าดีๆ นะ
- บริการติดตั้ง: ตู้ทำน้ำเย็นส่วนใหญ่ติดตั้งง่ายมากๆ แค่วางเครื่องเสียบปลั๊ก แล้ววางถังน้ำ ก็ใช้งานได้เลย ไม่ได้มีบริการติดตั้งจากร้านค้าเป็นพิเศษจ้า
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย? (สายเปย์โปรดฟัง!)
แน่นอนว่าถ้าอยากได้ตู้ทำน้ำเย็นในราคาดีๆ ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทยอย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มเรื่องโปรโมชั่นแทบจะทั้งปีเลยนะ โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11, 12.12 หรือแม้กระทั่ง วันเลขเบิ้ลอื่นๆ (อย่าง 6.6, 7.7, 8.8 ฯลฯ) ช่วงนี้แหละที่เราจะได้เห็นส่วนลดเยอะสุดๆ ทั้งจากแบรนด์โดยตรง (Official Store) หรือจากร้านค้ารีเซลเลอร์ต่างๆ
นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลไทยๆ อย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ก็มักจะมีโปรโมชั่นจากร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าออกมาดึงดูดใจเหมือนกันนะ สรุปแล้วถ้ายังไม่รีบใช้มากๆ แนะนำให้ อดใจรอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ยคุ้มค่าที่สุดแล้วจ้า ได้ของดีในราคาที่สบายกระเป๋าขึ้นเยอะ!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยในโซเชียลมีเดียหรือตามเว็บบอร์ดต่างๆ เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับตู้ทำน้ำเย็นก็ถือว่าค่อนข้างดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:
- ทำน้ำเย็นได้เร็วทันใจ: อากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา แค่ได้น้ำเย็นเจี๊ยบๆ ก็ชื่นใจแล้ว หลายคนชมว่าตู้ทำน้ำเย็นทำความเย็นได้เร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน
- ใช้งานง่าย สะดวก: แค่เสียบปลั๊ก วางถังน้ำ ก็กดดื่มได้เลย ไม่ยุ่งยาก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
- มีทั้งน้ำร้อนน้ำเย็นในเครื่องเดียว: รุ่นที่มีฟังก์ชันน้ำร้อนด้วยนี่ถูกใจคนไทยมากๆ เพราะใช้ชงกาแฟ ชา หรือมาม่า ได้สบายๆ
- ดีไซน์สวยงาม เข้ากับบ้าน: หลายแบรนด์ออกแบบตู้ทำน้ำเย็นมาได้สวยงาม ทันสมัย สามารถวางไว้ในห้องรับแขก ห้องครัว หรือออฟฟิศได้โดยไม่ดูเกะกะ
- คุ้มค่ากับราคา: เมื่อเทียบกับความสะดวกสบายที่ได้รับ ราคาของตู้ทำน้ำเย็นถือว่าไม่แพงจนเกินไป คุ้มค่ากับการลงทุน
- ประหยัดไฟ (บางรุ่น): หลายรุ่นมีระบบประหยัดพลังงาน หรือมีสวิตช์เปิด-ปิดระบบน้ำร้อนน้ำเย็นแยกกันได้ ทำให้เลือกใช้เฉพาะฟังก์ชันที่ต้องการ ช่วยประหยัดไฟได้
ส่วนข้อสังเกตที่อาจจะมีบ้างก็คือ บางรุ่นอาจจะทำความเย็นได้ไม่ต่ำเท่าที่คาดหวัง หรือบางทีมีเสียงคอมเพรสเซอร์ดังบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้จ้า
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
ช่องทางการซื้อตู้ทำน้ำเย็นในไทยมีให้เลือกเยอะมากๆ เลยนะ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของเราเลยจ้า
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ในไทย: อันนี้เป็นช่องทางที่สะดวกและมีตัวเลือกเยอะสุดๆ ทั้ง Lazada และ Shopee มีร้านค้าที่ขายตู้ทำน้ำเย็นเพียบเลย ข้อดีคือเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโปรโมชั่นเยอะแยะ มีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้ดู และมีระบบการชำระเงินที่หลากหลายและปลอดภัย แต่ข้อเสียคือไม่ได้เห็นของจริง ต้องพิจารณาจากรูปและรายละเอียดสินค้าดีๆ
- ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Official Store): แบรนด์ใหญ่ๆ มักจะมีร้านค้าอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีการรับประกันที่ชัดเจน และบางทีก็มีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะร้านค้าทางการนะ
- ร้านค้าปลีก/ห้างสรรพสินค้า: เช่น Central, Big C, The Mall, Power Buy อันนี้ข้อดีคือได้ไปดูสินค้าจริง ได้สัมผัส ได้สอบถามพนักงานขาย แต่ราคามักจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อย และโปรโมชั่นอาจจะไม่ได้จัดเต็มเท่าออนไลน์
- ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป: ตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้บ้านก็อาจจะมีตู้ทำน้ำเย็นบางรุ่นให้เลือกซื้อนะ ลองแวะเข้าไปดูได้จ้า
- เว็บไซต์ของแบรนด์โดยตรง: บางแบรนด์อาจจะมีเว็บไซต์ของตัวเองที่สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้โดยตรง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า ตู้ทำน้ำเย็น น่าซื้อไหมในปี 2025 นี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:
- ชอบดื่มน้ำเย็นเป็นชีวิตจิตใจ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย
- ต้องการความสะดวกสบาย ไม่อยากเสียเวลากรอกน้ำแช่ตู้เย็น
- มองหาอุปกรณ์ทำน้ำเย็นที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
- มีงบประมาณที่หลากหลาย สามารถเลือกได้ตามกำลังทรัพย์
- ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุ้มค่า ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น
ตู้ทำน้ำเย็นตอบโจทย์มากๆ เลยนะ เป็นการลงทุนเพื่อความสบายที่คุ้มค่าสุดๆ!
ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี ระหว่างรุ่นธรรมดา หรือรุ่นที่มีน้ำร้อนด้วย หรือรุ่นที่มีระบบกรองในตัว ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของคุณเลยจ้า ถ้าเน้นแค่น้ำเย็นอย่างเดียว ใช้ในบ้านสมาชิกไม่เยอะมาก รุ่นตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้นแบบธรรมดาก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยู่กันหลายคน ใช้ในออฟฟิศ หรือต้องการความสะดวกครบครันทั้งน้ำร้อนน้ำเย็น รุ่นตั้งพื้นแบบมีฟังก์ชันเยอะๆ ก็จะเหมาะกว่า ส่วนรุ่นที่มีระบบกรองในตัวก็จะเพิ่มความมั่นใจเรื่องความสะอาดของน้ำไปอีกขั้น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยนะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจซื้อตู้ทำน้ำเย็นนะจ๊ะ ขอให้ได้ตู้ที่ถูกใจ ดื่มน้ำเย็นชื่นใจคลายร้อนกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ปูนขาวโรยสนาม ราคาล่าสุด ซื้อที่ไหนได้บ้าง? ประโยชน์คืออะไร?
กระเป๋า/น้ำหอม Marc Jacobs ราคาล่าสุดปี 2025: รุ่นไหนฮิต?
แบตเตอรี่ 100Ah ราคาล่าสุดปี 2025: ยี่ห้อไหนดี?
ราคาไม้กันสั่น Moza Mini-MI สำหรับสมาร์ทโฟน รุ่นนี้ดีไหม
โปรแกรม Adobe Acrobat Pro ราคาเท่าไหร่? ซื้อแบบรายเดือน/ปี คุ้มกว่า?
หาห้องพักขอนแก่นราคาถูก: แนะนำหอพักและอพาร์ทเม้นท์เริ่มต้นหลักพัน ปี 2568