รีวิว PlayStation VR (PSVR) โลกเสมือนจริงที่คุณสัมผัสได้


พร้อมจะหลุดเข้าไปอีกโลกยัง!? มาค่ะ! วันนี้เราจะมารีวิวแกะกล่อง (แบบย้อนเวลาไปนิดหน่อย) กับ PlayStation VR (PSVR) แว่นตาโลกเสมือนจริงที่เคยสร้างความฮือฮาในหมู่เกมเมอร์ชาวไทย (และชาวโลก!) สมัยก่อน ถ้าใครกำลังเล็งๆ อยากลองเข้าวงการ VR แบบใช้งบไม่เยอะมาก เจ้าตัวนี้ยังน่าสนใจอยู่ไหม? ติดตั้งยากรึเปล่า? เล่นแล้วเวียนหัวจริงดิ? วันนี้จะมาเม้าท์ให้ฟังแบบหมดเปลือก! เตรียมตัวท่องโลก VR ไปพร้อมกันเลย!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: แว่น VR ตัวแรกของชาวเพลย์!
แบรนด์: Sony Interactive Entertainment
รุ่น: PlayStation VR (มี 2 รุ่นย่อยคือ CUH-ZVR1 และ CUH-ZVR2)
ปีที่วางขาย: เปิดตัวทั่วโลกและในไทย 13 ตุลาคม 2016
ช่วงราคาขาย: ตอนเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 17,490 - 18,990 บาท (สำหรับชุดที่รวมกล้อง PS Camera) แต่ตอนนี้ราคาอาจจะแตกต่างกันไปในตลาดมือสองหรือร้านที่ยังมีของเหลือ
การวางตำแหน่งสินค้า: เป็นแว่น VR รุ่นเริ่มต้นสำหรับคนที่มีเครื่อง PlayStation 4 หรือ PlayStation 5 อยู่แล้ว เน้นประสบการณ์ VR ที่เข้าถึงง่ายกว่า VR บน PC ที่ราคาสูงกว่ามาก
จุดเด่นหลักๆ ที่น่ารู้:
- เข้าสู่โลก VR ได้ด้วยเครื่อง PlayStation ที่มีอยู่ ประหยัดงบกว่า VR บน PC
- มีเกม VR ให้เลือกเล่นเยอะพอสมควรบน PlayStation Store
- จอภาพเป็นแบบ OLED สีสันสดใส ทำให้ดูสมจริง
- ออกแบบให้ใส่สบาย หัวไม่ล้ามาก (อันนี้เดี๋ยวเล่าละเอียดอีกที)
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ล้ำๆ แบบไซไฟ แต่สายเยอะไปหน่อยนะ!
แว่น PSVR ตัวแรก ดีไซน์ดูล้ำเหมือนมาจากโลกอนาคตเลยค่ะ! สีดำ-ขาว วัสดุเป็นพลาสติกแข็งแรงพอสมควร ดูไม่ก๊องแก๊ง ตัวแว่นมีไฟ LED สีฟ้าๆ รอบๆ เอาไว้ให้กล้องจับตำแหน่ง
การออกแบบ: เป็นดีไซน์แบบ "Halo Strap" คือมีที่คาดศีรษะด้านบน ช่วยกระจายน้ำหนัก ทำให้ไม่กดที่ใบหน้าส่วนหน้ามากเกินไป
วัสดุที่ใช้: พลาสติกเป็นหลัก ดูทนทานใช้ได้
ขนาดและน้ำหนัก: ตัวแว่นหนักประมาณ 600 กรัม (ไม่รวมสาย) ซึ่งสำหรับแว่น VR ยุคนั้นก็ถือว่าไม่ได้หนักเวอร์วังอะไร (แต่ PSVR2 เบากว่าอีกนะ)
สีที่มีให้เลือก: หลักๆ คือสีดำ-ขาวแบบที่เราเห็นกันทั่วไปนี่แหละค่ะ
ความสะดวกในการพกพา: อืมมม... จะว่าไงดี? มันพกไปไหนมาไหนยากอยู่นะคะ เพราะอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะ ทั้งตัวแว่น กล่อง Processor Unit สายไฟอีกเป็นกอง ไม่ใช่แนวหยิบใส่กระเป๋าแล้วไปบ้านเพื่อนง่ายๆ ขนาดนั้น
เหมาะกับวางไว้ที่ไหนในบ้าน: ต้องหาที่ให้เค้าประจำการใกล้ๆ ทีวีและเครื่อง PlayStation ของเราค่ะ เพราะต้องใช้ PS Camera ในการจับตำแหน่ง แถมยังมีกล่อง Processor Unit ที่ต้องวางด้วย ขอพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์และมีพื้นที่โล่งพอให้เราได้ขยับตัวหน่อยนะ
อุปกรณ์เสริมในกล่อง (ที่จำเป็นแต่บางทีต้องซื้อแยก): ในกล่อง PSVR จะมีตัวแว่น, กล่อง Processor Unit, สาย HDMI, สาย USB, AC Adaptor และสายไฟ ที่ต้องมีแต่บางทีไม่ได้แถมมาในชุดมาตรฐานคือ PlayStation Camera (จำเป็นต่อการใช้งาน PSVR) และ PlayStation Move Controllers (จอยรูปทรงแท่งไอติมมีลูกกลมๆ มีประโยชน์กับเกมที่ใช้ระบบจับการเคลื่อนไหว) บางชุดจะมีแถมมาด้วย ลองเช็คดีๆ ก่อนซื้อนะ!
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: หลุดเข้าเกมไปเลยสิคะ!
ฟังก์ชันหลักของ PSVR คือพาเราดำดิ่งเข้าไปในโลกของเกมแบบ 360 องศา! พอใส่แว่นปุ๊บ โลกที่เราเห็นบนทีวีก็จะหายไป กลายเป็นภาพที่เราอยู่ในเกมแทน หมุนตัวไปทางไหน ภาพก็จะตามไปแบบเป๊ะๆ
จอภาพและภาพที่เห็น: ใช้จอ OLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 (แบ่งเป็นข้างละ 960x1080) อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ภาพที่เห็นอาจจะมี "Screen Door Effect" บ้าง (คือมองเห็นช่องว่างระหว่างพิกเซลเล็กน้อย) เพราะความละเอียดไม่ได้สูงเท่าแว่นยุคใหม่ แต่สีสันสวยงาม Contrast ดี
การติดตามตำแหน่ง (Tracking): ใช้ PlayStation Camera ในการจับตำแหน่งไฟ LED บนตัวแว่นและจอย Move (ถ้าใช้) ระบบนี้อาจจะมีหลุดๆ บ้าง ถ้าแสงในห้องไม่เหมาะสม หรือมีวัตถุมาบังกล้อง ต้องจัดพื้นที่ให้ดีนิดนึง
เสียง: รองรับระบบเสียง 3D Audio ทำให้เรารู้สึกเหมือนเสียงมาจากทิศทางต่างๆ ในเกมจริงๆ ใส่หูฟังแล้วคือได้อรรถรสสุดๆ! มีช่องเสียบหูฟังอยู่บนตัวแว่นหรือรีโมทตามรุ่น
ยกตัวอย่างสถานการณ์จริง: ลองเล่นเกมแนวสยองขวัญอย่าง Resident Evil 7 ในโหมด VR นี่คือหัวใจจะวาย! บรรยากาศมันกดดันมาก เพราะเราเหมือนเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นจริงๆ หันไปก็เจอผี หันมาอีกทีก็เจอซอมบี้! หรือเกมแนวยิงๆ อย่าง Bravo Team ที่ต้องขยับตัวหลบที่กำบัง นี่ก็ให้ความรู้สึกร่วมสุดๆ ไปเลย
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ติดตั้งทีมีเหงื่อตก!
เรื่องการติดตั้ง PSVR นี่... บอกเลยว่าไม่ง่ายเท่าเสียบปลั๊กเครื่องเกมธรรมดา สายเยอะมากกกก ต้องต่อผ่านกล่อง Processor Unit ที่เหมือนเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่าง PS4/PS5, ทีวี, และตัวแว่น มีสาย HDMI หลายเส้น, สาย USB, สายไฟของกล่อง, และสายจากกล่องไปที่แว่น เห็นแล้วท้อได้ง่ายๆ ถ้าไม่ดูคู่มือหรือวิดีโอสอน
ใช้ง่ายมั้ย? ต้องเรียนรู้อะไรเยอะมั้ย?: ถ้าต่อเสร็จแล้ว การใช้งานก็ไม่ได้ยากมากค่ะ ใส่แว่น เปิดเครื่อง แล้วก็เลือกเกมในหน้าจอ PlayStation ได้เลย ตัวระบบเมนูต่างๆ ก็เหมือน PS4/PS5 ทั่วไป แต่ถ้าเป็นเกม VR โดยเฉพาะก็ต้องเรียนรู้การควบคุมที่แตกต่างกันไปตามเกม (บางเกมใช้จอย DualShock 4, บางเกมใช้ Move Controllers)
ระบบซอฟต์แวร์ลื่นมั้ย เป็นมิตรกับผู้ใช้หรือเปล่า: ตัวระบบของ PlayStation เองลื่นไหลดีค่ะ แต่ประสิทธิภาพของเกม VR จะขึ้นอยู่กับเครื่อง PS4/PS5 ที่ใช้ด้วย (PS4 Pro หรือ PS5 จะให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า PS4 รุ่นธรรมดา) หน้าเมนูต่างๆ ใน VR ก็ออกแบบมาใช้ง่ายดีค่ะ
เสียงดังมั้ย ร้อนเร็วมั้ย สบายเวลาถือ/สวมใส่หรือไม่: ตัวแว่นออกแบบมาให้ใส่สบายพอสมควร ด้วยดีไซน์แบบ Halo Strap ที่ช่วยลดแรงกด สามารถปรับให้เข้ากับศีรษะได้ บางคนใส่แว่นสายตาก็ใส่พร้อม PSVR ได้นะ แต่ใส่ไปนานๆ ก็อาจจะรู้สึกร้อนหรืออึดอัดได้บ้างค่ะ ส่วนเสียง มีเสียงพัดลมเล็กน้อยแต่ไม่ดังรบกวนตอนเล่นเท่าไหร่
รองรับภาษาไทยมั้ย ใช้กับแอปในไทยได้หรือเปล่า: ตัวระบบ PlayStation รองรับภาษาไทยอยู่แล้ว ส่วนเกมและแอป VR ก็ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาว่าจะรองรับภาษาไทยหรือไม่ แต่เกมดังๆ หลายเกมมีภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ ให้เลือก ส่วน PlayStation Store Thailand ก็มีเกม VR ให้เลือกซื้อเยอะพอสมควร
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: กินไฟแต่ค่าเกมถูกลงเรื่อยๆ!
PSVR เป็นแว่นแบบมีสาย ไม่ได้ใช้แบตเตอรี่ในตัวแว่นค่ะ ตัวแว่นและกล่อง Processor Unit ต้องเสียบปลั๊กไฟตลอดเวลาที่ใช้งาน ก็กินไฟพอสมควรแหละค่ะ
ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง: ใช้ไฟบ้านตลอดค่ะ ไม่ต้องชาร์จ
ความเร็วในการชาร์จ / เติมพลังงาน: เสียบปลั๊กก็พร้อมใช้เลย
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ คือค่าไฟ และค่าเกมค่ะ ตัวแว่นเองถ้าดูแลรักษาดีๆ ก็อยู่ได้นาน ส่วนจอย Move Controller ต้องชาร์จแบตเตอรี่ค่ะ
วิเคราะห์ความคุ้มค่า เปรียบเทียบกับของที่ราคาใกล้เคียง: เมื่อเทียบกับแว่น VR บน PC อย่าง Oculus Rift หรือ HTC Vive สมัยก่อนที่ต้องใช้คู่กับคอมพิวเตอร์สเปกสูงๆ ราคาเป็นแสนๆ PSVR ที่ใช้กับ PS4/PS5 ถือว่ามีราคาเข้าถึงง่ายกว่าเยอะมาก ตอนนี้ราคา PSVR มือสองก็ลงมาเยอะแล้ว ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนอยากลอง VR แบบประหยัดงบค่ะ แม้จะมี PSVR2 ออกมาแล้ว (ที่ราคาแพงกว่าเครื่อง PS5 อีกนะ) แต่ PSVR ตัวแรกก็ยังมีเกมให้เล่นเยอะอยู่ และราคาตัวเครื่องถูกกว่ามากค่ะ
6. ข้อดี-ข้อเสีย (แบบกลางๆ ไม่อวยเกิน): มีทั้งรักทั้งเกลียดนะจ๊ะ!
ข้อดี:
- ราคาเข้าถึงง่าย: เมื่อเทียบกับ VR ระบบอื่น PSVR ถือเป็นตัวเลือกที่ประหยัดงบกว่ามาก ถ้ามี PS4/PS5 อยู่แล้ว
- เกมเยอะพอตัว: มีเกมหลากหลายแนวให้เลือกเล่นบน PS Store
- ประสบการณ์ VR ที่น่าประทับใจ: ได้สัมผัสโลกเสมือนจริงแบบเต็มตา ดึงดูดให้เราอินไปกับเกมได้ดี
- ดีไซน์ใส่สบาย: ออกแบบให้กระจายน้ำหนัก ทำให้ใส่ได้นานขึ้น (สำหรับบางคนนะ)
- ใช้กับ PS5 ได้: ถ้าอัปเกรดเป็น PS5 ก็ยังเอา PSVR ตัวแรกไปใช้เล่นเกม PS4 VR ได้ (ต้องใช้ Adapter ด้วยนะ)
ข้อเสีย:
- สายเยอะเกะกะ: ปัญหาโลกแตกของ PSVR! สายไฟรุงรังมาก ทั้งที่ตัวแว่น กล่อง Processor และต่อเข้าเครื่อง
- ความละเอียดหน้าจอค่อนข้างต่ำ: เมื่อเทียบกับแว่น VR ยุคใหม่ ภาพอาจจะดูไม่คมชัดเท่า มี Screen Door Effect
- ระบบ Tracking ยังไม่เป๊ะเท่าไหร่: บางทีกล้องจับตำแหน่งไม่แม่น ยิ่งถ้าสภาพแสงไม่ดี
- อาจมีอาการ Motion Sickness: บางคนอาจจะรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ได้จากการเคลื่อนไหวใน VR (อันนี้เป็นกับ VR ทุกยี่ห้อนะ แต่ PSVR บางเกมอาจจะกระตุ้นง่ายหน่อย)
- ต้องมีอุปกรณ์เสริม: นอกจากเครื่อง PlayStation แล้ว ยังต้องมี PS Camera และแนะนำให้มี Move Controllers ด้วยถึงจะเล่นเกมได้เต็มที่
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรรีบสอย ใครควรรอดู?
เหมาะกับใคร:
- เกมเมอร์ที่มีเครื่อง PS4 หรือ PS5 อยู่แล้ว: ถ้าอยากลองสัมผัสประสบการณ์ VR โดยไม่ต้องลงทุนซื้อคอมพ์แรงๆ หรือแว่น VR รุ่นใหม่ที่แพงกว่า
- คนที่อยากลอง VR ในงบประมาณจำกัด: PSVR มือสองราคาดีๆ มีให้เลือกเยอะค่ะ
- คนที่สนใจเกม Exclusive ของ PSVR: มีบางเกมที่เล่นได้เฉพาะบน PSVR เท่านั้น
- คนที่พอมีพื้นที่ในบ้านให้ขยับตัวได้บ้าง: บางเกมต้องการพื้นที่หน่อย
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:
- เล่นเกม VR โดยเฉพาะ: เน้นเกมที่ออกแบบมาเพื่อ VR เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด
- ดูหนัง 3D หรือ VR 360: PSVR สามารถใช้ดูคอนเทนต์พวกนี้ได้ด้วย
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?: ถ้าเจอราคาดีๆ โดยเฉพาะมือสองที่อุปกรณ์ครบๆ ก็น่าสนใจค่ะ เพราะราคาเครื่องใหม่ตอนนี้อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่แล้วถ้าเทียบกับ PSVR2 ที่ใหม่กว่าทุกด้าน ถ้าอยากได้ของใหม่แกะกล่อง อาจจะต้องรอดูว่าร้านไหนยังมีของและจัดโปรฯ หรือเปล่าค่ะ หรือถ้ามีงบเยอะและอยากได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้เก็บเงินไป PSVR2 เลยดีกว่า แต่ก็ต้องมี PS5 ด้วยนะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (แบบมวยคนละรุ่น แต่ก็ VR เหมือนกัน)
เทียบกับ PSVR2: อันนี้คือรุ่นลูกของ PSVR ตัวแรกเลยค่ะ PSVR2 ดีกว่า PSVR ทุกด้าน ทั้งความละเอียดจอที่คมกว่าเยอะมาก ติดตั้งง่ายกว่า สายเส้นเดียวกว่า ระบบ Tracking ดีกว่า และมีฟังก์ชันใหม่ๆ เช่น Eye Tracking และระบบสั่นที่แว่น แต่ PSVR2 ราคาก็แพงกว่า PSVR ตัวแรกหลายเท่าตัว และต้องใช้กับ PS5 เท่านั้น
เทียบกับ VR บน PC (เช่น Meta Quest รุ่นต่างๆ): VR บน PC หรือแบบ Standalone อย่าง Meta Quest จะมีความอิสระมากกว่า ไม่ต้องต่อสายกับเครื่องเกมตลอดเวลา คุณภาพกราฟิกส่วนใหญ่ดีกว่า (ถ้าคอมพ์แรงพอ) มีเกมให้เลือกเยอะกว่าทั้งบน Steam VR และ Oculus Store แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่า PSVR ตัวแรกพอสมควร (โดยเฉพาะถ้าต้องซื้อคอมพ์ใหม่)
สรุปง่ายๆ คือ PSVR ตัวแรกเหมาะกับคนที่อยากลอง VR แบบประหยัดงบ โดยใช้เครื่อง PS4/PS5 ที่มีอยู่ค่ะ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?
การรับประกัน: PSVR มีการรับประกัน 1 ปีจาก Sony ประเทศไทยค่ะ สามารถติดต่อศูนย์บริการได้ตามเงื่อนไข ถ้าลงทะเบียนออนไลน์ภายใน 1 ปี อาจจะได้ประกันเพิ่มอีก 90 วัน (สำหรับ PS4/PS5/PS Classic แต่ PSVR ก็อยู่ในกลุ่ม Selected Accessories ที่น่าจะได้รับสิทธิ์ด้วย ลองเช็ครายละเอียดอีกทีนะ)
ช่องทางการซื้อ:
- ร้านค้าออนไลน์: ทั้ง Lazada, Shopee เป็นแหล่งยอดนิยมเลยค่ะ มีร้านค้าทางการของ Sony หรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ให้เลือกซื้อ บางทีมีโปรโมชั่นลดราคา โค้ดส่วนลด หรือของแถมด้วยค่ะ
- ร้านค้าเกม / ร้านโซนี่: ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็น่าจะยังมีบางร้านที่มีของอยู่ค่ะ
- ตลาดมือสอง: เป็นอีกแหล่งที่น่าสนใจสำหรับ PSVR ตัวแรก เพราะราคาจะถูกลงเยอะค่ะ แต่ก็ต้องเช็คสภาพและสอบถามประวัติการใช้งานให้ดีนะ
โปรโมชั่นล่าสุด: ต้องคอยติดตามตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ ค่ะ ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ หรือแคมเปญช้อปปิ้งมักจะมีส่วนลดค่ะ
ตัวเลือกผ่อนชำระ: ส่วนใหญ่ร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ มีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการค่ะ
ระยะเวลาการจัดส่งและค่าจัดส่ง: ขึ้นอยู่กับร้านและพื้นที่ค่ะ ถ้าสั่งจาก กทม. และอยู่ กทม. บางทีก็ได้ของในวันถัดไปเลยก็มี ค่าจัดส่งส่วนใหญ่ถ้าซื้อครบยอดที่กำหนดมักจะฟรีค่ะ
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: PSVR ตัวแรก ยังน่าโดนไหม?
เอาเป็นว่า... ถ้าคุณคือเกมเมอร์ที่มีเครื่อง PS4 หรือ PS5 อยู่แล้ว และอยากจะเปิดประตูสู่โลก VR เป็นครั้งแรก โดยมีงบประมาณไม่สูงมากนัก และพอจะจัดการกับสายเคเบิลที่เยอะแยะได้ และมีพื้นที่พอสมควรให้ได้ขยับตัวเล่นเกม PSVR ตัวแรก (โดยเฉพาะรุ่น CUH-ZVR2 ที่ปรับปรุงเรื่องสายและ HDR Pass-through) ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้นค่ะ
มันอาจจะไม่ได้คมชัดเท่าแว่นรุ่นใหม่ๆ หรืออิสระเท่าแว่น Standalone แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย และมีเกมดีๆ ให้เล่นเยอะพอสมควร ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะลองสัมผัสประสบการณ์โลกเสมือนจริงค่ะ
แต่! ถ้าคุณคาดหวังภาพที่คมกริบเหมือนดูหนัง 4K ไม่ชอบสายเกะกะเลยแม้แต่นิดเดียว มีอาการเมารถ/เมาเรือ/เมาเครื่องบินได้ง่ายมากๆ หรือมีงบเหลือเฟือ พร้อมที่จะลงทุนกับ PSVR2 และเครื่อง PS5 ที่ทรงพลังกว่า... PSVR ตัวแรกอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ค่ะ
คำแนะนำเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งาน:
- ผู้เริ่มต้นที่งบน้อย + มี PS4: มองหา PSVR มือสองสภาพดีๆ พร้อม PS Camera และ Move Controllers ราคาดีๆ ถือว่าคุ้มค่าที่จะลองค่ะ
- ผู้เริ่มต้นที่งบปานกลาง + มี PS4/PS5: อาจจะลองดู PSVR รุ่นใหม่ (ZVR2) ถ้ายังมีของใหม่ขาย หรือพิจารณาเก็บเงินเพิ่มไป PSVR2 ถ้ามี PS5 อยู่แล้ว
- คนที่จริงจังกับ VR + มี PS5: แนะนำให้จัด PSVR2 ไปเลยค่ะ ประสบการณ์ดีกว่าเยอะ!
สรุปสุดท้ายสำหรับ PSVR ตัวแรกคือ: เป็นประตูสู่โลก VR ที่ดีในราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับคนที่มี PlayStation อยู่แล้วและอยากลอง VR แบบไม่เจ็บตัวมากนักค่ะ!
เป็นไงกันบ้างคะกับการรีวิว PSVR แบบจัดเต็ม! ใครเคยมีประสบการณ์กับเจ้านี่ หรือกำลังเล็งๆ อยู่ มาเม้าท์มอย แชร์ประสบการณ์กันได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างเลยนะค้าาาา!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา Eucerin Q10x Anti-Wrinkle ล่าสุด 2025 ลดริ้วรอยได้จริงไหม? รีวิวจากผู้ใช้จริง
เครื่องไล่กระรอก ราคาเท่าไหร่? ได้ผลจริงไหม? พร้อมวิธีเลือกซื้อ
ราคา BMW S1000RR Bigbike ตัวแรง 2025: สเปก ราคา และโปรโมชั่นล่าสุด
ชาลอม ลดราคา! โปรโมชั่นล่าสุดปี 2568 อัปเดตก่อนใคร (ห้าง/ออนไลน์?)
Origins ลดราคา! สกินแคร์ตัวไหนน่าซื้อในโปรโมชั่นล่าสุด
ราคา Imuran 50 mg ยาผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ข้อควรระวัง