logo

รีวิว Altered Carbon Season 2: ซีรีส์ไซไฟสุดล้ำ ปรัชญาหนักๆ สนุกเท่าภาคแรกไหม?

user avatar
สุวนันท์ วิเศษสมบัติ·07/08/2025 15:14
点赞
รีวิว Altered Carbon Season 2: ซีรีส์ไซไฟสุดล้ำ ปรัชญาหนักๆ สนุกเท่าภาคแรกไหม?

สวัสดีค่าาาา! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยซีรีส์ไซไฟสุดปังปรอทแตกที่หลายคนรอคอย (หลังจากรอจนเหงือกแห้งไป 2 ปี!) นั่นก็คือ Altered Carbon ซีซั่น 2 นั่นเอง! ภาคแรกนี่ทำไว้ดีจนเป็นที่โจษจัน ทั้งภาพสวย เนื้อเรื่องล้ำ ปรัชญาหนักตึ้บ แถมความโหดก็จัดเต็ม! แล้วภาค 2 ล่ะ? ที่เปลี่ยนพระเอกเป็น Anthony Mackie หรือ Falcon ของเราเนี่ย จะยังคงความเดือด ความลึกซึ้ง หรือจะแป้กไปเลย? ตามมาดูกัน!


1. ภาพรวม Altered Carbon Season 2: โคแวคส์คนใหม่ ไฉไลกว่าเดิม...จริงเหรอ?

ชื่อเรื่อง: Altered Carbon Season 2
แนว: ไซไฟ, ไซเบอร์พังก์, นัวร์, แอ็คชั่น, ดราม่า
ปีที่ฉาย: 2020
จำนวนตอน: 8 ตอน (สั้นกว่าภาคแรกที่มี 10 ตอน)

เรื่องย่อคร่าวๆ: 30 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก ทาเคชิ โคแวคส์ (ในสลีฟใหม่ของ Anthony Mackie) ยังคงออกตามหา เคลล์คริสต์ ฟอลโคเนอร์ รักแท้ข้ามศตวรรษของเขา จนได้เบาะแสที่นำพากลับมายังดาวบ้านเกิดอย่าง ฮาร์ลานส์ เวิลด์ แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่ใช่แค่ตามหาเมียเก่า (ไม่ใช่ละ!) แต่ดันไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม แถมยังมีเรื่องของกลุ่มกบฏและพวกชนชั้นสูงอมตะ (Meths) เข้ามาเอี่ยวอีกเช่นเคย

ตำแหน่งในตลาด: ภาคต่อที่เน้นขยายจักรวาลและเจาะลึกปมส่วนตัวของโคแวคส์มากขึ้น

จุดเด่นที่เคลมไว้:

  • Takeshi Kovacs ในร่างใหม่สุดแกร่ง! มาพร้อมสกิลโหดกว่าเดิม
  • กลับสู่ Harlan's World ดาวบ้านเกิดที่มีเบื้องหลังน่าค้นหา
  • การกลับมาของ Quellcrist Falconer ตัวละครสำคัญจากอดีต
  • ผูกปมปริศนาใหม่ ที่ท้าทายกว่าเดิม
  • ยังคงสอดแทรกปรัชญา ว่าด้วยความเป็นมนุษย์ ความตาย และความทรงจำ

2. ดีไซน์และงานภาพ: สวยงามตามท้องเรื่อง แต่...

เรื่องงานภาพ ซีรีส์นี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง! ฮาร์ลานส์ เวิลด์มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับเทคโนโลยี มีทั้งป่าเขียวขจี ผับใต้ดินสุดอลังการ และเมืองที่ดูทันสมัยแต่แฝงความหม่นๆ ตามสไตล์ไซเบอร์พังก์ เสื้อผ้าหน้าผม ตัวละครแต่ละตัวก็ดีไซน์มาได้น่าสนใจ โดยเฉพาะสลีฟใหม่ของโคแวคส์ที่ดูคล่องแคล่วกว่าเดิมเยอะ

การออกแบบ: ผสมผสานความเป็นธรรมชาติกับเทคโนโลยีล้ำๆ
วัสดุ/CG: ยังคงลงทุน CG อลังการ แต่บางฉากอาจจะไม่ได้ว้าวเท่าภาคแรก
ความแตกต่างจากภาคแรก: บรรยากาศโดยรวมดูสว่างขึ้น และลดทอนความรุนแรงเลือดสาดลง (อันนี้แล้วแต่คนชอบนะ บางคนก็แอบเสียดายความดิบเถื่อนของภาคแรกไป)


3. ประสบการณ์รับชม: แอ็คชั่นเดือด ปรัชญาอ่อนลง?

เรื่องราว: ภาคนี้เน้นไปที่การตามหาเคลล์และปมในอดีตของโคแวคส์ค่อนข้างเยอะ มีปริศนาให้ตามสืบ แต่โครงเรื่องโดยรวมอาจจะไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเท่าคดีฆาตกรรมของ Bancroft ในภาคแรก การเล่าเรื่องกระชับขึ้น ไม่ยืดเยื้อเท่าภาคแรก แต่บางคนก็รู้สึกว่ามันดูรีบๆ ไปหน่อย

ฉากแอ็คชั่น: ทำได้ดีเลยทีเดียว! สลีฟใหม่ของ Anthony Mackie มีสกิลต่อสู้ที่ว่องไว แถมมี Mag Plates ที่เรียกปืนมาได้ทันที คือเท่มาก! ฉากบู๊นี่ใส่มาแน่นกว่าเดิม ดูเพลิน แต่ความดิบเถื่อนแบบ Season 1 ที่เน้นการต่อสู้แบบถึงเนื้อถึงตัวอาจจะลดลงไป

ปรัชญา: ยังคงมีประเด็นเรื่องความเป็นอมตะ ตัวตน ความทรงจำ และความหมายของการมีชีวิตอยู่ให้ขบคิด แต่การนำเสนออาจจะไม่ได้ลึกซึ้ง คมคายเท่าภาคแรกที่ปูพื้นฐานเรื่อง Stack และ Sleeve ได้น่าสนใจกว่า


4. ตัวละครและการแสดง: โคแวคส์คนใหม่ที่หลายคนไม่คุ้นเคย

ประเด็นที่คนพูดถึงเยอะที่สุดในภาคนี้คือ Anthony Mackie ในบท Takeshi Kovacs แน่นอนว่า Mackie มีเสน่ห์และทักษะการแสดงที่ดี แต่คาแรคเตอร์โคแวคส์ของเขาแตกต่างจากเวอร์ชัน Joel Kinnaman ในภาคแรกอย่างชัดเจน ถ้า Kinnaman แสดงออกถึงความหม่น เก็บกด แบกโลก Mackie จะดูมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีอารมณ์ขัน (นิดหน่อย) และดูสบายๆ กว่า ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้แฟนๆ บางส่วนรู้สึกว่าไม่ใช่โคแวคส์ที่พวกเขารู้จัก ทำให้เคมีกับตัวละครเก่าๆ อย่าง เคลล์ ดูไม่ค่อยเข้าที่เท่าที่ควร

ตัวละครอื่นๆ:

  • Poe: หุ่น AI คู่ใจ กลับมาสร้างสีสันและความซึ้งได้อีกครั้ง ถือเป็นตัวละครที่หลายคนรักและภาคนี้บทของเขาก็เด่นและน่าติดตามไม่แพ้โคแวคส์เลย
  • Quellcrist Falconer: การกลับมาของตัวละครนี้เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง Renée Elise Goldsberry ยังคงแสดงได้ดี แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่เน้นไปที่ปมของเธอ ทำให้บทดูแข็งๆ ไปบ้าง
  • ตัวละครใหม่: มีตัวละครใหม่ๆ ที่น่าสนใจอย่าง Trepp นักล่าค่าหัวสาว และ Colonel Carrera คู่ปรับคนใหม่ของโคแวคส์

5. เปรียบเทียบกับ Season 1: เหมือนคนละเรื่อง?

คำถามยอดฮิตคือ "สนุกเท่าภาคแรกไหม?" คำตอบคือ... **แล้วแต่คนชอบ!** ถ้าคุณชอบภาคแรกเพราะ

  • ความซับซ้อนของเนื้อเรื่องนัวร์สืบสวน: ภาคแรกทำได้ดีกว่า
  • งานภาพที่ดูดิบ เถื่อน หม่นๆ: ภาคแรกให้ฟีล Blade Runner มากกว่า
  • ฉากโป๊เปลือย/ความรุนแรงแบบไม่เซ็นเซอร์: ภาคแรกจัดเต็มกว่าเยอะ
  • การปูพื้นฐานจักรวาลที่น่าทึ่ง: ภาคแรกทำได้ดีในแง่การแนะนำโลกนี้ให้ผู้ชมใหม่ๆ
  • เสน่ห์ของ Takeshi Kovacs ในร่าง Joel Kinnaman: ถ้าชอบคาแรคเตอร์แบบนั้น อาจจะไม่ชินกับเวอร์ชัน Mackie

แต่ถ้าคุณเปิดใจและชอบภาค 2 เพราะ

  • ฉากแอ็คชั่นที่ว่องไว จัดเต็ม: สลีฟใหม่โคแวคส์บู๊ได้มันส์กว่า
  • เนื้อเรื่องที่กระชับ ไม่ยืดเยื้อ: บางคนอาจจะรู้สึกว่าดูง่ายกว่าภาคแรก
  • การขยายจักรวาลไปยังดาวอื่น: ได้เห็น Harlan's World ที่แตกต่างจาก Bay City
  • บทบาทที่เด่นขึ้นของ Poe: ตัวขโมยซีนของภาคนี้เลย
  • ความพยายามเจาะลึกปมในใจโคแวคส์: ภาคนี้เน้นเรื่องราวส่วนตัวมากขึ้น

สรุปคือ ภาค 2 มีทั้งส่วนที่พัฒนาขึ้นและส่วนที่ดร็อปลงเมื่อเทียบกับภาคแรก


6. ข้อดี-ข้อเสีย (แบบตรงไปตรงมา!)

ข้อดีเด็ดๆ:

  • งานภาพสวยงามตามมาตรฐาน Altered Carbon: ยังคงเป็นซีรีส์ที่ภาพสวยน่าดู
  • ฉากแอ็คชั่นทำได้ดี: บู๊มันส์กว่าเดิมด้วยสลีฟใหม่ของโคแวคส์
  • Poe ยังคงเป็นตัวละครที่ยอดเยี่ยม: มีบทบาทสำคัญและน่าเอาใจช่วย
  • เนื้อเรื่องกระชับ ดูง่ายขึ้น: 8 ตอนจบ ไม่ยืดเยื้อ
  • ได้เห็นมุมมองและปมในอดีตของโคแวคส์มากขึ้น: เหมาะกับแฟนที่อยากรู้จักตัวละครนี้ให้ลึกซึ้ง

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:

  • การแสดงของ Anthony Mackie: ดีในแบบของเขา แต่คาแรคเตอร์ต่างจากภาคแรกจนแฟนเก่าอาจไม่ชิน
  • เนื้อเรื่อง/ปริศนาไม่ซับซ้อนเท่าภาคแรก: ความลึกซึ้งในประเด็นต่างๆ ลดลง
  • ลดทอนความดิบ โหด เถื่อน ลง: ถ้าชอบความ R-Rated จัดเต็มของภาคแรก อาจจะผิดหวัง
  • เคมีตัวละครบางคู่อาจไม่เข้าที่: โดยเฉพาะโคแวคส์กับเคลล์ในร่างใหม่
  • รู้สึกเหมือนดู "Altered Carbon Lite": บางส่วนดู "เบา" กว่าที่เคยเป็น

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการรับชม

เหมาะกับ:

  • แฟน Altered Carbon ที่อยากดูเรื่องราวของโคแวคส์ต่อ
  • คนที่ชอบซีรีส์ไซไฟที่มีฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ
  • คนที่ชอบประเด็นปรัชญาเบาๆ ไม่ต้องคิดเยอะเท่าภาคแรก
  • คนที่ชอบ Anthony Mackie (แน่นอน!)

ไม่เหมาะกับ:

  • คนที่คาดหวังว่ามันจะเหมือนภาคแรกเป๊ะๆ
  • คนที่ชอบความซับซ้อนของเนื้อเรื่องสืบสวนแบบภาคแรก
  • คนที่ชอบความรุนแรง เลือดสาด หรือฉากโป๊เปลือยแบบจัดเต็ม

ควรดูเลยไหม?: ถ้าเป็นแฟนภาคแรก **แนะนำให้ดู** แต่อาจจะต้องปรับความคาดหวังนิดหน่อย อย่าคาดหวังว่ามันจะเหมือนภาคแรกไปซะทั้งหมด ให้มองว่าเป็นเรื่องราวบทใหม่ในจักรวาลเดียวกันจะดีกว่า ถ้าไม่เคยดูภาคแรก แนะนำให้ดูภาคแรกก่อน เพราะภาค 2 มีการอ้างอิงและต่อยอดจากภาคแรกเยอะพอสมควร


8. ช่องทางการรับชม

Altered Carbon Season 2 สามารถรับชมได้ทาง Netflix เท่านั้น


9. บทสรุปและคำแนะนำเพิ่มเติม

โดยรวมแล้ว **Altered Carbon Season 2 เป็นซีรีส์ไซไฟที่ยังคงน่าดู** ด้วยงานภาพที่สวยงามและฉากแอ็คชั่นที่ทำได้ดี แม้ว่าเนื้อเรื่องและประเด็นปรัชญาอาจจะไม่ได้เข้มข้นเท่าภาคแรก และการเปลี่ยนตัวนักแสดงนำก็อาจจะทำให้แฟนๆ บางส่วนไม่ชิน แต่การแสดงของ Anthony Mackie ก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง และตัวละคร Poe ก็ยังคงเป็นตัวขโมยซีนที่ทำให้เรื่องมีชีวิตชีวา

ถ้าถามว่า สนุกเท่าภาคแรกไหม? สำหรับเรา... **ยังไม่เท่าภาคแรก** ด้วยความที่ภาคแรกเป็นการเปิดโลกใหม่ที่น่าทึ่งมากๆ ทั้งแนวคิดเรื่อง Stack, Sleeve, Meths ทำให้มันสดใหม่และน่าติดตามกว่า ภาค 2 เหมือนเป็นการต่อยอดและขยายปมส่วนตัวของตัวละครหลัก ซึ่งก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้มีพลังในการสร้างความประทับใจแรกพบเท่าภาคแรก

คำแนะนำสุดท้าย: ถ้าชอบแนวไซไฟ ไซเบอร์พังก์ หรือเป็นแฟน Altered Carbon อยู่แล้ว **ยังไงก็ต้องดู** แต่ถ้าเพิ่งเริ่มดู แนะนำให้เริ่มที่ Season 1 ก่อน แล้วค่อยมาต่อ Season 2 โดยลดความคาดหวังลงนิดนึง คุณอาจจะพบว่ามันมีอะไรดีๆ ที่น่าสนใจซ่อนอยู่ก็ได้!

แล้วเพื่อนๆ ที่ดู Altered Carbon Season 2 จบแล้ว รู้สึกยังไงกันบ้าง? ชอบหรือไม่ชอบตรงไหน มาคอมเมนต์คุยกันได้เลยนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ้โห! วันนี้จะพาไปวาร์ปย้อนยุคกันที่ สวนคุณปู่ Life Museum แหม แค่ชื่อก็กินขาดแล้วป่ะ! หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้แว่วๆ โดยเฉพาะสายเที่ยว สายคาเฟ่ที่ชอบวิวปังๆ แต่สงสัยกันไหมว่าที่นี่มันมีอะไรดีนอกจากวิวสวยๆ? เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา หรือเป็
รีวิว สวนคุณปู่ สถานที่ท่องเที่ยว/ร้านอาหาร บรรยากาศย้อนยุค
โอ้โห! วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ที่แค่ชื่อก็กินขาด แถมยังเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเราด้วยนะ กับเรื่อง "Clickbait" ที่เคลมว่าเป็นแนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบสุดๆ คำถามคาใจคือ...มันจริงเด๊ะ? แล้วมันจะทำให้เราอดหลับอดนอนดูยันเช้าเหมือนท
รีวิว Clickbait: ซีรีส์/ภาพยนตร์แนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบไหม?
หนีเมืองกรุงไปพักใจริมน้ำ! วันนี้เราจะพาไปส่อง "บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?" ที่พักที่ได้ยินชื่อแล้วต่อมอยากพักผ่อนริมน้ำก็พุ่งกระฉูด! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ...พักบ้านเรือ มันจะโค
รีวิว บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?

บทความที่แนะนำ