รีวิววิธียกเลิก Agoda จองแล้วยกเลิกได้เงินคืนไหม? ขั้นตอนง่ายๆ ประสบการณ์จริง


อ้าววว... ซวยแล้วไง! จองโรงแรม Agoda ไปแล้ว แต่อยู่ดีๆ แผนก็พัง ต้องยกเลิกกะทันหัน! นาทีนั้นใจนี่หล่นไปตาตุ่ม คิดในใจว่า "เงินที่จ่ายไปจะได้คืนมั้ยเนี่ย!" เชื่อว่าเป็นสถานการณ์ที่หลายคนเคยเจอ หรือกลัวว่าจะเจอใช่มั้ยล่ะคะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์จริง พร้อมบอกหมดเปลือก step by step วิธียกเลิก Agoda จองแล้วได้เงินคืนจริงมั้ย ต้องทำยังไงบ้าง มาดูกันเลย!
1. รู้จักเงื่อนไขก่อนยกเลิก: จองแบบไหนมีผลกับการคืนเงิน?
ก่อนจะพุ่งตัวไปกดปุ่มยกเลิก สิ่งแรกที่ต้องรู้คือ ตอนที่เราจองไปเนี่ย เลือกเงื่อนไขแบบไหนไว้ Agoda เขามีหลายแบบให้เลือก ซึ่งแต่ละแบบก็มีผลต่อการคืนเงินล้วนๆ เลยค่ะ
- แบบยกเลิกฟรี (Free Cancellation): อันนี้คือเพื่อนรักของเรา! ถ้าเลือกแบบนี้ แล้วมายกเลิกก่อนถึงเส้นตายที่เขากำหนดไว้ ได้เงินคืนเต็มจำนวนแน่นอน ไม่มีค่าธรรมเนียมค่ะ ส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ว่าต้องยกเลิกก่อนกี่วันหรือกี่ชั่วโมงก่อนเข้าพัก ต้องเช็กให้ดีนะคะ
- แบบไม่สามารถคืนเงินได้ (Non-refundable): ชื่อก็บอกตรงๆ เลยว่า ไม่คืนเงินจ้าาา ถึงจะยกเลิกเร็วแค่ไหนก็ไม่ได้คืนค่ะ เพราะปกติราคาจะถูกกว่าแบบยกเลิกฟรี
- แบบคืนเงินบางส่วน: อันนี้จะเจอไม่บ่อยนัก แต่ก็มีค่ะ ถ้าเข้าเงื่อนไขก็จะได้คืนตามสัดส่วนที่กำหนดไว้
สรุปง่ายๆ ว่า จะได้เงินคืนหรือไม่คืน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขตอนที่เรากดจองล้วนๆ เลยค่ะ
2. หน้าตาปุ่มยกเลิก: มันซ่อนอยู่ตรงไหนนะ?
พอรู้เงื่อนไขแล้วว่าพอจะมีหวังได้เงินคืน ก็ได้เวลาเข้าสู่ระบบ Agoda ค่ะ ไม่ว่าจะทางแอปหรือเว็บไซต์ ให้เข้าไปที่เมนู "การจองของฉัน" (My Bookings)
พอกดเข้าไปดูรายละเอียดการจองที่เราต้องการยกเลิก ถ้าการจองนั้นสามารถยกเลิกได้ (เช่น จองแบบยกเลิกฟรี) เราจะเห็นปุ่มหรือลิงก์สำหรับ "ยกเลิกการจอง" (Cancel Booking) นี่แหละคือปุ่มที่เราตามหา!
บางทีปุ่มอาจจะไม่ได้เด่นมาก ต้องลองเลื่อนๆ หาดูดีๆ นะคะ บางทีก็แอบๆ อยู่ ไม่ได้ตะโกนบอกชัดเจน
3. ขั้นตอนการยกเลิก: กดๆ ไป แล้วจะได้เงินคืนเลยไหม?
เอาล่ะ เจอตัวปุ่มแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือค่ะ!
Step 1: เข้าไปที่ "การจองของฉัน" แล้วเลือกรายการที่ต้องการยกเลิก
Step 2: มองหาปุ่มหรือลิงก์ "ยกเลิกการจอง" แล้วกดเลย
Step 3: สำคัญมากกกก! หน้านี้แหละที่ต้องอ่านให้ดี ระบบจะสรุปให้เราดูว่าถ้ากดยกเลิกตอนนี้ จะได้เงินคืนเท่าไหร่ มีค่าธรรมเนียมอะไรไหม ถ้าเป็นแบบยกเลิกฟรี ก่อนถึงเส้นตาย ก็ควรจะขึ้นว่า "คืนเงินเต็มจำนวน" หรือ "ไม่มีค่าธรรมเนียม"
Step 4: ถ้าเงื่อนไขตรงใจ ได้เงินคืนตามที่คาดไว้ ก็กด "ยืนยันการยกเลิก" โลด! (แต่ถ้าเงื่อนไขไม่ตรงใจ เช่น ขึ้นว่าไม่คืนเงิน ทั้งที่คิดว่าจองแบบยกเลิกฟรี อาจจะต้องหยุดก่อนแล้วติดต่อ Agoda ค่ะ)
Step 5: หลังจากยืนยันแล้ว Agoda จะส่งอีเมลยืนยันการยกเลิกมาให้เราค่ะ เก็บอีเมลนี้ไว้เป็นหลักฐานด้วยนะคะ
แค่นี้ก็เรียบร้อยสำหรับขั้นตอนการกดยกเลิกผ่านระบบค่ะ!
4. ประสบการณ์ใช้งาน & ความง่ายในการยกเลิก: มันง่ายเหมือนที่คิดหรือเปล่า?
ถามว่าขั้นตอนกดยกเลิกง่ายมั้ย? ถ้าเป็นการจองแบบที่ยกเลิกฟรี แล้วเราทำภายในเวลาที่กำหนด ก็ค่อนข้างง่ายค่ะ แค่กดไม่กี่ทีก็เสร็จแล้ว
แต่ความยากมันอยู่ที่ การอ่านเงื่อนไขและทำความเข้าใจ นี่แหละ บางทีตอนจองรีบๆ ไม่ได้อ่านให้ละเอียด มาดูกอีกทีอ้าว เป็นแบบ Non-refundable ซะงั้น! (เคยแล้ว เจ็บมาเยอะ 😂)
หรือบางทีเงื่อนไขยกเลิกฟรีก็มีเส้นตายบอกเป็นเวลาเป๊ะๆ เช่น ยกเลิกฟรีก่อน 18:00 น. ของวันที่... ถ้าเราไปกดยกเลิกหลังเวลานั้นแค่นาทีเดียว ก็อาจจะโดนหักเงินได้เลยนะ!
บางคนเจอปัญหาว่าหาปุ่มยกเลิกไม่เจอ หรือกดแล้วระบบแจ้งปัญหา อันนี้ก็อาจจะต้องไปติดต่อ Agoda Support ซึ่งก็เป็นอีกพาร์ทที่อาจจะไม่ได้ง่ายเสมอไปค่ะ
5. เงินจะคืนเมื่อไหร่ & ความคุ้มค่าที่ต้องยกเลิก
คำถามยอดฮิต: ยกเลิกแล้วจะได้เงินคืนเมื่อไหร่?
จากข้อมูลและประสบการณ์ ส่วนใหญ่ Agoda จะดำเนินการคืนเงินให้ภายใน ประมาณ 10 วันทำการ หลังจากที่เรากดยกเลิกเสร็จสมบูรณ์ แต่เงินจะเข้าบัญชีบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารของเราจริงๆ อาจจะใช้เวลาอีกสักพัก ประมาณ 7-30 วัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารผู้ออกบัตรหรือธนาคารที่เราใช้ด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องความคุ้มค่า... ถ้าจองแบบยกเลิกฟรีแล้วต้องยกเลิกก่อนกำหนด อันนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ะ เพราะได้เงินคืนเต็มจำนวน แต่ถ้าเป็นแบบ Non-refundable แล้วต้องยกเลิกเพราะไปไม่ได้จริงๆ อันนี้ก็คือ ไม่คุ้มเลย เพราะเสียเงินฟรี 😢
บางกรณีที่ยกเลิกหลังเส้นตายของ Free Cancellation ก็อาจจะมีค่าปรับ เช่น โดนหักค่าที่พัก 1 คืน อันนี้ก็ต้องชั่งใจดูว่าคุ้มที่จะยกเลิกแล้วโดนหักเงิน หรือจะยอมเสียเงินเต็มจำนวนแต่ไม่ได้เข้าพักไปเลย
6. ข้อดี-ข้อเสียของการยกเลิก Agoda (ฉบับคนเคยยกเลิก)
ข้อดี:
- มีตัวเลือก "ยกเลิกฟรี" ให้เลือก: ถ้าวางแผนไม่แน่นอน ตัวเลือกนี้ช่วยชีวิตได้เยอะมากค่ะ
- ขั้นตอนการยกเลิกผ่านแอป/เว็บทำได้เอง: ถ้าเป็นเคสตรงไปตรงมา (ยกเลิกฟรีทันเวลา) ก็ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
- บางกรณีขอคืนเงินได้ แม้จะเป็น Non-refundable: อันนี้แล้วแต่ดวงและเหตุผลค่ะ บางที Agoda หรือโรงแรมอาจจะอะลุ่มอล่วยให้ ถ้าเหตุผลจำเป็นจริงๆ (เช่น ภัยธรรมชาติร้ายแรง)
ข้อเสีย:
- เงื่อนไข "ไม่สามารถคืนเงินได้" เจอเยอะมาก: โดยเฉพาะห้องราคาดีๆ มักจะพ่วงมาด้วยเงื่อนไขนี้ ถ้าพลาดคืออดเงินคืนเลย
- เงื่อนไขยกเลิกอาจจะซับซ้อนและอ่านยาก: บางทีเส้นตายเล็กมาก หรือมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องใส่ใจ
- ระยะเวลาคืนเงินอาจจะนาน: ต้องทำใจรอหลายวันหน่อยกว่าเงินจะเข้าบัญชี
- การติดต่อ Customer Service อาจจะไม่ง่ายเสมอไป: ถ้ามีปัญหาที่ยกเลิกผ่านระบบไม่ได้ การติดต่อเจ้าหน้าที่อาจจะต้องรอสาย หรือสื่อสารกันนานหน่อย
7. เหมาะกับใคร & ควรจองแบบไหนดี?
การรู้เรื่องการยกเลิก Agoda เนี่ย เหมาะกับทุกคนที่ชอบจองโรงแรมออนไลน์ เลยค่ะ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนแผนเมื่อไหร่
คำแนะนำในการจอง:
- ถ้าแผนยังไม่ชัวร์ มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนวันหรือยกเลิก ยอมจ่ายแพงขึ้นอีกนิดเพื่อเลือกแบบ "ยกเลิกฟรี" เถอะค่ะ สบายใจกว่าเยอะ
- ถ้าแผน 100% ไม่มีทางเปลี่ยนแน่นอน และอยากประหยัดงบจริงๆ ค่อยเลือกแบบ "ไม่สามารถคืนเงินได้" ค่ะ
- อ่านเงื่อนไขการยกเลิกให้ละเอียดทุกครั้งก่อนกดจอง! ย้ำอีกครั้งว่าสำคัญมากค่ะ!
8. เปรียบเทียบกับ Rate อื่นๆ ใน Agoda: แพงกว่าแล้วดีกว่าจริงไหม?
ลองสังเกตดูดีๆ เวลาเลือกห้องพักใน Agoda ที่พักเดียวกัน วันเดียวกัน มักจะมีให้เลือกหลาย Rate
- Rate "ไม่สามารถคืนเงินได้" (Non-refundable): ราคาจะถูกที่สุด เหมาะกับคนที่ชัวร์มากๆ ว่าไปแน่ ไม่เปลี่ยนใจ
- Rate "ยกเลิกฟรี" (Free Cancellation): ราคามักจะแพงกว่า Rate Non-refundable นิดหน่อย แต่แลกมาด้วยความยืดหยุ่น ถ้าต้องยกเลิกก็ได้เงินคืนเต็มจำนวน (ตามเงื่อนไขเวลาที่กำหนด)
- บางที่อาจจะมี Rate อื่นๆ อีก เช่น ยกเลิกฟรีก่อน 7 วัน, ยกเลิกฟรีก่อน 3 วัน ซึ่งราคาและความยืดหยุ่นก็จะแตกต่างกันไป
การจ่ายแพงขึ้นเพื่อ Rate ที่ยกเลิกฟรี คือการซื้อความสบายใจและความยืดหยุ่นค่ะ ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจริงๆ เงินที่จ่ายเพิ่มไปอาจจะน้อยกว่าเงินที่เราต้องเสียไปฟรีๆ จากการจองแบบ Non-refundable ก็ได้นะ
9. ติดต่อ Agoda ถ้ามีปัญหา & จองยังไงให้ชัวร์?
ถ้าลองทำตามขั้นตอนแล้วติดปัญหา เช่น หากุ่มยกเลิกไม่เจอ ระบบมีปัญหา หรือยกเลิกฟรีทันเวลาแล้วไม่ได้เงินคืนสักที ต้องติดต่อ Customer Service ของ Agoda ค่ะ
ช่องทางการติดต่อก็มีทั้งแชทในแอป/เว็บไซต์ หรือเบอร์โทรศัพท์ เตรียมข้อมูลการจองให้พร้อม (Booking ID, อีเมลที่ใช้จอง) เพื่อความรวดเร็วค่ะ
เคล็ดลับการจองให้ชัวร์และลดปัญหา:
- อ่านรีวิว: บางรีวิวอาจจะพูดถึงประสบการณ์การยกเลิกหรือการบริการลูกค้าของที่พักนั้นๆ ก็ช่วยให้ตัดสินใจได้
- ใช้ Filter "ยกเลิกฟรี": ถ้าเน้นความยืดหยุ่น ใช้ Filter นี้หาที่พักที่ตรงเงื่อนไขไปเลยค่ะ
- เช็กเงื่อนไขวันสุดท้ายที่ยกเลิกฟรี: ในหน้าสรุปการจอง จะมีบอกวันและเวลาที่ต้องยกเลิกก่อนเสมอ อย่าพลาดจุดนี้เด็ดขาด
10. บทสรุปและคำแนะนำสุดท้าย: จองยังไงให้แฮปปี้ ไม่มีน้ำตา?
จากประสบการณ์ทั้งหมดทั้งมวล (ทั้งที่สมหวังและผิดหวังจากการยกเลิก) ขอสรุปสั้นๆ ตรงนี้เลยว่า:
การยกเลิก Agoda และได้เงินคืน "เป็นไปได้จริง" ค่ะ แต่จะมากน้อยแค่ไหน หรือได้คืนหรือไม่เลย ขึ้นอยู่กับ "เงื่อนไขการจอง" ที่คุณเลือกตอนแรก 100%
คำแนะนำสุดท้ายแบบเน้นๆ:
- ก่อนจอง > อ่านเงื่อนไข > เลือก Rate ที่เหมาะกับแผนเราที่สุด!
- ถ้าไม่ชัวร์ > เลือก "ยกเลิกฟรี"!
- ถ้าชัวร์ 100% + อยากประหยัด > เลือก "ไม่สามารถคืนเงินได้" (แต่ต้องรับความเสี่ยงถ้ามีเหตุให้ไปไม่ได้)
- ถ้าต้องยกเลิก > ทำตามขั้นตอนในแอป/เว็บ > เช็กอีเมลยืนยัน > รอรับเงินคืน (ใจเย็นๆ ค่ะ)
- ถ้าติดปัญหา > ติดต่อ Customer Service ของ Agoda ทันที!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังวางแผนเที่ยว หรือกำลังประสบปัญหากับการจองที่พักนะคะ ขอให้การเดินทางราบรื่น และจองห้องพักได้อย่างสบายใจ ได้เงินคืนเต็มจำนวน ถ้าจำเป็นต้องยกเลิกค่ะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?