ราคาเช่ารถ Avis อัปเดตโปรโมชั่นล่าสุด เช่ารถแบบไหน ประหยัดสุด

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องการเช่ารถกับ Avis (เอวิส) กัน ใครที่กำลังมีแพลนจะเดินทาง ไม่ว่าจะไปเที่ยว พักผ่อน หรือติดต่องาน แล้วอยากได้รถขับสบายๆ ไม่ต้องเหนื่อยขับรถตัวเองทางไกล มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาอัปเดตเรื่อง ราคาเช่ารถ Avis ล่าสุด แถมด้วยเคล็ดลับว่าเช่าแบบไหนถึงจะ ประหยัดงบที่สุด! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. Avis คือใคร? ทำไมต้องเช่าเจ้านี้?

มาทำความรู้จัก Avis กันก่อน เค้าเป็นบริษัทเช่ารถระดับโลกที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากๆ เลยนะ มีสาขาอยู่ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย จุดเด่นของ Avis คือเค้ามีรถให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่คันเล็กๆ ไซส์กะทัดรัด ไปจนถึงรถใหญ่ รถครอบครัว หรือแม้กระทั่งรถตู้ก็มี! เรียกว่าตอบโจทย์ทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะมาคนเดียว มาเป็นคู่ มายกแก๊งค์ หรือมาทั้งครอบครัว แถมยังขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานบริการที่ค่อนข้างดี ทำให้หลายคนมั่นใจเวลาเช่ารถกับแบรนด์นี้ โดยเฉพาะตามสนามบินหลักๆ ที่ Avis มักจะมีเคาน์เตอร์ให้บริการ ทำให้สะดวกมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินแล้วต้องการรถขับต่อ

เหมาะกับใครน่ะเหรอ? ก็เหมาะกับคนที่อยากได้รถเช่าที่ ไว้ใจได้ สภาพดี มีความ เป็นมืออาชีพ ในการบริการ และต้องการความ สะดวกสบาย ในการรับ-คืนรถ โดยเฉพาะที่สนามบิน หรือต้องการเช่ารถเพื่อเดินทางข้ามจังหวัดไกลๆ เพราะเค้ามีเครือข่ายสาขาค่อนข้างครอบคลุมเลยจ้า

2. ราคาเช่ารถ Avis ในไทยเป็นยังไงบ้าง?

เรื่องราคาเนี่ย บอกเลยว่ามัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ เลยนะ ไม่ได้มีราคาเดียวฟันธง! หลักๆ เลยก็คือ รุ่นรถ ที่เราเลือก ยิ่งรถคันใหญ่ ฟังก์ชันเยอะ ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย รองลงมาก็คือ ระยะเวลาในการเช่า ยิ่งเช่านาน ราคาต่อวันก็จะถูกลงตามไปด้วยจ้า การเช่าแบบรายสัปดาห์หรือรายเดือนมักจะคุ้มกว่าเช่าแบบรายวันเยอะเลย แล้วก็ยังมีเรื่อง ช่วงเวลาที่เช่า อีกนะ ถ้าไปเช่าช่วงเทศกาล วันหยุดยาว หรือช่วง High Season ที่คนเดินทางเยอะๆ ราคาก็จะพุ่งขึ้นเป็นพิเศษ อันนี้ต้องทำใจไว้เลย

โดยทั่วไปแล้ว รถไซส์เล็กๆ อย่าง Eco Car หรือ Compact Car ราคาเริ่มต้นต่อวันก็จะมีตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงกลางๆ ส่วนรถใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่าง Sedan, SUV หรือ Van ราคาก็จะขยับขึ้นไปอีกจ้า การเปรียบเทียบราคาต้องดูจากเว็บไซต์ Avis โดยตรง หรือผ่านเอเจนซี่ต่างๆ เพราะราคาโปรโมชั่นและช่วงเวลาเช่ามีผลกับราคามากๆ

3. เทียบราคากับเจ้าอื่นแล้วเป็นไง?

ในตลาดเช่ารถบ้านเราก็มีหลายเจ้าให้เลือกเหมือนกันนะ ทั้งแบรนด์อินเตอร์อย่าง Budget, Hertz หรือแบรนด์ไทยอย่าง Thai Rent A Car, Chic Car Rent ถ้าเทียบกันแล้ว Avis มักจะอยู่ในกลุ่มที่ราคาค่อนข้างมาตรฐาน อาจจะไม่ได้ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการบางราย แต่เค้าก็แลกมาด้วย ความน่าเชื่อถือ ของแบรนด์ มาตรฐานรถ และเครือข่ายสาขาที่เยอะกว่า

บางทีเจ้าอื่นอาจจะมีราคาล่อตาล่อใจกว่าในบางช่วง แต่ก็ต้องดูเงื่อนไขดีๆ นะ บางเจ้าอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางการวิ่งต่อวัน หรือเงื่อนไขประกันที่แตกต่างกันไป ซึ่ง Avis ส่วนใหญ่มักจะให้ วิ่งได้ไม่จำกัดระยะทาง (Unlimited Mileage) ในราคามาตรฐาน ตรงนี้ก็เป็นข้อดีที่ต้องนำมาพิจารณาด้วยจ้า

4. เช่ารถแล้วได้อะไรมาบ้าง?

เวลาเช่ารถกับ Avis โดยทั่วไปแล้ว ราคาเช่าที่เราจ่ายไปมักจะ รวมประกันพื้นฐาน (CDW - Collision Damage Waiver) มาให้แล้วนะ ซึ่งประกันตัวนี้จะช่วยลดภาระความเสียหายต่อตัวรถเช่าของเรา แต่! มันมักจะมี ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess หรือ Deductible) อยู่ด้วยนะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุ เราอาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกตามที่กำหนดไว้ก่อน ส่วนที่เหลือประกันจะคุ้มครองให้

ส่วนใหญ่ราคาเช่าจะ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และ ไม่จำกัดระยะทางการขับขี่ ด้วย อันนี้ดีมากๆ ขับไปไหนก็ได้สบายใจ ส่วนสิ่งที่ อาจจะไม่รวม หรือต้องจ่ายเพิ่มถ้าต้องการก็เช่น:

• ประกันแบบเต็มรูปแบบ (SCDW - Super Collision Damage Waiver): อันนี้จะช่วยลดค่าเสียหายส่วนแรกให้เหลือศูนย์ หรือเหลือน้อยมากๆ ถ้าใครไม่สบายใจเรื่องค่า Excess แนะนำให้ซื้อเพิ่มเลยจ้า
• ประกันอื่นๆ: เช่น ประกันบุคคลที่ 3, ประกันรถหาย (TP - Theft Protection), ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PAI - Personal Accident Insurance) บางแพ็กเกจอาจจะรวมมาให้ แต่บางทีก็ต้องซื้อเพิ่มนะ
• อุปกรณ์เสริม: เช่น GPS, เบาะนั่งสำหรับเด็ก ต้องแจ้งความต้องการและจ่ายเพิ่มจ้า
• คนขับเพิ่มเติม: ถ้ามีคนอื่นที่จะช่วยขับรถด้วย ต้องลงทะเบียนชื่อและอาจจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มนะ
• ค่าน้ำมัน: ส่วนใหญ่ต้องคืนรถแบบน้ำมันเต็มถังเหมือนตอนรับรถ ไม่งั้นเค้าจะคิดค่าปรับ (ซึ่งมักจะแพงกว่าไปเติมเองนะ!)
• ค่ารับ-ส่งรถนอกสถานที่: ถ้าให้ไปส่งหรือไปรับรถนอกเหนือจากสาขาปกติ อาจมีค่าบริการเพิ่ม

ที่สำคัญมากๆ คือ ค่ามัดจำ (Deposit)! ตอนรับรถเค้าจะขอวงเงินบัตรเครดิตไว้ประมาณ 8,000 - 15,000 บาท หรือมากกว่านั้นแล้วแต่รุ่นรถนะ อันนี้ไม่ใช่ค่าเช่า แต่เป็นวงเงินที่เค้าจะHold ไว้เผื่อมีค่าเสียหายหรือค่าปรับต่างๆ แล้วจะคืนให้หลังจากคืนรถแล้วไม่มีปัญหาอะไร

5. ช่วงไหนน่าเช่า มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?

ถ้าอยากได้ราคาดีๆ ต้องหมั่นเช็ค โปรโมชั่น เลยจ้า! Avis เค้ามีโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ เลยนะ โดยเฉพาะช่วง เทศกาลท่องเที่ยว อย่างปีใหม่ สงกรานต์ หรือช่วงวันหยุดยาวต่างๆ อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา หรือแถมสิทธิพิเศษอะไรบางอย่าง นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นที่ร่วมกับ บัตรเครดิต ต่างๆ ด้วยนะ เช่น ส่วนลดพิเศษเมื่อจองและจ่ายด้วยบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

คำแนะนำคือ จองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะถ้าเดินทางช่วง Peak Season เพราะนอกจากจะได้ราคาที่ดีกว่าแล้ว ยังมั่นใจได้ว่าจะมีรถรุ่นที่เราต้องการให้เช่าด้วย ลองเข้าไปดูที่หน้า "โปรโมชั่น" บนเว็บไซต์ Avis ประเทศไทยโดยตรงเลยจ้า เค้าจะอัปเดตโปรล่าสุดไว้ที่นั่น หรือไม่ก็ลองดูผ่านเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ต่างๆ เช่น สายการบิน (บางทีมีโปรโมชั่นร่วมกัน เช่น สะสมไมล์ หรือรับส่วนลดพิเศษ) หรือเว็บไซต์เอเจนซี่จองรถเช่าที่เค้าจะรวมโปรโมชั่นมาให้เปรียบเทียบหลายๆ เจ้าพร้อมกัน

6. คนไทยเช่าแล้วรู้สึกยังไงกันนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยที่เคยเช่ารถกับ Avis เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ค่อนข้างไปในทางที่ดีเลยนะ จุดที่คนไทยประทับใจมักจะเป็นเรื่อง ความสะดวกที่สาขาสนามบิน การรับและคืนรถค่อนข้างง่ายและรวดเร็ว รถเช่าส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดี สะอาด ขับสบาย

แต่ก็มีบาง Feedback ที่ต้องระวังนะ เช่น เรื่อง ประกันที่ต้องอ่านรายละเอียดให้ดีๆ เพราะบางทีอาจจะเข้าใจผิดเรื่องความคุ้มครองและค่าเสียหายส่วนแรกได้ หรือเรื่อง ค่ามัดจำที่ค่อนข้างสูง อาจจะต้องเตรียมวงเงินในบัตรเครดิตไว้ให้พร้อม และบางช่วงที่คนเยอะๆ โดยเฉพาะสนามบิน อาจจะต้องรอคิวนานหน่อย

โดยรวมแล้ว คนไทยค่อนข้างพอใจกับมาตรฐานของ Avis นะ ถือเป็นตัวเลือกที่ เชื่อถือได้ สำหรับการเช่ารถในไทย

7. จะไปเช่ารถ Avis ได้ที่ไหนบ้าง?

ช่องทางการเช่ารถ Avis มีให้เลือกหลากหลายมากๆ เลยจ้า:

• เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของ Avis โดยตรง: อันนี้สะดวกที่สุดเลย สามารถเช็ครุ่นรถ ราคา และโปรโมชั่นได้ครบถ้วน จองและจ่ายเงินได้เลยทันที
• ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ (Call Center): ถ้าไม่สะดวกจองออนไลน์ หรือมีคำถามซับซ้อน คุยกับเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ก็ได้จ้า
• เคาน์เตอร์ Avis ตามสนามบินและสาขาในเมือง: อันนี้เหมาะกับคนที่อยากวอล์คอินเข้าไปสอบถาม หรือรับ-คืนรถที่สาขาโดยตรง สาขาสนามบินหลักๆ มีแน่นอน สะดวกมากๆ
• เว็บไซต์ของเอเจนซี่จองรถเช่าออนไลน์: เช่น Klook, Rentalcars.com, Kayak เว็บไซต์เหล่านี้จะรวบรวมรถเช่าจากหลายๆ บริษัทมาให้เปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขได้ในที่เดียว บางทีอาจจะเจอดีลดีๆ ที่ไม่มีบนเว็บ Avis โดยตรงก็ได้นะ
• บริษัทท่องเที่ยวหรือตัวแทนจำหน่าย: บางทีเค้าอาจจะมีแพ็กเกจเช่ารถรวมกับที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน ซึ่งอาจจะให้ราคาที่คุ้มค่ากว่า

เลือกช่องทางที่สะดวกและตอบโจทย์การเดินทางของเราที่สุดเลยจ้า

8. สรุปแล้ว Avis น่าเช่าไหม? เช่าแบบไหนประหยัดสุด?

สรุปแล้ว Avis เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับคนที่มองหารถเช่าที่ น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และสะดวกสบาย โดยเฉพาะถ้าเดินทางไปต่างจังหวัด หรือต้องการรับ-คืนรถที่สนามบิน ถึงราคาอาจจะไม่ได้ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการบางราย แต่ก็แลกมาด้วยความมั่นใจในบริการและสภาพรถ

ถ้าถามว่าเช่าแบบไหนประหยัดสุด? เคล็ดลับคือ:

• จองล่วงหน้า: ยิ่งจองเร็ว ยิ่งมีโอกาสได้ราคาดีและมีรถให้เลือกเยอะ
• เช่าระยะยาว: ถ้าเช่านานหลายวัน ลองดูราคาแบบรายสัปดาห์หรือรายเดือน มักจะถูกกว่ารายวันเยอะเลย
• เลือกประเภทรถให้เหมาะสม: ถ้าไปคนเดียวหรือสองคน ไม่ได้มีสัมภาระเยอะมาก รถเล็กๆ อย่าง Eco Car หรือ Compact Car ก็เพียงพอแล้ว ราคาประหยัดกว่ารถใหญ่เยอะ
• หมั่นเช็คโปรโมชั่น: ติดตามโปรโมชั่นบนเว็บไซต์ Avis หรือตามช่องทางพาร์ทเนอร์ต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว
• ทำความเข้าใจเรื่องประกัน: เลือกประกันที่เหมาะสมกับการเดินทางของเรา จะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายบานปลายถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเช่ารถกับ Avis นะจ๊ะ ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัยและสนุกกับการขับรถเที่ยวจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เช่ารถขับเที่ยวอิตาลีเอง..ง่ายกว่าที่คิด! | วิดีโอที่เผยแพร่โดย ...
• คู่มือเช่ารถขับที่เกาหลี: ประสบการณ์ไม่ยากเหมือนที่คิด
• ขั้นตอนเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น EP.1: จองง่ายจากไทย
• เช่ารถเที่ยวญี่ปุ่น: วิธีง่ายๆ ที่คุณต้องรู้!
• การเช่ารถ รับรถเช่า Avis | การติดต่อเช่ารถกับ Avis เมื่อเดินไปที่บูท ...