logo

รีวิว Weltrade โบรกเกอร์ Forex น่าเชื่อถือไหม? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

user avatar
ณิชากร เทพวงศ์·07/08/2025 12:50
点赞
รีวิว Weltrade โบรกเกอร์ Forex น่าเชื่อถือไหม? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

สวัสดีครับพี่น้องชาวสายเทรด! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยถึงโบรกเกอร์เจ้าหนึ่งที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อคุ้นหู หรือบางคนอาจจะกำลังเล็งๆ อยู่ นั่นก็คือ Weltrade นั่นเอง! ได้ข่าวว่าฝากถอนไวปรี๊ดปร๊าด แถมขั้นต่ำก็น้อยจิ๋วหลิว แต่...ความน่าเชื่อถือล่ะเป็นยังไง? จะโดนเทกลางทางไหม? มีดีมีเสียอะไรบ้างที่คนไทยอย่างเราควรรู้? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกแบบถึงพริกถึงขิง สไตล์บ้านๆ เข้าใจง่าย มีครบทุกมุมที่คุณอยากรู้ ก่อนตัดสินใจว่าจะเทรดดีไหม หรือจะ Say Goodbye!


1. ภาพรวม Weltrade: โบรกเกอร์นี้เป็นใคร มาจากไหน?

รู้จักกันคร่าวๆ ก่อน เหมือนไปดูตัว ว่าเจ้า Weltrade เนี่ยโปรไฟล์เป็นยังไง เหมาะจะเป็นคู่คิดทางการเทรดของเราหรือเปล่า

ชื่อเต็มๆ: Weltrade (ดำเนินงานภายใต้ Systemgates Ltd.) ถือกำเนิด: ตั้งแต่ปี 2006 โน่นแน่ะ ถือว่าอยู่ในวงการมานานพอตัวเลยนะ (เคยใช้ชื่อ SystemForex มาก่อนแล้วรีแบรนด์ปี 2012) ประเภทโบรกเกอร์: อันนี้แอบงงๆ หน่อย ข้อมูลมีทั้งบอกว่าเป็น Hybrid (ลูกผสมระหว่างส่งคำสั่งเข้าตลาดจริงกับจัดการกันเอง) หรือ Market Maker & STP หรือ STP อย่างเดียว สรุปคือไม่ได้เป็น ECN ล้วนๆ แบบใสๆ นั่นแหละ ใบอนุญาตที่เคลมว่ามี: หลักๆ คือ FSCA ของแอฟริกาใต้ นอกจากนี้ก็จดทะเบียนใน Saint Vincent and the Grenadines (SVG), Saint Lucia, และ Marshall Islands (ตรงนี้มีประเด็นสำคัญเรื่องความน่าเชื่อถือ เดี๋ยวเล่าให้ฟังเต็มๆ) จุดเด่นที่เคลมว่าเจ๋งจริง (ที่ได้ยินบ่อยๆ):

  • ฝากถอนไวเหมือนเสกได้: เคลมว่าส่วนใหญ่ไม่เกิน 30 นาที
  • ฝากขั้นต่ำน้อยชิบ: เริ่มต้นแค่ $1 หรือ $25 นี่มันเอาใจสายทุนน้อยชัดๆ
  • แพลตฟอร์มคุ้นเคย: มี MT4/MT5 ให้ใช้
  • มีซัพพอร์ตคนไทย: อันนี้สำคัญมาก!
  • มีบัญชีให้เลือกเยอะ: หลายแบบ หลายสไตล์การเทรด
  • มีโปรโมชั่นกับโบนัสล่อตาล่อใจ: แจกเก่งอยู่

2. แพลตฟอร์มที่ใช้เทรด: หน้าตาเป็นยังไง ใช้งานง่ายไหม?

เปรียบเหมือนหน้าร้าน หรือแอปช้อปปิ้งที่เราต้องเข้าไปใช้บริการ Weltrade เขามีแพลตฟอร์มอะไรให้เราเลือกใช้บ้าง?

แพลตฟอร์มหลักๆ: มีตัวท็อปฮิตอย่าง MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ครบเลยจ้า ใช้ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ (Windows, Mac), บนเว็บเทรดผ่าน Browser ได้เลย ไม่ต้องลงโปรแกรม, และแน่นอน บนมือถือ (iOS, Android)

หน้าตาและการใช้งาน: MT4/MT5 นี่เขาว่าง่ายอยู่แล้ว คุ้นเคยกันดีสำหรับนักเทรดส่วนใหญ่ กราฟเอย อินดิเคเตอร์เอย เครื่องมือก็มาตรฐานครบครัน จะดูกราฟ ตีเส้น หาจุดเข้าจุดออก ก็ทำได้คล่องตัวดี

เครื่องมือเสริม: มีเครื่องมือพื้นฐานตามสไตล์ MT4/MT5 แต่บางแหล่งก็บอกว่าเครื่องมือวิเคราะห์ตลาด หรือเครื่องมือเสริมอื่นๆ อาจจะไม่เยอะเท่าโบรกเกอร์ใหญ่ๆ


3. ประสบการณ์เทรดจริง: สเปรดกว้างไหม ฝากถอนง่ายจริงป่าว?

มาถึงเรื่องที่นักเทรดอย่างเราให้ความสำคัญสุดๆ นั่นก็คือ ตอนเทรดจริงเป็นยังไง? ต้นทุนเท่าไหร่? เงินเข้าออกมีปัญหาไหม?

ประเภทบัญชี: Weltrade มีบัญชีให้เลือกเยอะอยู่ ที่เด่นๆ คือ

  • **Micro:** สำหรับมือใหม่ ทุนน้อย เริ่มแค่ $1 หรือ $25 ก็เทรดได้ หน่วยเป็น Cents ทำให้พอร์ตดูเยอะ เทรดไซส์เล็กๆ ฝึกฝนได้ดี
  • **Premium:** ขั้นต่ำ $25 สเปรดเริ่มต้น 1.5 pips เลเวอเรจสูงสุด 1:1000
  • **Pro:** ขั้นต่ำสูงขึ้นหน่อย ($100 หรือ $500) สเปรดแคบลง เริ่ม 0.5 pips เหมาะกับคนเทรดเยอะขึ้น
  • **SyntX:** บัญชีพิเศษสำหรับเทรด Synthetic Indices เลเวอเรจโหดสุด 1:10000
  • **Islamic:** บัญชีปลอด Swap สำหรับพี่น้องมุสลิม

มีบัญชี Demo ให้ลองเทรดฟรีก่อนด้วยนะ

สเปรดและค่าคอมมิชชั่น: สเปรดลอยตัว แตกต่างกันไปตามประเภทบัญชี เช่น Micro เริ่ม 1.5 pips, Pro เริ่ม 0.5 pips ส่วนใหญ่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นนะ ยกเว้นบางประเภทบัญชี แต่บางรีวิวก็บอกว่าสเปรดบางคู่สูงอยู่ โดยเฉพาะพวกคริปโต บางทีคำนวณต้นทุนรวมสเปรดกับค่าคอมแล้วก็ไม่ได้ถูกเว่อร์วังมากนัก

ความเร็วในการส่งคำสั่ง: บางแหล่งบอกเฉลี่ย 206.61 ms, บางทีก็ 0.9s สำหรับ Micro, 0.5s สำหรับ Pro ส่วนใหญ่ก็เคลมว่าเร็วดี แต่ก็มีรายงานเรื่อง Slippage หรือราคาคลาดเคลื่อนบ้างในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง ซึ่งอันนี้ก็เจอได้ทั่วไปแหละ

เทรดอะไรได้บ้าง: มีให้เทรดพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับโบรกเกอร์ใหญ่ๆ อาจจะไม่ได้เยอะเท่า มี Forex (ประมาณ 34-37 คู่), โลหะ (ทองคำ เงิน), สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี, หุ้น CFD, คริปโต, และ Synthetic Indices

เลเวอเรจ: ให้เยอะอยู่ สูงสุด 1:1000 ในบัญชีส่วนใหญ่ บัญชี Micro บางแหล่งบอกถึง 1:2000 ส่วน SyntX จัดไป 1:10000 เลยจ้า เลเวอเรจเยอะก็เหมือนได้เงินมาต่อยอดเยอะ แต่ก็เสี่ยงล้างพอร์ตไวขึ้นนะ ใช้สติด้วย!


4. ฝาก-ถอนเงิน & ความง่ายในการใช้งาน: เรื่องเงินเรื่องใหญ่!

อันนี้คือหัวใจของนักเทรดไทยหลายคนเลย เพราะถ้าฝากยาก ถอนช้า มีปัญหา บอกเลยว่าหัวจะปวด!

ช่องทางฝาก-ถอน: มีช่องทางให้เลือกเยอะเหมือนกันนะ ที่คนไทยชอบๆ ก็มีผ่านธนาคารไทย, บัตรเครดิต/เดบิต, E-wallet ยอดฮิตต่างๆ, และคริปโตก็มี

ความเร็ว: ตรงนี้แหละที่ Weltrade เคลมหนักมากว่า ถอนไวปรี๊ด! ส่วนใหญ่ใช้เวลาดำเนินการแค่ 30 นาที อันนี้ถือว่าเร็วสะใจมากจริงๆ แต่! ก็มีเสียงบ่นจากผู้ใช้งานบางส่วนว่าเจอเคสถอนช้า หรือมีปัญหาบ้างเหมือนกันนะ ส่วนการฝากเงินก็ขึ้นอยู่กับช่องทางที่ใช้

ค่าธรรมเนียม: เคลมว่าฝากเงินฟรีค่าธรรมเนียม แต่ตอนถอนมีค่าธรรมเนียมนะจ๊ะ เช่น ถอนผ่านธนาคารไทยมีค่าธรรมเนียม 2% ช่องทางอื่นก็มีเรทแตกต่างกันไป บางรีวิวก็บอกว่าค่าธรรมเนียมถอนสูง หรือบางทีกำกวมอยู่

การยืนยันตัวตน (KYC): ต้องทำแหละ เพื่อความปลอดภัยและตามกฎ (แม้กฎเขาจะไม่เข้มมากนัก) ก็เตรียมเอกสารยืนยันตัวตนกับที่อยู่ไว้ให้พร้อม กระบวนการโดยรวมก็ดูไม่ยุ่งยากอะไร

บริการลูกค้า: มีทีมซัพพอร์ตคอยดูแล ที่สำคัญคือมี ซัพพอร์ตคนไทย ด้วยนะ! ติดต่อได้หลายช่องทาง ทั้ง Live Chat, อีเมล, โทรศัพท์ แต่เรื่องความเร็วในการตอบกลับก็มีทั้งคนชมว่าเร็ว กับคนบ่นว่าช้าหรือไม่ค่อยช่วยแก้ปัญหาได้

เว็บไซต์ภาษาไทย: มีรองรับภาษาไทยจ้า ใช้งานง่าย ไม่ต้องมานั่งงมภาษาปะกิด


5. ความน่าเชื่อถือและความมั่นคง: เรื่องนี้ต้องขยี้!

มาถึงประเด็นร้อน! Weltrade น่าเชื่อถือจริงไหม เงินเราจะปลอดภัยหรือเปล่า?

ใบอนุญาตและการกำกับดูแล: อันนี้แหละที่เป็นจุดน่าเป็นห่วงที่สุด! Weltrade เคลมว่ามีใบอนุญาต FSCA ของแอฟริกาใต้ แต่มันมีข้อมูลที่ขัดแย้งและน่าสงสัยหลายอย่าง บางแหล่งบอกใบอนุญาต FSCA อาจจะ "Exceeded" (หมดอายุ/ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด?) หรือตรวจสอบยาก แถมใบอนุญาตในบางประเทศอย่างเบลารุสกับเบลีซก็ถูกเพิกถอนไปแล้ว ที่ตั้งบริษัทหลักๆ อยู่ใน Saint Vincent and the Grenadines (SVG) ซึ่งเป็นเขต Offshore ที่ขึ้นชื่อเรื่องกฎระเบียบหย่อนยานมากๆ ไม่ได้มีการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้าที่เข้มงวดเท่าโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้ใบอนุญาตระดับ Tier-1 อย่าง FCA (อังกฤษ), ASIC (ออสเตรเลีย), CySEC (ไซปรัส) **สรุปง่ายๆ คือ ด้าน Regualtion Weltrade ยังจัดว่าอ่อนปวกเปียกมาก!**

ความมั่นคงทางการเงิน: มีบางแหล่งบอกว่าแยกบัญชีลูกค้าออกจากบัญชีบริษัท (Segregated Account) แต่อีกแหล่งบอกว่าไม่มี อันนี้ข้อมูลไม่ตรงกันแฮะ! แต่มีระบบ Negative Balance Protection คือเงินในพอร์ตไม่ติดลบเกินเงินที่เราฝากไว้ อันนี้ก็พอช่วยได้บ้างเวลาตลาดเหวี่ยงแรงๆ

ประวัติ: ก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี 2006 ก็ถือว่ามีประสบการณ์อยู่รอดในตลาดมาได้เป็นสิบปี

ชื่อเสียง/รีวิวจากผู้ใช้จริง: เสียงตอบรับมีทั้งดีและไม่ดีปนกันไป คนที่ชอบก็ชมเรื่องฝากถอนไว ขั้นต่ำน้อย แต่ที่น่ากังวลคือมีคนบ่นเรื่องถอนเงินไม่ได้ หรือดีเลย์หนักมาก บางคนถึงขั้นโดนบล็อกบัญชีหลังทำกำไรได้เยอะๆ โดยอ้างว่าใช้ข้อมูลปลอมหรือปั่นราคา คะแนนรีวิวใน WikiFX ก็ค่อนข้างต่ำ (2.50/10) และมีคำเตือนให้ "อยู่ห่างๆ" บางแหล่งฟันธงเลยว่า "ไม่น่าเชื่อถือ" เพราะไม่มีใบอนุญาตระดับสูง **ตรงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ!**


6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งน้ำหนักกันดู!

มาสรุปแบบชัดๆ ฟันธงไปเลยว่ามีอะไรน่าสนใจ และอะไรที่ต้องทำใจ

ข้อดี (ที่น่าจะถูกใจคนไทย):

  • ฝาก-ถอนไวปรี๊ด! เคลมว่า 30 นาที อันนี้คือจุดเด่นที่น่าดึงดูดสุดๆ
  • ฝากขั้นต่ำน้อยมาก: แค่ $1 หรือ $25 ทำให้มือใหม่ หรือคนอยากลอง เริ่มได้ง่ายๆ
  • มีซัพพอร์ตคนไทย: สื่อสารง่าย แก้ปัญหาได้ตรงจุดกว่า
  • แพลตฟอร์ม MT4/MT5 ใช้งานง่าย: เป็นที่คุ้นเคยอยู่แล้ว ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่เยอะ
  • มีบัญชี Micro (Cent): เหมาะกับมือใหม่หัดขับมากๆ

ข้อเสีย (ที่ต้องระวังให้หนัก!):

  • เรื่องใบอนุญาตนี่แหละปัญหาใหญ่: ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับสากลที่น่าเชื่อถือสูง ส่วน FSCA ก็ยังมีข้อกังขา และไปจดทะเบียนในเขต Offshore ที่กฎหมายไม่เข้มงวด
  • มี Feedback ด้านลบเรื่องการถอนเงิน: แม้จะเคลมว่าไว แต่ก็มีผู้ใช้จริงบ่นเรื่องถอนช้า หรือมีปัญหา บางเคสดูน่ากลัวมาก
  • ความน่าเชื่อถือโดยรวมต่ำ: คะแนน WikiFX ต่ำ และหลายแหล่งไม่แนะนำให้ใช้ถ้าเน้นความปลอดภัยของเงินทุน
  • เครื่องมือและตราสารการเทรดอาจไม่หลากหลายเท่าโบรกใหญ่: ถ้าชอบเทรดสินทรัพย์แปลกๆ อาจจะต้องดูโบรกอื่น
  • ค่าธรรมเนียมถอนเงินมีอยู่ และบางทีอาจจะไม่ชัดเจน:

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการตัดสินใจ: ซื้อเลยไหม? หรือหนีไป?

แล้วสรุป Weltrade เหมาะกับนักเทรดสไตล์ไหนล่ะ?

เหมาะกับ:

  • **มือใหม่ทุนน้อยมากๆ:** ที่อยากลองเทรดด้วยเงินไม่เยอะ ด้วยบัญชี Micro
  • **คนที่เน้นฝากถอนไวโคตรๆ:** และยอมรับความเสี่ยงเรื่องความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง
  • **คนที่สบายใจกับการมีซัพพอร์ตคนไทย:** ชอบคุยง่ายๆ ไม่ต้องติดปัญหาภาษา

อาจจะไม่เหมาะกับ:

  • **นักเทรดที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินทุนเป็นอันดับแรก:** และต้องการโบรกเกอร์ภายใต้ใบอนุญาตระดับสูงสุด
  • **คนที่เทรดด้วยเงินก้อนใหญ่มากๆ:** เพราะความเสี่ยงจากการที่โบรกเกอร์ไม่ได้ถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวดอาจสูงเกินไป
  • **คนที่ต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ หรือตราสารเทรดที่หลากหลายมากๆ:**

คำแนะนำในการซื้อ (หรือตัดสินใจใช้บริการ): ถ้าคุณเป็นมือใหม่ งบน้อยจริงๆ และอยากลองตลาด Forex โดยเริ่มจากเงินจำนวนน้อยมากๆ (ย้ำว่าน้อยมากๆ!) เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจ Weltrade ก็อาจจะเป็นตัวเลือกในการ "ลอง" ได้ **แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องความน่าเชื่อถือและปัญหาการถอนเงินที่อาจเกิดขึ้นได้สูงมากๆ**

**คำแนะนำคือ:** * ถ้าเป็นไปได้ ให้มองหาโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตระดับ Tier-1 ที่น่าเชื่อถือสูงกว่านี้จะปลอดภัยกับเงินของคุณในระยะยาวมากกว่า * ถ้ายังอยากลอง Weltrade ให้เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และลองทดสอบระบบฝาก-ถอนด้วยเงินน้อยๆ ดูก่อน ห้าม! ฝากเงินก้อนใหญ่เข้าไปเด็ดขาด! * ใช้บัญชี Demo ให้คล่องก่อนลงสนามจริง


8. เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ: เขาเป็นไง เพื่อนเป็นไง? (เลือกใส่ก็ได้)

ลองเทียบกับเจ้าอื่นๆ ที่คนไทยนิยมหน่อย

ถ้าเทียบกับโบรกเกอร์เจ้าใหญ่ที่คนไทยนิยมมากๆ อย่าง Exness หรือ XM ซึ่งมีใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือกว่าเยอะ (เช่น CySEC, ASIC) เรื่องความปลอดภัยของเงินทุนจะดูดีกว่า Weltrade แบบคนละเรื่องเลย แต่ Exness ก็ขึ้นชื่อเรื่องฝากถอนไวเหมือนกันนะ ส่วน XM ก็มีโปรโมชั่นเยอะและซัพพอร์ตดี

Weltrade จะได้เปรียบตรงขั้นต่ำในการเริ่มต้นที่อาจจะน้อยกว่า (บางบัญชี) และการเคลมเรื่องความเร็วในการถอน แต่ต้องแลกมากับความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและความน่าเชื่อถือที่ด้อยกว่าอย่างชัดเจน


9. การสนับสนุนและช่องทางอื่นๆ: มีอะไรช่วยให้เทรดง่ายขึ้นบ้าง?

นอกจากแพลตฟอร์มเทรดแล้ว เขามีอะไรซัพพอร์ตเราอีกไหม?

บริการลูกค้า: ย้ำอีกทีว่ามีซัพพอร์ตคนไทย ติดต่อได้ทั้ง Live Chat, อีเมล, โทรศัพท์ ส่วนใหญ่บอกว่าบริการ 24/5 หรือ 24/7 แต่คุณภาพในการตอบก็มีคนบ่นบ้าง

แหล่งความรู้: มีพวกบทความ หรือ Webinar สอนเทรดอยู่บ้างนะ มีบัญชี Demo ให้ฝึก และมี MQL5 Signals ให้ใช้งานได้ผ่านแพลตฟอร์ม MT4/MT5

ช่องทางโซเชียล/ชุมชน: มี Facebook, Instagram, Youtube อาจจะมีกลุ่มให้ติดตามข่าวสารหรือพูดคุยกันได้


10. บทสรุปและคำแนะนำสุดท้าย: ฟันธง!

โอเค มาถึงช่วงตัดสินใจครั้งสุดท้าย

จากข้อมูลทั้งหมดที่รีวิวมา Weltrade มีจุดแข็งที่น่าสนใจคือ ฝากถอนไวมาก และ ขั้นต่ำในการเปิดบัญชีต่ำ รวมถึงมี ซัพพอร์ตคนไทย ซึ่งตรงใจนักเทรดมือใหม่ หรือคนทุนน้อยที่อยากลองมากๆ

แต่!!! ข้อเสียที่สำคัญมากๆ คือเรื่อง ใบอนุญาตและการกำกับดูแลที่อ่อนแอ และมี เสียงร้องเรียนจากผู้ใช้จริงเกี่ยวกับปัญหาการถอนเงิน ในเคสที่น่ากังวลหลายเคส ซึ่งตรงนี้เป็นความเสี่ยงที่สูงลิบลิ่วสำหรับเงินในพอร์ตของคุณ

คำแนะนำสุดท้าย: ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้สูงมากๆ และอยากลองโบรกเกอร์ที่ฝากถอนไวสุดๆ โดยเริ่มจากเงินแค่หลักร้อยบาทไทย Weltrade **อาจจะ**พอให้ลองได้ แต่ต้องทำใจว่าเงินก้อนนั้นอาจจะมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาในการถอนสูงกว่าปกติ

แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินทุน เทรดด้วยเงินจำนวนพอสมควร หรือไม่อยากมานั่งลุ้นว่าจะถอนเงินได้ไหม... Weltrade ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าแนะนำในตอนนี้! แนะนำให้มองหาโบรกเกอร์อื่นที่มีใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือและมั่นคงกว่านี้จะดีต่อสุขภาพจิตและสุขภาพพอร์ตของคุณในระยะยาวมากกว่าค่ะ

ลองพิจารณาข้อดีข้อเสียที่เล่ามาทั้งหมดดูนะคะ ตัดสินใจให้รอบคอบ เงินทองไม่เข้าใครออกใครจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ้โห! วันนี้จะพาไปวาร์ปย้อนยุคกันที่ สวนคุณปู่ Life Museum แหม แค่ชื่อก็กินขาดแล้วป่ะ! หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้แว่วๆ โดยเฉพาะสายเที่ยว สายคาเฟ่ที่ชอบวิวปังๆ แต่สงสัยกันไหมว่าที่นี่มันมีอะไรดีนอกจากวิวสวยๆ? เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา หรือเป็
รีวิว สวนคุณปู่ สถานที่ท่องเที่ยว/ร้านอาหาร บรรยากาศย้อนยุค
โอ้โห! วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ที่แค่ชื่อก็กินขาด แถมยังเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเราด้วยนะ กับเรื่อง "Clickbait" ที่เคลมว่าเป็นแนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบสุดๆ คำถามคาใจคือ...มันจริงเด๊ะ? แล้วมันจะทำให้เราอดหลับอดนอนดูยันเช้าเหมือนท
รีวิว Clickbait: ซีรีส์/ภาพยนตร์แนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบไหม?
หนีเมืองกรุงไปพักใจริมน้ำ! วันนี้เราจะพาไปส่อง "บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?" ที่พักที่ได้ยินชื่อแล้วต่อมอยากพักผ่อนริมน้ำก็พุ่งกระฉูด! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ...พักบ้านเรือ มันจะโค
รีวิว บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?

บทความที่แนะนำ