logo

รีวิว Epson Perfection V800 Photo: สแกนเนอร์ฟิล์ม/ภาพถ่าย คุณภาพสูง มืออาชีพ?

user avatar
สุวนันท์ วิเศษสมบัติ·07/08/2025 12:58
点赞
รีวิว Epson Perfection V800 Photo: สแกนเนอร์ฟิล์ม/ภาพถ่าย คุณภาพสูง มืออาชีพ?

ฮัลโหลลลล! ใครเป็นเหมือนกันบ้างคะ? มีกองฟิล์มเก่าๆ สไลด์สีจางๆ หรือรูปถ่ายสมัยคุณพ่อคุณแม่ยังหนุ่มยังสาวกองเต็มบ้านไปหมด แล้วก็อยากจะเอาความทรงจำเหล่านั้นกลับมาซ่าในโลกดิจิทัลอีกครั้ง แต่ครั้นจะยกไปร้านสแกนก็กลัวจะไม่เนียนบ้างล่ะ ค่าใช้จ่ายบานปลายบ้างล่ะ วันนี้เราเลยจะมาเจาะลึกรีวิวสแกนเนอร์ตัวตึงที่เขาว่ากันว่าโปรเฟสชั่นแนลสุดๆ นั่นก็คือ Epson Perfection V800 Photo สแกนเนอร์ตัวนี้มันดีจริงสมคำร่ำลือไหม? คุ้มมั้ยที่จะลงทุน? ตามมาดูกันแบบหมดเปลือกเลยจ้า!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: มารู้จักเจ้า V800 กันก่อน!

ถ้าพูดถึงสแกนเนอร์คุณภาพสูงสำหรับคนเล่นกล้อง เล่นฟิล์ม หรือคนที่อยากเก็บรักษาภาพเก่าๆ ให้คงสภาพดี Epson V800 Photo นี่แหละคือชื่อที่มักจะเด้งขึ้นมาในลิสต์ต้นๆ เลยล่ะ

แบรนด์: Epson
รุ่น: Perfection V800 Photo
ปีที่วางขาย: เปิดตัวตั้งแต่ปลายปี 2014 นู่นแน่ะ แต่ยังคงเป็นตัวท็อปที่คนหากันอยู่ (ถึงแม้จะมีรุ่น V850 Pro ออกมาทีหลังก็ตาม แต่ V800 ก็ยังน่าสนใจอยู่ดี)
ช่วงราคาขาย: ตัวนี้ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ หลักสองหมื่นปลายๆ ไปจนถึงสามหมื่นกว่าบาทแล้วแต่ร้านและโปรโมชั่น

การวางตำแหน่งสินค้า: เป็นสแกนเนอร์ระดับโปรsumer ถึงโปรเฟสชั่นแนล เหมาะกับคนที่ต้องการคุณภาพไฟล์สูงๆ จริงจังกับการสแกนฟิล์ม สไลด์ และภาพถ่าย ไม่ใช่แค่สแกนเอกสารธรรมดาๆ

จุดเด่นหลักๆ ที่เขาเคลมไว้:

  • สแกนฟิล์มได้สารพัดขนาด ทั้ง 35mm (แบบ strip และแบบสไลด์), Medium Format, และ Large Format (4x5 นิ้ว)
  • ความละเอียดสูงสะใจ สูงสุด 6400 dpi สำหรับฟิล์ม และ 4800 dpi สำหรับภาพถ่าย/เอกสาร มีระบบ Dual Lens สลับเลนส์ให้อัตโนมัติ
  • ค่า Dmax สูงถึง 4.0 ช่วยให้เก็บรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีเยี่ยม
  • เทคโนโลยี Digital ICE ช่วยลบฝุ่น รอยขนแมว และรอยนิ้วมือได้อัตโนมัติทั้งจากฟิล์มและภาพถ่าย สะดวกสุดๆ!
  • หลอดไฟ LED ReadyScan เปิดปุ๊บ สแกนได้ปั๊บ ไม่ต้องวอร์มเครื่องนาน
  • มาพร้อมโปรแกรม SilverFast SE ซึ่งเป็นโปรแกรมสแกนตัวเก่งที่หลายคนยกนิ้วให้

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ใหญ่ เทอะทะ แต่ดูจริงจัง!

เห็นครั้งแรกต้องบอกเลยว่า "ใหญ่" ค่ะคุณ! วางบนโต๊ะทำงานธรรมดาๆ นี่กินพื้นที่ไปเยอะเหมือนกันนะ ดีไซน์สีดำเรียบๆ ดูแข็งแรงทนทานสมกับเป็นอุปกรณ์มืออาชีพ

ขนาดและน้ำหนัก: ตัวเครื่องขนาด 503 x 308 x 152 มม. น้ำหนักประมาณ 6.6 กก. ยกคนเดียวไหวอยู่แต่ก็เมื่อยหน่อยๆ แหละ เหมาะกับการวางประจำที่ ไม่ได้ออกแบบมาให้แบกไปไหนมาไหน

วัสดุ: ดูแข็งแรงทนทาน ไม่ก๊องแก๊ง

สีที่มีให้เลือก: ส่วนใหญ่จะเจอแต่สีดำนะ

เหมาะกับวางไว้ที่ไหน: โต๊ะทำงานในบ้าน สตูดิโอเล็กๆ หรือมุมโปรดที่มีพื้นที่พอสมควร

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ที่เด็ดเลยคือให้ Film Holders มาหลายแบบมากๆ ทั้งสำหรับฟิล์ม 35mm (แบบ strip และแบบสไลด์), Medium Format, และ 4x5 นิ้ว พวก Film Holders รุ่น V800 จะพิเศษตรงที่มีกระจกกันฝุ่นและปรับความสูงได้ด้วยนะ นอกจากนั้นก็มีสาย USB, สายไฟ, คู่มือ, และแผ่น CD โปรแกรม (ซึ่งเดี๋ยวนี้อาจจะดาวน์โหลดจากเว็บเอามากกว่า)


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: สแกนฟิล์มเก่าให้เหมือนใหม่!

นี่คือหัวใจหลักของเจ้า V800 เลยค่ะ เพราะมันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้! การสแกนฟิล์มและสไลด์คือจุดเด่นจริงๆ

พอได้ลองเอาฟิล์มเก่าๆ สมัยไปเที่ยวต่างจังหวัดเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมาสแกน คือว้าวมาก! รายละเอียดมาครบ สีสันที่เคยมองว่าจืดชืดก็กลับมาสดใสขึ้นเยอะเลย

ความละเอียด: สำหรับฟิล์มสแกนได้สูงสุด 6400 dpi ซึ่งให้รายละเอียดที่คมกริบมากๆ เอาไปพิมพ์ขยายใหญ่ๆ ก็ยังสบาย ส่วนภาพถ่ายก็สแกนได้ 4800 dpi ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว

ระบบ Dual Lens: สแกนเนอร์จะเลือกเลนส์ให้เองว่าจะใช้ 4800 dpi หรือ 6400 dpi ตามโหมดที่เราเลือก คือถ้าใช้ Film Holder สแกนฟิล์ม มันก็จะเลือก 6400 dpi ให้อัตโนมัติ ถ้าสแกนภาพถ่ายบนแท่นกระจกก็ใช้ 4800 dpi เป็นระบบที่สะดวกดี

Digital ICE: อันนี้คือของวิเศษ! เอาฟิล์มที่มีฝุ่น มีรอยขีดข่วนเล็กๆ มาสแกน เปิดใช้ Digital ICE ตัวโปรแกรมจะใช้แสงอินฟราเรดตรวจจับและลบออกให้เลย ประหยัดเวลาแต่งรูปไปได้เยอะมาก! แต่ถ้าฟิล์มเสียหายหนักๆ หรือเป็นขาวดำบางประเภท Digital ICE อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่นะ

การสแกนฟิล์มขนาดต่างๆ: Film Holders ที่ให้มาทำให้การสแกนง่ายขึ้นเยอะ จัดวางฟิล์มได้พอดี ไม่เลื่อนไปมา Film Holder แบบปรับความสูงได้ก็ช่วยให้โฟกัสได้คมขึ้นด้วย

ความเร็ว: ก็ไม่ได้เร็วปรู๊ดปร๊าดเหมือนสแกนเอกสารทั่วไปนะ ยิ่งตั้งความละเอียดสูงๆ ก็ยิ่งใช้เวลา แต่สำหรับคุณภาพที่ได้ ถือว่ายอมรับได้ การสแกน A4 300dpi ใช้เวลาประมาณ 12 วินาที


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: โปรแกรมเก่ง แต่ก็ต้องทำความเข้าใจนิดนึง

ตัวเครื่องใช้งานไม่ยากค่ะ แค่เสียบสายไฟ เสียบสาย USB เข้าคอมพ์ แล้วก็เปิดเครื่อง แต่ความง่ายในการใช้งานจริงๆ จะอยู่ที่ Software ที่ใช้มากกว่า

Software ที่ให้มา: หลักๆ จะมี Epson Scan และ SilverFast SE ตัว Epson Scan ใช้งานง่าย หน้าตาไม่ซับซ้อน เหมาะกับคนเริ่มต้น ส่วน SilverFast SE เนี่ยเป็นโปรแกรมสแกนที่ละเอียดมาก ปรับตั้งค่าได้เยอะแยะไปหมด ถ้าใครอยากได้คุณภาพสูงสุด ต้องใช้ตัวนี้แหละ แต่ก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้พอสมควร เมนูรองรับภาษาไทยไหม? ตัวโปรแกรม Epson Scan รองรับภาษาไทยค่ะ

การเชื่อมต่อ: ใช้สาย USB 2.0 ในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ไม่มี Wi-Fi หรือ Ethernet นะ

เสียง: ตอนสแกนมีเสียงมอเตอร์ทำงาน แต่ก็ไม่ได้ดังจนน่ารำคาญ

ความร้อน: ตัวเครื่องไม่ร้อนจนน่าตกใจ ทำงานต่อเนื่องได้สบายๆ


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: กินไฟไม่เยอะ แต่คุ้มไหมต้องดูที่การใช้งาน

แน่นอนว่าเป็นสแกนเนอร์แบบเสียบปลั๊กไฟ ไม่ได้ใช้แบตเตอรี่ เรื่องการกินไฟถือว่าไม่เยอะมาก ใช้หลอด LED ที่ประหยัดพลังงาน

การใช้พลังงาน: ตอนใช้งานประมาณ 23 วัตต์, โหมด Ready ประมาณ 12 วัตต์, โหมด Sleep แค่ 1.5 วัตต์ ถือว่าไม่เปลืองไฟเลย

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ ก็จะเป็นค่าไฟ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าตัวเครื่อง อะไหล่ที่อาจจะต้องเปลี่ยนในอนาคตคือหลอดไฟ LED แต่โดยปกติจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากๆ

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ด้วยราคาที่อยู่ในระดับสูง เจ้า V800 ไม่ใช่สแกนเนอร์ที่เหมาะกับทุกคน ถ้าคุณแค่ต้องการสแกนเอกสารทั่วไป หรือสแกนภาพถ่ายนิดๆ หน่อยๆ ปีละครั้งสองครั้ง ตัวนี้อาจจะเกินความจำเป็นไปมาก แต่ถ้าคุณเป็นคนที่จริงจังกับการถ่ายรูปฟิล์ม มีคลังฟิล์มเก่า สไลด์เก่าเยอะแยะที่อยากเก็บรักษาไว้ด้วยคุณภาพสูงสุด หรือเป็นช่างภาพที่รับสแกนฟิล์ม อันนี้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ เพราะคุณภาพไฟล์ที่ได้อยู่ในระดับที่เอาไปใช้งานต่อได้สบายๆ


6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งน้ำหนักกันหน่อย!

ทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีข้อเสีย มาดูกันแบบกลางๆ ไม่อวยเกินจริง

ข้อดีที่คนไทยน่าจะชอบ:

  • สแกนฟิล์มเก่าให้กลับมาสวยได้จริง ด้วยคุณภาพและความละเอียดสูง
  • Digital ICE ช่วยชีวิต! ลบฝุ่น ลบรอยได้ง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาแต่งรูปเยอะ
  • รองรับฟิล์มหลากหลายขนาด Film Holders ที่ให้มาครบถ้วน
  • โปรแกรม SilverFast ช่วยให้งานโปรขึ้น ถ้าเรียนรู้การใช้งาน
  • ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน ดูแล้วใช้นานได้หลายปี

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

  • ราคาค่อนข้างสูง งบไม่ถึงอาจจะต้องคิดหนัก
  • ตัวเครื่องใหญ่และหนัก กินพื้นที่บนโต๊ะพอสมควร
  • โปรแกรม SilverFast ค่อนข้างซับซ้อน ต้องใช้เวลาศึกษา
  • การเชื่อมต่อยังเป็น USB 2.0 ไม่ใช่ USB 3.0 ที่เร็วกว่า
  • ไม่เหมาะกับคนแค่สแกนเอกสารทั่วไป ฟังก์ชันและราคามันเกินตัวไปเยอะ

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควักเงิน ใครควรรอก่อน?

เจ้า Epson Perfection V800 Photo เนี่ย ไม่ใช่สแกนเนอร์สำหรับคนหมู่มากค่ะ แต่เหมาะกับกลุ่มคนเฉพาะทางมากกว่า

เหมาะกับใคร:

  • ช่างภาพที่ถ่ายรูปฟิล์มเป็นประจำ: ทั้ง 35mm, Medium Format, Large Format
  • คนที่ต้องการ Digitalize คลังภาพเก่า/ฟิล์มเก่าของครอบครัว ด้วยคุณภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • นักอนุรักษ์ภาพถ่าย หรือคนที่ทำ Archive รูปเก่าๆ
  • คนที่ต้องการไฟล์สแกนคุณภาพสูงเพื่อนำไปพิมพ์งานต่อ หรือใช้งานเชิงพาณิชย์เล็กๆ
  • คนที่พอมีความรู้เรื่องการใช้โปรแกรมแต่งรูปอยู่บ้าง เพราะไฟล์ที่ได้จาก SilverFast สามารถนำไปปรับต่อใน Photoshop ได้อีก

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

  • สแกนฟิล์มเนกาทีฟและสไลด์ทุกขนาด
  • สแกนภาพถ่ายสีและขาวดำ
  • สร้างไฟล์ภาพคุณภาพสูงสำหรับเก็บเป็น Digital Archive

ควรซื้อเลยไหม?: ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเป้าหมายข้างต้น และมีงบประมาณถึง ถือว่าน่าลงทุนมากค่ะ เพราะมันคือเครื่องมือที่ช่วยรักษาความทรงจำอันล้ำค่าของคุณให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลด้วยคุณภาพที่ดีที่สุด ส่วนจะรอช่วงโปรโมชั่นดีไหม? สินค้าเฉพาะทางแบบนี้โปรโมชั่นอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าสินค้า Gadget ทั่วไป แต่ก็อาจจะมีส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ หรือของแถมตามร้านค้าออนไลน์ ลองเช็คราคาจากหลายๆ แหล่งก่อนตัดสินใจซื้อก็ดีค่ะ


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มีตัวเลือกอื่นอีกไหม?

ในตลาดสแกนเนอร์ Flatbed ที่เน้นสแกนฟิล์มคุณภาพสูง เจ้า V800 ก็มีคู่แข่งอยู่บ้าง ที่เห็นชัดๆ ก็คือ:

  • Epson Perfection V850 Pro: เป็นรุ่นพี่ของ V800 ที่ยังคงมีขายอยู่ในปัจจุบัน คุณภาพใกล้เคียงกันมาก แต่ V850 Pro จะมี Film Holders ที่ดีกว่านิดหน่อย (เป็น Anti-Newton Ring Glass ทั้งหมด) และมีซอฟต์แวร์ SilverFast มาในเวอร์ชันที่สูงกว่า (Ai Studio แทนที่จะเป็น SE) ถ้ามีงบและอยากได้สุดๆ ไป V850 Pro ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเน้นคุ้ม V800 ที่ราคาถูกลงมา ก็นับว่าใช้งานได้ดีไม่แพ้กันเลย
  • Canon CanoScan 9000F Mark II: เป็นสแกนเนอร์ Flatbed อีกตัวที่สแกนฟิล์มได้ แต่คุณภาพและความสามารถในการจัดการฟิล์มหลากหลายขนาดอาจจะยังไม่เท่า V800/V850 และซอฟต์แวร์ที่ให้มาก็ไม่เทียบเท่า SilverFast

สรุปคือ ถ้าเน้น Flatbed Scanner ที่สแกนฟิล์มได้ดีมากๆ ในตลาดตอนนี้ Epson V800/V850 ก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ อยู่ค่ะ


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

การรับประกัน: โดยทั่วไปสินค้า Epson จะมีการรับประกัน 1 ปี ถ้าเครื่องมีปัญหา สามารถส่งเข้าศูนย์บริการของ Epson ในไทยได้เลยค่ะ ส่วนใหญ่ร้านค้าที่ขายก็จะมีบริการหลังการขายให้ด้วย

ช่องทางการซื้อ:

  • ร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ: Lazada, Shopee มีร้านค้าทางการของ Epson หรือร้านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ
  • ร้านกล้อง หรือร้านอุปกรณ์ถ่ายภาพเฉพาะทาง: บางร้านอาจจะมีขายหน้าร้านให้ไปดูตัวจริง หรือมีหน้าร้านออนไลน์ของตัวเอง
  • เว็บไซต์ Epson ประเทศไทย: อาจจะมีข้อมูลร้านตัวแทนจำหน่าย หรือบางทีก็อาจจะมีช่องทางสั่งซื้อโดยตรง

ซื้อออนไลน์ช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ มักจะได้ราคาดี มีโค้ดส่วนลด มีเงินคืน หรือบางทีก็มีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% ด้วย ค่าจัดส่งส่วนใหญ่ก็ฟรี หรือราคาไม่แพงมาก แต่อย่าลืมเช็คความน่าเชื่อถือของร้านและรายละเอียดการรับประกันให้ดีก่อนจ่ายเงินนะคะ


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วไง?

ถ้าถามว่า Epson Perfection V800 Photo เป็นสแกนเนอร์คุณภาพสูง มืออาชีพไหม? ตอบเลยว่า ใช่ค่ะ! มันทำหน้าที่สแกนฟิล์มและภาพถ่ายออกมาได้ดีเยี่ยม ให้คุณภาพไฟล์ที่สูง รายละเอียดคมชัด มีฟังก์ชัน Digital ICE ช่วยลดภาระในการแต่งรูปไปได้เยอะมาก

เหมาะสำหรับ: คนที่จริงจังกับการสแกนฟิล์ม สไลด์ ภาพถ่าย ต้องการคุณภาพระดับสูง มีคลังภาพเก่าที่อยากเก็บรักษาไว้ หรือช่างภาพที่ทำงานกับฟิล์มเป็นหลัก ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มนี้ และมีงบประมาณถึง แนะนำให้ซื้อเลยค่ะ มันคือการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อรักษาความทรงจำของคุณ

ไม่เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการแค่สแกนเอกสารทั่วไป สแกนภาพถ่ายเล่นๆ ไม่ได้เน้นคุณภาพสูงสุด หรือมีงบจำกัดมากๆ เพราะตัวนี้ราคาสูงกว่าสแกนเนอร์ Flatbed ทั่วไปเยอะ

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่อยากลองสแกนฟิล์มเอง แต่อยากได้คุณภาพที่ดี V800 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะโปรแกรม Epson Scan ใช้งานไม่ยากเกินไป แต่ถ้าอยากรีดประสิทธิภาพสูงสุดจากเครื่องจริงๆ อาจจะต้องใช้เวลาศึกษาโปรแกรม SilverFast เพิ่มเติม

สุดท้ายนี้ การตัดสินใจซื้อขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณเป็นหลักค่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ้โห! วันนี้จะพาไปวาร์ปย้อนยุคกันที่ สวนคุณปู่ Life Museum แหม แค่ชื่อก็กินขาดแล้วป่ะ! หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้แว่วๆ โดยเฉพาะสายเที่ยว สายคาเฟ่ที่ชอบวิวปังๆ แต่สงสัยกันไหมว่าที่นี่มันมีอะไรดีนอกจากวิวสวยๆ? เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา หรือเป็
รีวิว สวนคุณปู่ สถานที่ท่องเที่ยว/ร้านอาหาร บรรยากาศย้อนยุค
โอ้โห! วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ที่แค่ชื่อก็กินขาด แถมยังเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเราด้วยนะ กับเรื่อง "Clickbait" ที่เคลมว่าเป็นแนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบสุดๆ คำถามคาใจคือ...มันจริงเด๊ะ? แล้วมันจะทำให้เราอดหลับอดนอนดูยันเช้าเหมือนท
รีวิว Clickbait: ซีรีส์/ภาพยนตร์แนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบไหม?
หนีเมืองกรุงไปพักใจริมน้ำ! วันนี้เราจะพาไปส่อง "บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?" ที่พักที่ได้ยินชื่อแล้วต่อมอยากพักผ่อนริมน้ำก็พุ่งกระฉูด! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ...พักบ้านเรือ มันจะโค
รีวิว บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?

บทความที่แนะนำ