รีวิว New Balance X-Racer รองเท้าผ้าใบ ดีไซน์ Retro สวยเท่


ใครเป็นสายสนีกเกอร์ที่หลงใหลความวินเทจ ยกมือขึ้น! ช่วงนี้เทรนด์รองเท้าผ้าใบย้อนยุคกลับมาฮิตอีกแล้วววว และหนึ่งในรุ่นที่น่าจับตา แถมดีไซน์เก๋จนใจเจ็บก็ต้องยกให้ New Balance X-Racer นี่แหละค่ะ! เห็นครั้งแรกคือน่ารักปุ๊กปิ๊กมาก! แต่ของจริงจะใส่สบาย เดินทน คุ้มค่าตัวมั้ย? วันนี้จะมารีวิวให้ดูกันแบบเจาะลึก ไม่มีกั๊ก! ใส่ไปเดินห้าง กินข้าว ดูหนัง ครบทุกกิจกรรมสายชิลล์เลยจ้าาาา
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก New Balance X-Racer กันก่อน
แบรนด์: New Balance
รุ่น: X-Racer (UXRCT Series)
เปิดตัว: จริงๆ มีหลายเวอร์ชัน ออกมาเรื่อยๆ ช่วงปี 2019-ปัจจุบัน
ช่วงราคา: ประมาณ 3,000 – 4,500 บาท แล้วแต่รุ่นย่อยและโปรโมชั่น
ตำแหน่งในตลาด: เป็นรองเท้าสายไลฟ์สไตล์ เน้นแฟชั่น ดีไซน์เรโทรผสมความล้ำสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบแต่งตัว มีกิมมิก
จุดเด่นคร่าวๆ:
- ดีไซน์ Retro-Futuristic ผสมผสานอดีตกับอนาคตได้ลงตัว
- สีสันหลากหลาย มีทั้งโทนคลาสสิกและสีแซ่บๆ
- น้ำหนักเบา ใส่เดินสบาย ไม่เมื่อย
- พื้นรองเท้าหนา ช่วยเสริมส้นนิดๆ ดูสูงขึ้น!
- แมทช์ง่าย ใส่กับกางเกงก็ได้ กระโปรงก็ดี
2. ดีไซน์และงานประกอบ: ความ Retro ที่ลงตัว!
เห็นครั้งแรกคือน่ารักปุ๊กปิ๊กมาก! ตัวดีไซน์ได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าวิ่งยุค 90s แต่เอามาปรับให้ดูทันสมัยขึ้น วัสดุส่วนใหญ่เป็นผ้าตาข่าย (Mesh) กับหนังกลับ (Suede) สลับกัน ทำให้ดูมีเลเยอร์ ไม่เรียบเกินไป
การออกแบบ: ผสมผสานเส้นสายแบบสปอร์ตเข้ากับความเรโทร หัวรองเท้าค่อนข้างเพรียว ไม่เทอะทะ
วัสดุ: ผ้าตาข่าย, หนังกลับ, หนังสังเคราะห์ คุณภาพดีสมราคา
ขนาดและน้ำหนัก: ไซส์ปกติทั่วไป น้ำหนักเบามาก ถือสบายๆ
สีที่มีให้เลือก: โอ๊ยยย เยอะมากกก มีทั้งสีเบสิกอย่างขาว เทา ดำ ไปจนถึงสีพาสเทล สีสดๆ อย่างฟ้า ชมพู เขียว เลือกได้ตามใจชอบ
ความสะดวกในการพกพา: เบาหวิว พกใส่กระเป๋าเดินทางไปเที่ยวได้สบาย ไม่เปลืองที่
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ก็มีแค่ตัวรองเท้ากับกล่องนั่นแหละจ้าาาา
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เดินสบาย สไตล์เด่น!
ฟังก์ชันหลักของรองเท้าผ้าใบก็คือ "การใส่เดิน" ใช่ไหมล่ะ? รุ่นนี้สอบผ่านฉลุย! ลองใส่เดินห้าง 3 ชั่วโมงรวด ไม่มีเมื่อย ไม่มีกัด! พื้นรองเท้าหนา แต่นุ่มกำลังดี ไม่แข็งโป๊ก แถมยังช่วยรองรับแรงกระแทกได้โอเคเลย
ใส่ไปเดินคาเฟ่ถ่ายรูปก็เก๋สุดๆ ได้ฟีลเกาหลีเกาใจ หรือจะใส่ไปเที่ยวต่างจังหวัดเดินเยอะๆ ก็เอาอยู่ค่ะ ไม่ต้องกลัวเท้าพัง! ที่สำคัญคือ แมทช์ได้กับหลายชุดมาก ตั้งแต่กางเกงยีนส์ เสื้อยืด ไปจนถึงเดรสหรือกระโปรงพลีท คือเป็นรองเท้าที่หยิบมาใส่ได้บ่อยแบบไม่ต้องคิดเยอะ
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: เบา นุ่ม ใส่สบาย!
เรื่องความง่ายในการใช้ก็คือ "ใส่ง่าย ถอดง่าย" แค่นั้นเลยค่ะ 5555 ไม่ต้องมีฟังก์ชันซับซ้อนอะไร
ใช้ง่ายมั้ย: ง่ายมากกกก เหมือนใส่รองเท้าผ้าใบปกติเลย
ระบบซอฟต์แวร์ลื่นมั้ย: ไม่มีซอฟต์แวร์จ้าาาา (แซวเล่นน้าาา)
เสียงดังมั้ย: ตอนเดินไม่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดให้รำคาญ
ร้อนเร็วมั้ย: ส่วนที่เป็นผ้าตาข่ายช่วยระบายอากาศได้ดีค่ะ แต่ถ้าอากาศร้อนจัดๆ เหงื่อก็ออกตามปกตินะคะ
สบายเวลาสวมใส่หรือไม่: สบายมาก! นุ่ม เบา ไม่บีบเท้า
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ทนใช้ได้ คุ้มค่าตัว!
สำหรับรองเท้า เรื่องแบตก็คือความทนทานนี่แหละ! จากที่ลองใช้มาสักพัก วัสดุค่อนข้างทนทาน ทำความสะอาดง่ายด้วยค่ะ ถ้าเปื้อนคราบไม่ฝังแน่นก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกได้สบายๆ
ระยะเวลาการใช้งาน: ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา แต่ดูแล้วน่าจะใช้ได้ยาวๆ เป็นปี
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิก เปลี่ยนอะไหล่ก็ไม่มี
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: เทียบกับราคาประมาณสามพันกว่าบาท ได้รองเท้าดีไซน์สวยเก๋ ไม่เหมือนใคร ใส่สบาย และค่อนข้างทนทาน ถือว่า คุ้มค่ามากค่ะ
6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย
ข้อดี:
- ดีไซน์เรโทรสวยเก๋ ไม่ซ้ำใคร
- น้ำหนักเบา ใส่สบายมาก เดินนานแค่ไหนก็ไม่เมื่อย
- แมทช์ได้กับหลายลุค ใส่ได้บ่อยจริง
- สีสันเยอะมาก เลือกได้ตามสไตล์
- ทำความสะอาดค่อนข้างง่าย
ข้อเสีย:
- ส่วนที่เป็นหนังกลับอาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษนิดนึง
- รุ่นที่เป็นสีอ่อนอาจจะเปื้อนง่าย
- บางคนอาจจะรู้สึกว่าราคาสูงไปหน่อยถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นในช่วงราคาใกล้เคียง
- อาจจะไม่เหมาะกับการใส่วิ่งหนักๆ เน้นใส่เดินหรือออกกำลังกายเบาๆ มากกว่า
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ
เหมาะกับ:
- วัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน ที่ชอบแต่งตัวมีสไตล์
- คนที่ชอบรองเท้าดีไซน์เรโทร หรืออยากหารองเท้าที่ดูไม่โหล
- คนที่มองหารองเท้าผ้าใบที่ใส่สบาย สำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน
- สายคาเฟ่ สายเที่ยว ที่ต้องเดินเยอะ
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: ใส่เดินเล่น, เที่ยว, ไปเรียน, ไปทำงาน (ถ้าออฟฟิศไม่เคร่ง), ออกกำลังกายเบาๆ
ควรซื้อเลยไหม? ถ้าชอบดีไซน์และกำลังมองหารองเท้าที่ใส่สบาย ก็จัดเลยค่ะ! แต่ถ้ายังไม่รีบ แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่น ของ New Balance หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ราคาจะดีงามมาก!
8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: หาง่าย โปรเพียบ!
New Balance มีร้านค้าเป็นทางการในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปค่ะ สามารถไปลองไซส์ ลองสีได้เลย
สั่งซื้อออนไลน์ก็ง่ายมากๆ มีทั้งบนเว็บไซต์ New Balance Thailand เอง หรือบนแพลตฟอร์ม E-commerce ยักษ์ใหญ่อย่าง Lazada, Shopee, JD Central ซึ่งช่องทางออนไลน์นี่แหละ ตัวดีเรื่องโปรโมชั่น!
โปรโมชั่นล่าสุด: มักจะมีช่วง Double Day (เช่น 7.7, 8.8), Flash Sale, โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต หรือโค้ดส่วนลดจากร้านค้าและแพลตฟอร์มเอง ราคาคือดีกว่าหน้าร้านพอสมควรเลยค่ะ บางช่วงมี ผ่อน 0% ด้วยนะ!
การรับประกัน: ส่วนใหญ่รองเท้าแฟชั่นจะไม่มีการรับประกันแบบเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ถ้าซื้อจากร้านค้าทางการหรือช็อปในห้าง มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ และสามารถเปลี่ยนไซส์ได้หากมีปัญหา (ตามเงื่อนไขของร้าน)
ระยะเวลาการจัดส่ง: สั่งออนไลน์ส่วนใหญ่อย่างไว 1-2 วันทำการ ก็ถึงแล้วค่ะ ค่าส่งบางทีก็ฟรี บางทีก็มีขั้นต่ำ
9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเถอะ ถ้าชอบ!
โดยรวมแล้ว New Balance X-Racer เป็นรองเท้าที่น่าสนใจมากค่ะ สำหรับคนที่กำลังมองหารองเท้าผ้าใบที่ ดีไซน์สวยเก๋ มีความเป็นเรโทรแต่ไม่ดูเชย ใส่สบาย และแมทช์ได้กับหลายชุดในชีวิตประจำวัน
ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบรองเท้าผ้าใบที่ดูสปอร์ตจ๋าเกินไป อยากได้คู่ที่ใส่ไปเที่ยว ไปเดินเล่นในเมืองได้แบบมีสไตล์ ไม่เมื่อยเท้า รุ่นนี้คือ ตอบโจทย์สุดๆ!
แนะนำให้ซื้อ! โดยเฉพาะถ้าเจอช่วงโปรโมชั่น บอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?