ราคา Johnnie Walker Gold Label Reserve อัปเดตล่าสุด ซื้อที่ไหนคุ้มสุด?

สวัสดีค่าเหล่านักช้อปสายดื่มและนักเปย์ทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยเรื่องวิสกี้ตัวท็อปที่คนนิยมซื้อดื่มเองก็ได้ ซื้อเป็นของขวัญก็เลิศ อย่าง Johnnie Walker Gold Label Reserve กันค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับแบรนด์ "จอห์นนี่ วอล์กเกอร์" ที่มีคุณลุงนักเดินเป็นสัญลักษณ์อยู่แล้วเนอะ แบรนด์นี้เค้าเก่าแก่มาจากสกอตแลนด์ดินแดนแห่งวิสกี้ชั้นดี มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 นู่น! ส่วนเจ้า Gold Label Reserve เนี่ย เค้าจัดว่าเป็นรุ่นพรีเมียมที่เน้นความหรูหรา นุ่มละมุน เหมาะกับช่วงเวลาพิเศษๆ หรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ มากเลยค่ะ ไม่ว่าจะซื้อจิบเองฟินๆ หรือซื้อไปฝากผู้ใหญ่ก็ดูดีมีชาติตระกูลสุดๆ ไปเลย

1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาเจาะลึกกันหน่อยว่า Johnnie Walker Gold Label Reserve มันคืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม? พูดง่ายๆ มันคือ เหล้าสกอตช์วิสกี้แบบ Blended Scotch Whisky ค่ะ หมายถึงเค้าเอาวิสกี้ซิงเกิลมอลต์ (Single Malt) และวิสกี้เกรน (Grain Whisky) จากโรงกลั่นต่างๆ ทั่วสกอตแลนด์มารวมกัน แล้วปรุงให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของ Gold Label Reserve ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้คือเค้าคัดเลือกวิสกี้ที่เน้นไปทางรสชาติหวานหอมคล้ายน้ำผึ้งและมีความนุ่มนวลเป็นพิเศษ โดยมีหัวใจหลักเป็นวิสกี้จากโรงกลั่น Clynelish ที่ว่ากันว่าน้ำที่ใช้ในการผลิตมาจากแหล่งต้นน้ำที่มีตำนานเล่าขานเรื่องทองคำ ฟังแล้วรู้สึกพรีเมียมขึ้นมาอีก!

กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสมกับ Gold Label Reserve ก็หลากหลายเลยค่ะ ตั้งแต่คนที่ชอบวิสกี้รสชาตินุ่มๆ ดื่มง่าย ไม่บาดคอ ไปจนถึงคนที่มองหาเครื่องดื่มสำหรับงานปาร์ตี้ งานเลี้ยงสังสรรค์ หรือจะซื้อเป็นของขวัญให้เจ้านาย ให้ลูกค้า หรือญาติผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ หรือช่วงวันพ่อ วันแม่ นี่เหมาะเจาะมากๆ เพราะขวดมันดูหรูหรา สีทองอร่าม แค่วางก็ดูดีแล้ว

2. ช่วงราคาสินค้า (ในตลาดไทย)

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่หลายคนอยากรู้! ราคาของ Johnnie Walker Gold Label Reserve ในตลาดไทยเนี่ย ก็มีหลายระดับขึ้นอยู่กับขนาดขวดและแหล่งที่ซื้อนะคะ ขนาดที่นิยมสุดๆ ก็คือ 700ml และ 1 ลิตรค่ะ

• ขวด 700ml (หรือ 750ml ในบางร้าน): ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,400 บาท ไปจนถึง 2,600 บาท (฿) ขึ้นอยู่กับร้านและโปรโมชั่น บางร้านอาจจะเจอราคาดีๆ แถวๆ 1,800 - 2,500 บาท
• ขวด 1 ลิตร: ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย อยู่ที่ประมาณ 1,990 บาท ไปจนถึง 3,000 บาท (฿) ราคาเฉลี่ยๆ ก็ประมาณ 2,500 - 3,000 บาท

ราคาเหล่านี้เป็นราคาที่เจอได้ตามร้านค้าทั่วไป ร้านค้าออนไลน์ หรือซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ นะคะ ถ้าเป็นร้านค้า Duty-Free ตอนเดินทางไปต่างประเทศ อาจจะได้ราคาที่ถูกลงกว่านี้อีก (ถ้ามีขายนะ) ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาในต่างประเทศก็มีผลบ้าง แต่ส่วนใหญ่ราคาในไทยก็จะมีการบวกภาษีและค่าดำเนินการต่างๆ เข้าไปอยู่แล้วค่ะ

3. แล้วเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับวิสกี้ตัวอื่นๆ ในตระกูล Johnnie Walker ด้วยกันเองเนี่ย Gold Label Reserve เค้าจะอยู่ระหว่าง Green Label (ที่เป็น Single Malt Blended) กับ Johnnie Walker Aged 18 Years (ที่เคยเป็น Platinum Label) นะคะ ราคาของ Gold Label Reserve จะสูงกว่า Black Label (12 ปี) และ Double Black อยู่พอสมควร แต่ก็จะถูกกว่า Blue Label ที่เป็นตัวท็อปสุดๆ

เมื่อเทียบกับวิสกี้แบรนด์อื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน เช่น Chivas Regal 12 หรือ 18 ปี บางรุ่น Gold Label Reserve จะให้ความรู้สึกที่ นุ่มละมุนและดื่มง่ายกว่า เน้นไปที่ความหวานหอมของน้ำผึ้งและวานิลลา ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับวิสกี้ที่มีรสชาติจัดจ้านมากนัก หรือชอบสไตล์ที่ดื่มได้เพลินๆ ค่ะ ในแง่ของความคุ้มค่า Gold Label Reserve ถูกวาง position ไว้เป็น "Affordable Luxury" หรือความหรูหราที่จับต้องได้ คือราคาก็ไม่ได้ถูกสุดๆ แต่ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป และให้รสชาติที่ premium เหมาะกับโอกาสพิเศษ ทำให้หลายคนมองว่ามันเป็นตัวเลือกที่ สมเหตุสมผลกับคุณภาพที่ได้รับ

4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา

สำหรับ Johnnie Walker Gold Label Reserve เนี่ย ปกติแล้วสิ่งที่ได้มาหลักๆ ก็คือ ตัวขวดวิสกี้ นั่นแหละค่ะ แต่อาจจะมีบางร้านหรือบางช่วงโปรโมชั่นที่เค้ามี กล่องของขวัญสวยๆ แถมมาให้ด้วย ซึ่งกล่องเนี่ยแหละที่ทำให้มันเหมาะกับการซื้อเป็นของฝากมากๆ บางทีอาจจะมีแก้ววิสกี้แถมมาเป็นเซ็ตด้วยนะ อันนี้ต้องลองเช็คโปรโมชั่นของแต่ละร้านดูค่ะ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์เนี่ย หลายร้านมีบริการจัดส่งทั่วประเทศค่ะ บางร้านอาจจะมีเงื่อนไข ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด เช่น ซื้อเกิน 2,000 บาท หรือบางร้านอาจจะส่งฟรีเลยไม่มียอดขั้นต่ำ สำหรับการซื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้าก็จะได้กลับบ้านเลย ไม่ต้องรอส่งค่ะ

การรับประกันนี่สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีการรับประกัน แบบสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นะคะ แต่ถ้าสินค้ามีปัญหา เช่น ขวดแตก ซีลขาด หรือคุณภาพผิดปกติ อันนี้สามารถติดต่อร้านค้าเพื่อเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้ตามเงื่อนไขของร้านนั้นๆ ค่ะ คนไทยอย่างเราๆ ก็เน้นเช็คของตอนรับให้ชัวร์ไว้ก่อนเนอะ!

5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ

อยากได้ Johnnie Walker Gold Label Reserve ในราคาดีๆ ต้องเล็งช่วงไหน? แน่นอนว่าช่วง เทศกาลสำคัญๆ นี่แหละคือโอกาสทองเลยค่ะ! ช่วง ปีใหม่, สงกรานต์, วันหยุดยาวต่างๆ หรือช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11, 12.12 บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ

นอกจากนี้ ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านค้าใหญ่ๆ บน Lazada/Shopee หรือแม้แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Tops, Gourmet Market, Big C, Lotus's ก็มักจะมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต หรือมีคูปองส่วนลดเพิ่มเติมในช่วงเวลาปกติด้วย แนะนำให้ กดติดตามร้านค้า ที่สนใจไว้ค่ะ เค้าจะได้แจ้งเตือนเวลาจัดโปรฯ

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ รอซื้อช่วงโปรโมชั่นคุ้มกว่าแน่นอนค่ะ! ยิ่งถ้าซื้อหลายขวด บางร้านก็มีโปรโมชั่นซื้อเป็นแพ็ค 2 ขวด หรือยกลัง 6 ขวด/12 ขวด ที่จะทำให้ราคาต่อหน่วยถูกลงไปอีก

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย

ลองไปส่องๆ ดูรีวิวจากนักดื่มชาวไทย (และรีวิวจากต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ) เกี่ยวกับ Johnnie Walker Gold Label Reserve ส่วนใหญ่ก็ไปในทิศทางที่ดีนะคะ จุดที่คนพูดถึงบ่อยๆ และน่าจะโดนใจคนไทยก็คือ:

• ความนุ่มละมุน ดื่มง่าย: หลายคนบอกว่ามันเป็นวิสกี้ที่นุ่มมาก ไม่บาดคอ มีความครีมมี่ ทำให้ดื่มแบบเพียวๆ หรือใส่น้ำแข็งก็อร่อย เหมาะกับคนที่อาจจะเพิ่งเริ่มดื่มวิสกี้ หรือไม่ชอบรสชาติที่แรงๆ ค่ะ
• รสชาติหวานหอม: มีกลิ่นและรสที่ชัดเจนของน้ำผึ้ง ผลไม้เมืองร้อน วานิลลา และมีกลิ่นสโมคกี้บางๆ ปิดท้าย รสชาติหวานนำทำให้ดื่มง่ายและรู้สึกผ่อนคลาย
• เหมาะกับงานสังสรรค์/เป็นของขวัญ: ด้วยรสชาติที่ดื่มง่ายและดีไซน์ขวดที่หรูหรา ทำให้ Gold Label Reserve ถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับการนำไปเปิดในงานปาร์ตี้ หรือซื้อเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ

อย่างไรก็ตาม บางรีวิวก็บอกว่ารสชาติอาจจะค่อนข้างนุ่มนวลจนบางคนอาจจะรู้สึกว่าขาดความซับซ้อนไปบ้างเมื่อเทียบกับวิสกี้บางตัวในราคาใกล้เคียงกัน แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นวิสกี้ที่ได้รับคำชมเรื่อง ความสมดุลของรสชาติและความนุ่มนวล ค่ะ

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

จะไปสอย Johnnie Walker Gold Label Reserve มาครอบครองได้ที่ไหนบ้างในไทย? มีหลายช่องทางให้เลือกเลยค่ะ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada เป็นแหล่งที่สะดวกมากๆ มีร้านค้าเยอะ ทั้งร้านค้าอย่างเป็นทางการของแบรนด์ (ถ้ามี) และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ข้อดีคือเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโปรโมชั่น โค้ดส่วนลด และมีรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้ดูค่ะ แต่ต้องเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือนะคะ
• ซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า: ร้านค้าใหญ่ๆ อย่าง Central Food Hall, Tops Supermarket, Gourmet Market, Big C, Lotus's มักจะมี Johnnie Walker Gold Label Reserve วางขายค่ะ ข้อดีคือได้เห็นสินค้าจริง เช็คสภาพได้เลย และบางทีมีโปรโมชั่นร่วมกับห้างฯ หรือบัตรเครดิตค่ะ
• ร้านค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะทาง: มีร้านค้าทั้งแบบออนไลน์และแบบหน้าร้านที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ เช่น Wine Connection, Wishbeer, หรือร้านค้าออนไลน์อื่นๆ ร้านพวกนี้มักจะมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย และอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะร้านค่ะ
• ร้านค้า Duty-Free: ถ้ามีแพลนเดินทางไปต่างประเทศ ลองแวะดูที่ร้านค้า Duty-Free ตามสนามบินนะคะ บางทีอาจจะได้ราคาที่ดีกว่าในประเทศค่ะ

สำหรับช่องทาง ทางการ ของ Johnnie Walker ในไทย ปกติแล้วผลิตภัณฑ์จะถูกนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยตัวแทนหลัก การซื้อจากร้านค้าหรือแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือตามที่กล่าวมาข้างต้นก็ถือว่าเป็นช่องทางที่ไว้ใจได้ค่ะ

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา

มาถึงบทสรุปส่งท้าย! ถามว่า Johnnie Walker Gold Label Reserve คุ้มค่าที่จะซื้อไหม? ถ้ามองในแง่ของวิสกี้สำหรับ โอกาสพิเศษ การเฉลิมฉลอง หรือเป็นของขวัญ บอกเลยว่า คุ้มค่า ค่ะ! รสชาติที่นุ่มละมุน ดื่มง่าย และดีไซน์ที่ดูหรูหรา ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากๆ สำหรับวัตถุประสงค์เหล่านี้

เหมาะกับใคร? เหมาะกับคนที่ ชื่นชอบวิสกี้สไตล์นุ่มๆ หวานหอม ไม่บาดคอ เหมาะกับคนที่ มองหาเครื่องดื่มสำหรับแชร์กับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ในช่วงเวลาแห่งความสุข และเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ ต้องการของขวัญที่ดูดี มีราคา แต่ยังอยู่ในงบประมาณที่จับต้องได้ (เมื่อเทียบกับตัวท็อปอย่าง Blue Label)

สำหรับนักดื่มที่ชอบวิสกี้รสชาติเข้มข้น ซับซ้อน หรือมีกลิ่นพีทหนักๆ Gold Label Reserve อาจจะดูนุ่มเกินไปหน่อย แต่ถ้าเน้นความดื่มง่าย เข้าถึงง่าย และบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง รุ่นนี้คือ ตัวเลือกที่โดดเด่น เลยค่ะ! ไม่ว่าจะซื้อขนาด 700ml หรือ 1 ลิตร ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนดื่มและงบประมาณค่ะ ถ้าดื่มคนเดียวไม่บ่อย หรือซื้อเป็นของขวัญทั่วไป ขวด 700ml ก็เพียงพอ แต่ถ้ามีปาร์ตี้ หรืออยากเก็บไว้นานหน่อย ขวด 1 ลิตรก็อาจจะคุ้มกว่าในแง่ราคาต่อปริมาตรนะจ๊ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อ Johnnie Walker Gold Label Reserve ของทุกคนนะคะ ขอให้มีความสุขกับการจิบวิสกี้แก้วโปรดในโอกาสพิเศษค่ะ! Cheers!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Johnny Walker Gold Label Reserve
• รีวิวบลูเลเบิ้ล Ghost and Rare: ความหรูหราในขวด
• ORANGE LABEL T-SHIRT มีสีให้เลือกเยอะมาก! แวะมาสัมผัสเนื้อ ...