ราคา Jawbone UP สร้อยข้อมือติดตามกิจกรรม รุ่นเก่า ยังน่าใช้ไหม?


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงไอเทมสุขภาพสุดฮิตในอดีตอย่าง สร้อยข้อมือติดตามกิจกรรม Jawbone UP รุ่นเก่าๆ กัน ใครที่กำลังมองหาสร้อยข้อมือไฮเทคไว้ใส่เดินเล่น วิ่งเบาๆ หรือแค่อยากรู้ว่าวันๆ นึงเราขยับตัวไปแค่ไหน เจ้า Jawbone UP นี่แหละ ที่เคยเป็นตัวตึงมาก่อน! แต่ในยุคที่มีตัวเลือกเพียบ รุ่นเก่าๆ ของ Jawbone UP ยังน่าสอยอยู่ไหมนะ? แล้วราคาในไทยเป็นยังไง? มาค่ะ! เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบหมดเปลือกตามสไตล์คนไทยใจนักช้อป! ไปดูกันเลย!
1. เจ้านี่มันคืออะไรมาจากไหนกันนะ?
มาเริ่มที่ทำความรู้จักเจ้า Jawbone UP กันก่อนเลยค่ะ พูดง่ายๆ มันก็คือ สร้อยข้อมืออัจฉริยะ (Fitness Tracker) ที่เอาไว้สวมใส่บนข้อมือของเรานี่แหละค่ะ หน้าที่หลักๆ ของมันคือ ติดตามกิจกรรมในแต่ละวัน ของเรา เช่น จำนวนก้าวที่เราเดิน ระยะทางที่เคลื่อนไหว แคลอรี่ที่เราเผาผลาญ แถมยังสามารถ ติดตามคุณภาพการนอนหลับ ได้ด้วยนะ! เรียกว่าเป็นเพื่อนคู่กายสำหรับคนรักสุขภาพ หรือคนที่อยากเริ่มต้นดูแลตัวเองเลยล่ะ
แบรนด์ Jawbone เนี่ยเป็นแบรนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ เค้าดังเรื่องอุปกรณ์เสียงมาก่อนพวกหูฟังบลูทูธ ลำโพงไร้สาย พอมาทำสร้อยข้อมือติดตามกิจกรรมก็ฮิตอยู่พักใหญ่เลยนะ โดยเฉพาะช่วงที่ฟิตเนสแทรคเกอร์กำลังมาแรง รุ่น UP ของเค้าดีไซน์เรียบง่าย ใส่สบาย มีหลายสีให้เลือกด้วย เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ ที่อยากได้ Gadget เท่ๆ ติดข้อมือ แถมยังช่วยกระตุ้นให้เราขยับร่างกายมากขึ้นด้วยนะ
2. ราคาในตลาดไทยตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
โอ้โห! มาถึงเรื่องราคาที่ทุกคนอยากรู้แล้วใช่ไหมคะ สำหรับ Jawbone UP รุ่นเก่าๆ เนี่ย (พวก UP24, UP2, UP3, UP4) ต้องบอกเลยว่าตอนนี้เค้าไม่ได้ผลิตและวางขายเป็นสินค้าใหม่แล้วนะคะ ที่เราจะเจอในตลาดไทยส่วนใหญ่คือ สินค้ามือสอง ทั้งนั้นเลยจ้า! ดังนั้นราคาก็จะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับสภาพเครื่อง รุ่น และอุปกรณ์ที่ให้มาด้วย
ถ้าลองไปส่องตามแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์สุดฮิตในไทยอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย อาจจะพอเจอคนเอามาลงขายอยู่บ้างค่ะ ราคาคร่าวๆ ที่เจออาจจะอยู่ตั้งแต่หลักร้อยบาทไปจนถึงพันต้นๆ เลยนะ (฿) เช่น รุ่น UP24 อาจจะเจอราคาตั้งแต่ 300-800 บาท ส่วนรุ่นใหม่หน่อยอย่าง UP3 หรือ UP4 ที่มีฟังก์ชันเยอะขึ้น อาจจะเจอในราคา 800-1,500 บาท โดยประมาณ อันนี้คือราคาแบบกะคร่าวๆ สุดๆ เลยนะจ๊ะ ต้องลองเข้าไปค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดว่า "Jawbone UP มือสอง" ดูค่ะ
ส่วนร้านค้าไอทีใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy หรือห้างสรรพสินค้าอย่าง Central, Big C, The Mall เนี่ย เค้าเน้นขายสินค้าใหม่ค่ะ Jawbone UP รุ่นเก่าๆ แบบนี้ไม่มีขายแล้วแน่นอนค่ะ ต้องพึ่งพาตลาดมือสองออนไลน์เป็นหลัก หรือไม่ก็ลองหาตามกลุ่มซื้อขาย Gadget มือสองใน Facebook ดูค่ะ บางทีอาจจะได้เจอดีลดีๆ จากผู้ใช้ที่อยากปล่อยของนะ
เรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนอะไรนี่ไม่ต้องพูดถึงแล้วค่ะ เพราะมันไม่ใช่สินค้าใหม่นำเข้าแล้ว เป็นการซื้อขายกันเองในประเทศมากกว่าค่ะ
3. แล้วเทียบกับ Fitness Tracker ยี่ห้ออื่นล่ะ ราคายังน่าสนใจไหม?
ถ้าให้เทียบกับ Fitness Tracker หรือ Smart Band รุ่นใหม่ๆ ที่มีขายในตลาดตอนนี้อย่างพวก Xiaomi Mi Band, Huawei Band, หรือ Fitbit บางรุ่นเนี่ย ต้องบอกว่า Jawbone UP มือสอง มีราคาที่ ถูกกว่าเยอะมากๆ เลยค่ะ! Fitness Tracker รุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ราคาเริ่มต้นก็มีตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลายพันบาทเลยนะ ในขณะที่ Jawbone UP รุ่นเก่าๆ นี่เราหาได้ในราคาหลักร้อยถึงพันต้นๆ เท่านั้นเอง!
แน่นอนว่าฟังก์ชันบางอย่างอาจจะไม่เท่ารุ่นใหม่ๆ เช่น ไม่มีหน้าจอสัมผัส ไม่มีโหมดออกกำลังกายหลากหลายเท่า หรือเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบางตัวไม่ได้ แต่ถ้ามองในแง่ของ การติดตามก้าวเดิน การนอนหลับ และเป็นแค่ Gadget เท่ๆ ติดข้อมือในราคาที่ เป็นมิตรกับงบประมาณสุดๆ เจ้า Jawbone UP รุ่นเก่าๆ ก็ยังถือว่ามีความคุ้มค่าในแบบของมันค่ะ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการฟังก์ชันหวือหวามากนัก แต่อยากลองใช้ Fitness Tracker ในราคาเบาๆ ค่ะ
4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้างนะ?
อันนี้แหละค่ะคือจุดที่ต้อง เช็คให้ดีมากๆ เวลาซื้อ Jawbone UP มือสอง เพราะแต่ละคนขายของไม่เหมือนกันเลย สิ่งที่ควรสอบถามและเช็คจากผู้ขายมีดังนี้ค่ะ:
- ตัวสร้อยข้อมือ: สภาพเป็นยังไง มีรอยเยอะมั้ย สายยางยังดีอยู่หรือเปล่า เพราะรุ่นเก่าๆ บางทีสายยางอาจจะเสื่อมสภาพได้
- อุปกรณ์ชาร์จ: สำคัญมากๆ เลยค่ะ! Jawbone UP ใช้สายชาร์จแบบพิเศษ ไม่เหมือนชาวบ้าน ต้องเช็คว่ามีสายชาร์จมาให้ด้วยหรือไม่ และยังใช้งานได้ปกติหรือเปล่า
- กล่อง/คู่มือ: ส่วนใหญ่อาจจะไม่มีแล้ว แต่ถ้ามีก็ถือว่าดีค่ะ
- ประกัน: อันนี้ทำใจได้เลยค่ะว่า ไม่มีประกันศูนย์แล้วแน่นอน เพราะเป็นสินค้าเก่าและแบรนด์ก็ไม่ได้ทำตลาดแล้ว ถ้าซื้อกับผู้ใช้โดยตรงก็ไม่มีประกันเลยค่ะ แต่ถ้าซื้อจากร้านที่รับซื้อขายมือสองบางร้าน อาจจะมี ประกันใจ หรือ ประกันร้าน ให้เล็กๆ น้อยๆ เช่น 7 วัน ก็ต้องลองสอบถามดูนะคะ คนไทยเราห่วงเรื่องประกันนี่แหละเนอะ!
- ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ผู้ขายเลยค่ะ ส่วนใหญ่อาจจะไม่มีอะไรแถมแล้ว แต่ถ้าเจอร้านที่ใจดีแถมถุงผ้าเล็กๆ น้อยๆ ให้ก็ถือว่าโชคดีไปค่ะ
ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะคะ นอกจากผู้ขายจะใจดีจัดโปรฯ ส่งฟรี ก็ต้องคุยกันดีๆ ค่ะ
5. มีช่วงไหนน่ากดน่าสอยเป็นพิเศษไหม?
ถึงจะเป็นสินค้ามือสอง แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเจอดีลดีๆ นะคะ! ถ้าคุณใจเย็นพอ ลองรอส่องช่วง โปรโมชั่นใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada ดูค่ะ ถึงแม้จะเป็นร้านค้าทั่วไปหรือผู้ขายรายย่อย แต่บางทีเค้าก็อาจจะร่วมจัดโปรโมชั่นลดราคาในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยนะ เช่น สงกรานต์ ที่หลายคนอาจจะอยากได้ Gadget ใหม่ๆ ไปใส่เที่ยว หรือช่วง 11.11 กับ 12.12 ที่เรียกว่าเป็นมหกรรมลดราคาสินค้าออนไลน์แห่งชาติเลย! ช่วงนี้แหละที่มีโอกาสเจอผู้ขายลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดให้ใช้ ก็ต้องขยันเข้าไปเช็ค เข้าไปดูบ่อยๆ นะคะ
นอกจากนี้ ตามกลุ่มซื้อขาย Gadget หรือ Fitness Tracker ใน Facebook ก็ลองจับตาดูช่วงที่คนเค้าอยากอัปเกรดไปใช้รุ่นใหม่ๆ เค้าอาจจะเอา Jawbone UP ตัวเก่ามาปล่อยในราคาพิเศษก็ได้ค่ะ สรุปง่ายๆ คือ ถ้าไม่รีบมาก การรอช่วงโปรโมชั่น หรือ หมั่นส่องบ่อยๆ มีโอกาสได้ของดีราคาโดนใจแน่นอนค่ะ
6. คนไทยที่เคยใช้เค้ารู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวหรือตามกระทู้เก่าๆ ของคนไทยที่เคยใช้ Jawbone UP เนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ถือว่าค่อนข้างดีเลยนะสำหรับยุคสมัยของมัน จุดที่คนไทยหลายคนชอบก็คือ:
- ดีไซน์สวยงาม ไม่เหมือนใคร: สมัยก่อน Jawbone UP ดีไซน์โดดเด่นกว่า Fitness Tracker ทั่วไป ใส่แล้วดูแฟชั่นดีค่ะ
- ใช้งานง่ายผ่านแอปฯ: แอปพลิเคชัน Jawbone UP ถือว่าทำได้ดีมากในยุคนั้น ใช้งานง่าย ข้อมูลเข้าใจง่าย
- ติดตามการนอนได้ค่อนข้างแม่นยำ: หลายคนชมว่าฟังก์ชันติดตามการนอนของ Jawbone ทำได้ดี
- กระตุ้นให้ออกกำลังกาย: ฟังก์ชันการแจ้งเตือนให้ขยับตัว หรือการตั้งเป้าหมาย ช่วยกระตุ้นให้เราแอคทีฟมากขึ้นได้จริง
แต่ก็มีข้อจำกัดบ้างที่คนพูดถึง เช่น สายยางที่อาจจะขาดหรือเสื่อมสภาพง่าย (ในรุ่นเก่าๆ), การชาร์จที่ต้องใช้สายเฉพาะ หาเปลี่ยนยากถ้าเสีย, และ ไม่มีหน้าจอแสดงผลในตัว ต้องดูข้อมูลผ่านมือถือเท่านั้น (ในบางรุ่น) แต่โดยรวมแล้วในราคาที่ซื้อมือสองได้ตอนนี้ คนที่เคยใช้ก็มักจะมองว่าเป็น Gadget ที่ คุ้มค่าในยุคของมัน ค่ะ
7. แล้วจะไปตามหาซื้อได้จากช่องทางไหนบ้างล่ะ?
อย่างที่บอกไปค่ะว่า Jawbone UP รุ่นเก่าๆ ตอนนี้ต้องพึ่งพาตลาดมือสองเป็นหลักค่ะ ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำก็คือ:
- แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดฮิต: Shopee และ Lazada นี่แหละค่ะ เป็นแหล่งรวมผู้ขายทั้งร้านค้ารายย่อยและผู้ใช้ทั่วไป ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ต้องดูรายละเอียดสินค้าและสอบถามผู้ขายให้ชัดเจนก่อนซื้อนะคะ
- กลุ่มซื้อขาย Gadget/Fitness Tracker มือสองใน Facebook: กลุ่มเหล่านี้เป็นแหล่งที่ดีมากๆ เลยค่ะ มักจะเป็นการซื้อขายกันเองระหว่างผู้ใช้โดยตรง บางทีก็ได้ราคาดีมากๆ หรือเจอสภาพนางฟ้าในราคาเบาๆ ข้อควรระวังคือต้องเช็คโปรไฟล์ผู้ขายดีๆ และถ้าเป็นไปได้ นัดเจอเพื่อรับของและจ่ายเงินด้วยตัวเอง จะปลอดภัยที่สุดค่ะ
- ร้านรับซื้อขายมือสองทั่วไป: ตามร้านรับซื้อขายของเก่า หรือร้านมือสองบางร้าน อาจจะมีหลุดๆ มาบ้าง แต่ก็ค่อนข้างน้อยและหายากค่ะ
ช่องทาง Official ของแบรนด์ในไทยไม่มีแล้วนะคะ ต้องหาจากตลาดมือสองเท่านั้นจ้า
8. สรุปแล้ว Jawbone UP รุ่นเก่ายังน่าใช้ไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปกันแล้วค่ะ! ถามว่า Jawbone UP รุ่นเก่า ยังน่าซื้อมาใช้ไหมในปีนี้? ถ้าคุณเป็นคนที่:
- มีงบประมาณจำกัดมากๆ แต่อยากลองใช้ Fitness Tracker
- ต้องการแค่ฟังก์ชันพื้นฐาน อย่างการนับก้าว ติดตามการนอน หรือดูแคลอรี่แบบคร่าวๆ
- ชอบดีไซน์คลาสสิก ของ Jawbone
- อยากได้ Gadget เก๋ๆ มาลองใส่เล่น ไม่ได้คาดหวังฟังก์ชันระดับสูงเท่า Smartwatch รุ่นใหม่ๆ
คำตอบคือ ยังน่าซื้ออยู่ค่ะ! ในราคาแค่หลักร้อยถึงพันต้นๆ ที่หาได้ในตลาดมือสอง ถือเป็น จุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ สำหรับคนที่อยากลองใช้ Fitness Tracker โดยไม่ต้องลงทุนเยอะ
แต่ถ้าคุณต้องการฟังก์ชันที่ ทันสมัยขึ้น เช่น มีหน้าจอแสดงผลในตัว วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แม่นยำ มีโหมดออกกำลังกายหลากหลาย กันน้ำได้ดี (Jawbone UP รุ่นเก่าๆ กันน้ำได้ไม่ดีเท่ารุ่นใหม่) หรือต้องการการรับประกันและบริการหลังการขายที่แน่นอน Jawbone UP รุ่นเก่าอาจจะไม่ตอบโจทย์ค่ะ คุณอาจจะต้องมองหารุ่นใหม่ๆ จากแบรนด์อื่นแทน
สรุปคือ Jawbone UP รุ่นเก่า เหมาะสำหรับคนที่ งบน้อย อยากลองใช้ เน้นฟังก์ชันพื้นฐาน และรับความเสี่ยงของสินค้ามือสองได้ ค่ะ ถ้าตรงตามนี้ ก็จัดเลยจ้า! ขอให้ได้สร้อยข้อมือที่ถูกใจ และสนุกกับการดูแลสุขภาพนะทุกคน! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?