ค่าโฆษณา Facebook ปี 2025 คู่มือตั้งงบประมาณและการยิงแอดให้ได้ผลสูงสุด


สวัสดีค่าพี่น้องชาวโซเชียลและพ่อค้าแม่ขายออนไลน์ทั้งหลาย! วันนี้เจ๊จะมาเปิดตำราเคล็ดลับ (ไม่) ลับ ฉบับปี 2025 เกี่ยวกับเรื่องที่ทำเอาหลายคนปวดหัวและปวดตังค์ไปตามๆ กัน นั่นก็คือ ค่าโฆษณา Facebook หรือที่เราเรียกติดปากว่า "ค่าแอด" นั่นเองจ้า! ใครที่กำลังเล็งๆ จะบุกตลาดออนไลน์ หรือยิงแอดอยู่แล้วแต่อยากได้ผลลัพธ์ปังๆ เงินไหลมาเทมาแบบฉุดไม่อยู่ ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาด เพราะเจ๊จะมาไกด์เรื่องการตั้งงบประมาณและวิธียิงแอดให้ได้ผลสูงสุด แบบฉบับเข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา แถมมีมุกให้ขำกรุบกริบตามสไตล์เจ๊เอง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่าปี 2025 นี้ การยิงแอด Facebook มันเป็นยังไงบ้าง!
1. "ผลิตภัณฑ์" นี้มันคืออะไรกันนะ?
อ่ะๆ อย่าเพิ่งงงว่าค่าโฆษณาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ไง! ลองมองเจ้า Facebook Ads เนี่ย เป็นเหมือนเครื่องมือวิเศษ หรือถ้าจะให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนหน้าร้านดิจิทัลเคลื่อนที่ ที่จะพาข้าวของที่เราอยากขาย ไปโผล่หน้าฟีดให้ลูกค้าที่ใช่ได้เห็นไงล่ะ พูดง่ายๆ มันคือระบบที่จะช่วยให้เรา เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ได้ตรงจุด เพื่อ สร้างยอดขาย หรือ สร้างการรับรู้แบรนด์ ของเราในโลกออนไลน์
เจ้าเครื่องมือตัวนี้มาจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Meta (ชื่อเดิม Facebook นั่นแหละ) ซึ่งผูกขาดพื้นที่สื่อออนไลน์บนแพลตฟอร์มสุดฮิตอย่าง Facebook และ Instagram ไว้แน่นปึ้กในประเทศไทยของเรานี่เอง เหมาะกับใครน่ะเหรอ? เหมาะกับ พ่อค้าแม่ขายออนไลน์ทุกระดับ ตั้งแต่แม่ค้าตลาดนัดที่เพิ่งผันตัวมาขายออนไลน์ แม่ทีมขายสินค้าแบรนด์ต่างๆ ไปจนถึงเจ้าของธุรกิจ SME หรือแบรนด์ใหญ่ๆ ที่อยากเพิ่มช่องทางการขายและสื่อสารกับลูกค้า เพราะคนไทยใช้ Facebook/Instagram เยอะมากกกก เป็นตลาดใหญ่ที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้เลยจ้า
2. "ราคา" ในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทำให้หลายคนนอนไม่หลับ นั่นก็คือเรื่อง ค่าแอด นี่แหละ! ต้องบอกก่อนว่าค่าแอด Facebook เนี่ย มันไม่ใช่สินค้าที่มีป้ายราคาแปะไว้ตายตัว นะจ๊ะ! ไม่เหมือนไปซื้อมาม่าคัพที่ 7-11 แล้วรู้ราคาเลย แต่มันเป็นระบบการประมูล (Auction) ที่ราคาจะ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ
เราสามารถ ตั้งงบประมาณ ได้เองว่าจะจ่ายเท่าไหร่ต่อวัน หรือตลอดแคมเปญ จะเริ่มจาก น้อยๆ แค่หลักร้อยบาทต่อวันก็ได้ เพื่อทดลองดูก่อนว่าเวิร์คไหม ถ้าปังก็ค่อยๆ เพิ่มงบประมาณขึ้นไปได้ตามกำลัง ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นสูง แต่ข้อเสียคือบางช่วงค่าแอดอาจจะแพงหูฉี่จนตกใจได้!
ปัจจัยที่ทำให้ค่าแอดแพงขึ้นหลักๆ เลยก็คือ การแข่งขัน ยิ่งกลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกมีคนอื่นอยากได้เยอะ ค่าแอดก็แพงขึ้นตามกลไกตลาดจ้า หรือช่วงเทศกาล ช้อปปิ้งใหญ่ๆ เช่น 11.11, 12.12, สงกรานต์, ปีใหม่ เนี่ย เตรียมใจไว้เลยว่าค่าแอดจะพุ่งกระฉูด เพราะใครๆ ก็อยากแย่งชิงพื้นที่โฆษณากันในช่วงกอบโกยยอดขาย!
ดังนั้น เรื่องราคาค่าแอดในไทยปี 2025 สรุปง่ายๆ คือ ไม่มีราคาตายตัว อยู่ที่เราตั้งงบและบริหารจัดการแคมเปญให้ดีต่างหาก!
3. แล้วเทียบกับ "รุ่นอื่น" ล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าให้เทียบกับแพลตฟอร์มยิงแอดอื่นๆ ในตลาดเมืองไทย อย่าง Google Ads, TikTok Ads, LINE Ads หรือแม้กระทั่งการตลาดแบบเก่าๆ เนี่ย เจ้า Facebook Ads ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปนะ
Google Ads ส่วนใหญ่จะเน้นคนที่กำลัง "ค้นหา" สินค้าหรือบริการนั้นๆ อยู่แล้ว แปลว่าเค้ามีความต้องการสูง พร้อมจะซื้อมากกว่า แต่ค่าคลิกก็อาจจะแพงกว่าและเน้นไปที่ Keyword เป็นหลัก
ส่วน TikTok Ads ก็มาแรงมากๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นและคนที่ชอบคอนเทนต์วิดีโอสั้น ค่าแอดอาจจะยังไม่โหดเท่า Facebook ในบางกลุ่มเป้าหมาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับเทรนด์และความไวของคนทำคอนเทนต์
LINE Ads ก็เหมาะกับการเข้าถึงคนไทยในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งาน LINE ที่มีฐานแน่นปึ้กในไทย
ถ้าเทียบกันแล้ว Facebook Ads ยังถือเป็นแพลตฟอร์มที่ ยืดหยุ่น และ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย ที่สุด ทั้งตามความสนใจ พฤติกรรม หรือข้อมูลประชากรต่างๆ ทำให้เราสามารถนำเสนอสินค้าให้คนที่ "น่าจะสนใจ" ได้ ถึงแม้เค้าจะยังไม่ได้กำลังค้นหาอยู่ก็ตาม เรื่องราคาก็อย่างที่บอกว่ามันยืดหยุ่น ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของเราเอง ถือเป็นตัวเลือกที่ยังคง คุ้มค่า สำหรับการสร้างยอดขายออนไลน์ในไทยอยู่มากๆ ถ้าใช้เป็นนะ!
4. "อุปกรณ์เสริม" และ "บริการ" ที่รวมมามีอะไรบ้าง?
สำหรับ Facebook Ads เนี่ย เราไม่ได้ซื้อกล้องหรือมือถือที่จะมีอุปกรณ์ในกล่องนะจ๊ะ แต่อุปกรณ์เสริมและบริการที่เค้าให้มาเนี่ย มันคือ เครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ในระบบ ที่จะช่วยให้เรายิงแอดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่างหาก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ Facebook เลยล่ะ!
- เครื่องมือการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Targeting): อันนี้คืออุปกรณ์เสริมหลักเลยจ้า! เราสามารถเลือกได้ละเอียดมากๆ ว่าจะให้แอดไปโผล่ที่ใคร เช่น อายุ เพศ ความสนใจ พฤติกรรมต่างๆ ใครที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจเรา หรือแม้แต่กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกับลูกค้าเดิมของเรา (Lookalike Audience) อันนี้แหละคือหัวใจสำคัญของการยิงแอดให้ปัง!
- รูปแบบโฆษณา (Ad Formats): มีให้เลือกใช้เพียบ ทั้งรูปภาพเดี่ยว วิดีโอ คอลเลกชัน (รวมสินค้าหลายๆ ชิ้น) แคโรเซล (รูปภาพ/วิดีโอสไลด์หลายๆ อัน) Instant Experience ที่แสดงผลแบบเต็มจอ หรือแม้กระทั่ง Leads Ads สำหรับเก็บข้อมูลลูกค้า รูปแบบเหล่านี้ก็เหมือนมี "เลนส์" หรือ "อุปกรณ์เสริม" หลายแบบให้เราเลือกใช้ให้เหมาะกับสินค้าและเป้าหมายของเราไงล่ะ
- เครื่องมือสร้างสรรค์โฆษณา (Creative Tools): มีเครื่องมือให้แต่งรูป ตัดต่อวิดีโอ หรือใส่ข้อความลงไปในตัวแอดได้เลย สะดวกมากๆ
- ระบบติดตามและวิเคราะห์ผล (Tracking and Analytics): เค้ามี Pixel (โค้ดติดตาม) ให้เราเอาไปติดที่เว็บไซต์ เพื่อดูว่าลูกค้าที่มาจากแอดเราทำอะไรบ้าง เข้าดูหน้าไหน หยิบสินค้าลงตะกร้า หรือซื้อเลยรึเปล่า รวมถึงมีรายงาน (Report) ละเอียดๆ ให้ดูประสิทธิภาพของแอดเราด้วย อันนี้สำคัญมาก ทำให้เรารู้ว่าต้องปรับปรุงตรงไหน คล้ายๆ ได้ "คู่มือ" หรือ "ใบรับประกัน" ว่าสิ่งที่เราทำมันเวิร์คไม่เวิร์คยังไงนั่นแหละ!
ส่วนเรื่อง ค่าขนส่งฟรี หรือ ของแถม แบบสินค้าทั่วไป อันนี้ไม่มีแน่นอนจ้า เพราะเรากำลังซื้อบริการโฆษณานะยูว์!
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการ "ซื้อ"
อย่างที่บอกไปว่าค่าแอดมันไม่มีป้ายลดราคาแบบสินค้าปกติ แต่ถ้าถามว่ามีช่วงไหนที่เหมาะกับการ "ยิงแอด" เป็นพิเศษไหม คำตอบคือ มีมากๆ เลยจ้า!
ช่วงเวลาทองสำหรับการยิงแอดในไทยหนีไม่พ้น เทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ ที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee เค้าโหมโรงกันหนักๆ เช่น แคมเปญเลขเบิ้ลต่างๆ (เช่น 9.9, 10.10, 11.11, 12.12) หรือช่วงเทศกาลตามวัฒนธรรมไทยที่เรานิยมจับจ่ายใช้สอยกัน เช่น ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ที่คนเดินทางกลับบ้าน หรือ ช่วงปลายปี/ปีใหม่สากล ที่มีการให้ของขวัญหรือจับจ่ายเพื่อฉลอง
ช่วงเหล่านี้คือช่วงที่ ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง และอยู่ในโหมดพร้อมช้อป! การยิงแอดในช่วงนี้อาจจะมีค่าแข่งขันสูง ทำให้ค่าแอดต่อผลลัพธ์แพงขึ้นนิดหน่อย แต่ถ้าเราเตรียมตัวดี มีโปรโมชั่นเด็ด คอนเทนต์โดนๆ ก็มีโอกาส สร้างยอดขายได้แบบก้าวกระโดด คุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงไปมากๆ
คำแนะนำคือ วางแผนล่วงหน้า ก่อนถึงช่วงเทศกาล เตรียมคอนเทนต์ โปรโมชั่น และงบประมาณไว้ให้พร้อม และที่สำคัญคือ อย่ากลัวที่จะทดลอง! ลองยิงหลายๆ แบบ ปรับกลุ่มเป้าหมาย ปรับคอนเทนต์ แล้วดูว่าอันไหนเวิร์คที่สุด แล้วค่อยๆ เพิ่มงบในแอดตัวที่ได้ผลดีนะจ๊ะ ไม่ต้องรีบร้อนหมดตัวไปกับแอดเดียว!
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
ลองไปส่องตามกลุ่มเฟซบุ๊กของคนทำธุรกิจออนไลน์ในไทย หรือดูตามคอมเมนต์ต่างๆ จะเห็นฟีดแบ็กเกี่ยวกับค่าแอด Facebook หลากหลายอารมณ์มากๆ จ้า!
ส่วนใหญ่คนที่ยิงแอดแล้ว ปัง! มักจะบอกว่า Facebook Ads นี่แหละคือเครื่องมือทำเงินชั้นดีที่ เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม สร้างยอดขายได้จริง บางคนบอกว่าลงทุนค่าแอดไปเท่านี้ ได้ยอดกลับมาหลายเท่าตัวก็มีเยอะแยะไปหมด
แต่ในทางกลับกัน ก็มีเสียงบ่นไม่น้อยเหมือนกันว่า ค่าแอดแพงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ ที่มีคนเข้ามาแข่งขันเยอะขึ้น หรือบางทีก็รู้สึกว่า ยิงแอดแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง หมดเงินไปเยอะแต่ลูกค้าไม่ทัก ไม่ซื้อ หรือได้แต่ยอดไลค์ ยอดคลิก แต่ไม่ conversion เป็นยอดขาย
ฟีดแบ็กเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า Facebook Ads มันก็เหมือนดาบสองคมนั่นแหละจ้า! มันมีศักยภาพสูงมากในการเข้าถึงและสร้างยอดขาย แต่ก็ต้องอาศัย ความเข้าใจ ในการใช้งาน การวางแผนที่ดี การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และการปรับปรุงแคมเปญอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วยิงไปมั่วๆ ก็จะประสบความสำเร็จนะจ๊ะ ต้องอาศัยการเรียนรู้และลงมือทำอย่างต่อเนื่องด้วย!
7. แล้วจะไปหา "ซื้อ" ได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
การ "ซื้อ" ค่าโฆษณา Facebook เนี่ย ไม่ได้เดินไปร้าน JIB, Banana IT, Power Buy หรือกดใส่ตะกร้าใน Lazada/Shopee แบบซื้อสินค้านะจ๊ะ แต่เราซื้อผ่าน ระบบจัดการโฆษณาของ Facebook โดยตรง หรือที่เรียกว่า Facebook Ads Manager นั่นเอง!
ช่องทางหลักๆ ที่เราจะเข้าไปบริหารจัดการการยิงแอดก็คือ:
- ผ่านเว็บไซต์ Facebook Ads Manager: เข้าผ่านคอมพิวเตอร์ สะดวกที่สุดในการตั้งค่า วางแผน และดูรายงานแบบละเอียด จัดเต็มทุกฟีเจอร์
- ผ่านแอปพลิเคชัน Meta Ads Manager: มีให้โหลดทั้งใน App Store และ Google Play สะดวกมากๆ สำหรับการติดตามผล ปรับงบ หรือดูความเคลื่อนไหวแบบคร่าวๆ บนมือถือ
- ผ่านปุ่ม Boost Post (โปรโมทโพสต์) ใต้โพสต์บนเพจ: อันนี้ง่ายที่สุด มือใหม่มักจะเริ่มจากตรงนี้ แต่ฟังก์ชันการตั้งค่าและกลุ่มเป้าหมายจะจำกัดกว่าการใช้ Ads Manager โดยตรง เหมาะกับการโปรโมทโพสต์ธรรมดาๆ มากกว่าการทำแคมเปญขายจริงจัง
คำแนะนำคือ ถ้าอยากยิงแอดแบบจริงจังให้ได้ผลดี ควรใช้ Facebook Ads Manager ผ่านเว็บไซต์ เป็นหลัก เพราะมีเครื่องมือและตัวเลือกให้ใช้เยอะกว่ามากๆ ส่วนแอปฯ มือถือเอาไว้ดูผลและปรับเล็กๆ น้อยๆ ก็พอจ้า
8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่อง "ราคา"
มาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว! สรุปแล้วการลงทุนกับ ค่าโฆษณา Facebook ในปี 2025 มันคุ้มค่าไหม? เหมาะกับใคร?
สำหรับเจ๊ มองว่า คุ้มค่ามากๆ เลยนะ ถ้าคุณเป็นคนที่:
- ทำธุรกิจออนไลน์ในไทย ที่อยากเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากและตรงกลุ่ม
- มีสินค้าหรือบริการที่น่าสนใจ และมีคอนเทนต์ดีๆ พร้อมนำเสนอ
- พร้อมเรียนรู้และปรับตัว เพราะโลกของ Digital Marketing เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
- มีงบประมาณ ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ก็สามารถเริ่มต้นและค่อยๆ ขยายได้
Facebook Ads ยังคงเป็นเครื่องมือทรงพลังอันดับต้นๆ สำหรับการสร้างยอดขายออนไลน์ในไทยในปี 2025 นี้อย่างแน่นอนค่ะ
ส่วนคำแนะนำเรื่อง "ราคา" หรือการตั้งงบประมาณเนี่ย สิ่งสำคัญคือ ไม่ต้องรีบร้อนทุ่มงบเยอะๆ ตั้งแต่แรก แต่ให้ เริ่มต้นจากงบประมาณที่คุณไหว อาจจะวันละ 100-300 บาทก็ได้ เพื่อเรียนรู้ ทำความเข้าใจระบบ ทดสอบกลุ่มเป้าหมายและคอนเทนต์ต่างๆ เมื่อเจอแนวทางที่ใช่ ได้ผลลัพธ์ที่ดี ค่อยๆ เพิ่มงบประมาณขึ้นไป
จำไว้ว่าความสำเร็จของการยิงแอดไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณ "จ่ายแพง" แค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าคุณ "บริหารจัดการ" งบประมาณและแคมเปญได้ดีแค่ไหนต่างหาก!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังจะเริ่มต้นหรือยิงแอด Facebook อยู่นะคะ ขอให้ปี 2025 เป็นปีทองของการทำธุรกิจออนไลน์ของทุกคน ยิงแอดแล้วปังๆ ยอดขายทะลุเป้ากันถ้วนหน้านะคะ! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?