logo

ราคา Kobo by Udomagg (เครื่องอ่าน e-book) รุ่นล่าสุด น่าใช้ไหม?

user avatar
รัฐพล จิตต์มั่นคง·07/08/2025 18:32
点赞
ราคา Kobo by Udomagg (เครื่องอ่าน e-book) รุ่นล่าสุด น่าใช้ไหม?

สวัสดีจ้าเหล่าหนอนหนังสือทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง gadget สุดคูลที่ช่วยให้ชีวิตการอ่านของเราฟินขึ้น นั่นก็คือ เครื่องอ่าน e-book Kobo นั่นเอง! ยิ่งช่วงนี้เห็นมีรุ่นใหม่ๆ ออกมา แถมมีชื่อ Udomagg พ่วงท้ายให้สงสัยว่าเอ๊ะ มันเกี่ยวกันยังไง น่าใช้ไหม แล้วราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์เราหรือเปล่า มาค่ะ! มาแกะกล่อง เอ้ย! มาแกะข้อมูลไปพร้อมๆ กันเลย รับรองว่าอ่านจบแล้วต่อมอยากได้พุ่งปรี๊ดแน่นอน!

1. เจ้าเครื่อง Kobo นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะค่ะ มาทำความรู้จักกับ Kobo กันก่อน Kobo นี่เป็นแบรนด์เครื่องอ่าน e-book ระดับโลกจากประเทศแคนาดาโน่นเลยนะ เค้าอยู่ภายใต้ร่มของ Rakuten บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น พูดง่ายๆ คือ Kobo เนี่ยเค้าเชี่ยวชาญด้านการทำอุปกรณ์สำหรับการอ่านหนังสือดิจิทัลโดยเฉพาะเลยล่ะ

ฟังก์ชันหลักๆ ของเจ้าเครื่องนี้ก็คือการอ่านไฟล์ e-book ในรูปแบบต่างๆ บนหน้าจอแบบ E Ink ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จำลองลักษณะของหมึกบนกระดาษจริงๆ ทำให้เวลาอ่านแล้วรู้สึกสบายตา เหมือนอ่านหนังสือเล่ม ไม่แสบตา ไม่เมื่อยล้าเท่าอ่านบนมือถือหรือแท็บเล็ต เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่อ่านหนังสือนานๆ หรือชอบอ่านกลางแจ้งเพราะหน้าจอไม่สะท้อนแสง กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสมก็คือทุกคนที่รักการอ่านหนังสือค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบพกหนังสือหลายๆ เล่มไปไหนมาไหน เจ้าเครื่องนี้จะช่วยให้ชีวิตเบาขึ้นเยอะ เพราะเครื่องเดียวจุ e-book ได้เป็นพันๆ เล่มเลยนะ!

2. ช่วงราคาสินค้า (ในตลาดไทย) เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องราคาที่หลายคนรอคอย! สำหรับ Kobo ในตลาดไทยเนี่ย เท่าที่ส่องดูจากหลายๆ แหล่ง โดยเฉพาะตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee รวมถึงร้านค้าออนไลน์บางแห่งอย่าง TSMactive ที่ดูจะเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทย ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่นค่ะ

รุ่นใหม่ๆ ล่าสุดที่เห็นมีเข้ามาก็เช่น Kobo Libra Colour และ Kobo Clara Colour ที่เป็นจอสีรุ่นแรกๆ ราคาก็จะสูงหน่อย อย่าง Kobo Libra Colour หน้าจอ 7 นิ้ว พร้อมปากกา Kobo Stylus 2 ก็จะอยู่ประมาณ 14,390 - 14,500 บาท (฿) ส่วนรุ่นอื่นๆ ที่ยังหาซื้อได้และเป็นที่นิยมในไทยก็มีหลายรุ่นเลย ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นใหญ่ เช่น Kobo Libra 2, Kobo Sage, หรือรุ่นเก่าๆ อย่าง Kobo Aura HD ที่บางทีเจอเป็นมือสอง

ราคาเริ่มต้นของ Kobo รุ่นที่ไม่ใช่จอสี อาจจะเจอตั้งแต่ประมาณ 5,xxx - 7,xxx บาท (฿) สำหรับรุ่นเล็กหรือรุ่นเก่ากว่าหน่อย ไปจนถึง 1x,xxx บาท (฿) ขึ้นไปสำหรับรุ่นใหม่ ฟังก์ชันเยอะ หรือจอใหญ่ ส่วน Udomagg เนี่ย ดูเหมือนจะเป็นชื่อร้านค้าหรือผู้จัดจำหน่าย Kobo ในไทย ซึ่งก็จะมีสินค้า Kobo วางขายอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ นั่นแหละค่ะ ก็ต้องคอยเช็คราคาจากร้านนี้หรือร้านอื่นๆ ที่นำเข้ามาเปรียบเทียบกันดู

เรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนก็มีผลอยู่บ้าง ทำให้ราคาในไทยอาจจะสูงกว่าราคาที่ขายในต่างประเทศเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติของการนำเข้าสินค้าค่ะ


3. เปรียบเทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกัน

ถ้าเทียบกับเพื่อนร่วมวงการ e-reader ที่หาซื้อง่ายในไทยพอๆ กัน อย่างเช่น Kindle ของ Amazon เนี่ย Kobo ก็ถือเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเลยนะ ราคาของ Kobo จะมีความหลากหลายตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นที่ใกล้เคียงกับ Kindle Paperwhite ไปจนถึงรุ่นท็อปที่มีฟังก์ชันหลากหลายกว่าและราคาสูงกว่า

ยกตัวอย่างเช่น Kobo Libra Colour ที่เป็นจอสีรุ่นใหม่ ราคาประมาณ 14,xxx บาท ถ้าเทียบกับ Kindle ที่ยังไม่มีจอสีเข้ามาขายในไทยอย่างเป็นทางการ Kobo ก็จะมีความโดดเด่นเรื่องจอสีตรงนี้ แต่ถ้าเทียบฟังก์ชันการอ่านทั่วไป หรือขนาดหน้าจอในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน ราคาอาจจะไม่ได้หนีกันมากนัก บางรุ่น Kobo อาจจะแพงกว่านิดหน่อย แต่บางทีก็ได้ฟังก์ชันที่มากกว่ามาด้วย ก็ต้องดูเป็นรุ่นๆ ไป

นอกจาก Kobo และ Kindle ก็ยังมี e-reader แบรนด์อื่นๆ จากจีนที่เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยเหมือนกัน อย่าง BOOX หรือ Meebook ซึ่งบางรุ่นเป็นระบบ Android เปิดกว้างกว่า ทำให้ลงแอปอ่าน e-book ภาษาไทยได้หลากหลาย แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่า Kobo หรือ Kindle ในสเปกเดียวกัน สรุปคือ Kobo เป็นตัวเลือกที่อยู่ตรงกลางๆ ที่ให้ความคุ้มค่าในเรื่องฟังก์ชันการอ่านที่เสถียร ใช้งานง่าย และมีดีไซน์สวยงาม ในราคาที่จับต้องได้ (ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกนะ!)

4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา

เวลาซื้อเครื่องอ่าน e-book Kobo โดยเฉพาะจากร้านค้าในไทย สิ่งที่มักจะได้รับรวมมาด้วยก็คือตัวเครื่องและสายชาร์จ (ส่วนใหญ่จะเป็น USB-C ในรุ่นใหม่ๆ) อะแดปเตอร์อาจจะต้องซื้อแยกนะจ๊ะ

เรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ คือ การรับประกัน ค่ะ การซื้อจากตัวแทนจำหน่ายในไทย หรือร้านที่มีประกันให้ จะอุ่นใจกว่ามากๆ โดยปกติแล้ว ถ้าซื้อเครื่องใหม่ จะมีการรับประกันจากผู้ขายหรือตัวแทนจำหน่าย ซึ่งระยะเวลาก็แตกต่างกันไป ควรสอบถามให้ชัดเจนก่อนซื้อนะ บางร้านอาจจะรับประกัน 1 ปี หรือมากกว่านั้น

ส่วนอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น เคสหรือปก (SleepCover/NoteBook Cover), ปากกา Stylus (สำหรับรุ่นที่รองรับ), หรือฟิล์มกันรอย ส่วนใหญ่จะต้องซื้อแยกต่างหากนะ แต่บางร้านอาจจะมีจัดโปรโมชั่นแถมมาให้ หรือมีส่วนลดเมื่อซื้อพร้อมเครื่อง ก็ต้องคอยเช็คดีๆ ค่ะ

เรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่มักจะมีตัวเลือกจัดส่งฟรี หรือมีโปรโมชั่นส่งฟรีเมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด แต่ก็ขึ้นอยู่กับร้านค้าและแพลตฟอร์มนั้นๆ ด้วยค่ะ

5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ

อยากได้ Kobo ในราคาดีๆ ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น เลยจ้า! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย เค้าจัดหนักจัดเต็มเรื่องส่วนลดกันแทบจะทุกเดือน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลเลขเบิ้ลยอดฮิตอย่าง 11.11, 12.12, 3.3, 4.4 ฯลฯ หรือแม้แต่ช่วง Payday กลางเดือนก็มีโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ นะคะ

นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญของไทย อย่างปีใหม่ หรือสงกรานต์ บางร้านค้าก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขายเหมือนกันค่ะ การติดตามร้านค้า Official Store ของ Udomagg (ถ้ามี) หรือร้านค้าใหญ่ๆ ที่ขาย Kobo บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ จะช่วยให้เราไม่พลาดส่วนลดและโปรโมชั่นดีๆ

คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ ให้รอซื้อช่วงโปรโมชั่น ค่ะ มีโอกาสได้ส่วนลดหรือของแถมที่คุ้มค่ากว่าซื้อในช่วงปกติเยอะเลย หรือบางทีร้านก็อาจจะมีโค้ดส่วนลดพิเศษสำหรับสินค้า Kobo โดยเฉพาะด้วยนะ ต้องหมั่นเข้าไปเช็ค เข้าไปส่องบ่อยๆ ค่ะ

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย

จากการส่องรีวิวและคอมเมนต์ของผู้ใช้ Kobo ในไทยตามเว็บบอร์ดหรือโซเชียลต่างๆ เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เป็นไปในทางที่ดีเลยนะ โดยเฉพาะคนที่เคยใช้ e-reader แบรนด์อื่นมาแล้ว หรือเพิ่งเข้าวงการ จุดที่คนไทยชอบใน Kobo หลักๆ เลยก็คือ:

  • หน้าจอสบายตา: อันนี้คือจุดเด่นของ e-reader ทุกรุ่น แต่ผู้ใช้ Kobo ก็ยืนยันว่าอ่านนานๆ แล้วไม่เมื่อย ไม่ปวดตาจริงๆ
  • รองรับไฟล์ได้หลากหลาย: Kobo อ่านไฟล์ได้หลายฟอร์แมต ทั้ง EPUB, PDF, MOBI และอื่นๆ ทำให้เราสามารถนำ e-book ที่มีอยู่มาอ่านได้ง่าย
  • ดีไซน์สวยงาม พกพาง่าย: หลายรุ่นของ Kobo ดีไซน์เรียบหรู น่าใช้ ขนาดและน้ำหนักกำลังดี เหมาะกับการพกพา
  • แบตเตอรี่อึด: ชาร์จเต็มครั้งนึงอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ สะดวกมากๆ
  • ฟังก์ชันเสริมที่มีประโยชน์: เช่น ระบบ ComfortLight ที่ปรับแสงหน้าจอตามสภาพแวดล้อม และลดแสงสีฟ้าได้ หรือบางรุ่นรองรับปากกา Stylus สำหรับจดโน้ต
  • อ่านภาษาไทยได้: แม้ Kobo Store จะเน้นหนังสือต่างประเทศ แต่ตัวเครื่อง Kobo สามารถลงไฟล์ e-book ภาษาไทย (เช่น ไฟล์ ePub หรือ PDF) และอ่านได้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ อาจจะต้องมีการปรับแต่งฟอนต์เล็กน้อยในบางกรณี

โดยรวมแล้วผู้ใช้ในไทยพอใจกับประสิทธิภาพของ Kobo ในราคาที่เหมาะสมค่ะ

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าอยากสอย Kobo มาไว้ในครอบครอง ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำให้ไปตำก็คือ:

  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ (Shopee, Lazada): อันนี้สะดวกที่สุด มีร้านค้าให้เลือกเยอะ ทั้งร้านค้าทางการ (ถ้ามี) และร้านค้ารายย่อย สามารถเปรียบเทียบราคา อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่น และใช้โค้ดส่วนลดได้ แต่ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีเครดิตดีๆ หน่อยนะ
  • ร้านค้าออนไลน์ของตัวแทนจำหน่ายในไทย: อย่างที่เจอชื่อ TSMactive ซึ่งดูจะเป็นผู้จัดจำหน่าย Kobo อย่างเป็นทางการในไทย การซื้อจากช่องทางเหล่านี้มักจะมั่นใจเรื่องคุณภาพสินค้า การรับประกัน และบริการหลังการขายได้มากกว่าค่ะ ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ของร้านโดยตรงได้เลย
  • ร้านค้าปลีกด้านไอที/หนังสือบางแห่ง: แม้จะไม่ได้มีทั่วไปเหมือนร้านมือถือ แต่ร้านขายอุปกรณ์ไอทีขนาดใหญ่บางร้าน หรือร้านหนังสือใหญ่ๆ อาจจะมี Kobo วางขายอยู่บ้าง ข้อดีคือเราสามารถไปดูเครื่องจริง ลองจับ ลองเล่นได้ก่อนตัดสินใจซื้อ

การซื้อจากช่องทางเหล่านี้มักจะได้เครื่องใหม่ มีการรับประกัน และบริการหลังการขายที่ชัดเจนค่ะ

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา

สรุปแล้ว เครื่องอ่าน e-book Kobo by Udomagg (หรือ Kobo ที่ขายโดย Udomagg) เนี่ย น่าใช้ไหม? ตอบเลยว่า น่าใช้มากๆ ค่ะ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่รักการอ่าน และกำลังมองหาอุปกรณ์ที่ช่วยให้อ่านสบายตา พกพาง่าย และมีแบตเตอรี่ที่อึดทน

เรื่องราคา ถ้าเทียบกับคุณภาพและประสบการณ์การอ่านที่ได้ ถือว่ามีความ คุ้มค่า อยู่ในระดับที่ดีเลยค่ะ ไม่ได้แพงหูฉี่จนเกินไป และมีรุ่นให้เลือกหลากหลายตามงบประมาณและความต้องการ

ถ้าถามว่าใครควรซื้อรุ่นไหนดี? ถ้าเน้นเริ่มต้น ใช้งานง่าย อ่านอย่างเดียว รุ่นพื้นฐานหรือรุ่นกลางๆ ก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นหนอนหนังสือตัวยง อ่านเยอะ อ่านหนัก หรือต้องการฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น จอใหญ่ขึ้น กันน้ำ หรือรองรับปากกาสำหรับจดโน้ต การลงทุนกับรุ่นที่สูงขึ้นมาหน่อยอย่าง Kobo Libra หรือ Kobo Sage ก็อาจจะตอบโจทย์กว่า ส่วนรุ่นจอสีอย่าง Kobo Libra Colour ก็เหมาะกับคนที่อ่านนิตยสาร การ์ตูน หรือเอกสารที่มีภาพสีเยอะๆ ค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน Kobo ก็เป็นเพื่อนคู่ใจในการอ่านที่ดีมากๆ ค่ะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่านนะคะ! ไปค่ะ! ไปสอยมาอ่านกันให้หนำใจไปเลย! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังฝันอยากมีร้านกาแฟเล็กๆ เป็นของตัวเอง! ช่วงนี้หลายคนคงมองหาช่องทางสร้างรายได้ หรืออยากลองทำธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนตูมใหญ่ วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง "ซุ้มกาแฟสดมือสอง" กันค่ะ บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งทางเลื
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
สวัสดีจ้า พี่น้องนักดื่ม เอ้ย! นักช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราไม่ได้มารีวิวสกินแคร์ เสื้อผ้า หรือแกดเจ็ตสุดล้ำนะจ๊ะ แต่เราจะมาเจาะลึกเรื่องใกล้ตัว ใกล้ใจ (และใกล้ตู้กับข้าว เอ้ย! ตู้เย็น) ของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ สุราหงส์ทอง ขนาด
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
สวัสดีค่าาา! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องรถในตำนานที่สายซิ่ง สาย JDM ต้องรู้จัก นั่นก็คือ Nissan Silvia S15 นั่นเอง! หลายคนใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครอง แต่บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะจ๊ะ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าเจ้า S15 เนี่ยมันคืออะไร ทำไ
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ