ราคา เมล็ดกาแฟ Java Moka หรือเครื่องดื่ม (ระบุ) อัปเดตล่าสุด ปี 2568


สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องกาแฟในตำนานอย่าง Java Moka กัน ใครเป็นคอกาแฟ ชอบลองอะไรใหม่ๆ หรือกำลังมองหาเมล็ดดีๆ มาชงดื่มเองที่บ้าน มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกเรื่องราคาล่าสุดอัปเดตปี 2568 ให้ฟังแบบหมดเปลือก แถมด้วยเคล็ดลับช้อปยังไงให้คุ้มค่า จนเพื่อนต้องเหลียวหลัง! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!
1. เจ้า Java Moka นี่มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า Java Moka นี่มันคือกาแฟอะไร? พูดง่ายๆ มันคือ กาแฟเบลนด์ (Coffee Blend) หรือกาแฟที่นำเมล็ดกาแฟจาก 2 แหล่งปลูกมารวมกัน ซึ่งเป็นเบลนด์ที่ เก่าแก่ที่สุดในโลก เลยนะ! เกิดจากการนำเมล็ดกาแฟจาก 2 สถานที่สำคัญในอดีตมารวมกัน อย่างแรกคือเมล็ดกาแฟจาก เมืองมอคค่า (Mocha) ในประเทศเยเมน ซึ่งเคยเป็นท่าเรือศูนย์กลางการค้ากาแฟที่สำคัญมากๆ และอย่างที่สองคือเมล็ดกาแฟจาก เกาะชวา (Java) ในประเทศอินโดนีเซีย สมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของดัตช์
รสชาติของ Java Moka มักจะมีเอกลักษณ์ที่ผสมผสานความฟรุ้ตตี้ เปรี้ยวอมหวานแบบไวน์ (มาจากฝั่งมอคค่า/เอธิโอเปีย) เข้ากับความหนักแน่น บอดี้เต็มๆ มีกลิ่นหอมของช็อกโกแลต ถั่ว หรือเครื่องเทศ (มาจากฝั่งชวา/อินโดนีเซีย) ทำให้ได้รสชาติที่ซับซ้อน กลมกล่อม ไม่เหมือนใคร เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบกาแฟที่มีมิติ ไม่ใช่แค่ขมๆ อย่างเดียว หรือคนที่ชอบทดลองรสชาติใหม่ๆ ที่มีความคลาสสิกซ่อนอยู่
สำหรับในตลาดไทย Java Moka อาจจะไม่ได้หาได้ง่ายๆ เหมือนกาแฟเบลนด์ทั่วๆ ไปตามร้านสะดวกซื้อ ส่วนใหญ่จะเจอในร้านกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) หรือร้านที่คั่วเมล็ดกาแฟขายเองมากกว่า หรือถ้าเป็นเมล็ดกาแฟ อาจจะต้องมองหาเมล็ดจากแหล่งปลูก Java หรือ Ethiopia/Yemen แล้วนำมาเบลนด์เอง หรือมองหาแบรนด์ที่ทำเบลนด์ชื่อนี้โดยเฉพาะจ้า
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง? (อัปเดตปี 2568)
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ เมล็ดกาแฟ Java Moka เนี่ย ต้องบอกก่อนว่าเนื่องจากมันเป็นชื่อเบลนด์ หรือมาจากแหล่งปลูกเฉพาะ ราคาในตลาดก็จะมีความหลากหลายมากๆ จ้า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น:
- แบรนด์: แต่ละแบรนด์มีต้นทุนการนำเข้า การคั่ว คุณภาพเมล็ด และชื่อเสียงต่างกัน ราคาก็จะต่างกันไป
- คุณภาพของเมล็ด: เป็น Specialty Grade เลยไหม หรือ Commercial Grade ทั่วไป? อันนี้มีผลกับราคาโดยตรง
- แหล่งที่มา: เมล็ดจาก Java แท้ๆ หรือจากแหล่งอื่นที่ใช้ชื่อ Java? เบลนด์กับเมล็ดจาก Ethiopia หรือ Yemen แท้ๆ ไหม?
- ระดับการคั่ว: คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม ราคาก็อาจจะต่างกันนิดหน่อย
- ขนาดบรรจุภัณฑ์: ถุงเล็ก 100-250 กรัม หรือถุงใหญ่ 500 กรัม - 1 กิโลกรัม ยิ่งใหญ่ยิ่งถูกต่อกรัม (เป็นเรื่องปกติของการซื้อเยอะ!)
ส่วนใหญ่แล้วในตลาดออนไลน์ของไทย อย่าง Lazada และ Shopee เราจะเจอ เมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูก Java หรือ เบลนด์ที่มีคำว่า Java หรือ Moka อยู่ด้วย ซึ่งราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงหลักพันต้นๆ บาท (฿) ต่อถุงขนาด 200-250 กรัม สำหรับเมล็ดที่คั่วในไทย หรือนำเข้ามาโดยร้านเล็กๆ
บางทีถ้าเป็นเมล็ดจากแหล่งปลูกเดี่ยว (Single Origin) คุณภาพดีๆ จาก Java หรือเมล็ดหายากจาก Ethiopia/Yemen ราคาก็อาจจะพุ่งไปถึง หลักพันกลางๆ ถึงปลายๆ บาทต่อกิโลกรัม ก็มีนะจ๊ะ
ส่วนถ้าเป็น เครื่องดื่ม Java Moka ตามร้านกาแฟพิเศษ ราคาก็จะเหมือนกาแฟ Specialty ทั่วไป คือเริ่มต้นที่ประมาณ หลักร้อยบาทต่อแก้ว ขึ้นอยู่กับขนาดและร้านนั้นๆ เลยจ้า
ลองไปส่องตามร้านค้าออนไลน์ที่เน้น Specialty Coffee หรือร้านคั่วกาแฟ (Roaster) ใน Lazada หรือ Shopee ดูสิ ลองใช้คีย์เวิร์ดว่า "เมล็ดกาแฟ Java", "เมล็ดกาแฟ Mocha", "Mocha Java Blend" หรือชื่อแบรนด์กาแฟที่คุณสนใจ จะมีตัวเลือกและช่วงราคาให้เห็นเพียบเลยจ้า
3. แล้วเทียบกับกาแฟตัวอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าให้เทียบกับกาแฟ Specialty อื่นๆ ในตลาดเนี่ย ราคาของ เมล็ดกาแฟ Java Moka (หรือเมล็ดจากแหล่งปลูก Java/Mocha) ถือว่าค่อนข้าง อยู่ในระดับกลางๆ ไปจนถึงสูง เลยนะ ไม่ได้ถูกเหมือนกาแฟเบลนด์ทั่วไปที่หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ก็ไม่ได้แพงหูฉี่เท่าเมล็ดหายากบางตัวอย่าง Geisha (ที่บางที Java ถูกนำไปเปรียบเทียบด้วย)
ลองนึกภาพว่ากาแฟไทย Single Origin ดีๆ อย่างดอยช้าง ดอยสะเก็ด ราคาอาจจะเริ่มต้นที่ประมาณ 300-500 บาทต่อ 250 กรัม ในขณะที่เมล็ด Java หรือเบลนด์ Mocha Java อาจจะขยับขึ้นไปอีกหน่อย เป็น 500-800 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพและแบรนด์
ความคุ้มค่าของ Java Moka ไม่ได้อยู่ที่ราคาที่ถูกกว่าใครเพื่อน แต่อยู่ที่ เอกลักษณ์ของรสชาติและความซับซ้อน ที่หาไม่ได้จากกาแฟเบลนด์ทั่วไป ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบรสชาติแบบนี้จริงๆ ยอมจ่ายเพิ่มอีกนิดเพื่อประสบการณ์การดื่มที่พิเศษ ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
เวลาซื้อ เมล็ดกาแฟ Java Moka หรือเบลนด์ที่เกี่ยวข้องจากร้านคั่วต่างๆ สิ่งที่มักจะมาด้วยก็คือ:
- ตัวเมล็ดกาแฟ: แน่นอน! มาในถุงซิปล็อกแบบมีวาล์วระบายอากาศ เพื่อรักษาความสดใหม่
- ข้อมูลเมล็ด: ส่วนใหญ่ร้านคั่วดีๆ จะบอกแหล่งที่มา (Origin), สายพันธุ์ (Variety), โปรเซส (Process), ระดับความสูง (Altitude), ระดับการคั่ว (Roast Level) และที่สำคัญคือ Tasting Notes หรือกลิ่นรสที่เราน่าจะเจอ เช่น ช็อกโกแลต, ฟรุ้ตตี้, คาราเมล, ถั่ว
- ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะจ๊ะ นอกจากร้านจะจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี ก็ต้องลองดูเงื่อนไขดีๆ บางร้านอาจจะมีขั้นต่ำในการสั่งซื้อถึงจะส่งฟรี
ส่วนเรื่อง การรับประกัน สำหรับเมล็ดกาแฟคงไม่มีเหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นะจ๊ะ แต่ถ้าได้รับเมล็ดที่ผิดปกติ มีปัญหา เช่น ถุงรั่ว ได้รับผิดแบบ หรืออื่นๆ ก็สามารถติดต่อร้านค้าเพื่อเคลมได้ (ต้องเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านอีกที)
ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ร้านเลย บางร้านอาจจะมีคูปองส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ หรือสำหรับซื้อครั้งต่อไป หรือมีโปรโมชั่นแถมแก้วเล็กๆ หรืออุปกรณ์ชงเบื้องต้นให้ ถ้าซื้อเยอะๆ ก็อาจจะมีส่วนลดพิเศษได้ ต้องหมั่นดูโปรโมชั่นหน้าร้าน หรือติดตามโซเชียลมีเดียของร้านคั่วนั้นๆ จ้า
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
แน่นอนว่าถ้าอยากได้ของดีราคาโดน ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า! ถึงแม้จะเป็นเมล็ดกาแฟ แต่ร้านค้าออนไลน์หรือร้านคั่วต่างๆ ก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย หรือช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตนะ เช่น:
- ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือ ปีใหม่สากล: มักจะมีโปรโมชั่นต้อนรับปีใหม่
- ช่วง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) และ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12): อันนี้คือตัวตึงของ Lazada และ Shopee เลยจ้า ร้านค้าต่างๆ อัดโปรโมชั่นกันสุดฤทธิ์ ทั้งลดราคา โค้ดส่วนลด แคชแบ็ก ส่งฟรี!
- ช่วง Payday Sale หรือ Flash Sale: บางร้านอาจจะจัดโปรเล็กๆ น้อยๆ ช่วงกลางเดือนหรือช่วงที่มีแคมเปญพิเศษบนแพลตฟอร์ม
- วันครบรอบร้าน หรือ วันกาแฟสากล (International Coffee Day): ร้านคั่วกาแฟหลายๆ ร้านอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงนี้โดยเฉพาะ
ร้านค้าระดับ Flagship Store บน Lazada หรือ Shopee (ถ้ามีแบรนด์กาแฟใหญ่ๆ ที่ขาย Java Moka) หรือร้านคั่วกาแฟที่เปิดร้านบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ มักจะเข้าร่วมแคมเปญใหญ่ๆ นะจ๊ะ สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ย มีโอกาสได้เมล็ดคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง หรือได้ของแถมจุกๆ เพียบเลยจ้า!
6. คนไทยชิมแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยในกลุ่มคอกาแฟ หรือตามรีวิวสินค้าบน Shopee/Lazada เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับกาแฟที่มีส่วนผสมของ Java หรือเป็นเบลนด์ Java Moka ถือว่าน่าสนใจเลยนะ จุดที่คนไทยหลายคนชอบก็คือ:
- รสชาติซับซ้อน มีมิติ: ไม่ใช่แค่ขมอย่างเดียว แต่มีความเปรี้ยว (แบบผลไม้) ความหวาน และความหอมเฉพาะตัว บางคนบอกว่ามีกลิ่นช็อกโกแลต นัตตี้ หรือคาราเมลชัดเจน
- บอดี้กาแฟดี: ให้ความรู้สึกเต็มปากเต็มคำ ไม่เบาโหวง
- ชงได้หลายแบบ: บางคนชอบเอามาชงกับ Moka Pot ได้รสชาติเข้มข้น หรือเอาไป Drip หรือใส่เครื่อง Espresso ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดี
- ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์: กลิ่นหอมเฉพาะตัวของกาแฟ Java หรือเบลนด์นี้ทำให้หลายคนประทับใจ
- เหมาะกับการทำเมนูกาแฟนม: รสชาติที่ซับซ้อนและบอดี้ที่ดีทำให้เมื่อนำไปผสมนมแล้วยังคงความอร่อย ไม่จมไปกับนม
แน่นอนว่าเรื่องรสชาติกาแฟเป็นเรื่องปัจเจกบุคคลมากๆ นะจ๊ะ บางคนอาจจะชอบรสเปรี้ยวนำ บางคนอาจจะชอบเข้มๆ นัตตี้ๆ แต่โดยรวมแล้ว คนไทยที่ได้ลอง Java Moka มักจะประทับใจในความพิเศษและความแตกต่างของรสชาติจ้า
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
สำหรับ เมล็ดกาแฟ Java Moka หรือเมล็ดจากแหล่งปลูก Java ที่น่าสนใจ มีช่องทางให้ตามล่าอยู่หลายทางเลยจ้า:
- แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada อันนี้เป็นแหล่งรวมร้านคั่วกาแฟเล็กๆ ไปจนถึงกลางๆ เยอะมากๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกหลากหลาย ราคาเปรียบเทียบได้ง่าย มีโปรโมชั่น โค้ดส่วนลด และระบบการจ่ายเงินที่สะดวก แต่ต้องเลือกดูร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ นะจ๊ะ
- ร้านคั่วกาแฟ (Roaster) ในไทย: หลายๆ ร้านคั่ว Specialty Coffee ในไทยมีเมล็ดจากแหล่งปลูก Java หรือทำเบลนด์พิเศษของตัวเอง บางร้านมีหน้าร้านให้ไปลองชิมได้ หรือมีเว็บไซต์ของตัวเองให้สั่งซื้อออนไลน์ได้โดยตรง การซื้อจาก Roaster โดยตรงมักจะได้เมล็ดที่คั่วใหม่กว่า
- ร้านกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee Shop): บางร้านอาจจะมีเมล็ด Java หรือเบลนด์ Mocha Java ขายหน้าร้านด้วย หรือสามารถสั่งเครื่องดื่ม Java Moka จากบาริสต้าได้ ข้อดีคือได้ลองชิมก่อนตัดสินใจซื้อเมล็ด
- ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ หรือแผนก Gourmet: บางทีอาจจะมีแบรนด์กาแฟนำเข้าที่มีเบลนด์ Mocha Java วางขายอยู่บ้าง แต่ตัวเลือกอาจจะไม่หลากหลายเท่าช่องทางออนไลน์ หรือร้านคั่วเฉพาะทาง
ช่องทางออนไลน์บน Shopee กับ Lazada ดูจะเป็นช่องทางที่สะดวกและมีตัวเลือกเยอะที่สุดในปี 2568 นี้ เพราะมีร้านคั่วและผู้ขายหลากหลายเข้ามาแข่งขันกัน ทำให้เรามีโอกาสเจอเมล็ดคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น แถมยังมีโปรโมชั่นให้เปย์ตลอดๆ อีกด้วย!
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า กาแฟ Java Moka หรือเมล็ดจากแหล่งปลูก Java ยังน่าลอง น่าซื้ออยู่ไหมในปี 2568 นี้? คำตอบคือ น่าลองมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:
- ชอบกาแฟที่มีรสชาติซับซ้อน ไม่ซ้ำใคร: เบื่อกาแฟรสชาติเดิมๆ อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
- ชื่นชอบรสชาติแบบฟรุ้ตตี้ เปรี้ยวอมหวาน หรือมีกลิ่นช็อกโกแลต/นัตตี้แฝงอยู่: Java Moka มักจะมีเอกลักษณ์ตรงนี้ค่อนข้างชัดเจน
- อยากลองชิมกาแฟเบลนด์ในตำนาน: นี่คือเบลนด์กาแฟตัวแรกๆ ของโลกนะ! มีสตอรี่น่าสนใจ
- มีงบประมาณสำหรับกาแฟ Specialty ระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง: ราคาอาจจะสูงกว่ากาแฟทั่วไป แต่ก็ยังเข้าถึงได้เมื่อเทียบกับเมล็ดหายากมากๆ
- ชอบชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน: จะชงด้วย Moka Pot, Drip, Aeropress หรือเครื่อง Espresso ก็สนุกกับการปรับสูตรได้เต็มที่
เจ้า Java Moka คือคำตอบเลยจ้า! มันเป็นกาแฟที่ให้ ความพิเศษ และ ประสบการณ์การดื่มที่แตกต่าง ยิ่งถ้าเจอร้านคั่วดีๆ ที่คั่วออกมาได้ดึงรสชาติของเมล็ดออกมาเต็มที่ จะยิ่งฟินสุดๆ ไปเลย
ส่วนความคุ้มค่าเนี่ย ถ้ามองแค่ราคาเพียวๆ อาจจะดูสูงกว่ากาแฟทั่วไป แต่ถ้ามองถึงคุณภาพ ความซับซ้อนของรสชาติ และความพิเศษของมันแล้ว ถือว่า คุ้มค่าที่จะลอง และน่ามีติดบ้านไว้สลับสับเปลี่ยนกับการดื่มกาแฟแบบอื่นๆ นะจ๊ะ เหมาะมากๆ สำหรับคอกาแฟที่อยากยกระดับการดื่มกาแฟที่บ้าน หรือคนที่ชอบทดลองอะไรใหม่ๆ ไม่จำเจ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเล็งๆ กาแฟ Java Moka นะจ๊ะ ขอให้ได้เมล็ดที่ถูกใจ ชงกาแฟอร่อยๆ มีความสุขกับการดื่มกาแฟแก้วโปรดกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?