ถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตร ราคาเท่าไหร่? รวมยี่ห้อดัง น่าใช้ ปีล่าสุด


สวัสดีพี่น้องชาวไทยที่กำลังมองหา "ส้วมซึม" อัปเกรดกันอยู่! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตร ซึ่งเป็นหัวใจหลักของบ้านที่ไม่มีระบบระบายน้ำสาธารณะ หรืออยากจะจัดการน้ำเสียให้ดี๊ดีก่อนปล่อยออกไปสู่ธรรมชาติ (จะได้ไม่โดนเพื่อนบ้านบ่นเอาไง!) ไซส์ 3000 ลิตรนี่ไม่ใช่เล็กๆ นะจ๊ะ เหมาะสำหรับบ้านขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ หรือพวกอาคารพาณิชย์เล็กๆ ที่มีคนอยู่หลายคนหน่อย ถ้าครอบครัวใหญ่ หรือมีออฟฟิศเล็กๆ อยู่ในบ้านด้วยล่ะก็ ไซส์นี้ตอบโจทย์เลย ไม่ต้องกลัวเต็มไว ไม่ต้องดูดบ่อยให้เปลืองตังค์! หลักการทำงานของถังบำบัดสำเร็จรูปส่วนใหญ่ก็คือ การใช้จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายของเสีย แบ่งเป็นช่องเกรอะกับช่องกรอง ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน นี่แหละตัวช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเราเลยล่ะ
1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ! เจ้า ถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตร เนี่ย มันก็คือถังที่เอาไว้รองรับน้ำเสียจากกิจกรรมในบ้านเราทั้งหมด ทั้งน้ำส้วม น้ำทิ้งจากซิงค์ จากห้องน้ำ ห้องครัว เอามาผ่านกระบวนการบำบัดด้วยจุลินทรีย์นี่แหละ ก่อนจะปล่อยน้ำที่บำบัดแล้วออกไปสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ หรือบ่อพักน้ำทิ้ง. มันสำคัญมากนะ ไม่งั้นน้ำเสียพวกนี้ก็จะไปสร้างมลภาวะและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับขนาด 3000 ลิตร ก็อย่างที่บอกไป พวกบ้านที่มีสมาชิก 10-13 คนสบายๆ, โรงเรียนเล็กๆ หรือร้านอาหารเล็กๆ ก็พอไหว. ยี่ห้อดังๆ ในไทยก็มีหลายเจ้าเลยนะ เช่น DOS, SAFE, WAVE, PURE, Aqualine. ส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุ Polyethylene (PE) คุณภาพดี ได้มาตรฐาน มอก. 816-2556 ซึ่งเค้าว่ากันว่าเหนียว ทนทาน แข็งแรงดี. บางยี่ห้อก็มีเทคโนโลยีพิเศษเพิ่มเข้ามาอีก เช่น มีเดีย (ลูกพลาสติก) เยอะขึ้น ช่วยให้จุลินทรีย์ทำงานได้ดีขึ้น หรือโครงสร้างแข็งแรงเป็นพิเศษ รองรับแรงกดดันใต้ดินได้ดี.
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทุกคนอยากรู้! สำหรับถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตรเนี่ย ราคาค่อนข้างหลากหลายเลยจ้า ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น วัสดุ และเทคโนโลยีที่ใช้ แต่ถ้าให้บอกเป็นช่วงราคาคร่าวๆ ในตลาดไทยตอนนี้เนี่ย ถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตร แบบไม่เติมอากาศ (รุ่นมาตรฐานทั่วไป) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท ไปจนถึง 40,000 กว่าบาท (฿) เลยนะ.
ลองมาดูราคายี่ห้อดังๆ ที่เจอจากแหล่งต่างๆ:
- SAFE: เจอราคาประมาณ ฿7,200 - ฿7,447 ถือว่าน่ารักน่าคบเลยสำหรับไซส์นี้
- PURE: มีราคาประมาณ ฿7,900 และบางรุ่น (อาจจะเติมอากาศ) ราคาอาจสูงกว่านี้
- WAVE: รุ่น WP อยู่ที่ประมาณ ฿18,900. รุ่น ZAD ประมาณ ฿17,484 - ฿18,707. รุ่น BB (Black Bull) เจอราคา ฿12,929 ราคาก็มีหลายระดับเหมือนกันนะ
- DOS: อันนี้พรีเมี่ยมหน่อย ราคาก็จะสูงขึ้นตามคุณภาพและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รุ่น SUPER SEPT COMPACT 3000 ลิตร ราคาจะอยู่ประมาณ ฿29,190 - ฿33,880 และบางร้านอย่าง HomePro ขายที่ ฿29,890. ส่วนรุ่นเติมอากาศราคาก็จะโดดขึ้นไปอีก เช่น DOS COMPACT 3000 ลิตร รุ่น ST-10/GY-3000L อยู่ที่ประมาณ ฿67,900 - ฿79,500
- Aqualine: รุ่น Premium 3000 ลิตร เจอข้อมูลว่ามีไซส์นี้ แต่ยังไม่เจอราคาเป๊ะๆ
แหล่งช้อปปิ้งหลักๆ ที่เจอถังบำบัดก็คือพวก HomePro, ไทวัสดุ, Global House, บุญถาวร (ลองเช็คออนไลน์หรือไปที่ร้านได้เลย) รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee ที่มีร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายต่างๆ เอามาลงขายเยอะแยะไปหมด.
3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าให้เทียบราคาถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตรกับขนาดอื่นๆ เนี่ย ราคาจะเพิ่มขึ้นตามขนาดความจุอยู่แล้วนะ เช่น ถัง 1000 ลิตร อาจจะราคา 3,000-5,000 บาท, 2000 ลิตร ก็ 5,000-8,000 บาทโดยประมาณ. ส่วน 3000 ลิตรอย่างที่เรากำลังคุยกันเนี่ย ราคาก็จะกระโดดขึ้นมาอีกระดับ อยู่ในช่วงที่เราเห็นๆ กันนี่แหละ.
ทีนี้มาเทียบกับยี่ห้ออื่นในขนาดเดียวกันบ้าง อย่างที่เห็นว่า SAFE หรือ PURE ราคาจะค่อนข้างเป็นมิตรกับกระเป๋ามากๆ. ส่วน WAVE ราคาก็จะขยับสูงขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังอยู่ในช่วงกลางๆ. แต่ถ้าเป็น DOS เนี่ย ราคาจะพุ่งไปอีกระดับเลย. ถามว่าแพงกว่าแล้วคุ้มไหม? อันนี้ก็ต้องดูที่วัสดุ เทคโนโลยี มาตรฐานการผลิต และชื่อเสียงของแบรนด์ด้วยนะ DOS เค้าขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความแข็งแรง ได้มาตรฐานสูงกว่า วัสดุดีกว่า การรับประกันอาจจะยาวนานกว่า (เดี๋ยวไปดูกัน) ซึ่งถ้ามองเป็นการลงทุนระยะยาวที่อยู่ใต้ดินไปอีกนานแสนนาน ความแข็งแรงทนทาน การรับประกันที่ดี ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาสูงขึ้นได้นะ ไม่ใช่แค่แพงเพราะติดหรูอย่างเดียวเด้อ
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
เวลาซื้อถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตรเนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ เลยก็คือ ตัวถัง นั่นแหละจ้า! บางยี่ห้อ บางรุ่น อาจจะมี ฝาถัง มาให้ด้วย. สิ่งที่มักจะแถมมาด้วยคือ ข้อต่ออ่อน (Flexible Joint) 2 อัน อันนี้สำคัญนะ ช่วยลดการแตกหักของท่อเวลาดินทรุดตัว และที่ขาดไม่ได้เลยคือ หัวเชื้อจุลินทรีย์ สำหรับเริ่มต้นระบบบำบัด. บางทีก็มี ลูกมีเดีย (Plastic Media) แถมมาให้ด้วย.
เรื่องสำคัญสุดๆ ที่คนไทยมักจะถามถึงคือ การรับประกัน! ถังบำบัดเนี่ยฝังดินไปแล้ว ถ้ามีปัญหาขุดขึ้นมานี่เรื่องใหญ่เลยนะ ดังนั้นการรับประกันยิ่งนานยิ่งดี ยี่ห้อส่วนใหญ่จะรับประกันตัวถังตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี เลยนะ แต่บางยี่้ออย่าง Aqualine รับประกันรุ่น Premium 3 ปี และรุ่น Premium Green 5 ปี. DOS รุ่น Super Sept รับประกัน 3 ปี. ส่วน Pure บางรุ่นรับประกัน 2 ปี หรือ 1 ปี. ต้องเช็คเงื่อนไขดีๆ ด้วยว่ารับประกันอะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะรับประกันตัวถังภายใต้เงื่อนไขการติดตั้งและการใช้งานที่ถูกต้องนะ.
ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง เนี่ย ถังมันใหญ่มากนะ! ถ้าซื้อจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างใกล้บ้านอาจจะคุยเรื่องขนส่งได้ง่ายกว่า แต่ถ้าซื้อออนไลน์ บางร้านมี บริการจัดส่งฟรีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล นะจ๊ะ แต่ถ้าต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะมีค่าขนส่งเพิ่มเติม ต้องสอบถามกับทางร้านก่อนซื้อให้ชัวร์นะ. และที่ต้องจำไว้เลยคือ ราคาที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นราคาเฉพาะตัวถังและอุปกรณ์ที่แถมมานะจ๊ะ ยังไม่รวมค่าติดตั้ง! ค่าติดตั้งนี่แหละตัวดี บางทีแพงกว่าค่าถังอีกนะ ต้องหาช่างผู้เชี่ยวชาญมาทำให้ เพราะการติดตั้งถังบำบัดมันมีขั้นตอน มีเรื่องของการตอกเสาเข็ม (ถ้าดินอ่อน) การเทพื้นคอนกรีต การกลบทรายรอบถัง ซึ่งสำคัญมากกับการรับประกันและความทนทานของถัง. อย่าเห็นแก่ของถูกแล้วติดตั้งเองมั่วๆ นะจ๊ะ เดี๋ยวงานงอก!
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
แม้ว่าถังบำบัดน้ำเสียจะไม่ใช่แฟชั่นที่จัดโปรโมชั่นทุกวันแบบเสื้อผ้าหน้าผม แต่ถ้าอยากได้ราคาดีๆ ก็มีโอกาสอยู่นะ! ลองจับตาดูช่วงเทศกาลใหญ่ๆ อย่าง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงปลายปีอย่าง 11.11 หรือ 12.12. พวกห้างสรรพสินค้าวัสดุก่อสร้างใหญ่ๆ อย่าง HomePro, ไทวัสดุ, Global House อาจจะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือมีของแถมพิเศษในช่วงนี้.
ส่วนร้านค้าบน Lazada หรือ Shopee บางร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหรือ Official Store (ถ้ามี) ก็อาจจะมีโค้ดส่วนลด หรือจัดโปรโมชั่นลดราคาในช่วง Double Digit Sale พวกนี้เหมือนกันนะ. การซื้อช่วงโปรโมชั่นก็ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อย แต่ต้องแลกกับการเฝ้ารอหน่อยนะจ๊ะ ถ้าไม่รีบใช้มาก แนะนำว่ารอช่วงโปรโมชั่นก็เป็นความคิดที่ดีเลยแหละ
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
เท่าที่ลองส่องๆ ดูรีวิวหรือคอมเมนต์จากผู้ใช้ในไทยเนี่ย ส่วนใหญ่เค้าก็จะดูที่ ความแข็งแรงทนทาน เป็นหลักเลย เพราะต้องฝังดินไปนานๆ กลัวถังแตก กลัวทรุด. วัสดุที่ได้มาตรฐาน มอก. 816-2556 ก็เป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญ. เรื่อง ราคาที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับขนาดและการใช้งานก็เป็นอีกจุดที่ถูกพูดถึง.
บางคนก็เน้นเรื่องการ ติดตั้งง่าย สะดวก เพราะถ้าติดตั้งยาก ค่าแรงช่างก็จะแพงตามไปด้วย. ระบบบำบัดว่าใช้งานได้ดีจริงไหม น้ำทิ้งที่ออกมาใสสะอาด ไม่มีกลิ่น ก็เป็นฟีดแบ็กที่สำคัญ. ส่วนเรื่องการ รับประกัน เนี่ย คนไทยค่อนข้างกังวลเป็นพิเศษเลยนะ เพราะถ้ามีปัญหาทีหลังมันยุ่งยากมาก. ดังนั้นรีวิวที่บอกว่าแบรนด์นี้บริการหลังการขายดี เคลมง่าย ก็จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจ้า
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
ช่องทางการซื้อถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตรหลักๆ ในไทยก็มีหลายทางเลยจ้า:
- ร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ (Modern Trade): พวก HomePro, ไทวัสดุ, Global House, บุญถาวร เป็นแหล่งใหญ่เลยนะ. ข้อดีคือมีของให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายขนาด มีพนักงานให้คำแนะนำ (บ้าง) และบางทีก็มีบริการจัดส่งด้วย แต่ก็ต้องเช็คพื้นที่ให้บริการดีๆ ราคาอาจจะไม่ได้ถูกที่สุด แต่ก็มั่นใจเรื่องคุณภาพและการรับประกันได้ระดับหนึ่ง
- ตัวแทนจำหน่ายหรือร้านค้าฮาร์ดแวร์ทั่วไป: ร้านค้าเล็กๆ ตามต่างจังหวัด หรือร้านฮาร์ดแวร์ใหญ่ๆ ในพื้นที่ก็มักจะมีถังบำบัดขายนะ ข้อดีคืออาจจะต่อรองราคาได้ หรือได้ร้านที่อยู่ใกล้บ้าน ขนส่งง่าย แต่ก็ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือหน่อย
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: Lazada กับ Shopee เนี่ยเป็นแหล่งรวมเลยนะ. มีร้านค้าเยอะมากๆ ทั้งร้านค้าทั่วไปและร้านค้าของตัวแทนจำหน่ายเอง ข้อดีคือเปรียบเทียบราคาง่าย มีโปรโมชั่น มีโค้ดส่วนลดให้เก็บเพียบ! บางร้านมีบริการส่งฟรีในเขตที่กำหนดด้วย. แต่ข้อควรระวังคือ ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นเยอะๆ สอบถามรายละเอียดสินค้า การรับประกัน และเงื่อนไขการจัดส่งให้ชัดเจนก่อนกดสั่งนะจ๊ะ
- เว็บไซต์ของแบรนด์โดยตรง: บางยี่ห้ออาจจะมีเว็บไซต์สำหรับให้ข้อมูลสินค้า หรือบางทีก็สามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ได้เลย.
สรุปคือ ช่องทางเยอะแยะไปหมด เลือกที่สะดวกและมั่นใจได้เลยจ้า
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
ถามว่าถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตรน่าซื้อไหม? ถ้าบ้านคุณมีสมาชิกหลายคน หรือเป็นอาคารที่ต้องการระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพและไม่ต้องดูแลบ่อยๆ ขนาด 3000 ลิตรก็ถือเป็นขนาดที่ เหมาะสมและน่าซื้อ เลยจ้า. มันคือการลงทุนระยะยาวเพื่อสุขอนามัยที่ดีและรักษาสิ่งแวดล้อมนะ!
ถังไซส์นี้เหมาะมากๆ กับ:
- บ้านเดี่ยวขนาดกลาง-ใหญ่: ที่มีสมาชิกในครอบครัวประมาณ 10-13 คน หรือมากกว่านิดหน่อย.
- อาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก: ที่มีกิจกรรมที่ก่อให้เกิดน้ำเสียในปริมาณมากพอสมควร.
- คนที่ต้องการลดความถี่ในการสูบส้วม: ถังใหญ่ขึ้นก็ยืดระยะเวลาการสูบออกไปได้อีกหน่อย สบายกระเป๋าในระยะยาว.
ส่วนจะเลือกยี่ห้อไหนดี? ถ้าเน้น ราคาประหยัด แต่ได้ขนาดที่ต้องการ SAFE หรือ PURE ก็น่าสนใจ. ถ้าขยับงบมาอีกหน่อย อยากได้ยี่ห้อที่คุณภาพดีขึ้น มีตัวเลือกหลากหลาย WAVE ก็เป็นทางเลือกที่ดี. แต่ถ้า งบถึง และต้องการความมั่นใจสูงสุด มาตรฐานการผลิตที่เข้มงวด และการรับประกันที่น่าเชื่อถือ DOS ก็เป็นตัวท็อปที่หลายคนเลือกใช้.
คำแนะนำสุดท้ายคือ ก่อนตัดสินใจซื้อ ให้สำรวจพื้นที่ติดตั้งให้ดีก่อนนะจ๊ะ ว่ามีขนาดพอไหม ต้องตอกเข็มไหม (อันนี้สำคัญมากและมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม!) และที่สำคัญอีกอย่างคือ สอบถามเรื่องค่าติดตั้งให้ชัดเจน! เพราะอย่างที่บอก ค่าติดตั้งบางทีแพงกว่าค่าถังอีกนะ. ซื้อถังมาแล้วต้องมีงบติดตั้งด้วยเด้อ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อถังบำบัดน้ำเสีย 3000 ลิตรของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้ของดีราคาโดน ติดตั้งราบรื่น ไม่มีปัญหาส้วมเต็ม ส้วมอืดกวนใจจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?