ราคา GPU การ์ดจอคอมพิวเตอร์ รุ่นยอดนิยม อัปเดตล่าสุดปี 2568 แรงขุด?


สวัสดีค่าาา เหล่าเกมเมอร์ นักขุด (ที่อาจจะพักมือไปแล้ว) และเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาหัวใจดวงใหม่ให้คอมพิวเตอร์คู่ใจ! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง การ์ดจอ (GPU) อุปกรณ์สุดร้อนแรง (ทั้งอุณหภูมิและราคา!) ที่หลายคนอยากได้อยากโดน อัปเดตล่าสุดปี 2568 มาดูกันว่ารุ่นไหนเค้าฮิต ราคาเป็นยังไง แล้วเรื่อง "แรงขุด" ยังน่าสนใจอยู่มั้ย? เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยจ้า!
1. การ์ดจอมันคืออะไรกันนะ แล้วทำไมต้องมี?
เอาล่ะ ก่อนอื่นเลย เรามาทำความรู้จักเจ้าการ์ดจอกันก่อน มันก็คือตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของเราแสดงภาพสวยๆ ออกมาบนจอนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นภาพตอนเล่นเกม ภาพกราฟิกอลังการ หรือแม้แต่วิดีโอความละเอียดสูงๆ เจ้าสิ่งนี้แหละที่รับหน้าที่ประมวลผลให้ภาพมันลื่นไหล คมชัด ไม่กระตุกเหมือนดูสไลด์โชว์! ถ้าไม่มีการ์ดจอ หรือมีการ์ดจอออนบอร์ดที่ประสิทธิภาพไม่สูงพอเนี่ย บอกเลยว่าเล่นเกมหนักๆ หรือทำงานตัดต่อวิดีโอ อาจมีหัวร้อนกันได้เลยทีเดียว
แบรนด์การ์ดจอดังๆ ในตลาดตอนนี้ก็หนีไม่พ้นสองค่ายยักษ์ใหญ่คือ NVIDIA (ค่ายเขียว) ที่มีซีรีส์ GeForce RTX และ GTX เป็นที่รู้จัก และ AMD (ค่ายแดง) กับซีรีส์ Radeon RX ทั้งสองค่ายก็งัดไม้เด็ดมาแข่งกันตลอด ทั้งเรื่องความแรง เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Ray Tracing ที่ทำให้แสงเงาดูสมจริง หรือ DLSS/FSR ที่ช่วยให้ภาพสวยขึ้นแต่ยังคงความลื่นไหล ส่วนใครที่ทำงานเฉพาะทางมากๆ ก็อาจจะคุ้นกับซีรีส์ Quadro ของ NVIDIA หรือ Radeon Pro ของ AMD ที่เน้นความแม่นยำและเสถียรภาพในการทำงานกราฟิกหนักๆ จ้า
กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับการ์ดจอแรงๆ นี่ก็ชัดเจนเลยคือ เหล่าเกมเมอร์ ที่อยากสัมผัสประสบการณ์ภาพสวยๆ เฟรมเรตสูงๆ และ คนทำงานสายสร้างสรรค์ (Content Creator) ไม่ว่าจะเป็นนักตัดต่อวิดีโอ ทำกราฟิก 3D หรืองานที่ต้องใช้พลังประมวลผลด้านภาพสูงๆ ส่วนคนใช้งานทั่วไป เน้นดูหนัง ฟังเพลง ทำงานเอกสาร การ์ดจอออนบอร์ดที่มากับซีพียูก็อาจจะเพียงพอแล้วนะ ไม่ต้องลงทุนเยอะจ้า
2. ราคาในตลาดไทย ปี 2568 เป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทำให้ใจสั่นที่สุด นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! ต้องบอกเลยว่าราคาการ์ดจอในปี 2568 นี้ก็มีตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับรุ่น ความแรง และแบรนด์ผู้ผลิต (Partner Board) ต่างๆ ด้วยนะ
สำหรับรุ่นยอดนิยมปีนี้ ถ้าดูจากหลายแหล่งก็จะเห็นตระกูล RTX 40 Series และที่มาใหม่คือ RTX 50 Series ของ NVIDIA เนี่ยมาแรงแซงทางโค้งจริงๆ ส่วน AMD ก็มี Radeon RX 7000 Series ที่เป็นตัวเลือกน่าสนใจ
ลองมาดูราคาคร่าวๆ ในตลาดไทยตามร้านและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ นะ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตลอดเวลา โปรดเช็คอีกทีตอนซื้อนะจ๊ะ):
- รุ่นเริ่มต้น/คุ้มค่า (เน้นเล่นเกมเบาๆ หรืองานทั่วไป): อาจจะยังเจอพวกรุ่นเก่าหน่อยอย่าง GTX 16 Series หรือ RTX 3050 ราคาก็อาจจะอยู่ราวๆ ฿6,000 - ฿10,000 หรือถ้าเป็นมือสองรุ่นเก่าลงไปอีกอย่าง GTX 10 Series หรือ RX 500 Series ก็มีให้เห็นในราคาหลักพันปลายๆ บน Shopee/Lazada
- รุ่นระดับกลาง (เล่นเกม Full HD สบายๆ งานตัดต่อพอได้): ยอดฮิตก็จะเป็นพวก RTX 4060, RTX 4060 Ti, RTX 5060, RTX 5060 Ti หรือฝั่ง AMD ก็มี RX 7600, RX 7600 XT ราคาก็จะอยู่ในช่วง ฿10,000 - ฿21,000 แล้วแต่รุ่นและแบรนด์ย่อย
- รุ่นระดับสูง (เล่นเกม 2K สบายๆ งานตัดต่อหนักๆ): ขยับขึ้นมาก็มี RTX 4070, RTX 4070 SUPER, RTX 5070, RTX 5070 Ti หรือ AMD RX 7700 XT, RX 7800 XT ราคาก็จะประมาณ ฿16,000 - ฿40,000+
- รุ่นตัวท็อป (เล่นเกม 4K ได้สบายสุดๆ งานมืออาชีพ): ตัวแรงสุดๆ ก็ต้องยกให้ RTX 4080, RTX 4090 และซีรีส์ใหม่แกะกล่องอย่าง RTX 5080, RTX 5090 ราคาก็พุ่งไปเลยจ้า มีตั้งแต่ ฿40,000 ปลายๆ ไปจนถึงหลักแสนบาทกลางๆ เลยทีเดียว!
สามารถเช็คราคาได้ตามร้าน IT ชั้นนำในไทย เช่น JIB, Banana IT, Power Buy, Advice หรือจะส่องโปรโมชั่นและเปรียบเทียบราคาในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมอย่าง Lazada และ Shopee ก็มีตัวเลือกเยอะมากๆ ทั้งของใหม่และมือสอง ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศเนี่ย อันนี้เป็นเรื่องปกติจ้า ของนำเข้ายังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเพียบ ทำใจนิดนึงนะ!
3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
การเปรียบเทียบราคาการ์ดจอก็เหมือนการเลือกซื้อรถยนต์นั่นแหละจ้า จะเทียบรุ่นเล็กกับรุ่นใหญ่ตรงๆ คงไม่ได้ ต้องเทียบกับรุ่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน
อย่างเช่น การ์ดจอรุ่นระดับกลางๆ อย่าง RTX 4060 Ti หรือ RTX 5060 Ti ของ NVIDIA ที่ราคาประมาณ ฿15,000 - ฿21,000 เนี่ย ก็ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ RX 7600 XT หรือ RX 7700 XT ของ AMD ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน เราก็ต้องมาดูว่ารุ่นไหนให้ประสิทธิภาพดีกว่าในงานที่เราใช้ เช่น ถ้าเน้นเล่นเกมที่รองรับ Ray Tracing หรือ DLSS ได้ดี NVIDIA มักจะทำได้ดีกว่า แต่ถ้าเน้นประสิทธิภาพแบบดิบๆ ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า บางที AMD ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะ
ส่วนรุ่นตัวท็อปอย่าง RTX 5090 ที่ราคาทะลุแสนเนี่ย มันคือการ์ดจอที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดๆ สำหรับคนที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ได้เน้นความคุ้มค่าด้านราคาเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับรุ่นรองลงมาอย่าง RTX 5080 หรือ RTX 4090/4080 ราคาจะลดลงมาเยอะ แต่ประสิทธิภาพก็ลดหลั่นกันไป ใครที่งบไม่ถึงตัวท็อปสุดๆ แต่ยังอยากได้ความแรงระดับสูง การเลือกรุ่นรองท็อปก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าเยอะจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? (เช็คดีๆ ก่อนจ่ายตังค์!)
เวลาซื้อการ์ดจอ โดยเฉพาะถ้าไม่ใช่แบบแกะกล่องมือหนึ่งจากร้านค้าทางการเนี่ย ต้องเช็ครายละเอียดให้ดีๆ เลยนะ โดยปกติแล้วการ์ดจอใหม่ๆ จะมาพร้อม:
- ตัวการ์ดจอ: แน่นอนว่าต้องมี! เช็คสภาพภายนอก พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์มั้ย
- คู่มือการติดตั้ง: ส่วนใหญ่จะเป็นคู่มือฉบับย่อ
- แผ่นไดรเวอร์ (บางรุ่น): แต่แนะนำให้โหลดเวอร์ชันล่าสุดจากเว็บไซต์ผู้ผลิต (NVIDIA หรือ AMD) จะดีที่สุด
- สายแปลงไฟ (บางรุ่น): การ์ดจอบางรุ่นที่ต้องการไฟเพิ่ม อาจจะมีสายแปลงมาให้ในกล่อง
- แท่นค้ำการ์ดจอ (บางรุ่น): การ์ดจอรุ่นใหม่ๆ ตัวใหญ่และหนักมาก บางทีเค้าจะมีแท่นค้ำมาให้ด้วย เพื่อป้องกันการ์ดจองอ
- สติกเกอร์หรือของแถมเล็กๆ น้อยๆ: แล้วแต่แบรนด์และรุ่นเลย
สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ คือ การรับประกัน! การ์ดจอใหม่ๆ มักจะมีการรับประกันจากผู้ผลิต (Warranty) โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3 ปี แต่บางรุ่นอาจจะนานกว่านั้น ต้องเก็บใบเสร็จหรือหลักฐานการซื้อไว้ให้ดีๆ เวลาเคลมจะได้ไม่มีปัญหา ร้านค้าใหญ่ๆ อย่าง JIB หรือ Banana IT มักจะมีบริการส่งเคลมให้ แต่ระยะเวลาก็แล้วแต่เคสไปนะ
ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ร้านค้าใหญ่ๆ มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด แต่ถ้าซื้อจากผู้ขายรายย่อยใน Lazada/Shopee อาจจะมีค่าส่ง หรือบางทีผู้ขายก็จัดโปรฯ ส่งฟรีเอง ต้องเช็คเงื่อนไขดีๆ จ้า
ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แหละทีเด็ด! บางร้านอาจจะมีแถมเมาส์แพด เสื้อยืด หรือคูปองส่วนลดต่างๆ ตอนซื้อก็ลองสอบถามหรือดูรายละเอียดโปรโมชั่นดีๆ นะ
5. ช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?
ถ้าใจเย็นๆ ไม่รีบมาก การรอซื้อช่วง โปรโมชั่น เนี่ยคุ้มสุดๆ เลยจ้า! ในไทยจะมีช่วงลดราคาใหญ่ๆ ที่นักช้อปออนไลน์ตั้งตารอ ไม่ว่าจะเป็น:
- เทศกาลเลขเบิ้ล (Double Digit Sale): เช่น 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11 (วันคนโสดแต่คนไม่โสดก็ช้อป!), 12.12 (ช้อปส่งท้ายปี!) Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็ม ลดแล้วลดอีก มีโค้ดส่วนลดเพียบ!
- เทศกาลไทย: ช่วง สงกรานต์ (ปีใหม่ไทย) หรือ ปีใหม่สากล หลายร้านก็มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาจ้า
- งาน Commart: งานคอมพิวเตอร์ใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำ อันนี้เป็นแหล่งรวมโปรโมชั่นเด็ดๆ จากร้านค้า IT ชั้นนำเลย ถ้าสะดวกเดินทางไปงาน ก็มีโอกาสได้เห็นของจริง เปรียบเทียบราคา และรับโปรโมชั่นพิเศษในงานได้เลย
- โปรโมชั่นประจำเดือน/ประจำสัปดาห์: ร้านค้าออนไลน์หรือร้าน IT ใหญ่ๆ มักจะมีโปรโมชั่นหมุนเวียนมาเรื่อยๆ ลองติดตามหน้าเว็บไซต์หรือเพจโซเชียลของร้านดูนะ
คำแนะนำในการซื้อ: ถ้าเล็งรุ่นไหนไว้ ให้ลองติดตามราคาตามร้านต่างๆ และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ล่วงหน้า พอถึงช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ก็เข้าไปเช็คเลย มีโอกาสได้ราคาดีกว่าเดิมแน่นอน! ร้านค้าระดับ Flagship บน Lazada/Shopee หรือ Official Store ของแบรนด์ต่างๆ ก็มักจะมีส่วนลดหรือโปรโมชั่นร่วมกับแพลตฟอร์มบ่อยๆ นะจ๊ะ
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้าง?
เท่าที่ส่องๆ ดูจากรีวิวและคอมเมนต์ของคนไทยตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มต่างๆ เนี่ย ฟีดแบ็กเกี่ยวกับกา
สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง การ์ดจอ (GPU) อุปกรณ์สำคัญสำหรับคอมพิวเตอร์ ที่บอกเลยว่าใครอยากเล่นเกมลื่นๆ ทำงานกราฟิกเนียนๆ หรือจะสู้ชีวิตกับวงการคริปโตฯ (ที่พักหลังไม่ค่อยจะสู้ด้วยแล้ว!) ต้องมีติดเครื่องไว้จ้า! อัปเดตล่าสุดปี 2568 เราจะพาไปดูกันว่ารุ่นไหนเค้าฮิตกัน ราคาเป็นยังไง แล้วเรื่อง "แรงขุด" ที่เคยบูมๆ ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ววว เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปเจาะลึกแบบเข้าใจง่าย สไตล์คนไทยกันเลย!
1. การ์ดจอมันคืออะไรกันนะ แล้วทำไมเราถึงต้องมี?
พูดง่ายๆ การ์ดจอ หรือ Graphic Card เนี่ย มันก็คือสมองน้อยๆ อีกก้อนในคอมพิวเตอร์ของเรานี่แหละ ทำหน้าที่หลักในการประมวลผลและแสดงภาพออกทางหน้าจอ คิดดูสิ ถ้าไม่มีการ์ดจอดีๆ เวลาเล่นเกมภาพก็จะกระตุกเหมือนดูสไลด์ หรือทำงานตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูงๆ ก็จะช้าจนอยากจะปาคอมทิ้ง!
ในตลาดการ์ดจอตอนนี้ก็มีสองค่ายใหญ่ที่ขับเคี่ยวกันมาตลอดนั่นคือ NVIDIA (ค่ายเขียว) ผู้โด่งดังกับซีรีส์ GeForce RTX ที่มีเทคโนโลยี Ray Tracing ภาพสมจริงเว่อร์ๆ กับ DLSS ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตให้เล่นเกมได้ลื่นปรื๊ดๆ และ AMD (ค่ายแดง) กับซีรีส์ Radeon RX ที่ก็มีไม้เด็ดเรื่องประสิทธิภาพต่อราคาในบางรุ่น และเทคโนโลยี FSR ที่ช่วยให้ภาพสวยลื่นเหมือนกัน นอกจากนี้ก็มีแบรนด์ผู้ผลิตอื่นๆ อีกเพียบที่เอาชิปจากสองค่ายนี้ไปผลิตเป็นการ์ดจอของตัวเอง เช่น ASUS, MSI, Gigabyte, Zotac, Palit, Sapphire, PowerColor, INNO3D เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวเลยจ้า
แล้วใครบ้างที่เหมาะกับการลงทุนกับการ์ดจอดีๆ? หลักๆ เลยก็คือ เหล่าเกมเมอร์ตัวยง ที่ต้องการภาพสวยๆ เฟรมเรตสูงๆ เพื่ออรรถรสในการเล่นเกมขั้นสุด และ กลุ่ม Content Creator ไม่ว่าจะตัดต่อวิดีโอ ทำกราฟิกดีไซน์ หรือทำงาน 3D ที่ต้องใช้พลังประมวลผลด้านภาพเยอะๆ การ์ดจอดีๆ ช่วยให้ทำงานเสร็จไวขึ้นเยอะเลยนะ ส่วนถ้าแค่ใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง ทำเอกสาร การ์ดจอที่ติดมากับซีพียู (Onboard) ก็เพียงพอแล้วจ้า ไม่ต้องเปลืองงบ!
2. ราคาในตลาดไทย ปี 2568 เป็นยังไงบ้าง? (กระเป๋าตังค์สั่นกันรึยัง!)
มาถึงเรื่องร้อนๆ อย่าง "ราคา" กันบ้าง! บอกเลยว่าราคาการ์ดจอในปี 2568 นี้ก็มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาทเลยนะ ขึ้นอยู่กับความแรง รุ่น และแบรนด์ผู้ผลิตย่อยๆ ที่เอาชิปไปทำ
รุ่นยอดนิยมที่คนไทยให้ความสนใจในปีนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นซีรีส์ใหม่ๆ ของ NVIDIA ทั้ง RTX 40 Series ที่ยังคงความแรง และ RTX 50 Series ที่เพิ่งเปิดตัวมาสดๆ ร้อนๆ ฝั่ง AMD ก็มี Radeon RX 7000 Series ที่เป็นตัวเลือกที่น่าจับตา
ลองมาดูราคาคร่าวๆ ตามกลุ่มความแรงต่างๆ ในตลาดไทยนะ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไปเช็คหน้าร้านอีกทีเพื่อความชัวร์นะจ๊ะ!):
- รุ่นเริ่มต้น/ประหยัดงบ (เล่นเกมออนไลน์เบาๆ หรือทำงานทั่วไป): อาจจะเจอพวกรุ่นเก่าอย่าง GTX 1650 หรือ RTX 3050 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ ฿6,000 - ฿10,000 หรือถ้าเป็นมือสองรุ่นเก่ากว่านั้นอย่าง GTX 10 Series, RX 500 Series ก็เห็นราคาหลักพันปลายๆ ตามแพลตฟอร์มออนไลน์
- รุ่นระดับกลาง (เล่นเกม Full HD ลื่นๆ งานตัดต่อพอไหว): กลุ่มนี้ฮิตมาก! อย่าง RTX 4060, RTX 4060 Ti, RTX 5060, RTX 5060 Ti หรือฝั่งแดงก็ RX 7600, RX 7600 XT ราคาก็จะอยู่ในช่วง ฿10,000 - ฿21,000 แล้วแต่รุ่นและแบรนด์
- รุ่นระดับสูง (เล่นเกม 2K สบายๆ งานหนักๆ): ถ้าขยับงบขึ้นมาหน่อย ก็จะมี RTX 4070, RTX 4070 SUPER, RTX 5070, RTX 5070 Ti หรือ AMD RX 7700 XT, RX 7800 XT ราคาจะอยู่ราวๆ ฿16,000 - ฿40,000+
- รุ่นตัวท็อป (เล่นเกม 4K ได้สุดทุกเกม งานมืออาชีพ): ตัวแรงสุดจัดปลัดบอก! อย่าง RTX 4080, RTX 4090 และซีรีส์ใหม่ RTX 5080, RTX 5090 ราคาก็พุ่งไปเลยจ้า เริ่มตั้งแต่ ฿40,000 ปลายๆ ไปจนถึงหลักแสนกลางๆ ขึ้นอยู่กับรุ่นและแบรนด์ผู้ผลิตย่อย
แหล่งช้อปยอดฮิตในไทยก็มีทั้งร้าน IT ใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Advice ที่มีหน้าร้านให้ไปเลือกดู หรือจะช้อปออนไลน์สะดวกๆ ก็มีแพลตฟอร์มอย่าง Lazada กับ Shopee ที่มีร้านค้าเยอะมากๆ ทั้งของใหม่และมือสอง ส่วนเรื่องส่วนต่างราคาเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อันนี้เป็นเรื่องปกติของสินค้าไอทีนำเข้านะจ๊ะ ทำใจไว้ได้เลย มีค่าภาษี ค่าขนส่ง อะไรอีกเพียบ!
3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ คุ้มค่าน่าสอยมั้ย?
เวลาจะตัดสินใจซื้อการ์ดจอเนี่ย เราไม่ได้เทียบแค่ราคาอย่างเดียวนะจ๊ะ ต้องเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ด้วย อย่างเช่น การ์ดจอระดับกลางอย่าง RTX 4060 Ti หรือ RTX 5060 Ti ที่อยู่ในช่วงราคาประมาณ ฿15,000 - ฿21,000 เนี่ย ก็ต้องเอามาเปรียบเทียบกับคู่แข่งในงบประมาณเดียวกันของ AMD อย่าง RX 7600 XT หรือ RX 7700 XT ดูว่ารุ่นไหนแรงกว่า เล่นเกมที่เราต้องการได้ดีกว่า หรือมีฟีเจอร์ที่เราใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
บางที การ์ดจอบางรุ่นของค่ายแดงอาจจะให้ประสิทธิภาพดิบๆ (Raw Performance) ในราคาที่ถูกกว่าค่ายเขียวเล็กน้อย แต่ค่ายเขียวก็มีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยี Ray Tracing หรือ DLSS ที่ช่วยให้ภาพสวยและเฟรมเรตดีขึ้นในเกมที่รองรับ ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่าเราเน้นอะไรมากกว่ากัน
ส่วนรุ่นตัวท็อปอย่าง RTX 5090 ที่ราคาทะลุแสนเนี่ย อันนี้มันคือการ์ดจอสำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่เกี่ยงงบเลยจ้า ถ้าเทียบกับรุ่นรองลงมาอย่าง RTX 5080 หรือ RTX 4090/4080 ที่ราคาถูกลงเยอะ แต่ประสิทธิภาพก็ยังแรงเหลือเฟือสำหรับคนส่วนใหญ่ การเลือกรุ่นรองท็อปอาจจะดูคุ้มค่ากว่าในแง่ของราคาต่อประสิทธิภาพนะ
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? (แกะกล่องพร้อมเช็ค!)
เวลาซื้อการ์ดจอใหม่ๆ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ไปซื้อเองที่หน้าร้าน ควรเช็ครายละเอียดดีๆ ก่อนรับของเลยนะว่าได้อุปกรณ์ครบตามที่ควรจะเป็นมั้ย โดยปกติแล้วการ์ดจอใหม่แกะกล่องมักจะมี:
- ตัวการ์ดจอ: อันนี้ต้องมาอยู่แล้ว! เช็คสภาพภายนอกให้เรียบร้อยว่าไม่มีรอยแตกหัก หรือความเสียหายจากการขนส่ง
- คู่มือการใช้งาน: มักจะเป็นคู่มือฉบับย่อๆ
- แผ่น/ลิงก์ไดรเวอร์: บางรุ่นอาจจะมีแผ่นมาให้ แต่ส่วนใหญ่จะแนะนำให้โหลดเวอร์ชันล่าสุดจากเว็บไซต์ NVIDIA หรือ AMD โดยตรงจะดีกว่า
- สายแปลงไฟ (ถ้าจำเป็น): การ์ดจอบางรุ่นที่ต้องการหัวต่อไฟเลี้ยงเพิ่ม อาจจะมีสายแปลงมาให้ในกล่อง
- แท่นค้ำการ์ดจอ (เฉพาะบางรุ่น): การ์ดจอรุ่นใหม่ๆ ตัวใหญ่และหนักมากกกก! บางแบรนด์ใจดีมีแท่นค้ำมาให้ด้วยเพื่อป้องกันการ์ดจองอเสียหาย
- ของแถมเล็กๆ น้อยๆ: เช่น สติกเกอร์, พวงกุญแจ แล้วแต่แบรนด์เลย
สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญไม่แพ้ราคา คือ การรับประกัน! การ์ดจอใหม่ๆ จากร้านค้าทางการในไทยมักจะมีการรับประกันจากผู้ผลิต (Warranty) โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3 ปี แต่บางรุ่นหรือบางแบรนด์อาจจะนานกว่านั้นนะ เก็บกล่อง ใบเสร็จ หรือหลักฐานการซื้อไว้ให้ดีๆ เวลาต้องเคลมจะได้ง่ายๆ จ้า ร้านค้าใหญ่ๆ เช่น JIB, Banana IT ก็มีบริการช่วยส่งเคลมให้ แต่ระยะเวลาก็แล้วแต่ทางศูนย์ผู้ผลิตเลยนะ
ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อจากร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ส่วนใหญ่มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนดนะ แต่ถ้าซื้อจากร้านเล็กๆ หรือผู้ขายรายย่อยใน Lazada/Shopee อาจจะมีค่าส่งเพิ่ม ก็ต้องลองเช็คดีๆ จ้า
ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แหละคือสีสันของการช้อปปิ้ง! บางร้านอาจจะมีแถมเมาส์แพด, เสื้อยืด, คูปองส่วนลด หรือโปรโมชั่นผ่อน 0% ร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ ลองสอบถามหรือดูรายละเอียดโปรโมชั่นดีๆ ก่อนตัดสินใจนะ!
5. ช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นอะไรน่าโดนบ้าง?
ถ้าไม่ได้รีบใช้แบบสุดๆ การรอซื้อช่วง โปรโมชั่น เนี่ยคุ้มกว่าเยอะเลยจ้า! ในไทยมีช่วงลดราคาใหญ่ๆ ที่เหล่านักช้อปตัวยงรอคอยกันเพียบ ไม่ว่าจะเป็น:
- เทศกาลเลขเบิ้ล (Double Digit Sale): นี่คือไฮไลท์เลยจ้า! 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) และ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดมหกรรมลดราคาแบบบ้าคลั่ง! เป็นช่วงที่ร้านค้าต่างๆ อัดโปรโมชั่นกันสุดๆ มีทั้งส่วนลดตรงๆ โค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม โค้ดส่วนลดจากร้านค้า ลดแล้วลดอีก คุ้มสุดๆ! นอกจากนี้ก็ยังมี 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10 อีกนะ โปรโมชั่นรองลงมาแต่ก็ยังน่าสนใจจ้า
- เทศกาลสำคัญของไทย: ช่วง สงกรานต์ (ปีใหม่ไทย) หรือ ปีใหม่สากล ร้านค้าไอทีหลายร้านก็มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมา เอาใจลูกค้าที่ได้อั่งเปาหรือโบนัสมานะ!
- งาน Commart: งานคอมพิวเตอร์ที่จัดขึ้นเป็นประจำ อันนี้เป็นแหล่งรวมโปรโมชั่นเด็ดๆ จากร้านค้า IT ชั้นนำเลย ใครสะดวกก็ไปเดินดูได้เลย อาจจะได้เห็นของจริง เปรียบเทียบราคา และรับโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงานด้วย!
- โปรโมชั่นประจำเดือน/ประจำสัปดาห์: ร้านค้าออนไลน์หรือร้าน IT ใหญ่ๆ เค้าก็มีโปรโมชั่นย่อยๆ หมุนเวียนมาเรื่อยๆ นะจ๊ะ ลองติดตามหน้าเว็บไซต์ เพจ Facebook หรือ Line Official ของร้านดู
คำแนะนำ: ถ้าเล็งการ์ดจอรุ่นไหนไว้ ให้ลองส่องราคาตามร้านต่างๆ และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ไว้ก่อน พ พอถึงช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ก็เข้าไปเช็คเลย มีโอกาสได้ราคาดีกว่าเดิมเยอะ! ร้านค้าระดับ Flagship หรือ Official Store บน Lazada/Shopee ก็มักจะมีส่วนลดร่วมกับแพลตฟอร์มบ่อยๆ ด้วยนะ ถ้าไม่รีบจริงๆ รอช่วงโปรโมชั่น คุ้มสุดจ้า!
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้าง? (คนไทยเค้าว่าไง?)
จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามกลุ่มคอมพิวเตอร์ หรือรีวิวสินค้าใน Shopee/Lazada เนี่ย ฟีดแบ็กจากผู้ใช้การ์ดจอในไทยส่วนใหญ่ก็จะประมาณนี้จ้า:
-
ความแรง/ประสิทธิภาพ: ส่วนใหญ่ก็จะรีวิวตามผล Benchmark หรือความลื่นของเกมที่เล่นได้ ว่าแรงสมราคาไหม หรือแรงกว่าที่คาดไว้
-
อุณหภูมิและการระบายความร้อน: อันนี้สำคัญมากในไทยที่อากาศร้อน! ผู้ใช้มักจะดูว่าการ์ดจอร้อนเกินไปไหม พัดลมเสียงดังหรือเปล่า
-
ความคุ้มค่า: จุดนี้คนไทยให้ความสำคัญมาก! ซื้อมาแล้วคุ้มกับเงินที่จ่ายไปไหม เล่นเกมได้ตามที่ต้องการหรือเปล่า
-
บริการหลังการขาย/การเคลม: อันนี้ก็เป็นอีกจุดที่คนไทยกังวล รีวิวร้านค้าว่าเคลมง่ายไหม ส่งเคลมนานหรือเปล่า
-
ดีไซน์/ขนาด: บางคนก็ชอบดีไซน์สวยๆ มีไฟ RGB หรือบางคนก็เน้นขนาดที่พอดีกับเคสคอมฯ ของตัวเอง
โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะแฮปปี้กับการ์ดจอที่ตอบโจทย์การใช้งานหลักๆ ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม หรือทำงาน และมักจะมองหารุ่นที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดในงบประมาณที่มีจ้า!
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนบ้างนะ? (ชี้เป้า!)
ช่องทางการซื้อการ์ดจอในไทยปี 2568 ก็มีหลากหลายให้เลือกเลยจ้า:
- ร้านค้า IT ชั้นนำ: อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Advice นี่คือแหล่งหลักเลยจ้า มีหน้าร้านกระจายอยู่ทั่วประเทศ สะดวกในการไปดูของจริง สอบถามพนักงาน และเคลมสินค้า ราคาก็มาตรฐาน อาจจะมีโปรโมชั่นหน้าร้านหรือโปรฯ ร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: Lazada และ Shopee นี่คือสวรรค์ของนักช้อปออนไลน์! มีร้านค้าและผู้ขายเยอะมากๆ ทั้งร้าน Official ของแบรนด์ ร้านค้าใหญ่ๆ ที่มาเปิดในนี้ หรือผู้ขายรายย่อย ข้อดีคือตัวเลือกเยอะมาก เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโค้ดส่วนลดให้ใช้บ่อยๆ และมีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ แต่ข้อเสียคือไม่ได้เห็นของจริงก่อนซื้อ ต้องดูจากรูปและรายละเอียดสินค้าให้ดี
- กลุ่มซื้อขายใน Facebook: เป็นอีกแหล่งที่น่าสนใจสำหรับการ์ดจอมือสองนะ มักจะเป็นผู้ใช้ด้วยกันเองที่เอามาขาย อาจจะได้ราคาดีกว่า แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วย! แนะนำให้นัดเจอ เช็คของ และจ่ายเงินกับมือจะปลอดภัยที่สุดจ้า
การเลือกช่องทางซื้อก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและงบประมาณของเราเลย ถ้าเน้นความสบายใจ ได้เห็นของ ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญ เลือกร้าน IT ใหญ่ๆ ถ้าเน้นเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นแบบจุใจ ช้อปออนไลน์ใน Lazada/Shopee ได้เลยจ้า
8. สรุปแล้วการ์ดจอรุ่นยอดนิยมปี 2568 น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า การ์ดจอรุ่นยอดนิยมในปี 2568 เนี่ย บอกเลยว่า น่าซื้อแน่นอน ถ้าคุณเป็นคนที่:
- เป็นเกมเมอร์: อยากเล่นเกมใหม่ๆ ภาพสวยๆ ลื่นๆ
- ทำงานด้านกราฟิก/ตัดต่อวิดีโอ: ต้องการความเร็วในการประมวลผลให้ทำงานเสร็จไวขึ้น
- มีงบประมาณ: พร้อมลงทุนเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของคอมพิวเตอร์
ส่วนเรื่อง "แรงขุด" สำหรับการ์ดจอในปี 2568 เนี่ย ต้องบอกตามตรงว่า วงการขุดคริปโตฯ ด้วยการ์ดจอมันไม่ได้บูมเหมือนเมื่อก่อนแล้วจ้า เหรียญหลักอย่าง Bitcoin ต้องใช้เครื่องขุดเฉพาะ (ASIC) เท่านั้น ส่วนเหรียญอื่นๆ ที่เคยขุดด้วยการ์ดจอได้ ตอนนี้ความคุ้มค่าลดลงไปเยอะมาก การลงทุนการ์ดจอเพื่อหวังผลจากการขุดเพียงอย่างเดียวในปีนี้จึง ไม่แนะนำอย่างยิ่ง ควรเน้นไปที่การใช้งานหลักคือเล่นเกมหรือทำงานจริงๆ จังๆ มากกว่านะ!
จะเลือกรุ่นไหนดีระหว่างรุ่นกลางๆ หรือรุ่นท็อปสุด? ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและการใช้งานเลยจ้า ถ้าเน้นเล่นเกม Full HD หรือทำงานทั่วไป การ์ดจอระดับกลางอย่าง RTX 4060/5060 หรือ RX 7600 ก็เพียงพอแล้วในราคาที่จับต้องได้ แต่ถ้าอยากเล่นเกม 2K/4K หรือทำงานระดับมืออาชีพที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด ก็ต้องขยับไปรุ่นสูงขึ้นอย่าง RTX 4070/5070 หรือ RTX 4080/5080/5090 ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยนะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อการ์ดจอให้เพื่อนๆ ทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้การ์ดจอที่ถูกใจ แรงถูกใจ และใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างสนุกสนานกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?