ยา/อาหารเสริม CDR (แคลเซียม วิตามินดี) ราคาล่าสุด 2025 สรรพคุณและวิธีเลือกซื้อ


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้จะชวนมาเม้าท์มอยเรื่องสุขภาพที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องกระดูกกระเดี้ยว ที่บางทีเราก็เผลอละเลยไปซะงั้น! ใครที่เริ่มรู้สึกปวดเมื่อยง่าย ลุกโอยนั่งโอย หรือกำลังมองหาตัวช่วยบำรุงกระดูกแบบที่กินง่ายๆ ไม่ต้องทนกลืนยาเม็ดใหญ่ๆ มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกถึงยา/อาหารเสริมในตำนานอย่าง CDR (ซีดีอาร์) เม็ดฟู่รสส้มจี๊ดจ๊าด ที่ฮิตมานานนมในตลาดไทย พร้อมอัปเดตราคาล่าสุดปี 2025 สรรพคุณดีงามยังไง และมีเคล็ดลับเลือกซื้อยังไงให้คุ้มค่าโดนใจสไตล์นักช้อปตัวยง! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ย!
1. เจ้า CDR นี่มันคืออะไรกันนะ?
มาทำความรู้จักเจ้า CDR กันก่อนดีกว่าค่ะ ชื่อเต็มๆ เค้าคือ CDR Calcium-D-Redoxon นะจ๊ะ เป็นวิตามินเม็ดฟู่ละลายน้ำที่รวมเอาสารอาหารสำคัญไว้หลายตัวเลย หัวใจหลักๆ ก็คือ แคลเซียม (Calcium) ที่เป็นโครงสร้างหลักของกระดูกและฟันของเรานี่แหละ แล้วก็มี วิตามินดี 3 (Vitamin D3) ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้ดีขึ้นอีกหลายเท่าตัว นอกจากนี้ยังมี วิตามินซี (Vitamin C) ที่ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน และ วิตามินบี 6 (Vitamin B6) ด้วยนะ
พูดง่ายๆ คือเจ้า CDR เนี่ยเค้าเกิดมาเพื่อช่วย เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันภาวะขาดแคลเซียม โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการแคลเซียมเป็นพิเศษ เช่น เด็กที่กำลังโตแบบยืดเอาๆ (ใครอยากสูงต้องฟัง!), คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร ที่ต้องแบ่งแคลเซียมให้ลูกน้อยในครรภ์หรือผ่านน้ำนมไป๊, ผู้สูงอายุ ที่กระดูกเริ่มจะบอกบุญไม่รับ หรือใครก็ตามที่มีความเสี่ยงกระดูกเปราะ กระดูกหัก หรืออยู่ในช่วง พักฟื้นหลังกระดูกหัก เจ้าตัวนี้ก็ช่วยได้จ้า ที่สำคัญคือเค้าเป็นเม็ดฟู่ รสส้ม เปรี้ยวๆ หวานๆ ซ่าๆ อร่อย สดชื่น กินง่ายกว่ายาเม็ดปกติเยอะเลย ถูกใจคนไทยที่ชอบอะไรอร่อยๆ เป็นที่สุด! CDR เป็นแบรนด์ดังจาก Bayer ซึ่งเป็นบริษัทต่างประเทศที่เชื่อถือได้ในเรื่องคุณภาพนะจ๊ะ (หลายคนชอบของนอกเพราะมั่นใจในมาตรฐานไง 😉)
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ (อัปเดตปี 2025!)
มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! เรื่อง "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ CDR เม็ดฟู่ ในตลาดไทยปี 2025 เนี่ย ต้องบอกว่าราคามีความหลากหลายพอสมควร ขึ้นอยู่กับว่าซื้อที่ไหน จำนวนกี่เม็ด และมีโปรโมชั่น ณ ตอนนั้นรึเปล่า โดยทั่วไปแล้ว ตัวที่ฮิตๆ เลยคือแบบหลอดที่มี 15 เม็ด ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 140 - 175 บาท (฿) ต่อหลอด โดยประมาณนะจ๊ะ
ส่วนอีกแบบคือ CDR Fortos Sugar Free อันนี้จะเป็นสูตรไม่มีน้ำตาล ส่วนใหญ่มาในรูปแบบ 10 เม็ดต่อหลอด ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ดจะสูงกว่า (600 มก. เทียบกับ 250 มก. ในสูตรปกติ) ราคาจะขยับสูงขึ้นมาหน่อย อยู่ที่ประมาณ 130 - 238 บาท (฿) ต่อหลอด นะ
ถ้าลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ ของไทยอย่าง Lazada กับ Shopee เนี่ย จะเจอร้านค้าเยอะมากๆ มีทั้งร้านยา ร้านค้าทางการของแบรนด์ (ถ้ามี) และร้านค้าอื่นๆ ทั่วไป ราคาในออนไลน์ค่อนข้างแข่งขันกันสูง บางทีเจอราคาดี๊ดี โดยเฉพาะถ้าซื้อแบบ แพ็คคู่ แพ็ค 3 หรือยกกล่อง (มักจะเป็น 6 หลอด) ราคาต่อหลอดก็จะถูกลงไปอีกจ้า อย่างที่ Priceza ก็มีรวบรวมราคาจากหลายร้านมาให้ดูเปรียบเทียบเลยนะ ส่วนร้านค้าปลีกอย่าง Watsons, Boots, หรือตามร้านขายยาทั่วไปก็มีขายเช่นกัน ราคามักจะมาตรฐานกว่าในออนไลน์ แต่บางทีก็มีโปรโมชั่นลดราคาประจำเดือนให้เจอเหมือนกันนะจ๊ะ
สำหรับส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคานานาชาติเนี่ย CDR เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างทำราคาในไทยได้สมเหตุสมผลนะ ไม่ได้รู้สึกว่าแพงเวอร์วังกว่าต่างประเทศมากมายอะไรจ้า
3. เทียบราคากับตัวอื่นในตลาดแล้วเป็นไงบ้าง?
ในตลาดอาหารเสริมแคลเซียมแบบเม็ดฟู่เนี่ย ไม่ได้มีแค่ CDR ยี่ห้อเดียวนะ ยังมีแบรนด์อื่นๆ อีกเพียบเลย เช่น Demosana, Mivolis (ของเยอรมันเหมือนกัน), Viboosta หรือแบรนด์ไทยอื่นๆ ราคาของยี่ห้ออื่นๆ ก็มีตั้งแต่หลักสิบปลายๆ ไปจนถึงร้อยกว่าบาทต่อหลอด ขึ้นอยู่กับว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ และเป็นแบรนด์ที่เน้นเรื่องอะไรเป็นพิเศษ บางยี่ห้ออาจจะมีแค่แคลเซียมกับวิตามินดี บางยี่ห้ออาจจะผสมคอลลาเจน หรือสารอื่นๆ เพิ่มเติม
ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ที่เน้นแค่แคลเซียมกับวิตามินดีอย่างเดียวเนี่ย บางที CDR อาจจะดูราคาสูงกว่านิดหน่อยนะ แต่ถ้ามองว่า CDR เค้าให้ วิตามินซีมาตั้ง 1000 มก. ด้วยในเม็ดเดียว ซึ่งวิตามินซีในปริมาณนี้ก็ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันได้ดีเลย แถมยังมีวิตามินบี 6 อีก ถ้าเทียบกับความครบเครื่องของสารอาหารในเม็ดฟู่เดียวเนี่ย CDR ก็ถือว่า สมเหตุสมผลกับราคา นะจ๊ะ ไม่ได้แพงจนเกินไป ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ทั้งแคลเซียม วิตามินดี วิตามินซี และวิตามินบี 6 ในหลอดเดียวจบๆ เลยจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? ฟรีอะไรบ้าง?
เวลาซื้อ CDR ส่วนใหญ่สิ่งที่ได้หลักๆ ก็คือ ตัวหลอดเม็ดฟู่ CDR นี่แหละจ้า ซึ่งในหลอดก็มีเม็ดฟู่ตามจำนวนที่ระบุ (15 เม็ด หรือ 10 เม็ดสำหรับ Fortos)
ส่วนเรื่องบริการหรือของแถม อันนี้ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับร้านค้าและช่องทางการซื้อเลยจ้า
- ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์บน Lazada หรือ Shopee ส่วนใหญ่จะมีโปรแกรม ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดขั้นต่ำนะ บางร้านอาจจะมีโค้ดส่งฟรีพิเศษให้ด้วย ก็ต้องคอยเก็บโค้ดดีๆ จ้า
- การรับประกัน: อาหารเสริมอย่าง CDR ไม่มี "ประกัน" เหมือนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือมือถือนะจ๊ะ แต่สิ่งที่เราต้องเช็คคือ วันหมดอายุ ต้องไม่ใกล้หมดมากเกินไป และต้องมั่นใจว่าเป็น ของแท้ ไม่ใช่ของปลอม อันนี้สำคัญสุดๆ โดยเฉพาะเวลาซื้อออนไลน์ ควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือนะ!
- ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แหละคือกำไรของนักช้อป! บางร้านอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น วิตามินซองเล็กๆ ให้ลอง หรือถ้าซื้อยกแพ็คหลายหลอดก็จะได้ราคาพิเศษที่ถูกลงเยอะเลย บางทีร้านค้าบน Lazada/Shopee Mall ก็จะมี คูปองส่วนลดพิเศษ ให้กดเก็บก่อนซื้อด้วยนะ ต้องตาไว มือไวหน่อย!
โดยรวมแล้ว การซื้อ CDR ก็เหมือนซื้ออาหารเสริมทั่วไป คือได้ตัวผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ส่วนบริการเสริมอย่างส่งฟรีหรือส่วนลดก็แล้วแต่โปรโมชั่นของร้านหรือแพลตฟอร์ม ณ เวลานั้นจ้า
5. ช่วงไหนน่าซื้อ CDR เป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นตามเทศกาลไหม?
ถ้าถามว่าซื้อช่วงไหนคุ้มสุดๆ บอกเลยว่าต้องเล็งช่วง โปรโมชั่นใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์นี่แหละจ้า! Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มแทบจะทุกเดือนเลย โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale อย่าง 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 ช่วงนี้แหละที่ร้านค้าจะปล่อยดีลเด็ดๆ โค้ดส่วนลดเพียบๆ แถมมีโค้ดส่งฟรีให้ใช้แบบจุกๆ บางทีมี Flash Sale ราคาพิเศษลดโหดมาก!
นอกจากนี้ ช่วง Payday (ประมาณวันที่ 25-30 ของทุกเดือน) หรือช่วงเทศกาลใหญ่ๆ อย่าง ปีใหม่ หรือแม้แต่ สงกรานต์ (ถึงแม้จะไม่ได้มีโปรโมชั่นเฉพาะสำหรับ CDR เป๊ะๆ แต่โปรโมชั่นรวมของแพลตฟอร์มก็ใช้ได้นะ) ก็มักจะมีส่วนลดให้เห็นเหมือนกันจ้า ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านขายยาใหญ่ๆ บน Lazada/Shopee Mall ก็มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นเหล่านี้ด้วยนะ ส่วนลดบ่อยแค่ไหน? บอกเลยว่า "บ่อยมาก!" แทบจะทุกเดือนเลยจ้า
คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้ต้องการรีบใช้แบบวินาทีนี้มากๆ รอช่วงโปรโมชั่นแล้วกดซื้อตุนไว้ คือคุ้มที่สุดแล้ว! เหมือนได้ของดีในราคาที่สบายกระเป๋าขึ้นไปอีกขั้น สนุกกับการช้อปแบบได้ส่วนลดนี่มันฟินจริงๆ นะทุกคนนน! 😉
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเค้าว่ายังไงกันบ้าง?
จากที่ไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยในโลกออนไลน์ ทั้งตามกระทู้ เว็บไซต์ หรือตามคอมเมนต์ใน Shopee/Lazada เนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับ CDR ส่วนใหญ่คือ ดีงามพระรามแปด! เลยจ้า
จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:
- กินง่าย รสชาติอร่อย: อันนี้คือยืนหนึ่ง! หลายคนบอกว่ารสส้มคือดีงาม เปรี้ยวหวานซ่าๆ เหมือนกินน้ำอัดลมสุขภาพดี ทำให้การกินวิตามินไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบกลืนยาเม็ดใหญ่ๆ
- เห็นผลเรื่องกระดูกและอาการปวด: หลายคนรีวิวว่าหลังจากทานไปสักพัก รู้สึกเลยว่าอาการปวดตามข้อ หรือปวดหลัง ปวดขาดีขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนก็บอกว่าช่วยลดอาการเป็นตะคริวได้ดี ผู้สูงอายุที่ทานก็รู้สึกว่าเดินเหินคล่องขึ้น กระดูกแข็งแรงขึ้น
- ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน (จากวิตามินซี): นอกจากเรื่องกระดูกแล้ว คนไทยยังชอบที่ CDR มีวิตามินซีสูงถึง 1000 มก. ด้วย หลายคนรู้สึกว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่ค่อยเป็นหวัด หรือเป็นหวัดแล้วหายเร็วขึ้น
- หาซื้อง่าย: มีขายทั่วไป ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สะดวกสุดๆ
โดยสรุปแล้ว CDR ค่อนข้างตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย ทั้งในเรื่อง ความสะดวกในการกิน รสชาติอร่อย เห็นผลลัพธ์จริง (โดยเฉพาะเรื่องกระดูก) และ ความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับและราคาจ้า
7. แล้วจะไปหาซื้อ CDR ได้ที่ไหนดีล่ะ?
สำหรับช่องทางการซื้อ CDR ในปี 2025 เนี่ย มีให้เลือกหลากหลายมากๆ จ้า ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนเลย
- แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: อันนี้คือแหล่งหลักเลยจ้า! ไม่ว่าจะเป็น Shopee หรือ Lazada ข้อดีคือ
- ตัวเลือกเยอะ: มีหลายร้านให้เปรียบเทียบราคา
- สะดวกสบาย: สั่งง่าย จ่ายเงินสะดวก รอรับของที่บ้านได้เลย
- โปรโมชั่นเพียบ: อย่างที่บอกไป ข้อเสนอดีๆ ส่วนลดเยอะแยะในช่วงโปรโมชั่น
- มีร้านค้าทางการ (Official Store) หรือร้านขายยาที่น่าเชื่อถือ: อันนี้สำคัญมากสำหรับอาหารเสริม เพื่อความมั่นใจว่าเป็นของแท้ ได้คุณภาพ การซื้อจากร้านเหล่านี้มักจะมีบริการหลังการขายที่ไว้ใจได้มากกว่า
- ร้านขายยาและร้านค้าปลีก: ตามร้านขายยาทั่วไป Watsons, Boots, หรือแม้แต่โซนผลิตภัณฑ์สุขภาพในห้างสรรพสินค้าอย่าง Central หรือ Big C ก็มี CDR ขายนะจ๊ะ ข้อดีคือ
- ได้เห็นของจริง: สามารถเช็คสภาพ วันหมดอายุ ด้วยตาตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ
- ปรึกษาเภสัชกรได้: ถ้ามีข้อสงสัยหรืออยากได้คำแนะนำเพิ่มเติม เภสัชกรสามารถให้ข้อมูลได้
- ได้ของทันที: ไม่ต้องรอส่งราคาในร้านค้าปลีกอาจจะสูงกว่าในออนไลน์เล็กน้อย แต่บางทีก็มีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 หรือลดราคาพิเศษเหมือนกันนะ
แนะนำว่าถ้าเน้นความสะดวก ราคาดี และโปรโมชั่นจัดเต็ม ช้อปออนไลน์ช่วงโปรโมชั่นคือคำตอบจ้า แต่ถ้าเน้นความสบายใจ ได้เช็คของ ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ร้านขายยาก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ
8. สรุปแล้ว CDR น่าซื้อไหม? เหมาะกับใครนะ?
มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า! ถามว่า CDR แคลเซียมเม็ดฟู่ ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2025? บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:
- ต้องการเสริมแคลเซียมและวิตามินดี เพื่อบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- อยู่ในกลุ่มที่ต้องการแคลเซียมเพิ่มเป็นพิเศษ เช่น เด็กกำลังโต คุณแม่ตั้งครรภ์/ให้นมบุตร ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่กระดูกไม่แข็งแรง
- ไม่ชอบกลืนยาเม็ดใหญ่ๆ และมองหาอาหารเสริมที่กินง่าย รสชาติอร่อย
- อยากได้ตัวช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน ไปพร้อมๆ กับการบำรุงกระดูก (เพราะมีวิตามินซีสูง!)
- มองหาแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มั่นใจในคุณภาพ
CDR ตอบโจทย์ทุกข้อเลยจ้า! เป็นอาหารเสริมที่ คุ้มค่ากับราคา โดยเฉพาะเมื่อซื้อในช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์นะ
สำหรับคำแนะนำว่าจะซื้อดีไหม หรือเหมาะกับใครเป็นพิเศษ ก็ตามลิสต์ด้านบนเลยจ้า ถ้าคุณเข้าข่ายข้อไหน CDR คือเพื่อนแท้ที่ช่วยดูแลกระดูกและสุขภาพโดยรวมให้คุณได้แน่นอน ส่วนจะเลือกระหว่างสูตรปกติกับ Fortos (สูตรไม่มีน้ำตาล แคลเซียมสูงกว่า) ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณนะจ๊ะ Fortos เหมาะกับคนที่เน้นแคลเซียมสูงขึ้น หรือกังวลเรื่องน้ำตาล แต่ราคาก็จะสูงกว่านิดหน่อย
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเลือกซื้อ CDR และได้ของดีราคาโดนใจนะจ๊ะ อย่าลืมดูแลสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง จะได้มีแรงไปลุยกิจกรรมต่างๆ ได้แบบสบายๆ ไปนานๆ เลยจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?