logo

เทียบราคา Microsoft OneDrive พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ตัวเลือกไหนคุ้มสุด?

user avatar
ธีรเดช รัตนไชย·07/08/2025 20:29
点赞
เทียบราคา Microsoft OneDrive พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ตัวเลือกไหนคุ้มสุด?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องการเก็บข้อมูลออนไลน์ หรือที่หลายคนคุ้นหูในชื่อ Cloud Storage กันค่ะ ซึ่งตัวที่เราจะโฟกัสเป็นพิเศษวันนี้ก็คือ Microsoft OneDrive นั่นเอง! ใครที่ไฟล์เยอะ รูปแยะ งานเพียบ จนคอมฯ จะร้องไห้แล้ว มาดูกันหน่อยว่าบริการจากค่าย Microsoft เจ้านี้ มีตัวเลือกไหนน่าโดน ราคาเท่าไหร่ แล้วแบบไหนจะคุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าเรามากที่สุด! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปเจาะลึกกันเลยจ้า!

1. Microsoft OneDrive นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะค่ะ เริ่มต้นที่คำถามเบสิก Microsoft OneDrive คืออะไร? พูดง่ายๆ มันก็คือบริการเก็บข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต หรือ "คลาวด์" จากค่ายยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Microsoft นั่นเองจ้า! คิดซะว่ามันเป็นฮาร์ดดิสก์เสมือนจริงที่ลอยอยู่บนฟ้า เราสามารถโยนไฟล์อะไรก็ได้ขึ้นไปเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์งานสำคัญๆ จากนั้นเราก็สามารถเข้าถึงไฟล์เหล่านั้นได้จากทุกที่ ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์หลากหลาย ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ขอแค่มีอินเทอร์เน็ต!

ฟังก์ชันหลักๆ ของ OneDrive นอกจากเก็บข้อมูลแล้ว มันยังซิงค์ไฟล์ให้เราอัตโนมัติ หมายความว่าถ้าเราแก้ไขไฟล์บนคอมฯ ไฟล์นั้นก็จะอัปเดตบนคลาวด์และบนอุปกรณ์อื่นๆ ของเราทันที สะดวกสุดๆ! แถมยังแชร์ไฟล์ให้คนอื่นได้ง่ายๆ กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงได้ด้วย เหมาะมากๆ สำหรับทั้งนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือแม้แต่คุณพ่อคุณแม่ที่อยากเก็บรูป เก็บวิดีโอพัฒนาการลูกน้อยไว้เป็นระเบียบและปลอดภัย แบรนด์ Microsoft นี่ก็ไม่ต้องพูดถึงเนอะ เก่าแก่ มีชื่อเสียงด้านซอฟต์แวร์มานาน เป็นที่ยอมรับทั่วโลกจ้า


2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! "ราคา" นั่นเองจ้า สำหรับ Microsoft OneDrive เนี่ย เค้าไม่ได้ขายเป็นกล่องๆ เหมือนซอฟต์แวร์สมัยก่อนแล้วนะ แต่จะเป็นแบบ "บอกรับเป็นสมาชิก" หรือ "Subscription" รายเดือน/รายปีแทน ซึ่งราคาในไทยก็จะคิดเป็นเงินบาท (฿) เลยจ้า สะดวก ไม่ต้องมานั่งปวดหัวแปลงค่าเงินเอง

ราคาหลักๆ ของ OneDrive ที่เค้ามีให้เลือก (สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ไม่ใช่เชิงธุรกิจขนาดใหญ่) จะมีประมาณนี้ค่ะ:

  • แบบฟรี: สมัครบัญชี Microsoft (Outlook, Hotmail) ก็ได้พื้นที่ 5GB ไปเลยจ้า! เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เก็บไฟล์ใหญ่ๆ หรือเอาไว้สำรองข้อมูลนิดๆ หน่อยๆ
  • Microsoft 365 Basic: ได้พื้นที่ 100GB ราคาประมาณ ฿69/เดือน หรือ ฿689/ปี อันนี้สำหรับคนที่อยากได้พื้นที่เพิ่มจากของฟรี แต่ยังไม่ต้องการโปรแกรม Office แบบเต็มรูปแบบ
  • Microsoft 365 Personal: อันนี้คุ้ม! ได้พื้นที่ 1TB (1,000GB) แถมยังได้ใช้โปรแกรม Microsoft 365 (Word, Excel, PowerPoint, Outlook, OneNote) เวอร์ชันเต็ม ติดตั้งบนคอมฯ ได้ ใช้งานได้สูงสุด 5 อุปกรณ์พร้อมกัน ราคาประมาณ ฿299/เดือน หรือ ฿2,999/ปี สำหรับใช้งาน 1 คน
  • Microsoft 365 Family: อันนี้คุ้มสุดๆ สำหรับบ้านที่มีสมาชิกหลายคน! ได้พื้นที่รวมสูงสุดถึง 6TB (คนละ 1TB ได้สูงสุด 6 คน) แชร์การใช้โปรแกรม Microsoft 365 เวอร์ชันเต็มกันได้สูงสุด 6 คน ใช้งานได้คนละไม่เกิน 5 อุปกรณ์พร้อมกันเหมือนกัน ราคาประมาณ ฿369/เดือน หรือ ฿3,699/ปี เมื่อหารต่อคนแล้วจะถูกมากๆ!

ราคาที่บอกมา ส่วนใหญ่จะเจอที่ เว็บไซต์หลักของ Microsoft เลยจ้า เพราะเป็นการซื้อบริการโดยตรง แต่บางทีร้านค้าไอทีในไทยอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy หรือแม้แต่บน Lazada, Shopee ก็อาจจะมีขายเป็น Product Key หรือโค้ดสำหรับเปิดใช้งานรายปีเหมือนกันนะ ราคาอาจจะมีส่วนลดบ้างตามโปรโมชั่นของแต่ละร้าน แต่ราคาหลักๆ ที่อิงก็คือบนเว็บไซต์ Microsoft เลยค่ะ ราคาในไทยนี่ก็ถือว่าสมเหตุสมผล ไม่ได้แพงเวอร์ถ้าเทียบกับเรทสากลนะ


3. แล้วเทียบกับเจ้าอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ในตลาด Cloud Storage เนี่ย ไม่ได้มีแค่ Microsoft OneDrive เจ้าเดียวนะ ยังมีคู่แข่งตัวฉกาจอีกหลายค่ายเลย เช่น Google Drive, Dropbox, iCloud Drive (สำหรับสาวก Apple) ลองมาเทียบคร่าวๆ ดู:

  • Google Drive: ให้พื้นที่ฟรีเยอะสุดที่ 15GB แผน 100GB ราคาประมาณ ฿70/เดือน หรือ ฿700/ปี แผน 2TB ราคาประมาณ ฿350/เดือน หรือ ฿3,500/ปี Google Drive จะเน้นการทำงานร่วมกับบริการอื่นๆ ของ Google ได้ดี เช่น Gmail, Google Photos, Google Docs ถ้าใช้ Google Ecosystem อยู่แล้ว ก็จะสะดวกมากๆ ค่ะ
  • Dropbox: ให้พื้นที่ฟรีน้อยสุดแค่ 2GB แผนเริ่มต้นแบบเสียเงินจะกระโดดไปที่ 2TB เลย ราคาค่อนข้างสูงกว่าเพื่อน (~$11.99/เดือน หรือ ~$119.88/ปี) Dropbox จะเด่นเรื่องความเสถียรในการซิงค์ไฟล์ และฟีเจอร์การแชร์ที่หลากหลาย
  • iCloud Drive: ให้พื้นที่ฟรี 5GB แผน 50GB ราคา ฿35/เดือน, 200GB ราคา ฿99/เดือน, 2TB ราคา ฿349/เดือน เหมาะกับคนใช้ iPhone, iPad, Mac ที่สุด เพราะมันผสานเข้ากับระบบได้เนียนกริบ แต่ถ้าใช้ Windows หรือ Android เป็นหลัก อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่

ถ้าเทียบกันที่พื้นที่อย่างเดียว ในราคาใกล้เคียงกัน Microsoft 365 Personal (1TB) ที่ราคา ฿2,999/ปี หรือ ฿299/เดือน เนี่ย เมื่อเทียบกับ Google Drive 2TB ที่ราคา ฿3,500/ปี หรือ ฿350/เดือน แล้ว Google Drive อาจจะดูได้พื้นที่เยอะกว่านิดหน่อยในราคาต่อปีที่สูงกว่า แต่! จุดเด่นของ OneDrive ที่มาพร้อม Microsoft 365 คือเราได้โปรแกรม Office เต็มรูปแบบมาใช้งานด้วยไงล่ะคะ! อันนี้แหละที่ทำให้ OneDrive ที่มากับ Microsoft 365 ดูคุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่ต้องใช้ Word, Excel, PowerPoint เป็นประจำ ในขณะที่ Google Drive จะเน้น Google Docs ที่เป็นเว็บเป็นหลัก


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

สำหรับบริการ Cloud Storage อย่าง OneDrive เนี่ย ไม่ได้มีกล่อง มีสายชาร์จ หรือคู่มือมาให้เป็นเล่มๆ นะคะ สิ่งที่เราจะได้หลักๆ เลยคือ "สิทธิ์ในการใช้งานพื้นที่เก็บข้อมูล" ตามแผนที่เราเลือก และถ้าเราซื้อแผนที่พ่วงมากับ Microsoft 365 (Personal หรือ Family) เราก็จะได้สิทธิ์ในการติดตั้งและใช้งานโปรแกรม Microsoft 365 เวอร์ชันเดสก์ท็อปบนหลายอุปกรณ์ด้วย

ส่วนเรื่องบริการที่รวมมา ก็จะมี:

  • การซิงค์และเข้าถึงไฟล์: อันนี้คือหัวใจหลักเลย ซิงค์ไฟล์อัตโนมัติ เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์
  • การแชร์ไฟล์: แชร์ให้คนอื่นดูหรือแก้ไขไฟล์ได้ง่ายๆ
  • ฟีเจอร์ความปลอดภัย: เช่น Personal Vault ที่เป็นโฟลเดอร์พิเศษ ต้องยืนยันตัวตนถึงจะเข้าได้ เพิ่มความปลอดภัยให้ไฟล์สำคัญ และถ้าเป็นแผน Microsoft 365 ก็จะมีฟีเจอร์ป้องกัน Ransomware ด้วยนะ
  • พื้นที่สำหรับอีเมล Outlook: บางแผนก็จะมีพื้นที่สำหรับอีเมล Outlook.com ให้ด้วย
  • บริการสนับสนุน (Support): ถ้ามีปัญหาการใช้งาน ก็สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Microsoft ได้ (แต่อาจจะต้องทำใจเรื่องความรวดเร็วในการตอบนิดนึงนะ อันนี้แล้วแต่ดวง 555)

เรื่อง ค่าจัดส่ง ก็ไม่มีนะจ๊ะ เพราะเป็นการซื้อบริการออนไลน์ จ่ายเงินเสร็จก็ activate ใช้งานได้เลย! ส่วน ของแถม ถ้าซื้อตรงกับ Microsoft ก็มักจะไม่มี แต่ถ้าซื้อผ่านร้านค้าไอทีบางทีอาจจะมีโปรโมชั่นแถมโน่นนี่นั่นเล็กๆ น้อยๆ หรือมีส่วนลดเงินสดบ้างก็ต้องลองเช็คดูจ้า


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถึงแม้จะเป็นบริการออนไลน์ แต่ก็มีช่วงเวลาที่น่าสอยเหมือนกันนะ! ช่วงโปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า Microsoft เองก็มักจะมีโปรโมชั่นสำหรับ Microsoft 365 (ซึ่งพ่วง OneDrive มาด้วย) อยู่เรื่อยๆ นะคะ อาจจะไม่ได้จัดตรงกับเทศกาลไทยจ๋าๆ อย่างสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยเป๊ะๆ แต่ก็มักจะมีช่วงลดราคาพิเศษ เช่น ช่วง Back to School หรือช่วง ปลายปี ที่อาจจะมีส่วนลดค่าสมัครรายปี ทำให้ราคาถูกลงไปอีก

นอกจากนี้ ลองไปส่องตามร้านค้าไอทีที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Microsoft ในไทยดูสิ เช่น JIB, Banana IT, Power Buy บางทีเค้าอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา Product Key ของ Microsoft 365 ในช่วงที่เค้าจัดโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของร้าน หรือในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ร้านค้าทางการ (Official Store) ที่ขาย Product Key ก็อาจจะมีส่วนลดในช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11 หรือ 12.12 ด้วยนะ! สรุปคือ ถ้าไม่รีบมาก ลองติดตามข่าวสารโปรโมชั่นจากทั้ง Microsoft โดยตรงและจากร้านค้าพาร์ทเนอร์ในไทยดู มีโอกาสได้ของดีราคาโดนแน่นอนจ้า!


6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองสังเกตและอ่านตามเว็บบอร์ดหรือรีวิวต่างๆ ในไทยเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Microsoft OneDrive โดยเฉพาะคนที่ใช้ควบคู่กับ Microsoft 365 ถือว่าค่อนข้างโอเคเลยนะ จุดที่คนไทยน่าจะชอบและเป็นประโยชน์จริงๆ คือ:

  • ผสานกับการทำงานด้วยโปรแกรม Office ได้ดีมาก: อันนี้คือจุดแข็งเบอร์หนึ่ง! ใครที่ชีวิตวนเวียนอยู่กับ Word, Excel, PowerPoint บอกเลยว่า OneDrive ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ! เปิดไฟล์ แก้ไข เซฟลง OneDrive ทำงานร่วมกับเพื่อนก็สะดวกสุดๆ
  • พื้นที่เยอะ คุ้มค่าเมื่อซื้อพร้อม Microsoft 365: คนไทยส่วนใหญ่จะมองว่า ถ้าซื้อ Microsoft 365 อยู่แล้ว การได้พื้นที่ 1TB มาด้วยนี่คือคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เหมือนได้พื้นที่ฟรีๆ เลย!
  • ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซของ OneDrive ทั้งบนเว็บ บนคอมฯ และบนมือถือ ก็ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนมาก
  • เข้าถึงได้หลายอุปกรณ์: เปลี่ยนไปใช้คอมฯ เครื่องอื่น ใช้มือถือ ใช้แท็บเล็ต ก็ยังเข้าถึงไฟล์ได้เหมือนเดิม สะดวกมากๆ ในยุคที่ใช้หลายอุปกรณ์แบบนี้
  • มีความปลอดภัย: ฟีเจอร์อย่าง Personal Vault หรือการป้องกัน Ransomware (ในแผน Microsoft 365) ก็ช่วยให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล

ส่วนข้อติที่อาจจะเจอบ้างก็เช่น ความเร็วในการซิงค์ไฟล์บางครั้งอาจจะไม่เร็วเท่าบางค่าย หรือพื้นที่ฟรีเริ่มต้นแค่ 5GB อาจจะน้อยไปหน่อย แต่โดยรวมแล้ว ถ้าเน้นการทำงานร่วมกับ Office และต้องการพื้นที่เยอะในราคาที่คุ้มค่า OneDrive ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนไทยหลายๆ คนเลยจ้า


7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

อย่างที่บอกไปตอนต้น ช่องทางหลักๆ ในการซื้อหรือสมัครใช้งาน Microsoft OneDrive (แบบเสียเงิน) คือ:

  • เว็บไซต์หลักของ Microsoft: อันนี้คือช่องทาง Official โดยตรงเลยจ้า เข้าไปเลือกแผนที่ต้องการ จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต หรือช่องทางอื่นๆ ที่เค้ารองรับ สมัครเสร็จก็ใช้งานได้ทันที สะดวก ปลอดภัย ได้ของแท้แน่นอน และจัดการบัญชีง่ายที่สุด
  • ร้านค้าไอทีชั้นนำ: อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy หรือร้านอื่นๆ อาจจะมีขายเป็น Product Key หรือบัตรเติมเงินสำหรับ Microsoft 365 ซึ่งรวมพื้นที่ OneDrive ด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากจ่ายเป็นเงินสด หรืออยากซื้อพร้อมๆ กับการซื้อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: บน Lazada หรือ Shopee ก็มีร้านค้า (รวมถึงร้านค้าทางการ) ที่ขาย Product Key ของ Microsoft 365 เหมือนกัน ข้อดีคืออาจจะมีโปรโมชั่น ส่วนลด หรือใช้โค้ดต่างๆ ได้ ทำให้ราคาถูกลงไปอีก แต่ก็ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือหน่อยนะจ๊ะ ดูคะแนนร้าน รีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจ

เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลยจ้า แต่ถ้าอยากได้ความชัวร์และจัดการง่ายสุดๆ เว็บไซต์ Microsoft คือคำตอบค่ะ!


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว! ถามว่า Microsoft OneDrive น่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ จ้า โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

  • ต้องใช้โปรแกรม Microsoft Office (Word, Excel, PowerPoint) เป็นประจำ: อันนี้คือที่สุดของความคุ้มค่า! ได้ทั้งพื้นที่เก็บข้อมูล ได้ทั้งโปรแกรม Office คือแบบ...ครบ!
  • ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์เยอะๆ ในราคาที่สมเหตุสมผล: แผน Microsoft 365 Personal 1TB หรือ Family ที่หารเฉลี่ยแล้วถูกมากๆ ถือว่าคุ้มค่ากับพื้นที่ที่ได้
  • ต้องการบริการ Cloud Storage ที่ผสานเข้ากับ Windows ได้ดี: แน่นอนว่ามาจากค่ายเดียวกัน ก็ย่อมทำงานร่วมกันได้เนียนกว่า
  • มีหลายอุปกรณ์ที่ต้องใช้เข้าถึงไฟล์: OneDrive รองรับการใช้งานบน Windows, Mac, iOS, Android เข้าถึงได้สะดวกจากทุกที่
  • อยากได้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสำหรับไฟล์สำคัญ: Personal Vault หรือการป้องกัน Ransomware ในแผน Microsoft 365 ช่วยให้คุณสบายใจขึ้น

สรุปความคุ้มค่า: ถ้าคุณแค่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลนิดหน่อย พื้นที่ฟรี 5GB ก็อาจจะพอ หรือจะอัปเกรดเป็น 100GB ในราคาเบาๆ ก็ได้ แต่ถ้าคุณเป็นนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือมีสมาชิกในครอบครัวที่ต้องใช้โปรแกรม Office ด้วย การเลือกสมัครแผน Microsoft 365 Personal (สำหรับ 1 คน) หรือ Microsoft 365 Family (สำหรับสูงสุด 6 คน) คือตัวเลือกที่ คุ้มค่าที่สุด จ้า! เพราะนอกจากจะได้พื้นที่ OneDrive ตั้ง 1TB (หรือ 6TB สำหรับ Family) แล้ว ยังได้ใช้โปรแกรม Office เต็มรูปแบบบนหลายอุปกรณ์ด้วย ซึ่งถ้าต้องซื้อโปรแกรม Office แยกต่างหาก ราคาก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ!

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือกแผน Microsoft OneDrive แบบไหนที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานที่สุดนะคะ ขอให้สนุกกับการเก็บข้อมูลและทำงานบนคลาวด์จ้า! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ หรือที่เค้าเรียกกันติดปากว่า Cloud Storage จากค่าย Xiaomi กันหน่อย ใครที่ใช้มือถือ Xiaomi หรือ Gadget อื่นๆ ของค่ายนี้ คงจะคุ้นๆ กับคำว่า Xiaomi Cloud กันใช่มั้ยล่ะ วันน
ราคา Xiaomi Cloud Storage ปี 2025: แพ็กเกจไหนคุ้มสุด?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังฝันอยากมีร้านกาแฟเล็กๆ เป็นของตัวเอง! ช่วงนี้หลายคนคงมองหาช่องทางสร้างรายได้ หรืออยากลองทำธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนตูมใหญ่ วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง "ซุ้มกาแฟสดมือสอง" กันค่ะ บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งทางเลื
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
สวัสดีจ้า พี่น้องนักดื่ม เอ้ย! นักช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราไม่ได้มารีวิวสกินแคร์ เสื้อผ้า หรือแกดเจ็ตสุดล้ำนะจ๊ะ แต่เราจะมาเจาะลึกเรื่องใกล้ตัว ใกล้ใจ (และใกล้ตู้กับข้าว เอ้ย! ตู้เย็น) ของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ สุราหงส์ทอง ขนาด
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
สวัสดีค่าาา! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องรถในตำนานที่สายซิ่ง สาย JDM ต้องรู้จัก นั่นก็คือ Nissan Silvia S15 นั่นเอง! หลายคนใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครอง แต่บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะจ๊ะ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าเจ้า S15 เนี่ยมันคืออะไร ทำไ
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ