เปียโนไฟฟ้า Roland RD-800 ราคาล่าสุด 2024 รีวิวเสียงและประสิทธิภาพ

สวัสดีค่าาา สายนักดนตรีและคนรักเสียงเปียโนทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเปียโนไฟฟ้าในตำนานอีกตัวที่นักดนตรีหลายคนยังตามหา นั่นก็คือ Roland RD-800 นั่นเองค่ะ! ใครที่กำลังมองหาเปียโนคู่ใจไว้ซ้อม หรือขึ้นเวทีแบบโปรๆ มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเม้าท์มอยเรื่องเสียง เรื่องฟีลลิ่ง และเรื่องสำคัญที่สุดคือ "ราคาล่าสุดในปี 2024" พร้อมบอกเคล็ดลับช้อปยังไงให้ได้ของดี สภาพโดนใจ! ไปลุยกันเลยยย!

1. เจ้าเปียโน Roland RD-800 นี่มันคืออะไรกันนะ?

มาทำความรู้จักเจ้า Roland RD-800 กันก่อนเลย นี่ไม่ใช่เปียโนไฟฟ้าธรรมดาทั่วไปนะจ๊ะ แต่มันคือ "Stage Piano" ระดับมืออาชีพ ที่ออกแบบมาเพื่องานแสดงสด งานคอนเสิร์ต หรือสตูดิโอโดยเฉพาะเลยจ้า! เจ้าตัวนี้มาจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Roland ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เก่าแก่จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงมายาวนานมากๆ ในวงการดนตรี เค้าทำเครื่องดนตรีคุณภาพดี มีนวัตกรรมล้ำๆ ออกมาตลอด และซีรีส์ RD ของเค้าก็เป็นที่ยอมรับในหมู่นักดนตรีอาชีพมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว

จุดเด่นของเจ้า RD-800 เลยก็คือ เสียงเปียโนอะคูสติกที่สมจริงสุดๆ ด้วยเทคโนโลยี SuperNATURAL Piano Engine ของ Roland เอง ที่ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ เหมือนยกแกรนด์เปียโนมาไว้บนเวทีเลยก็ว่าได้ นอกจากเสียงเปียโนแล้ว ยังมีเสียงเปียโนไฟฟ้า (Electric Piano) เสียง Clavinet เสียง Organ และเสียงอื่นๆ อีกเพียบให้เลือกใช้กว่า 1,100 เสียง! เรียกว่าครอบคลุมทุกแนวดนตรีเลยทีเดียว

ส่วนเรื่องสัมผัสในการเล่น เจ้า RD-800 ใช้คีย์แบบ PHA-4 Concert Keyboard ซึ่งเป็นคีย์แบบ Hammer Action ที่ให้ฟีลลิ่งเหมือนเปียโนจริงมากๆ มีน้ำหนักคีย์ไล่ระดับ และผิวสัมผัสแบบงาช้างและไม้ Ebony/Ivory Feel ที่ช่วยให้จับติดนิ้ว เล่นแล้วได้อารมณ์สุดๆ เหมาะมากๆ สำหรับนักเปียโนที่ต้องการคีย์ที่ตอบสนองได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเล่นเบา เล่นหนัก ก็เก็บรายละเอียดได้หมด

กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับเจ้าตัวนี้ก็ชัดเจนเลยว่าเป็น นักดนตรีอาชีพ ที่ต้องขึ้นเวทีบ่อยๆ, นักเรียนดนตรีระดับสูง ที่ต้องการเปียโนคุณภาพดีไว้ซ้อม หรือคนที่ทำ โฮมสตูดิโอ ที่ต้องการเปียโนไฟฟ้าที่มีเสียงและสัมผัสระดับพรีเมียมค่ะ

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง (อัปเดต 2024)!?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าเจ้า Roland RD-800 เนี่ย เค้าเลิกผลิต (Discontinued) ไปตั้งแต่ปี 2019 แล้วนะจ๊ะ เพราะฉะนั้น ราคาล่าสุดในปี 2024 ที่เราจะพูดถึงก็คือ ราคาในตลาดมือสอง นั่นเองค่ะ! บอกเลยว่าราคามันแล้วแต่สภาพและแหล่งที่ซื้อมากๆ ไม่มีราคาตายตัวแบบของใหม่แกะกล่องนะจ๊ะ

จากการสำรวจตามแหล่งต่างๆ ในไทย (ณ ตอนนี้) ส่วนใหญ่แล้วเราจะเจอราคาเจ้า RD-800 มือสองอยู่ในช่วงประมาณ 35,000 บาท (฿) ไปจนถึง 55,000 บาท (฿) หรืออาจจะสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมของเครื่อง, อุปกรณ์ที่แถมมา, และความต้องการของผู้ขายแต่ละรายนะ

แหล่งที่มักจะเจอเจ้า RD-800 มือสอง ก็หนีไม่พ้นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมอย่าง Lazada และ Shopee เลยจ้า! ลองเข้าไปใช้คีย์เวิร์ด "Roland RD-800 มือสอง" หรือ "เปียโนไฟฟ้า Roland มือสอง" ดูนะ อาจจะมีคนเอามาลงขายอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ ตามกลุ่มซื้อขายเครื่องดนตรีมือสองใน Facebook ก็เป็นอีกแหล่งใหญ่เลย ที่นักดนตรีเค้าเอามาปล่อยต่อกันเอง ข้อดีคือบางทีอาจจะได้ราคาที่คุยกันได้โดยตรง แต่ก็ต้องระวังเรื่องการโกงด้วยนะ! ส่วนร้านเครื่องดนตรีใหญ่ๆ บางร้านอาจจะมีรับเทิร์นหรือขายของมือสองด้วย ลองสอบถามดูได้ค่ะ (แต่ร้าน JIB, Banana IT, Power Buy จะไม่เจอพวกนี้แน่นอนนะจ๊ะ)

สำหรับเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาขายในไทยสำหรับรุ่นนี้อาจจะไม่ค่อยมีผลมากนักแล้ว เพราะเป็นราคาในตลาดมือสองที่ขึ้นอยู่กับกลไกตลาดและผู้ขายในประเทศเป็นหลักจ้า

3. แล้วถ้าเทียบกับเปียโนไฟฟ้าตัวอื่นในงบใกล้ๆ กันล่ะ?

ถ้าเอาเจ้า Roland RD-800 มือสอง มาเทียบกับเปียโนไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ราคาใกล้เคียงกันในงบประมาณ 35,000 - 55,000 บาทเนี่ย เราก็จะได้ตัวเลือกที่น่าสนใจหลายตัวเลยนะ อย่างเช่นเปียโนไฟฟ้ารุ่นระดับกลาง-สูงของแบรนด์อื่นๆ หรือรุ่นน้องของ Roland เองที่ออกมาใหม่กว่า

ข้อได้เปรียบของเจ้า RD-800 คือ คุณภาพเสียงและสัมผัสคีย์ระดับโปรฯ ที่เคยเป็นเรือธงมาก่อน! ในงบเท่ากัน อาจจะหาเปียโนไฟฟ้ารุ่นใหม่มือหนึ่งที่ให้คุณภาพเสียงเปียโนอะคูสติกและฟีลลิ่งคีย์ดีเท่านี้ได้ยากนะ หรือถ้าได้ก็อาจจะเป็นรุ่นเริ่มต้นของ Stage Piano รุ่นใหม่ ซึ่งฟังก์ชันอาจจะยังไม่ครบเท่า RD-800 ที่เคยเป็นตัวท็อปมาก่อน

แต่! ข้อด้อยของ RD-800 คือมันเป็น รุ่นเก่า แล้ว ฟังก์ชันบางอย่างอาจจะไม่ทันสมัยเท่ารุ่นใหม่ๆ เช่น การเชื่อมต่อ Bluetooth, USB Audio Interface ในตัว (RD-800 เชื่อมต่อ USB-MIDI ได้), หรือระบบเสียงอื่นๆ ที่พัฒนาขึ้นในรุ่นใหม่ๆ แถมการซื้อของมือสองก็มีความเสี่ยงเรื่องสภาพเครื่องและไม่มีประกันศูนย์ด้วย

ถ้าให้เปรียบเทียบแบบเห็นภาพ เช่น อาจจะมีเปียโนไฟฟ้าบ้าน (Digital Piano) บางรุ่นของ Yamaha หรือ Kawai ในงบประมาณนี้ ที่ให้เสียงและสัมผัสที่ดีเยี่ยม เหมาะกับการซ้อมอยู่บ้าน แต่ถ้าต้องการเอาไปเล่นสดบนเวที ฟังก์ชันและการเชื่อมต่อต่างๆ ของ RD-800 ที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะก็จะตอบโจทย์กว่าเยอะค่ะ

สรุปคือ ถ้าเน้นคุณภาพเสียงและสัมผัสคีย์ระดับโปรฯ ในงบประมาณกลางๆ เจ้า RD-800 มือสองถือว่า คุ้มค่ามากๆ แต่ถ้าเน้นฟังก์ชันทันสมัย ประกันยาวๆ หรือไม่สบายใจกับของมือสอง ก็อาจจะต้องมองหารุ่นใหม่ที่ราคาอาจจะสูงขึ้นไปอีกนิด หรือยอมลดสเปกบางอย่างลงมานะจ๊ะ

4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้างนะ?

อันนี้แหละที่ต้องเช็คดีๆ เลยเวลาซื้อ Roland RD-800 มือสอง เพราะแต่ละคนขายอาจจะให้อุปกรณ์ไม่เหมือนกันเลย สิ่งที่ควรจะมีติดมาด้วยแน่ๆ คือ:

• ตัวเครื่องเปียโน Roland RD-800: สภาพภายนอกมีรอยมากน้อยแค่ไหน ปุ่มกด สไลเดอร์ต่างๆ ยังใช้งานได้ดีครบถ้วนหรือเปล่า
• สายไฟ AC: สำหรับต่อเข้าไฟบ้าน
• แป้นเหยียบ Damper Pedal (Sustain Pedal): ส่วนใหญ่ที่ติดมากับเครื่องจะเป็นรุ่น DP-10 ของ Roland หรือเทียบเท่า (แต่บางคนอาจจะอัปเกรดไปใช้รุ่นดีกว่านี้ หรือแป้นเหยียบ 3 อันแบบ RPU-3 ก็ได้ ซึ่งอันนี้ไม่รวมมาในชุดมาตรฐานนะจ๊ะ ต้องซื้อเพิ่มเอง)
• คู่มือการใช้งาน: บางทีอาจจะเหลือแต่ไฟล์ PDF ให้ดาวน์โหลดจากเว็บ Roland แทน

ส่วนอุปกรณ์เสริมอื่นๆ หรือของแถม อันนี้แล้วแต่ผู้ขายเลยนะจ๊ะ บางคนอาจจะมี:

• ขาตั้งคีย์บอร์ด: ส่วนใหญ่จะเป็นขาตั้งแบบ X หรือแบบอื่นๆ ที่แข็งแรงพอจะรับน้ำหนักเจ้า RD-800 ได้ (ตัวเครื่องหนักประมาณ 21.7 กก. หรือเกือบ 22 โลเลยนะ!)
• กระเป๋า/Hard Case: สำหรับขนย้าย อันนี้ถ้ามีมาด้วยจะดีมากๆ เพราะช่วยให้ขนย้ายสะดวกและป้องกันเครื่องได้ดี
• เก้าอี้เปียโน: บางคนอาจจะขายเป็นเซ็ต
• ผ้าคลุมเปียโน: ช่วยป้องกันฝุ่น

เรื่องสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญคือ การรับประกัน! อย่างที่บอกว่ามันคือของมือสอง เพราะฉะนั้น ไม่มีประกันศูนย์ Roland ในไทยแล้วแน่นอน แต่! บางร้านที่ขายของมือสองอาจจะให้ ประกันร้าน เล็กๆ น้อยๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน เพื่อให้เราเอาไปลองใช้ดู ถ้ามีปัญหาก็เอามาเปลี่ยนหรือซ่อมได้ ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขกับผู้ขายให้ชัดเจนก่อนซื้อนะจ๊ะ หรือถ้าซื้อกับผู้ใช้โดยตรง ส่วนใหญ่ก็คือซื้อขาด ไม่มีประกันจ้า ต้องทำใจตรงนี้หน่อยนะ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งตามน้ำหนักและระยะทางนะ หรือบางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีในบางช่วง ก็ต้องลองดูเงื่อนไขดีๆ จ้า (แต่ถ้าเป็นเครื่องใหญ่และหนักแบบนี้ ค่าส่งก็เอาเรื่องอยู่นะ!)

5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าสอยเป็นพิเศษมั้ยนะ?

ถึงแม้ว่าเจ้า Roland RD-800 จะเป็นเปียโนมือสองที่ไม่มีโปรโมชั่นแบบ Official จากแบรนด์แล้ว แต่! ในตลาดออนไลน์โดยเฉพาะบน Lazada และ Shopee เนี่ย ผู้ขายรายย่อยหรือร้านค้ามือสองเค้าก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยนะ!

ช่วงเวลาทองที่น่าจับตาเลยก็คือ:

• ช่วงปลายปี: โดยเฉพาะช่วง 11.11 และ 12.12 ที่เป็นมหกรรมลดราคาทั่วโลก แพลตฟอร์มออนไลน์ในไทยก็จัดหนักจัดเต็ม ร้านค้าต่างๆ มักจะร่วมโปรโมชั่น ลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้
• ช่วงเทศกาลไทย: อย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ บางร้านก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาเพื่อต้อนรับเทศกาล
• ช่วงโปรโมชั่นประจำเดือนของแพลตฟอร์ม: Lazada และ Shopee เค้าจะมีโปรโมชั่นย่อยๆ ตลอดทั้งเดือน ก็ต้องคอยติดตามดีๆ

ร้านค้าที่น่าสนใจบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ นอกจากร้านค้ามือสองทั่วไปแล้ว ลองมองหาร้านที่เป็นเหมือนตัวแทนจำหน่ายเครื่องดนตรี หรือร้านใหญ่ๆ ที่อาจจะมีของมือสองหลุดมา หรือมีโปรโมชั่นสำหรับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกับ RD-800 ได้

คำแนะนำก็คือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ อย่าง 11.11 หรือ 12.12 เนี่ย มีโอกาสที่จะได้ราคาที่ถูกลง หรือได้โค้ดส่วนลดค่าจัดส่ง ทำให้ประหยัดไปได้อีกเยอะเลยนะจ๊ะ! แต่ก็ต้องทำใจว่าของมือสองอาจจะไม่ได้มีให้เลือกตลอดเวลา เจอสภาพดี ราคาโดน ก็รีบคว้าไว้นะจ๊ะ!

6. คนไทยที่เคยใช้ RD-800 เค้าว่ายังไงกันบ้างนะ?

จากการไปส่องๆ ดูตามเว็บบอร์ด หรือกลุ่มนักดนตรีในไทยที่พูดถึง Roland RD-800 เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยนะ จุดที่คนไทย (และนักดนตรีทั่วโลก) ชอบมากๆ เลยก็คือ:

• เสียงเปียโนอะคูสติกและเปียโนไฟฟ้าสุดยอด: หลายคนยืนยันว่าเสียงเปียโนของ RD-800 เนี่ย ดีจริง สมจริง เหมาะกับเล่นสดมากๆ เสียงเปียโนไฟฟ้าก็มีความเป็นวินเทจ เล่นได้อารมณ์สุดๆ
• สัมผัสคีย์ดีเยี่ยม: คีย์ PHA-4 Concert ของ Roland ได้รับคำชมเยอะมากว่าเหมือนเปียโนจริง ตอบสนองดี เล่นสนุก ไม่เมื่อยมือเกินไป
• ความทนทาน: ถึงแม้จะเป็นรุ่นเก่า แต่หลายคนที่ใช้มานานก็บอกว่ามันค่อนข้างทนทาน อึด ถึก พร้อมลุยงานแสดงต่างๆ ได้สบายๆ (แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วยนะ!)
• ฟังก์ชันครบเครื่องสำหรับงานเวที: การเข้าถึงเสียงต่างๆ การแบ่งเลเยอร์เสียง การปรับแต่งเสียงต่างๆ ทำได้ง่ายและรวดเร็วบนเวที
• คุ้มค่า (ในตลาดมือสอง): เมื่อเทียบกับคุณภาพระดับโปรฯ ที่ได้ในราคาที่จ่ายไปสำหรับเครื่องมือสอง หลายคนมองว่ามันคุ้มค่ามากๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเครื่องดนตรีคุณภาพสูงแต่งบไม่ถึงของใหม่

แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ จากผู้ใช้บางส่วน เช่น เรื่องน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ (เกือบ 22 กก.) ทำให้ขนย้ายคนเดียวอาจจะเหนื่อยหน่อย หรือฟังก์ชัน MIDI Controller บางอย่างอาจจะยังไม่ยืดหยุ่นเท่า Stage Piano รุ่นใหม่ๆ

สรุปคือ เสียงส่วนใหญ่ยืนยันว่า Roland RD-800 เป็นเปียโนไฟฟ้าคุณภาพสูง เสียงดี คีย์เยี่ยม ทนทาน เหมาะกับงานแสดงสดมากๆ ค่ะ

7. แล้วจะไปตามหาซื้อได้ที่ไหนบ้างล่ะ?

อย่างที่บอกไปว่าเจ้า Roland RD-800 เค้าเลิกผลิตแล้วนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นช่องทางหลักๆ ที่เราจะเจอในปี 2024 ก็คือ ตลาดมือสอง นั่นเองค่ะ แหล่งที่น่าไปส่องก็มีตามนี้เลย:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม (Shopee / Lazada): อันนี้สะดวกสุด มีผู้ขายทั้งที่เป็นร้านค้ามือสอง และผู้ใช้ทั่วไปที่เอามาลงขายเยอะมากๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกให้เปรียบเทียบราคาค่อนข้างเยอะ มีระบบการจ่ายเงินกลางที่น่าเชื่อถือ และบางทีมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลด แต่ข้อเสียคือเราไม่เห็นของจริง ต้องพึ่งพารูปภาพ รายละเอียด และเครดิตของผู้ขายให้มากๆ ก่อนตัดสินใจโอนเงินนะจ๊ะ!
• กลุ่มซื้อขายเครื่องดนตรีมือสองใน Facebook: กลุ่มเหล่านี้เป็นแหล่งรวมนักดนตรีด้วยกันเองที่อยากปล่อยของ ข้อดีคือมักจะได้คุยกับผู้ใช้จริง ได้สอบถามรายละเอียด หรือขอดูคลิป ลองฟังเสียงได้โดยตรง บางทีอาจจะต่อรองราคาได้ง่ายกว่า แต่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังเรื่องมิจฉาชีพนะจ๊ะ แนะนำให้นัดเจอเพื่อเช็คของและจ่ายเงินกับมือ ถ้าไม่สะดวกจริงๆ ให้ใช้ระบบ Escrow หรือคนกลางที่น่าเชื่อถือ
• ร้านเครื่องดนตรีบางแห่ง: ร้านเครื่องดนตรีใหญ่ๆ หรือร้านที่รับซื้อขายเครื่องดนตรีมือสองโดยเฉพาะ บางทีอาจจะมีเจ้า RD-800 หลุดเข้ามาบ้าง ข้อดีคือเราสามารถไป ลองเล่น ลองเช็คสภาพเครื่องจริง ก่อนตัดสินใจได้เลย ได้สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อขายกันเองเล็กน้อย

ช่องทางทางการของ Roland ในไทยตอนนี้เค้าก็จะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ เป็นหลักแล้วจ้า เพราะฉะนั้นสำหรับ RD-800 ต้องพึ่งพาตลาดมือสองนี่แหละค่ะ

8. สรุปแล้ว Roland RD-800 ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2024? เหมาะกับใคร?

มาถึงโค้งสุดท้ายแล้วจ้า! ถามว่าเจ้า Roland RD-800 ยังน่าสอยอยู่ไหมในปี 2024 นี้ในฐานะเปียโนมือสอง? ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ต้องการ Stage Piano ระดับโปรฯ เพื่อใช้เล่นสด ซ้อมหนักๆ หรือทำเพลงในสตูดิโอ
• ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงเปียโนอะคูสติกและเปียโนไฟฟ้าที่สมจริง ด้วยเทคโนโลยี SuperNATURAL
• ชอบสัมผัสคีย์แบบ Hammer Action คุณภาพดี เหมือนเปียโนจริง
• มีงบประมาณจำกัด ไม่สามารถซื้อ Stage Piano รุ่นใหม่ระดับท็อปได้
• ยอมรับความเสี่ยงของการซื้อของมือสองได้ (ไม่มีประกันศูนย์ อาจจะมีร่องรอยจากการใช้งาน)

ถ้าคุณเข้าข่ายเหล่านี้ บอกเลยว่า Roland RD-800 มือสองยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ และคุ้มค่าเกินราคาในตลาดมือสองค่ะ! คุณจะได้เปียโนไฟฟ้าคุณภาพสูงที่เคยเป็นตัวท็อปในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเยอะ

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เน้นฟังก์ชันที่ทันสมัยมากๆ ต้องการการเชื่อมต่อไร้สาย มีงบสูง และต้องการความสบายใจกับประกันเต็มรูปแบบ ก็อาจจะต้องมองหารุ่นใหม่กว่านี้อย่าง Roland RD-2000 หรือรุ่นอื่นๆ ที่ออกมาใหม่แทนนะจ๊ะ

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นเปียโน หรือเน้นเล่นอยู่บ้านเป็นหลัก ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันสำหรับงานเวทีมากมายขนาดนั้น อาจจะลองดูเปียโนไฟฟ้าบ้าน (Digital Piano) หรือ Stage Piano รุ่นเริ่มต้นที่ราคาเป็นมิตรกว่านี้ก่อนก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีความตั้งใจจะไปสายนักดนตรีจริงจัง หรือต้องการเครื่องดีๆ ไว้พัฒนาฝีมือ เจ้า RD-800 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าเก็บไปพิจารณามากๆ เลยนะ!

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนได้เปียโนคู่ใจในราคาที่โดนใจ แล้วสนุกกับการเล่นดนตรีกันมากๆ ค่ะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Stage piano Roland RD-08 ถูกลงแต่สเปคแน่นเหมือนเดิม ...
• RD-08 | Stage Piano ในงบไม่เกิน 4หมื่น!!!
• รีวิว สเตจเปียโน สุดคุ้ม รุ่นใหม่ล่าสุด Roland RD-08 | รีวิว Roland ...
• Roland RD-800 Stage Piano
• Roland RD-800 Stage Piano Review with Ed Diaz ...