Seek Thermal (กล้องจับความร้อน) ราคาล่าสุด 2567 รุ่นไหนเหมาะใช้งาน? ซื้อที่ไหน?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์เรื่องอุปกรณ์สุดเจ๋งที่เห็นแล้วต้องร้องว้าววว นั่นก็คือ Seek Thermal กล้องจับความร้อน นั่นเอง! ฟังดูไฮเทคใช่มั้ยล่ะ ใช่แล้ว! มันคือกล้องที่ช่วยให้เรา "มองเห็น" ความร้อนได้เหมือนตาทิพย์เลยทีเดียว ใครที่สงสัยว่าไอ้เจ้ากล้องนี้มันเอาไว้ทำอะไร แล้วรุ่นไหนน่าสอยในปี 2567 นี้ ตามมาดูกันเลยจ้า!

1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?

มาทำความรู้จักกับ Seek Thermal กันก่อน มันคือกล้องจับความร้อนขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายสุดๆ แค่เสียบเข้ากับสมาร์ทโฟนของเรา (มีทั้งรุ่นสำหรับ iOS และ Android นะจ๊ะ) ก็สามารถแปลงร่างมือถือธรรมดาๆ ให้กลายเป็นกล้องเทอร์มอลได้ทันที! แบรนด์ Seek Thermal นี่มาจากอเมริกาโน่นเลยนะ เค้าเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการจับความร้อนมานานนม ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความแม่นยำ

แล้วมันเอาไปทำอะไรได้บ้างน่ะเหรอ? โอ้โห! เยอะแยะเลยจ้า ไม่ว่าจะใช้ตรวจหาจุดที่มีความร้อนสูงผิดปกติในระบบไฟฟ้า ปลั๊กไฟ ตู้ควบคุม หรือจะตรวจหาจุดที่ความร้อนรั่วไหลออกจากบ้านตามประตู หน้าต่าง ผนัง หรือหลังคา เพื่อดูว่าแอร์ที่เปิดอยู่มันหนีไปเที่ยวไหนหมด! ช่างไฟ ช่างแอร์ ช่างรับเหมาตรวจบ้าน หรือแม้แต่เจ้าของบ้านที่อยากประหยัดค่าไฟ หรืออยากรู้ปัญหาเชิงลึกของบ้านตัวเองเนี่ย เหมาะมากๆ เลย นอกจากนี้ยังเอาไปใช้ในงานอื่นๆ ได้อีกเพียบ เช่น ตรวจสอบปัญหาเครื่องจักร หาความชื้นซ่อนเร้น หรือแม้แต่ใช้ดูสัตว์ตอนกลางคืนก็ได้นะ!

2. ช่วงราคาสินค้าในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย "ราคา" ในปี 2567 นี้ ราคาของกล้อง Seek Thermal ในไทยก็มีหลากหลายรุ่น หลากหลายราคาให้เลือกเลยจ้า หลักๆ ที่เห็นในตลาดก็จะมีรุ่นยอดฮิตอย่าง Compact และ Compact Pro ที่เสียบกับมือถือ หรือจะเป็นรุ่น Shot และ Shot Pro ที่เป็นแบบกล้องเดี่ยวมีหน้าจอในตัว ส่วนรุ่นสำหรับงานเฉพาะทางอย่างนักผจญเพลิงก็มีนะ อย่างรุ่น Reveal FirePRO

ราคาคร่าวๆ ในบ้านเราเนี่ย ตัวที่เสียบกับมือถืออย่าง Compact หรือ Compact Pro จะเริ่มต้นที่ประมาณสองหมื่นบาทต้นๆ ไปจนถึงสามหมื่นบาทนิดๆ แล้วแต่ร้านแล้วแต่รุ่นย่อย อย่างรุ่น Compact Pro เนี่ยความละเอียดจะสูงกว่า ราคาก็จะสูงตามไปด้วย ส่วนรุ่นที่เป็นกล้องเดี่ยวแบบ Shot Pro ราคาก็จะโดดขึ้นไปอีกหน่อย อาจจะมีตั้งแต่หมื่นปลายๆ (ถ้าเจอแบบมือสอง) ไปจนถึงสามหมื่นบาทขึ้นไปเลยก็มี

ลองไปส่องๆ ดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee นี่แหละ แหล่งรวมเลยจ้า มีร้าน Official หรือร้านตัวแทนจำหน่ายมาขายอยู่เหมือนกันนะ บางทีก็มีร้านที่นำเข้าเองก็มีราคาแตกต่างกันไป ส่วนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือร้านไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy อาจจะยังไม่ค่อยเห็นนำเข้ามาขายโดยตรงเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเจอตามร้านเฉพาะทาง หรือร้านที่ขายอุปกรณ์สำหรับช่างมากกว่าจ้า

เทียบกับราคาต่างประเทศแล้ว บางทีเข้ามาไทยอาจจะมีบวกเพิ่มบ้างตามภาษี ค่าขนส่ง หรือค่าการตลาด ก็เป็นเรื่องธรรมดานะจ๊ะ ทำใจนิดนึง!

3. แล้วเทียบกับแบรนด์อื่นในตลาดล่ะ?

ในตลาดกล้องจับความร้อนเนี่ย ก็มีคู่แข่งหลายเจ้าเหมือนกันนะ ที่เห็นบ่อยๆ ก็คือแบรนด์ FLIR ซึ่งเป็นเจ้าตลาดมานาน กล้อง FLIR หลายรุ่นก็มีคุณภาพดีมากๆ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่า Seek Thermal ในสเปกใกล้เคียงกันพอสมควรเลย อย่างรุ่น FLIR C5 ที่เป็นกล้องพกพาความละเอียด 160x120 pixels ราคาก็อาจจะประมาณสามหมื่นบาทกลางๆ ขึ้นไป ในขณะที่ Seek Thermal Compact Pro ที่ความละเอียด 320x240 pixels (สูงกว่า) ราคาเริ่มต้นประมาณสองหมื่นกลางๆ ถึงสามหมื่นต้นๆ ก็หาได้แล้ว

ดังนั้น ถ้ามองในแง่ของ "ความคุ้มค่าต่อความละเอียด" หรือ "ราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า" เนี่ย Seek Thermal ค่อนข้างได้เปรียบเลยนะ เหมาะกับคนที่ต้องการกล้องจับความร้อนที่มีความละเอียดดีในราคาที่จับต้องได้ ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันที่โปรมากๆ เหมือนกล้องระดับอุตสาหกรรมที่ราคาทะลุแสนจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาสอย Seek Thermal มาเนี่ย สิ่งที่มักจะมาในกล่องด้วยหลักๆ ก็จะมี:

• ตัวกล้องจับความร้อน: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว!
• เคสหรือกล่องสำหรับเก็บกล้อง: ส่วนใหญ่จะเป็นกล่องพลาสติกแข็งๆ หรือเคสแบบกันน้ำกันกระแทกอันเล็กๆ ไว้ให้พกพาสะดวกและป้องกันกล้องจิ๋วๆ ของเรา
• สายชาร์จ (สำหรับรุ่น Shot): รุ่นที่เป็นกล้องเดี่ยวจะมีแบตในตัว ก็ต้องมีสายชาร์จมาให้ด้วยจ้า
• คู่มือการใช้งาน: อันนี้สำคัญ! อ่านซะหน่อยจะได้ใช้ฟังก์ชันได้เต็มที่

ส่วนเรื่องสำคัญสำหรับคนไทยอย่างเราๆ คือ การรับประกัน! ส่วนใหญ่แล้วถ้าซื้อกับตัวแทนจำหน่ายในไทยมักจะมีการรับประกันสินค้าให้ด้วยนะ อาจจะ 3 เดือน หรือ 1 ปี ก็ต้องสอบถามกับร้านค้าให้ชัวร์ก่อนซื้อ การรับประกันนี่แหละที่ทำให้เราอุ่นใจ ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาจะได้มีคนดูแลให้จ้า

เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ร้านค้ามักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด หรือมีโค้ดส่วนลดค่าส่งให้ ก็ต้องลองเช็คโปรโมชั่นหน้าร้านดูนะจ๊ะ

ของแถมอื่นๆ เช่น คูปองส่วนลด หรือโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ เนี่ย ก็แล้วแต่ร้านเลยจ้า บางร้านอาจจะมีแถมผ้าเช็ดเลนส์ หรืออุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ มาให้ด้วย

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าช้อป Seek Thermal ที่สุดในไทย ก็ต้องบอกว่าช่วงที่มี โปรโมชั่นใหญ่ๆ เลยจ้า! อย่างที่รู้กันว่าคนไทยเราชอบช้อปช่วงเทศกาล หรือช่วงที่มีแคมเปญลดราคากันหนักๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11, 12.12 นี่พลาดไม่ได้เลยนะ! ร้านค้าบน Lazada และ Shopee โดยเฉพาะร้านที่เป็น Official หรือร้านใหญ่ๆ มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นพวกนี้ มีทั้งลดราคาตรงๆ, แจกโค้ดส่วนลดเพิ่ม, หรือบางทีก็มี Cash Back คืนมาให้ด้วย

นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยอย่าง ปีใหม่ หรือ สงกรานต์ บางร้านก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมานะ ก็ต้องคอยติดตามหน้าร้านค้าออนไลน์ของตัวแทนจำหน่าย หรือร้านที่เราสนใจไว้ให้ดีๆ จ้า

คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้แบบด่วนจี๋ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น จะช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลยนะ! หรือถ้าเจอร้านที่ให้ส่วนลดดีๆ มีของแถมโดนๆ ในช่วงเวลาปกติ ก็จัดไปได้เลยไม่ต้องรอจ้า

6. รีวิวจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้างนะ?

จากที่ไปส่องๆ ดูรีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ Seek Thermal ในไทยตามแหล่งต่างๆ เนี่ย ส่วนใหญ่เค้าก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ มีประโยชน์มากๆ และ คุ้มค่า กับราคาที่จ่ายไปเลยนะ

จุดที่คนไทยชอบเลยคือ ใช้งานง่าย แค่เสียบกับมือถือแล้วเปิดแอปก็ใช้ได้เลย เมนูไม่ซับซ้อน ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ใส่กระเป๋าเสื้อ กางเกง หรือกระเป๋าเครื่องมือไปได้ทุกที่ คุณภาพของภาพความร้อนที่ได้ถือว่า โอเคเลยสำหรับงานทั่วไป มองเห็นจุดร้อนจุดเย็นได้ชัดเจนพอที่จะวินิจฉัยปัญหาเบื้องต้นได้ โดยเฉพาะรุ่น Compact Pro ที่ความละเอียดสูงขึ้นมาหน่อย ภาพก็จะดูดีขึ้น ชัดขึ้นไปอีก

ผู้ใช้หลายคนเอาไปใช้ตรวจเช็คตามบ้าน เช่น หาจุดไฟฟ้าร้อนๆ, ดูรอยรั่วของความร้อนตรงขอบหน้าต่างประตู, หาจุดที่ความชื้นซ่อนอยู่หลังผนัง หรือแม้แต่ใช้หาแมวที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็ยังได้! บางคนเป็นช่างก็เอาไปใช้กับงานจริงจัง ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น หาปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้นด้วยจ้า

ข้อสังเกตบางอย่างที่เจอบ้างก็อาจจะเป็นเรื่องแอปพลิเคชันในมือถือที่บางทีอาจจะมีหน่วงๆ หรือค้างบ้าง (อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับรุ่นมือถือด้วยนะ) แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์คนไทยที่มองหาเครื่องมือดีๆ มาช่วยในงานตรวจเช็คต่างๆ ในราคาที่เข้าถึงได้จ้า

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

สำหรับใครที่เล็ง Seek Thermal อยู่ แล้วไม่รู้จะไปสอยที่ไหนดี ช่องทางที่แนะนำก็มีตามนี้เลยจ้า:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม: Shopee และ Lazada นี่แหละตัวเลือกเพียบ! มีร้านค้า Official หรือตัวแทนจำหน่ายมาเปิดอยู่ ทำให้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีระบบการชำระเงินที่หลากหลาย มีโปรโมชั่นให้เลือกเยอะ และมีระบบรีวิวให้ดูประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อด้วย ที่สำคัญคือสะดวกสุดๆ สั่งออนไลน์ รอรับของอยู่บ้านได้เลย
• ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: บางบริษัทในไทยเป็นตัวแทนนำเข้าและจำหน่าย Seek Thermal โดยตรง การซื้อกับตัวแทนโดยตรงอาจจะได้คำแนะนำที่ดีกว่า มีบริการหลังการขาย หรือการรับประกันที่ชัดเจนกว่า (แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์บ้างนะ) ลองค้นหาข้อมูลตัวแทนจำหน่ายในไทยดูจ้า
• ร้านค้าเฉพาะทาง: ตามร้านที่ขายอุปกรณ์เครื่องมือช่าง หรืออุปกรณ์สำหรับงานตรวจสอบอาคาร บางทีก็มี Seek Thermal มาวางขายนะ การซื้อที่ร้านก็มีข้อดีตรงที่สามารถ เห็นของจริง ลองจับลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจได้เลย แต่ก็อาจจะมีตัวเลือกไม่เยอะเท่าซื้อออนไลน์จ้า

สำหรับร้านไอทีใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy ตอนนี้อาจจะยังไม่เน้นสินค้ากลุ่มนี้เท่าไหร่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่เหมือนกันนะ!

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? รุ่นไหนเหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสุดท้าย สรุปให้ฟังชัดๆ เลยว่า Seek Thermal กล้องจับความร้อน เนี่ย น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ในปี 2567 นี้ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

• อยากได้เครื่องมือตรวจเช็คปัญหาเกี่ยวกับความร้อน ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
• มีงบประมาณจำกัด เมื่อเทียบกับกล้องจับความร้อนระดับโปร
• ต้องการอุปกรณ์ที่พกพาง่าย ใช้งานสะดวก เสียบกับมือถือแล้วใช้ได้เลย
• เป็นเจ้าของบ้านที่อยากตรวจเช็คสภาพบ้านเอง หรืออยากประหยัดค่าไฟ
• เป็นช่าง ที่ต้องการเครื่องมือช่วยในการทำงานให้แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น

มันคือการลงทุนที่คุ้มค่าเลยนะ! ช่วยให้เราเห็นปัญหาที่ซ่อนอยู่ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมระยะยาวได้

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี? ถ้าเน้น เริ่มต้น ใช้งานทั่วไป ตรวจเช็คคร่าวๆ รุ่น Compact ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าต้องการ ความละเอียดของภาพที่ดีขึ้น เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนกว่าเดิม แนะนำให้ขยับมาที่รุ่น Compact Pro เลยจ้า ตัวนี้ได้ความละเอียดสูง ภาพสวย เอาไปวิเคราะห์ต่อได้สบายๆ

สำหรับรุ่น Shot หรือ Shot Pro ที่เป็นกล้องเดี่ยว มีหน้าจอในตัว ก็เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานแบบ Standalone ไม่ต้องพึ่งมือถือ หรือต้องการฟังก์ชันที่ครบครันกว่า มีแบตในตัวพร้อมใช้งานได้เลย ส่วนรุ่น FirePRO นี่ชัดเจนเลยว่าสำหรับงานกู้ภัย นักผจญเพลิงโดยเฉพาะจ้า

สรุปแล้ว ไม่มีรุ่นไหนดีที่สุดสำหรับทุกคนนะจ๊ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาไปใช้งานแบบไหน มีงบเท่าไหร่ ลองพิจารณาจากความต้องการของตัวเอง แล้วเลือกให้เหมาะกับงานของเราที่สุด รับรองว่า Seek Thermal จะเป็นผู้ช่วยที่ทำให้งานตรวจเช็คเรื่องความร้อนของคุณง่ายขึ้นเยอะเลยจ้า! ขอให้สนุกกับการ "มองเห็น" ความร้อนกันทุกคนนะค้าาา!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• โปรแกรม Sleep Restoration ที่ Sindhorn Kempinski
• เปิดตัวชุดนิทรรศการของเดอะคอนเนอร์เฮาส์แบงคอก
• #ทริคฮับ ชวนทุกคนมาออกกำลังกายผ่านโทรศัพท์ด้วยเกมเกมนี้ ...