logo

ราคา เครื่องชงกาแฟ Victoria Arduino Black Eagle (ปี ๒๕๖๘) ตัวท็อป ดีจริงไหม?

user avatar
สิริกร จิรพัฒน์·07/10/2025T07:39Z
点赞
ราคา เครื่องชงกาแฟ Victoria Arduino Black Eagle (ปี ๒๕๖๘) ตัวท็อป ดีจริงไหม?

โย่วๆ ทุกคน! วันนี้เราจะมาเปิดประเด็นร้อนๆ ในวงการกาแฟบ้านเรา กับเครื่องชงกาแฟที่ได้ยินชื่อแล้วขนลุกซู่! ใช่แล้วจ้า เรากำลังพูดถึง Victoria Arduino Black Eagle ตัวท็อปในตำนาน ที่บาริสต้าทั่วโลกใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง แล้วปี ๒๕๖๘ นี้ ราคาค่าตัวน้องจะอยู่ที่เท่าไหร่ ดีจริงสมคำร่ำลือมั้ย มาเม้าท์มอยกันแบบจัดเต็ม ไม่มีกั๊ก! เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!

1. เจ้า Black Eagle นี่มันคือใคร มาจากไหน?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่มาที่ไปของน้อง Black Eagle ตัวนี้ก่อนเลย นางไม่ใช่เครื่องชงกาแฟไก่กาอาราเล่ตามร้านทั่วไปนะจ๊ะ แต่เป็นเครื่องระดับ โปรเฟสชันแนล ตัวจริง เสียงจริง จากแบรนด์เก่าแก่สุดเก๋าอย่าง Victoria Arduino แบรนด์นี้เค้ามาจากประเทศอิตาลี ดินแดนแห่งกาแฟเอสเพรสโซ่ตัวจริงเสียงจริง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1905 นู่นนน! ประวัติยาวนานเป็นร้อยปี การันตีความเชี่ยวชาญได้เลย. Black Eagle ถือเป็นรุ่นท็อปสุดของเค้าเลยก็ว่าได้ ที่ดังมากๆ เพราะเป็นเครื่อง Official ที่ใช้ในการแข่งขัน World Barista Championship (WBC) มาหลายปีซ้อน บาริสต้าเก่งๆ ทั่วโลกต่างยกนิ้วให้ในเรื่อง ความเสถียร ความแม่นยำ และ คุณภาพของช็อตกาแฟ ที่สกัดออกมาได้แบบไร้ที่ติ.

แล้วใครเหมาะกับเจ้านี่ล่ะ? บอกเลยว่าไม่ใช่สายมินิมอล หรือสายชงกาแฟเล่นๆ ที่บ้านแน่นอนจ้า! Black Eagle เค้าเกิดมาเพื่อร้านกาแฟ Specialty Coffee ร้านดังๆ ที่เน้นคุณภาพกาแฟระดับพรีเมียม โรงแรมหรูๆ หรือผู้ประกอบการที่ต้องการยกระดับร้านให้ไปอีกขั้น รวมถึงบาริสต้ามืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือคู่ใจในการสร้างสรรค์กาแฟแก้วพิเศษ หรือแม้แต่คนรักกาแฟตัวยงที่มีงบประมาณเหลือเฟือ และอยากมีเครื่องระดับโลกไว้ประจำการที่บ้าน (อันนี้ต้องใจรักและกระเป๋าหนักจริงๆ นะ!).

2. ราคาในตลาดไทยปี ๒๕๖๘ อยู่ที่ประมาณไหน?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ใจจะขาด! ราคาค่าตัวของ Victoria Arduino Black Eagle ในตลาดไทยปี ๒๕๖๘ เนี่ย ต้องบอกเลยว่า สูงสมกับเป็นตัวท็อป จ้า มันไม่ใช่เครื่องที่จะเดินไปซื้อในห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee แบบเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ นะคะ เพราะนี่คือเครื่องระดับ Commercial หรือ Prosumer ที่ต้องซื้อผ่าน ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ในไทยหลักๆ คือ อโรม่า กรุ๊ป (Aroma Group).

สำหรับรุ่น Black Eagle Maverick ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด (ณ เวลานี้) ราคาในตลาดไทยจะเริ่มต้นตั้งแต่ หกแสนบาทปลายๆ ไปจนถึงแปดแสนหรือเก้าแสนบาท (฿) เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย (เช่น 2 หัวชง หรือ 3 หัวชง) และเทคโนโลยีพิเศษที่มากับเครื่อง (เช่น Gravimetric). อย่างรุ่น Black Eagle Maverick 2 หัวชง ราคาอยู่ที่ประมาณ ฿569,000 - ฿712,000 ส่วนรุ่น 3 หัวชง ก็พุ่งไปที่ ฿814,000 - ฿906,000 เลยจ้า. ส่วนรุ่น VA388 Black Eagle T3 ที่เป็นรุ่นก่อน Maverick ก็ยังมีจำหน่ายอยู่ ราคาก็จะอยู่ประมาณ ฿499,000 - ฿703,000.

จะเห็นว่าราคามันอยู่ในระดับ หลักแสนปลายๆ ไปจนถึงเกือบล้าน เลยนะจ๊ะ! ไม่ใช่เล่นๆ เลย สาเหตุที่ราคาสูงก็เพราะเป็นเครื่องนำเข้าจากอิตาลี มีเรื่องของภาษี ค่าขนส่ง และเทคโนโลยีขั้นสูงที่อัดแน่นอยู่ในเครื่องด้วย. ดังนั้นใครที่เล็งเจ้านี่ไว้ ต้องเตรียมงบประมาณไว้ให้พร้อมเลยนะจ๊ะ


3. เมื่อเทียบกับเครื่องชงกาแฟอื่นๆ ในตลาดล่ะ?

ถ้าเอา Victoria Arduino Black Eagle ไปเทียบกับเครื่องชงกาแฟที่เห็นทั่วไปตามร้านเล็กๆ หรือเครื่องสำหรับใช้ในบ้าน ราคาจะ คนละโลก กันเลยจ้า. เครื่องชงกาแฟทั่วไปสำหรับร้านเล็กๆ หรือโฮมบาริสต้า อาจจะมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นปลายๆ ไปจนถึงแสนต้นๆ หรือสองแสนบาท ซึ่งฟังก์ชันและประสิทธิภาพก็จะแตกต่างจาก Black Eagle อย่างชัดเจน.

แต่ถ้าเทียบกับเครื่องชงกาแฟระดับ Commercial ตัวท็อปของแบรนด์อื่นๆ ในตลาด อย่างเช่น La Marzocco, Slayer, Kees van der Westen หรือ Synesso ซึ่งเป็นคู่แข่งในกลุ่มเครื่องโปรเฟสชันแนลเหมือนกัน ราคาของ Black Eagle ก็จะอยู่ในกลุ่ม ราคาใกล้เคียงกัน หรืออาจจะสูงกว่าเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชันที่เลือก.

สิ่งที่ทำให้ Black Eagle มีราคาสูงกว่าเครื่องทั่วไปมากๆ คือเรื่องของ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น ระบบ Multi-Boiler ที่ควบคุมอุณหภูมิแต่ละหัวชงได้อย่างแม่นยำสุดๆ, ระบบ T3 Genius ที่ช่วยให้ปรับอุณหภูมิได้เสถียรและรวดเร็ว, หรือเทคโนโลยี Pure Brew ที่ช่วยให้สกัดกาแฟได้รสชาติบริสุทธิ์. เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ได้ช็อตกาแฟที่มี ความสม่ำเสมอ และ คุณภาพสูง ซึ่งจำเป็นมากๆ สำหรับร้านกาแฟที่ต้องการรักษามาตรฐานและรสชาติให้คงที่ในทุกแก้ว. ดังนั้น การที่ราคาสูงก็แลกมากับ ประสิทธิภาพระดับสุดยอด และความน่าเชื่อถือในระยะยาวสำหรับธุรกิจกาแฟนั่นเองจ้า.

4. ซื้อแล้วได้อะไรบ้างนะ? อุปกรณ์เสริมและบริการ

แน่นอนว่าการซื้อเครื่องชงกาแฟระดับนี้ ไม่ใช่แค่เดินไปยกเครื่องมาแล้วจบนะจ๊ะ! ราคาค่าตัวหลักแสนถึงล้านเนี่ย เค้ามักจะมาพร้อมกับบริการและอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นครบครันเลยล่ะ (แต่ก็ต้องเช็คกับตัวแทนจำหน่ายอีกทีนะจ๊ะ เพราะแต่ละเจ้าอาจจะมีแพ็กเกจต่างกันไป). สิ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือ:

  • ค่าขนส่งและติดตั้ง: ปกติแล้วสำหรับการซื้อเครื่องระดับ Commercial แบบนี้ ตัวแทนจำหน่ายมักจะ รวมค่าบริการขนส่งและติดตั้ง ให้ถึงที่ร้านเลยนะจ๊ะ เพราะเครื่องมีขนาดใหญ่และหนัก (Black Eagle Maverick 2 Gr. หนัก 90 kg เลยนะ!) แถมยังต้องมีการเดินระบบน้ำและไฟฟ้าให้ถูกต้องด้วย. บางเจ้าอาจจะมีบริการติดตั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลฟรี หรือในระยะทางที่กำหนด ก็ต้องสอบถามให้ชัวร์.
  • การรับประกัน: อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับการลงทุนก้อนใหญ่! โดยทั่วไปแล้ว Victoria Arduino ในไทยจะมีการ รับประกันสินค้า ให้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการรับประกัน อะไหล่และค่าแรง เป็นระยะเวลา 1 ปี. การรับประกันจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะช่วยให้สบายใจได้ว่า หากเครื่องมีปัญหา จะมีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและซ่อมแซมให้.
  • การฝึกอบรมการใช้งาน: เครื่องชงกาแฟระดับนี้ฟังก์ชันเยอะมากจ้า! ตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่เค้าจะมีบริการ ฝึกอบรมการใช้งานเครื่อง ให้กับบาริสต้าหรือเจ้าของร้านด้วยนะ เพื่อให้สามารถใช้เครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและดึงคุณภาพกาแฟออกมาได้ดีที่สุด.
  • ของแถมและโปรโมชั่น: บางทีอาจจะมี ของแถม พ่วงมาด้วยนะจ๊ะ เช่น เครื่องบดกาแฟ (แต่คงไม่ใช่รุ่นท็อปเท่าเครื่องชงนะ), อุปกรณ์บาริสต้าพื้นฐาน, หรือ Gift Voucher สำหรับแลกซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์อื่นๆ. โปรโมชั่นเหล่านี้แล้วแต่ช่วงและแล้วแต่ตัวแทนจำหน่ายเลยจ้า.

สรุปคือ ซื้อเครื่องท็อปก็จะได้บริการระดับท็อปตามไปด้วย ทำให้การลงทุนนี้คุ้มค่าและสบายใจมากขึ้นจ้า.

5. ช่วงไหนน่าซื้อ มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ไหม?

สำหรับเครื่องชงกาแฟระดับ Victoria Arduino Black Eagle เนี่ย ไม่เหมือนสินค้า Consumer ทั่วไปที่จัดโปรโมชั่นลดราคาแรงๆ ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งอย่าง 11.11 หรือ 12.12 บน Lazada หรือ Shopee หรอกนะจ๊ะ.

โปรโมชั่นของเครื่องระดับ Commercial แบบนี้ มักจะไม่ได้ลดราคาเป็นตัวเงินแบบฮวบฮาบ แต่จะมาในรูปแบบของ การจัดเซ็ตพร้อมอุปกรณ์อื่นๆ (เช่น แถมเครื่องบด หรืออุปกรณ์ต่างๆ), เงื่อนไขการชำระเงินพิเศษ, หรือ โปรโมชั่นร่วมกับงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับกาแฟ ที่จัดขึ้นในไทย (เช่น งาน Thailand Coffee Fest). ตัวแทนจำหน่ายอย่างอโรม่า กรุ๊ป อาจจะมีโปรโมชั่นของตัวเองที่ต้องติดตามผ่านช่องทาง Official ของเค้า.

คำแนะนำก็คือ ถ้าเล็งเจ้านี่ไว้แล้ว และพร้อมที่จะลงทุน แนะนำให้ ติดต่อสอบถามโปรโมชั่นโดยตรงจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะดีที่สุดจ้า. หรือถ้าไม่รีบมาก ก็ลองติดตามข่าวสารตามงานอีเวนต์เกี่ยวกับกาแฟเผื่อจะมีดีลพิเศษบ้างก็ได้ แต่ก็ต้องทำใจว่าโปรโมชั่นแบบลดราคาเป็นแสนๆ เหมือนช่วง Double Digit Sale คงไม่มีนะจ๊ะ!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง? ฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานจริง

เท่าที่ส่องๆ ดูรีวิวและฟีดแบ็กจากบาริสต้าหรือผู้ประกอบการร้านกาแฟในไทยที่ได้ใช้ Victoria Arduino Black Eagle เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ไปในทิศทาง ชื่นชม และ พอใจมาก เลยนะจ๊ะ.

จุดที่คนไทยที่ใช้ Black Eagle พูดถึงบ่อยๆ และชอบมากๆ เลยก็คือ:

  • ความเสถียรของอุณหภูมิและความดัน: อันนี้คือหัวใจหลักของการชงกาแฟที่ดี และ Black Eagle ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ทำให้ได้ช็อตกาแฟที่ รสชาติคงที่สม่ำเสมอ ในทุกๆ แก้ว ซึ่งสำคัญมากๆ สำหรับร้านที่ต้องการรักษามาตรฐาน.
  • คุณภาพของฟองนม: ระบบสตรีมของ Black Eagle ทำฟองนมได้ เนียน นุ่ม และ ง่ายต่อการทำ Latte Art ทำให้บาริสต้าสนุกกับการสร้างสรรค์เครื่องดื่มมากขึ้น.
  • ความทนทานและประสิทธิภาพ: แม้ราคาจะสูง แต่หลายคนมองว่าเป็นการลงทุนที่ คุ้มค่า เพราะเครื่อง ทนทาน ใช้งานหนักได้สบายๆ และ ประสิทธิภาพสูง ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้ร้านได้เป็นอย่างดี.
  • ดีไซน์ที่สวยงาม: นอกจากประสิทธิภาพแล้ว ดีไซน์ของ Black Eagle ก็เป็นที่ยอมรับว่า สวยงาม หรูหรา ทันสมัย ช่วยเสริมภาพลักษณ์ร้านให้ดูดีขึ้นไปอีก.
  • เทคโนโลยี Pure Brew: ฟังก์ชันนี้ได้รับความสนใจพอสมควร ทำให้สามารถสกัดกาแฟในรูปแบบใหม่ๆ ที่ให้รสชาติแตกต่างออกไปได้.

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ในไทยที่ลงทุนกับ Black Eagle มักจะมองว่าเป็น การลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว สำหรับธุรกิจกาแฟ Specialty ที่เน้นคุณภาพและมาตรฐานจ้า.

7. จะไปหาซื้อเจ้า Black Eagle ได้ที่ไหนดี?

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่านี่ไม่ใช่เครื่องที่หาซื้อได้ทั่วไปนะจ๊ะ ช่องทางหลักและ น่าเชื่อถือที่สุด ในการซื้อ Victoria Arduino Black Eagle ในประเทศไทยก็คือ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จ้า. ตอนนี้คือ อโรม่า กรุ๊ป (Aroma Group) ซึ่งเค้ามีโชว์รูม Victoria Arduino Official Store อยู่ในกรุงเทพฯ (สุขุมวิท ซอย 33).

ข้อดีของการซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก็คือ:

  • มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้: ได้เครื่องของแท้แน่นอน มีการรับประกันจากศูนย์.
  • บริการหลังการขาย: มีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญพร้อมดูแล ซ่อมแซม และให้คำปรึกษา.
  • บริการติดตั้งและฝึกอบรม: เค้ามีบริการติดตั้งเครื่องให้ถึงที่ และสอนการใช้งานอย่างละเอียด.
  • เข้าถึงอะไหล่แท้: หากมีส่วนไหนชำรุด ก็สามารถจัดหาอะไหล่แท้มาเปลี่ยนได้.

นอกจากโชว์รูมแล้ว ก็สามารถ สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ของอโรม่า กรุ๊ป ได้ด้วยนะจ๊ะ (Aroma Online Store). แต่ก็แนะนำให้เข้าไปดูเครื่องจริงที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจ เพราะเป็นเครื่องราคาสูง จะได้เห็นของจริง ลองสัมผัส และสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง.

สำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่อย่าง Lazada หรือ Shopee อาจจะมีผู้ขายรายย่อยนำมาลงขายบ้าง แต่ก็ต้อง พิจารณาให้รอบคอบมากๆ ทั้งเรื่องความน่าเชื่อถือของร้าน การรับประกัน และบริการหลังการขาย ซึ่งอาจจะไม่เทียบเท่ากับการซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการนะจ๊ะ.

8. สรุปแล้ว เจ้า Black Eagle ตัวท็อปนี่น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงโค้งสุดท้ายแล้วจ้า! ถามว่า Victoria Arduino Black Eagle น่าซื้อไหมในปี ๒๕๖๘ นี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ ถ้าคุณคือคนที่ใช่ และมีงบประมาณพร้อมที่จะลงทุนนะจ๊ะ!

เจ้า Black Eagle นี่เหมาะกับใครบ้างล่ะ? ก็ตามนี้เลยจ้า:

  • ผู้ประกอบการร้านกาแฟ Specialty Coffee: ถ้าคุณทำร้านกาแฟที่เน้นคุณภาพกาแฟระดับพรีเมียม ต้องการเครื่องที่ เสถียร แม่นยำ และ เชื่อถือได้ สำหรับการสกัดกาแฟในปริมาณมากๆ ต่อวัน Black Eagle คือตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่จะช่วยยกระดับร้านของคุณได้เลย.
  • โรงแรมหรู หรือร้านอาหาร Fine Dining: สถานที่เหล่านี้ต้องการเครื่องชงกาแฟที่ให้คุณภาพดีที่สุด และมีดีไซน์สวยงามหรูหราเข้ากับบรรยากาศ Black Eagle ตอบโจทย์ได้ทั้งคู่.
  • บาริสต้ามืออาชีพ: ถ้าคุณเป็นบาริสต้าที่ต้องการเครื่องมือระดับโลกในการฝึกฝน พัฒนาฝีมือ และสร้างสรรค์กาแฟแก้วพิเศษเพื่อการแข่งขัน หรือเพื่อลูกค้า Black Eagle จะเป็นเพื่อนคู่ใจที่ยอดเยี่ยมมากๆ.
  • Home Barista งบหนาและใจรักสุดๆ: ถ้าคุณรักกาแฟมากจริงๆ มีความรู้ความเข้าใจในการชงเป็นอย่างดี และมีงบประมาณเหลือเฟือ การมี Black Eagle ไว้ที่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องผิด (แต่ก็ต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าและการใช้งานจริงด้วยนะจ๊ะ!).

ถามว่าคุ้มค่าไหมกับราคาหลักแสนถึงล้าน? ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเป้าหมายข้างบน และการลงทุนนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต หรือตอบสนองความต้องการในระดับสูงสุดของคุณได้ ก็ถือว่า คุ้มค่ามากๆ เลยจ้า เพราะคุณจะได้เครื่องชงกาแฟที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ประสิทธิภาพสูงสุด และความน่าเชื่อถือในระยะยาว.

แต่ถ้าคุณเป็นร้านกาแฟขนาดเล็ก งบประมาณจำกัด หรือเป็นโฮมบาริสต้าทั่วไปที่ไม่ได้เน้นคุณภาพระดับ Specialty จ๋าๆ อาจจะต้องมองหาเครื่องชงกาแฟในระดับที่ เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณมากกว่า นะจ๊ะ เพราะยังมีเครื่องชงกาแฟอีกหลายรุ่น หลายแบรนด์ในตลาดที่มีคุณภาพดีและตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าเยอะเลยจ้า.

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจสำหรับทุกคนที่กำลังเล็ง Victoria Arduino Black Eagle อยู่นะจ๊ะ ไม่ว่าจะซื้อไปใช้เอง หรือเพื่อธุรกิจ ขอให้ได้เครื่องชงกาแฟที่ถูกใจและมีความสุขกับการดื่มกาแฟอร่อยๆ ทุกวันจ้า! เจอกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบาย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับพี่น้อง! วันนี้มาเม้าท์เรื่องมือถือยอดฮิตติดลมบน เอ้ย! ติดตลาดรุ่นหนึ่งที่ยังวนเวียนให้เห็นกันในปี ๒๕๖๘ นี้ นั่นก็คือ Oppo A34 นั่นเองครับผม! ใครที่กำลังมองหามือถือราคาเบาๆ สเปกพอตัวไว้ใช้งานทั่วไป ไม่เน้นอะไรหวือหวามากนัก แต่ก็ยั
อัปเดตราคาล่าสุด Oppo A34 (ปี ๒๕๖๘) สเปกคุ้มไหม? ซื้อที่ไหนถูกสุด
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยหอยสังข์เรื่องกล้องสุดฮิตในตำนานสำหรับมือใหม่หัดถ่าย นั่นก็คือ Sony Alpha A5000 นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหากล้องตัวแรก หรืออยากจะขยับจากการถ่ายรูปด้วยมือถือ มาลองใช้กล้องที่ให้ไฟล์สวยกว่า มีลูกเล่นเยอะก
ราคากล้อง Sony Alpha A5000 มือสอง เหมาะกับมือใหม่หัดถ่ายไหม?
สวัสดีค้าบบบทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องนาฬิกาที่ฮิตตลอดกาล ใส่แล้วเท่ ใส่แล้วคูล แถมยังทนถึกอย่างกับยอดมนุษย์ นั่นก็คือ G-Shock นั่นเอง! และรุ่นที่เราจะมาเจาะลึกกันวันนี้ก็คือ G-Shock GA-120TR ที่เค้าว่ากันว่าดีไซน์เตะตา ฟังก์ชันน
ราคา นาฬิกา G-Shock GA-120TR รุ่นไหนน่าสนใจ ฟังก์ชันเด่นอะไร?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ