logo

อัปเดต ราคา รับเหมา ทาสี ภายใน บ้าน คอนโด คิดราคา ตร.ม. หรือเหมา แบบไหนคุ้มกว่า

user avatar
ธนวัฒน์ อัครธนากุล·07/11/2025T10:21Z
点赞
อัปเดต ราคา รับเหมา ทาสี ภายใน บ้าน คอนโด คิดราคา ตร.ม. หรือเหมา แบบไหนคุ้มกว่า

สวัสดีค้าบทุกคนนน! วันนี้เรามาคุยเรื่องใกล้ตัวชาวบ้านชาวช่องอย่างเราๆ นั่นก็คือเรื่อง การทาสีภายในบ้านและคอนโด นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหาผู้รับเหมา จะทาสีใหม่ เปลี่ยนบรรยากาศห้องให้สดใส หรือซ่อมแซมรอยด่าง รอยเปื้อนเดิมๆ มาฟังทางนี้เลยจ้า เพราะคำถามโลกแตกที่หลายคนคาใจคือ คิดราคายังไง? แบบ ตร.ม. หรือเหมาไปเลย อันไหนจะคุ้มกว่ากันแน่? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ฟังแบบชัดๆ ตรงไปตรงมา สไตล์คนอยากมีบ้านสวยในราคาเป็นมิตร ไปลุยกันเล้ย!

1. บริการทาสีภายใน คืออะไรกันนะ?

เอาล่ะจ้า! บริการ รับเหมาทาสีภายในบ้านและคอนโด เนี่ย มันก็คือการที่เราจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือทีมช่างสีมืออาชีพ ให้มาจัดการเรื่องสีสันภายในที่พักของเรานั่นแหละ พูดง่ายๆ คือเราไม่ต้องเลอะเองให้เสียเวลา เสียแรง เสียสุขภาพ (กลิ่นสีนี่ไม่ใช่เล่นๆ นะ!) บริการนี้เหมาะกับใคร? ก็เหมาะกับเจ้าของบ้าน เจ้าของคอนโด ที่ ไม่มีเวลา, ไม่มีทักษะ ในการทาสี, อยากได้งานเนี้ยบๆ คุณภาพดี หรือ งานเยอะ พื้นที่ใหญ่ เกินกว่าจะทำเองไหวนั่นเอง

เปรียบเทียบเหมือนเราจะทำกับข้าว แล้วเลือกจะทำเอง หรือจ้างเชฟมาทำให้แหละ ถ้าทำไม่เป็น ไม่มีเวลา หรืออยากได้รสชาติภัตตาคาร ก็ต้องพึ่งเชฟใช่ไหมล่ะ? งานทาสีก็เหมือนกันจ้า ผู้รับเหมาเค้าก็เหมือนเชฟสี ที่มีอุปกรณ์ครบมือ รู้เทคนิคการทาให้เรียบเนียน ติดทนนาน แถมยังให้คำแนะนำเรื่องชนิดสี โทนสี ให้เข้ากับสไตล์บ้านเราได้ด้วยนะ บริการนี้กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดบ้านเรามากๆ เพราะใครๆ ก็อยากให้บ้านตัวเองดูดี สะอาดสะอ้าน เหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาไงล่ะ


2. ราคาค่าบริการในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนปวดหัวตุ้บๆ นั่นก็คือเรื่อง "ราคา" นี่แหละ! การคิดค่าบริการทาสีภายในเนี่ย หลักๆ จะมี 2 แบบที่นิยมใช้กันในบ้านเราคือ:

แบบที่ 1: คิดราคาเป็น ตร.ม. (ต่อตารางเมตร)

  • วิธีนี้จะคิดราคาตามพื้นที่ผนังที่เราต้องการทาสีเลยจ้า ยิ่งพื้นที่เยอะ ราคาก็ยิ่งสูงตามไปด้วย
  • ราคาต่อ ตร.ม. เนี่ย แตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่างมากๆ นะ เช่น:
    • สภาพผนังเดิม: ผนังมีรอยแตก รอยร้าว ต้องซ่อมแซมเยอะมั้ย? ถ้าต้องขูดสีเก่าออก โป๊ว ขัด เยอะ ราคาก็แพงขึ้นจ้า
    • ชนิดของสี: ใช้สีเกรดไหน? สีธรรมดา สีกึ่งเงา สีเช็ดล้างได้ สีกันเชื้อรา สีสำหรับห้องเด็ก? สีเกรดพรีเมียม ราคาสูงกว่าแน่นอน
    • จำนวนรอบที่ทา: ปกติจะทารองพื้น 1 รอบ และทาสีจริง 2 รอบ ถ้าต้องทาหลายรอบกว่าปกติ (เช่น เปลี่ยนจากสีเข้มเป็นสีอ่อนมากๆ) ราคาก็อาจจะบวกเพิ่มนะ
    • ความยากง่ายของงาน: เพดานสูงมั้ย? มีซอกมุมเยอะหรือเปล่า? ต้องทำงานในพื้นที่แคบๆ ยากๆ มั้ย?
    • ชื่อเสียงผู้รับเหมา/บริษัท: เจ้าใหญ่ๆ ที่มีประสบการณ์ยาวนาน อาจจะมีราคาสูงกว่าช่างรายย่อยนะ
  • ช่วงราคาคร่าวๆ (รวมค่าแรง+ค่าสีมาตรฐาน): สำหรับการทาสีภายในผนังเปล่า หรือทาสีทับสีเดิมที่สภาพดี โดยใช้สีคุณภาพดีกลางๆ อาจจะอยู่ที่ประมาณ ฿150 - ฿300 ต่อ ตร.ม. หรืออาจจะสูงกว่านี้ถ้าเป็นงานที่ต้องเก็บรายละเอียดเยอะ ใช้สีเกรดพิเศษ หรือผู้รับเหมามีชื่อเสียงมากๆ นะจ๊ะ อันนี้เป็นแค่ราคาเริ่มต้น ต้องให้ช่างไปประเมินหน้างานจริงอีกทีจ้า

แบบที่ 2: คิดราคาแบบเหมา (Lump Sum)

  • วิธีนี้คือผู้รับเหมาจะ ประเมินงานทั้งหมด ทั้งพื้นที่, สภาพผนัง, ชนิดสีที่ใช้, ความยากง่ายของงาน แล้วเสนอราคา "เหมา" มาเป็นยอดรวมก้อนเดียวเลยจ้า
  • ราคานี้จะรวม ทั้งค่าแรง ค่าสี และค่าอุปกรณ์พื้นฐาน ที่ใช้ในงานทาสี (เช่น แปรง ลูกกลิ้ง เทป กาว โป๊ว กระดาษทราย)
  • แบบเหมาเหมาะกับงานที่ พื้นที่ไม่ใหญ่มาก หรืองานที่สามารถประเมินขอบเขตได้ชัดเจน
  • ข้อดีคือเรารู้ งบประมาณที่แน่นอน ตั้งแต่แรก ไม่ต้องมานั่งคำนวณ ตร.ม. เองให้วุ่นวาย
  • ข้อควรระวังคือ ต้องตกลงขอบเขตงานให้ชัดเจนมากๆ ว่าราคานี้รวมอะไรบ้าง อะไรที่ต้องจ่ายเพิ่ม เพื่อป้องกันปัญหางอกภายหลังนะจ๊ะ
  • ราคาแบบเหมา: อันนี้ระบุเป็นตัวเลขเป๊ะๆ ยากมากๆ เลยจ้า เพราะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และปัจจัยอื่นๆ ที่กล่าวไปข้างบนเลย อาจจะเริ่มตั้งแต่ไม่กี่พันบาท (สำหรับห้องเล็กๆ) ไปจนถึงหลายหมื่นบาท หรือเป็นแสนบาท (สำหรับบ้านทั้งหลัง) ขึ้นอยู่กับขนาดและดีเทลงานจ้า

แล้วแบบไหนคุ้มกว่ากันล่ะ?

จริงๆ แล้ว ไม่มีแบบไหนที่ "คุ้มกว่า" เสมอไป นะจ๊ะ มันขึ้นอยู่กับ ลักษณะงานและความต้องการของเราเอง ต่างหาก!

  • ถ้างานของเรา พื้นที่ไม่ใหญ่มาก เช่น ทาแค่ห้องนอนห้องเดียว หรือคอนโดสตูดิโอเล็กๆ การคิดแบบ เหมา อาจจะสะดวกกว่า เพราะได้ราคาชัดเจน ควบคุมงบง่าย
  • ถ้างานของเรา พื้นที่ค่อนข้างใหญ่ เช่น บ้านทั้งหลัง หรือต้องการความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน scope งานระหว่างทำ การคิดแบบ ตร.ม. อาจจะเหมาะกว่า เพราะคิดราคาตามพื้นที่จริงที่ทำ
  • บางที การคิดแบบ เหมา อาจจะดูเหมือนแพงกว่าเมื่อเทียบราคาต่อ ตร.ม. กับแบบคิดตามพื้นที่เป๊ะๆ แต่ก็อาจจะรวมค่าบริการอื่นๆ หรือความยืดหยุ่นในงานไว้แล้ว ก็ต้องพิจารณาดีๆ จ้า

คำแนะนำคือ: ควร ขอใบเสนอราคาทั้ง 2 แบบ จากผู้รับเหมาเจ้าเดียวกัน หรือขอใบเสนอราคาแบบที่เค้าถนัดที่สุด จากผู้รับเหมาหลายๆ เจ้า แล้วนำมา เปรียบเทียบกัน อย่างละเอียด ทั้งขอบเขตงานที่รวมในราคา ชนิดสีที่ใช้ ระยะเวลาทำงาน และเงื่อนไขอื่นๆ จ้า อย่าเพิ่งตัดสินใจแค่ตัวเลขสุดท้ายนะ!


3. เปรียบเทียบราคากับทางเลือกอื่นเป็นยังไงบ้าง?

นอกจากจะจ้างผู้รับเหมามืออาชีพมาทาสีแล้ว เรายังมีทางเลือกอื่นอีกนะจ๊ะ ซึ่งแต่ละทางเลือกก็มีข้อดีข้อเสีย และเรื่องราคาที่แตกต่างกันไป มาดูกัน:

  • จ้างผู้รับเหมามืออาชีพ (แบบ ตร.ม. หรือ เหมา):
    • ราคา: สูงที่สุดเมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น
    • คุณภาพ: มักจะได้งานที่เนี้ยบ ได้มาตรฐาน เพราะช่างมีประสบการณ์ มีอุปกรณ์ครบ
    • ความสะดวก: สะดวกที่สุด เราไม่ต้องลงมือเอง ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์ ไม่ต้องจัดการปัญหาหน้างานเอง
    • เวลา: ใช้เวลาน้อยกว่าทำเอง
  • จ้างช่างสีอิสระ/ช่างแถวบ้าน:
    • ราคา: อาจจะถูกกว่าบริษัทรับเหมา แต่แพงกว่าทำเอง
    • คุณภาพ: แตกต่างกันไปมากๆ ขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ของช่างแต่ละคน ต้องเช็คผลงานและรีวิวให้ดี
    • ความสะดวก: สะดวกกว่าทำเอง แต่เราอาจจะต้องช่วยประสานงาน หรือดูแลเรื่องการจัดซื้อสีและอุปกรณ์เองบ้าง
    • เวลา: อาจจะใช้เวลานานกว่าบริษัท เพราะอาจจะทำงานคนเดียว หรือทีมเล็กๆ
  • ทาสีเอง (DIY):
    • ราคา: ถูกที่สุด จ่ายแค่ค่าสี ค่าอุปกรณ์ และค่าเหนื่อยของตัวเอง!
    • คุณภาพ: ขึ้นอยู่กับฝีมือและความพยายามของเราล้วนๆ! ถ้าไม่เคยทำ อาจจะเลอะเทอะ ไม่เรียบเนียน งานไม่เนี้ยบเท่าช่างมืออาชีพ
    • ความสะดวก: ไม่สะดวกเลยจ้า ต้องเสียเวลาไปซื้อของ เตรียมงาน ทาเอง เก็บงาน ทำความสะอาดเอง
    • เวลา: ใช้เวลานานที่สุด อาจจะหลายวัน หรือเป็นสัปดาห์ ถ้ามีเวลาน้อย

สรุปคือ ถ้าเน้น งบประมาณเป็นหลัก และมีเวลาว่างพอสมควร ไม่กลัวเหนื่อย ไม่กลัวเลอะ การ ทาสีเอง คือทางเลือกที่ประหยัดที่สุดจ้า แต่ถ้า เน้นความสะดวก คุณภาพงานเนี้ยบๆ และ ประหยัดเวลา การ จ้างผู้รับเหมามืออาชีพ คือคำตอบที่ดีกว่า ส่วนการจ้างช่างอิสระก็เป็นทางเลือกกลางๆ ระหว่างสองแบบแรกนะจ๊ะ


4. บริการที่รวมมาและสิ่งที่อาจต้องจ่ายเพิ่มมีอะไรบ้าง?

อันนี้สำคัญมากๆ เลยนะ! ก่อนจะตกลงจ้างผู้รับเหมาคนไหนก็ตาม ต้องตกลงรายละเอียดและขอบเขตงานให้ชัดเจน ว่าราคาที่เสนอมาเนี่ย รวมอะไรไปแล้วบ้าง และ มีอะไรที่ต้องจ่ายเพิ่มอีกไหม สิ่งที่มักจะรวมอยู่ในราคามาตรฐานของผู้รับเหมาส่วนใหญ่คือ:

  • ค่าแรงช่าง: แน่นอนว่ารวมค่าแรงช่างอยู่แล้วจ้า
  • ค่าสีและอุปกรณ์พื้นฐาน: ผู้รับเหมาส่วนใหญ่จะรวมค่าสี (สีรองพื้นและสีจริงตามจำนวนรอบที่ตกลง) และอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในงาน (เช่น แปรง ลูกกลิ้ง เกรียง โป๊ว กระดาษทราย เทปกาวผ้าใบพลาสติกคลุมพื้น) ไว้ในราคาเหมา หรือคิดรวมในราคาต่อ ตร.ม. แล้ว
  • ค่าเดินทางและขนส่ง: มักจะรวมค่าเดินทางของช่าง และค่าขนส่งสี/อุปกรณ์มาที่หน้างานแล้ว
  • การเตรียมพื้นผิวเบื้องต้น: เช่น การทำความสะอาดผนัง ปัดฝุ่น

ส่วนสิ่งที่ "อาจจะ" ต้องจ่ายเพิ่ม หรือต้องตกลงกันให้ชัดเจนมากๆ ว่ารวมหรือไม่รวม มีดังนี้:

  • งานซ่อมแซมผนังขนาดใหญ่: ถ้าผนังมีรอยแตก รอยร้าว รอยน้ำรั่วซึม หรือความเสียหายอื่นๆ ที่ต้องซ่อมแซมก่อนทาสี อาจจะมี ค่าซ่อมแซมเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานสีปกติ
  • การขูดลอกสีเก่า: ถ้าสีเดิมสภาพไม่ดี บวมพอง ลอกล่อนเยอะ จนต้องขูดสีเก่าออกทั้งหมด ก่อนจะทาสีใหม่ อาจมี ค่าแรงและค่าดำเนินการส่วนนี้เพิ่ม
  • การย้ายเฟอร์นิเจอร์และคลุมกันเปื้อน: ผู้รับเหมาบางรายอาจจะรวมบริการย้ายเฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่ที่จะทา และการใช้ผ้าใบพลาสติกคลุมเฟอร์นิเจอร์และพื้นให้เรียบร้อยแล้ว แต่บางรายอาจจะ คิดค่าบริการส่วนนี้เพิ่ม หรือ ให้เจ้าของบ้านจัดการเอง อันนี้ต้องถามให้ชัด!
  • งานทำความสะอาดหลังทาสีเสร็จ: งานปัดกวาด เช็ดถูเศษสีที่อาจจะกระเด็นเลอะเทอะหลังงานเสร็จ บางรายอาจจะรวมบริการนี้ไว้แล้ว บางรายอาจจะไม่รวม ก็ต้องคุยกันให้เข้าใจจ้า
  • การรับประกันผลงาน: อันนี้ สำคัญมากสำหรับคนไทย! ควรสอบถามว่ามีการ รับประกันผลงาน หรือไม่? ระยะเวลาเท่าไหร่? เช่น รับประกันความเรียบเนียนของสี การยึดเกาะของสี กี่เดือน กี่ปี? ถ้าสีมีปัญหาภายในระยะเวลารับประกัน จะแก้ไขให้ฟรีหรือไม่? ผู้รับเหมาที่มีความเป็นมืออาชีพมักจะมีการรับประกันผลงานให้ลูกค้าสบายใจนะจ๊ะ
  • ของแถม/โปรโมชั่น: งานบริการทาสีอาจจะไม่มีของแถมเหมือนซื้อสินค้า แต่บางทีผู้รับเหมาอาจจะมีโปรโมชั่น เช่น ส่วนลดเมื่อทาทั้งหลัง หรือแถมบริการทำความสะอาดพื้นหลังงานเสร็จ ก็ลองสอบถามดูได้จ้า

จำไว้เสมอว่า การตกลงรายละเอียดให้ชัดเจนในใบเสนอราคาหรือสัญญาก่อนเริ่มงาน คือสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันปัญหากวนใจตามมาภายหลังนะจ๊ะ


5. มีช่วงไหนน่าจ้างผู้รับเหมาเป็นพิเศษมั้ย?

จริงๆ แล้วงานทาสีบ้านเราเนี่ยสามารถทำได้ตลอดทั้งปีแหละจ้า แต่ถ้าถามว่ามีช่วงไหนที่อาจจะมี "ดีล" หรือ "โปรโมชั่น" บ้างไหม? ก็อาจจะมีบ้างนะ เช่น:

  • ช่วงก่อนเทศกาลสำคัญ: อย่างเช่น ช่วงก่อนปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือ ช่วงก่อนปีใหม่สากล หลายคนอยากให้บ้านดูสะอาด สดใส รับสิ่งดีๆ ในช่วงเทศกาล อาจจะมีการเร่งจ้างช่าง ทำให้คิวช่างเต็ม หรือบางเจ้าอาจจะมีโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในช่วงนี้ก็ได้นะ
  • ช่วงที่คนไม่ค่อยนิยมจ้าง: เช่น ช่วงหน้าฝน คนมักจะไม่ค่อยอยากทาสีภายนอกเพราะกลัวฝนตกงานเสียหาย แต่สำหรับ งานภายใน ถ้าหน้างานมีหลังคา มีผนังมิดชิด ก็ทำได้ไม่มีปัญหาจ้า บางทีช่วงหน้าฝนเนี่ยแหละ คิวช่างอาจจะไม่แน่นเท่าช่วงอื่น อาจจะมีโอกาสต่อรองราคาได้บ้างเล็กน้อยนะ
  • โปรโมชั่นจากร้านสี/ห้างสรรพสินค้า: บางทีร้านขายสี หรือแผนกสีในห้างวัสดุก่อสร้าง อาจจะมีโปรโมชั่น ลดราคาค่าสี หรือมีบริการ แนะนำช่างสี ที่ร่วมรายการ ซึ่งอาจจะทำให้เราได้ราคาค่าแรงที่ถูกลงไปด้วยนะ

ส่วนโปรโมชั่นแบบ 11.11 หรือ 12.12 ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย อาจจะไม่เห็นโปรโมชั่นสำหรับ "บริการทาสี" โดยตรงนะจ๊ะ แต่เราอาจจะเห็นโปรโมชั่น ลดราคาค่าสี หรือ อุปกรณ์ทาสี แทน ถ้าใครคิดจะทาเอง ก็ไปรอช้อปช่วงโปรโมชั่นพวกนี้ได้เลย ได้ของถูกลงแน่นอน!

คำแนะนำ: ถ้าไม่ได้รีบมาก ลอง สอบถามและเปรียบเทียบราคา จากผู้รับเหมาหลายๆ เจ้าในช่วงเวลาต่างๆ กันดูนะจ๊ะ บางทีเราอาจจะเจอจังหวะดีๆ ที่ได้ราคาเป็นมิตรก็ได้


6. คนไทยจ้างผู้รับเหมาทาสีแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองฟังเสียงเม้าท์มอย หรืออ่านรีวิว (ที่ไม่ใช่ใน Shopee/Lazada โดยตรง แต่เป็นตามกลุ่มรีวิวบ้าน รีวิวคอนโด หรือเว็บไซต์หาผู้รับเหมา) ของคนไทยที่เคยจ้างผู้รับเหมาทาสีเนี่ย มีหลากหลายฟีดแบ็กมากๆ เลยนะ จุดที่คนไทยมักจะพูดถึง (ทั้งดีและไม่ดี) มีดังนี้จ้า:

  • เรื่องฝีมือและความเนี้ยบ: อันนี้เป็นจุดที่คนไทยให้ความสำคัญมาก! อยากได้งานที่ทาแล้วเรียบเนียน สีสม่ำเสมอ ไม่มีรอยแปรง รอยลูกกลิ้ง เก็บขอบคมๆ อันนี้แหละที่วัดกันที่ฝีมือช่าง ถ้าเจอช่างดีๆ งานจะออกมาเป๊ะถูกใจ แต่ถ้าเจอช่างไม่ชำนาญ อาจจะต้องมานั่งแก้ นั่งเก็บงานกันเหนื่อยหน่อย
  • เรื่องความสะอาด: ทาสีเนี่ยมันเลอะง่ายมากๆ เลยจ้า คนไทยกังวลเรื่องนี้ไม่แพ้เรื่องฝีมือเลย อยากให้ช่างมีการคลุมพื้น คลุมเฟอร์นิเจอร์ให้ดีที่สุด และช่วยทำความสะอาดหลังงานเสร็จด้วย ถ้าช่างเนี้ยบเรื่องความสะอาด ลูกค้าก็แฮปปี้มากๆ
  • เรื่องความตรงต่อเวลาและวินัย: มาทำงานตรงเวลาไหม? เข้างานกี่โมง เลิกงานกี่โมง? ทำงานติดต่องานตามแผนที่วางไว้ไหม? อันนี้ก็เป็นอีกจุดที่ลูกค้าคาดหวังจากผู้รับเหมามืออาชีพ
  • เรื่องราคาและความสมเหตุสมผล: ราคาที่เสนอมาสมเหตุสมผลกับขอบเขตงานและคุณภาพที่ได้ไหม? มีการบวกราคาเพิ่มจากที่ตกลงไว้ตอนแรกไหม? ปัญหาเรื่องราคางอกทีหลังนี่เป็นเรื่องที่ลูกค้าไม่ปลื้มมากๆ เลยนะ
  • เรื่องการสื่อสาร: ผู้รับเหมาคุยง่ายไหม? อธิบายรายละเอียดชัดเจนไหม? รับฟังความต้องการของเราไหม? การสื่อสารที่ดีช่วยลดปัญหาและความเข้าใจผิดได้เยอะเลยจ้า

สรุปคือ คนไทยที่จ้างผู้รับเหมาทาสีส่วนใหญ่ คาดหวังงานที่เนี้ยบ สะอาด ตรงเวลา และราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งการเลือกผู้รับเหมาที่ดี มีรีวิวหรือประวัติผลงานที่น่าเชื่อถือ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้ประสบการณ์ที่ดีจ้า


7. แล้วจะหาผู้รับเหมาได้จากที่ไหนบ้างนะ?

ยุคนี้ช่องทางการหาผู้รับเหมาทาสีมีหลากหลายมากๆ เลยจ้า ไม่ได้มีแค่รอถามคนรู้จักอย่างเดียวแล้วนะ มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง:

  • แนะนำจากคนรู้จัก/เพื่อนบ้าน: อันนี้คลาสสิกสุดๆ และมักจะเป็นช่องทางที่คนไทยหลายคนสบายใจที่สุด เพราะได้ข้อมูลจากประสบการณ์จริงของคนที่เรารู้จัก ความน่าเชื่อถือจะสูงกว่า
  • แพลตฟอร์มออนไลน์/เว็บไซต์หาผู้รับเหมา: มีเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันหลายตัวเลยนะจ๊ะ ที่รวบรวมรายชื่อผู้รับเหมาหลากหลายสาขา รวมถึงช่างสีด้วย เราสามารถเข้าไปดูโปรไฟล์ ผลงาน รีวิวจากลูกค้าคนก่อนๆ และขอใบเสนอราคาจากผู้รับเหมาหลายๆ เจ้า เพื่อเปรียบเทียบได้ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ สะดวกในการเปรียบเทียบ แต่ก็ต้องดูรีวิวดีๆ เลือกเจ้าที่น่าเชื่อถือนะจ๊ะ
  • กลุ่มใน Facebook: มีกลุ่มต่างๆ ใน Facebook ที่เกี่ยวกับการรีโนเวท ซ่อมแซมบ้าน หรือกลุ่มรวมช่างต่างๆ เราสามารถเข้าไปโพสต์สอบถามหาผู้รับเหมา หรือดูผู้รับเหมาที่คนอื่นแนะนำได้ เป็นแหล่งข้อมูลที่ดี แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพ หรือช่างที่ไม่มีประสบการณ์ด้วยนะ
  • ร้านขายสี/ห้างวัสดุก่อสร้าง: ร้านใหญ่ๆ บางร้านอาจจะมีบริการแนะนำช่างสีที่ผ่านการอบรมจากแบรนด์สี หรือเป็นพาร์ทเนอร์กับร้าน ซึ่งมักจะเป็นช่างที่มีฝีมือและน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง
  • บริษัทรับเหมาตกแต่งภายใน: ถ้าเป็นการรีโนเวทใหญ่ อาจจะใช้บริการบริษัทรับเหมาตกแต่งภายในไปเลย ซึ่งเค้าจะมีทีมช่างสีของตัวเอง หรือมีช่างสีที่ทำงานประจำอยู่แล้ว คุณภาพงานมักจะดี ได้มาตรฐาน แต่ราคาก็จะสูงกว่าจ้างช่างสีโดยตรงนะ

ไม่ว่าจะหาจากช่องทางไหนก็ตาม อย่าลืมตรวจสอบประวัติ ผลงาน และขอใบเสนอราคาจากหลายๆ เจ้ามาเปรียบเทียบกันเสมอ นะจ๊ะ


8. สรุปแล้วคิดราคาแบบไหนดี? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า! คำถามโลกแตกที่ว่า คิดราคาแบบ ตร.ม. หรือ เหมา แบบไหนคุ้มกว่า? อย่างที่บอกไป ไม่มีคำตอบตายตัวนะจ๊ะ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของเราล้วนๆ!

  • ถ้างานของคุณ: เป็นพื้นที่เล็กๆ เช่น ห้องเดียว, คอนโดสตูดิโอ, งานไม่ซับซ้อนมาก และต้องการความชัดเจนเรื่องงบประมาณตั้งแต่แรก การคิดแบบ เหมา อาจจะตอบโจทย์มากกว่า
  • ถ้างานของคุณ: เป็นพื้นที่ใหญ่ เช่น บ้านทั้งหลัง, มีหลายห้อง, หรืออาจจะมีการปรับเปลี่ยนขอบเขตงานระหว่างทำเล็กน้อย การคิดแบบ ตร.ม. อาจจะมีความยืดหยุ่นและคิดราคาตามพื้นที่จริงที่ทำได้แม่นยำกว่า

คำแนะนำคือ:

  • สำหรับคนที่ มีงบจำกัดมาก และ มีเวลา มีแรง อาจจะลอง ทาสีเอง (DIY) จ่ายแค่ค่าสีและอุปกรณ์ ก็ประหยัดไปได้เยอะ แต่ต้องแลกกับความเหนื่อยและคุณภาพที่อาจจะไม่เท่ามืออาชีพนะ
  • สำหรับคนที่ ต้องการความสะดวก, งานเนี้ยบ ได้มาตรฐาน และ ประหยัดเวลา การ จ้างผู้รับเหมามืออาชีพ คือตัวเลือกที่ดีที่สุด แม้ราคาจะสูงกว่า แต่คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้

ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน หรือช่องทางไหนในการหาผู้รับเหมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสื่อสารที่ชัดเจน, การทำความตกลงเรื่องขอบเขตงานและราคาอย่างละเอียด (ควรมีใบเสนอราคาที่เป็นลายลักษณ์อักษร), และ การตรวจสอบผลงานและรีวิวของผู้รับเหมา ก่อนตัดสินใจนะจ๊ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังวางแผนจะทาสีภายในบ้านหรือคอนโดนะจ๊ะ ขอให้ได้บ้านสวย ห้องสวย ถูกใจในราคาที่เป็นมิตรกันทุกคนจ้า! ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะ บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีจ้าสาวๆ ทุกคนนน! วันนี้เรามีเรื่องให้กรี๊ดดดดดดด เพราะจะพาไปส่องแฟชั่นแบรนด์โปรดของสาวๆ หลายคนอย่าง Kwankao คอลเลกชันใหม่ล่าสุด! แอบกระซิบว่ามีลดราคาไหม หรือต้องเปย์ราคาเต็ม มาดูกันเลยจ้า ใครที่เป็นแฟน Kwankao หรือกำลังเล็งๆ อยากลองสอ
อัปเดต ราคา เสื้อผ้า แบรนด์ Kwankao คอลเลกชันใหม่ล่าสุด ลดราคาไหม
สวัสดีค่ะทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ที่เห็นแล้วใจมันเรียกร้องให้ออกไปลุยยยย นั่นก็คือ เจ้า มอเตอร์ไซค์ Enduro ปี 2025 นั่นเอง! ใครที่ฝันอยากจะขี่รถคู่ใจบุกป่าฝ่าดง ลุยทางฝุ่น ขึ้นเขาลงห้วยแบบไม่ต้องกลัว ก็ต้องมามุงทางนี้
อัปเดตราคา มอเตอร์ไซค์ Enduro ปี 2025 รุ่นไหนเหมาะกับการลุยทางฝุ่น?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีจ้าาา วัยรุ่นทุกคน รวมถึงชาวเราที่มีปัญหาผิวๆ กวนใจ วันนี้จะพามาล้วงลึกเจาะตับกับครีมสามัญประจำบ้านที่อยู่คู่คนไทยมานานแสนนาน นั่นก็คือ Smooth E Cream นั่นเอง! เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเห็น เคยใช้ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเร
ครีม Smooth E ราคาล่าสุดปี 2025 แก้ปัญหาผิว จุดด่างดำ รอยแผลเป็น ได้จริงไหม?
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้มาแบบเอาใจสายครอบครัว สายขนของ หรือใครที่กำลังมองหารถยนต์คู่ใจคันใหญ่ๆ นั่งสบายๆ ทั้งบ้าน เพราะเราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง Toyota Sienna รถตู้ MPV ไซส์ยักษ์ ที่บอกเลยว่าเห็นบ่อยในหนังฝรั่ง แต่ที่ไทยนี่ต้องบอกว่า "แรร์ไอเท
Toyota Sienna ราคาล่าสุดในไทย อัปเดตทุกรุ่นย่อยก่อนใคร!
สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องครีมกู้ผิวพังในตำนานอย่าง Physiogel AI Cream กัน ใครที่กำลังเล็งๆ ครีมดีๆ สักตัวไว้กู้หน้าสิว หน้าพัง หน้าแพ้ต่างๆ นานา มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึก รีวิวให้ฟังแบบหมดเปลือก แถมด้วยเคล็ด
Physiogel AI Cream ราคาล่าสุด หาซื้อได้ที่ไหน ลดราคาอยู่ไหม?

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ