อัปเดตราคา Hada Labo Lotion น้ำตบยอดนิยมทุกสูตร เพื่อผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะพาทุกคนไปอัปเดตราคา "น้ำตบในตำนาน" อย่าง Hada Labo Lotion กันให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ! ใครที่กำลังมองหาไอเทมเด็ดๆ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแบบอิ่มน้ำขั้นสุด บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะเราจะพาไปเจาะลึกทุกสูตร ทุกสไตล์ พร้อมเคล็ดลับช้อปยังไงให้ได้ของดี ราคาโดนใจ สไตล์คนไทยแท้ๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปช้อปกันเล้ยยย!
1. Hada Labo Lotion มันคืออะไรนะ?
หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าขวดสีขาวขุ่นๆ หรือสีฟ้าใสๆ ของ Hada Labo Lotion กันดีอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ? พูดง่ายๆ เลยก็คือ มันคือ "น้ำตบ" หรือ "โลชั่นปรับสภาพผิว" จากแบรนด์ Hada Labo ซึ่งเป็นแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ Rohto Pharmaceutical ที่เขาขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมานานมากกก! จุดเด่นของ Hada Labo คือการเน้นส่วนผสมหลักที่ช่วยเรื่อง "ความชุ่มชื้น" แบบสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ไฮยาลูรอนิค แอซิด" หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า "ไฮยา" นั่นเองค่ะ! เค้ามีหลายสูตรมากๆ แต่หลักๆ เลยคือออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่หลากหลาย ตั้งแต่ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวหมองคล้ำ ไปจนถึงผิวที่ต้องการความกระจ่างใส เหมาะมากๆ สำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะสาวๆ หนุ่มๆ ที่อยากมีผิว ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เด้งๆ ฟูๆ เหมือนแก้มเด็กน้อย รับรองว่าต้องเลิฟ! ในตลาดไทยตอนนี้ Hada Labo ก็เป็นไอเทมที่ฮิตตลอดกาลจริงๆ ค่ะ
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องสำคัญที่สายช้อปต้องรู้! สำหรับ Hada Labo Lotion เนี่ย ราคาจะมีความหลากหลายไปตามสูตรและขนาดขวดนะจ๊ะ เราไปส่องมาให้แล้ว ราคาก็จะประมาณนี้เลย:
- Hada Labo สีขาว (สูตรดั้งเดิม / สูตรเข้มข้น): ขวดเล็ก (170ml) ประมาณ 200 - 250 บาท (฿) / ขวดใหญ่ (400ml) ประมาณ 400 - 550 บาท (฿)
- Hada Labo สีฟ้า (สูตร Hyaluron + Vitamin B3 / สูตร Whitening): ขวดเล็ก (170ml) ประมาณ 220 - 280 บาท (฿) / ขวดใหญ่ (400ml) ประมาณ 450 - 600 บาท (฿)
- Hada Labo สีทอง (สูตร Premium Hyaluron / สูตร Anti-Aging): ขวดเล็ก (170ml) ประมาณ 280 - 350 บาท (฿) / ขวดใหญ่ (400ml) ประมาณ 550 - 700 บาท (฿)
- Hada Labo สีชมพู (สูตร Arbutin Whitening / สูตรเพื่อผิวกระจ่างใส): ขวดเล็ก (170ml) ประมาณ 220 - 280 บาท (฿)
- Hada Labo สีเขียว (สูตรสำหรับผิวเป็นสิว / สูตรควบคุมความมัน): ขวดเล็ก (170ml) ประมาณ 220 - 280 บาท (฿)
โดยราคาเหล่านี้ เราสามารถหาซื้อได้ตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง Lazada และ Shopee ซึ่งมักจะมีส่วนลด หรือโค้ดต่างๆ ให้ใช้ ทำให้ราคาถูกลงไปอีก! ส่วนตามร้านค้าปลีกใหญ่ๆ เช่น Central, Watsons, Boots, Big C, The Mall ก็มีวางขายเช่นกัน โดยราคาอาจจะใกล้เคียงกัน หรือบางทีก็มีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะร้านค่ะ
ถ้าเทียบกับราคาที่ญี่ปุ่นแล้ว ต้องบอกว่าราคาในไทยค่อนข้างสมเหตุสมผลเลยนะ อาจจะมีส่วนต่างเล็กน้อยจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่โดยรวมแล้วถือว่าเข้าถึงง่ายมากๆ ค่ะ
3. แล้วเทียบกับน้ำตบแบรนด์อื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าให้เทียบกับน้ำตบแบรนด์อื่นๆ ในตลาดไทยที่เน้นเรื่องความชุ่มชื้นเหมือนกันเนี่ย ต้องบอกว่า Hada Labo Lotion ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่ามากๆ เลยค่ะ! ลองนึกดูว่าน้ำตบแบรนด์ดังๆ บางแบรนด์ ขวดเล็กๆ ปริมาณใกล้เคียงกัน อาจจะราคาไปถึง 400-500 บาท หรือมากกว่านั้นเลยนะ ในขณะที่ Hada Labo ขวดใหญ่ 400ml ราคาไม่ถึง 600 บาท ถือว่าให้ปริมาณที่เยอะมากเมื่อเทียบกับราคา ถ้าเน้นเรื่อง ความชุ่มชื้นแบบจัดเต็ม แบบไม่ต้องคิดมากเรื่องราคา Hada Labo คือคำตอบที่สบายกระเป๋ามากๆ ค่ะ ส่วนแบรนด์อื่นๆ บางทีอาจจะเน้นส่วนผสมพิเศษ หรือมีฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติมที่ทำให้ราคาสูงขึ้น แต่ถ้าพื้นฐานคือต้องการผิวอิ่มน้ำ Hada Labo ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงง่ายสุดๆ แล้วจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
เวลาเราซื้อ Hada Labo Lotion สิ่งที่ได้รับก็ตรงไปตรงมาเลยค่ะ หลักๆ ก็คือ ตัวผลิตภัณฑ์ Hada Labo Lotion ในขนาดและสูตรที่เราเลือก แต่ไฮไลท์สำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือเรื่องเหล่านี้!
- ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee ส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบตามเงื่อนไข หรือบางทีก็มีโค้ดส่งฟรีให้ใช้ค่ะ ถ้าซื้อตามร้านค้าปลีก ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าส่งเลย
- การรับประกัน: โดยปกติแล้ว เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบนี้ จะไม่มีการรับประกันในลักษณะเดียวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นะจ๊ะ แต่สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญคือ ความน่าเชื่อถือของร้านค้า และ การันตีว่าเป็นของแท้ 100% ค่ะ ถ้าซื้อจาก Official Store หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ก็จะมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง
- ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แหละคือเสน่ห์ของการช้อปปิ้งออนไลน์! ร้านค้า Official บน Lazada/Shopee หรือแม้แต่ร้านค้าทั่วไป มักจะมี โปรโมชั่นพิเศษ อยู่เสมอ เช่น ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อครบตามยอดได้ของแถมเป็นขนาดทดลอง หรือได้รับคูปองส่วนลดสำหรับครั้งต่อไป ที่สำคัญคือต้องคอยติดตามข่าวสารจากแบรนด์ หรือจากร้านค้าที่เราซื้อประจำค่ะ
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
แน่นอนว่าถ้าอยากได้ของดีราคาโดน ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองของสายช้อป! Hada Labo Lotion เป็นสินค้าที่ค่อนข้างมีโปรโมชั่นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือช่วงปลายปีอย่าง 11.11 และ 12.12 นี่คือโอกาสทองเลยค่ะ! เพราะแพลตฟอร์มอย่าง Lazada และ Shopee จะจัดโปรโมชั่นลดราคากันแบบจัดเต็มมากๆ บางทีน้ำตบ Hada Labo ขวดใหญ่ อาจจะลดราคาลงไปเหลือไม่ถึง 300-400 บาทเลยก็มี! นอกจากนี้ ร้านค้าที่เป็น Official Store ของ Hada Labo มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะช่องทางของตัวเอง หรือมีการสะสมแต้มแลกส่วนลด ซึ่งก็คุ้มค่าไม่แพ้กันเลยค่ะ
คำแนะนำคือ ถ้าไม่รีบจนเกินไป รอซื้อช่วงโปรโมชั่น พวกนี้ จะได้ราคาที่ดีที่สุดค่ะ หรือถ้าเห็นว่ามีโปรโมชั่นดีๆ แล้วเราใช้ประจำ ก็สามารถตุนไว้ได้เลย!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากรีวิวที่ไปส่องๆ มาใน Shopee, Lazada หรือตามกลุ่มบิวตี้ต่างๆ เนี่ย บอกเลยว่าเสียงตอบรับของคนไทยต่อ Hada Labo Lotion คือดีงามพระรามแปดมากๆ! จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:
- "ชุ่มชื้นจริง!" อันนี้คืออันดับ 1 เลยค่ะ หลายคนบอกว่าใช้แล้วรู้สึกผิวเด้งๆ อิ่มน้ำขึ้นทันที ไม่แห้งตึงเหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะสูตรดั้งเดิมที่เน้นไฮยาลูรอนิค แอซิด
- "ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ" แม้ว่าจะเป็นสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นสูง แต่ก็ไม่รู้สึกหนักผิว หรือเหนอะหนะจนเกินไป สามารถใช้ได้ทุกวัน ทุกสภาพอากาศ
- "กลิ่นหอมอ่อนๆ หรือไม่มีกลิ่นเลย" ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยหลายๆ คนที่ไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมฉุน
- "ราคาเข้าถึงง่าย คุ้มค่า" เมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพที่ได้รับ ถือว่า Hada Labo เป็นน้ำตบที่คุ้มค่ามากๆ
- "ใช้แล้วผิวดูดีขึ้น" บางคนรีวิวว่าใช้ต่อเนื่องแล้วรู้สึกว่าผิวดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนดูกระชับขึ้นเล็กน้อย
- "เหมาะกับทุกสภาพผิว" แม้แต่คนผิวแพ้ง่าย หรือผิวมัน ก็สามารถใช้สูตรที่เหมาะสมได้
สรุปง่ายๆ คือ คนไทยปลื้มปริ่มกับ ความชุ่มชื้นที่สัมผัสได้จริง, ความสบายผิว และ ความคุ้มค่า ที่ได้รับจาก Hada Labo Lotion นี่แหละค่ะ!
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
สำหรับ Hada Labo Lotion เป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ง่ายมากๆ ในไทยเลยค่ะ ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำก็จะมี:
- แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada เป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด มีร้านค้า Official ของ Hada Labo โดยตรง หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือให้เลือกเยอะมาก ข้อดีคือ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโค้ดส่วนลด โปรโมชั่นส่งฟรี และมีรีวิวจากผู้ใช้จริงให้ดูเยอะ ทำให้ตัดสินใจง่าย
- ร้านค้าปลีกเพื่อสุขภาพและความงาม: เช่น Watsons, Boots, Tsuruha, Eveandboy อันนี้ก็เป็นอีกแหล่งที่หาซื้อง่ายมากๆ มีพนักงานคอยให้คำแนะนำ และมักจะมีโปรโมชั่นของทางร้าน หรือโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ
- ห้างสรรพสินค้าทั่วไป: เช่น Central, The Mall, Robinson จะมีเคาน์เตอร์ของ Hada Labo หรือมีวางขายตามแผนกเครื่องสำอาง ข้อดีคือได้เห็นสินค้าจริง และบางทีก็มีผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ยากกว่าที่อื่น
- ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ: เช่น Big C, Lotus's ก็มี Hada Labo วางขายเช่นกัน ทำให้สะดวกมากๆ เวลาไปซื้อของเข้าบ้าน ก็แวะซื้อน้ำตบไปด้วยเลย
ส่วนเรื่องราคา โดยทั่วไปแล้วราคาจะค่อนข้างสอดคล้องกันในทุกช่องทาง แต่ถ้าอยากได้ราคาดีที่สุด แนะนำให้ลองเปรียบเทียบระหว่างร้านค้าออนไลน์กับโปรโมชั่นของร้านค้าปลีกดูนะคะ
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
สรุปแล้ว Hada Labo Lotion เป็นน้ำตบที่ "คุ้มค่าเกินราคา" และ "ดีต่อผิว" จริงๆ ค่ะ! เหมาะมากๆ สำหรับทุกคนที่ต้องการ:
- ผิวแห้ง ขาดน้ำ ต้องการเติมความชุ่มชื้นแบบเร่งด่วน
- อยากมีผิวอิ่มน้ำ เด้งฟู ดูสุขภาพดี
- มองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
- มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี
- ชอบผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง
ถ้าถามว่าคุ้มไหม? บอกเลยว่า คุ้มมากๆ ค่ะ! โดยเฉพาะถ้าซื้อในช่วงโปรโมชั่น หรือซื้อขวดใหญ่ จะยิ่งคุ้มค่าเข้าไปอีก
ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี? ถ้าเป็นมือใหม่ หรือผิวแห้งธรรมดา แนะนำ สูตรดั้งเดิม (ขวดขาว) หรือ สูตรเข้มข้น ได้เลยค่ะ แต่ถ้าอยากเน้นเรื่องผิวขาวใส ก็ลอง สูตรสีฟ้า หรือ สีชมพู ถ้าอยากบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ก็จัด สูตรสีทอง ไปเลยจ้า ส่วนใครที่ผิวเป็นสิวง่าย หรือหน้ามัน ก็ลอง สูตรสีเขียว ดูนะคะ!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจเลือกซื้อ Hada Labo Lotion ได้ง่ายขึ้นนะคะ ขอให้ได้น้ำตบที่ถูกใจ ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำกันถ้วนหน้าจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
อัปเดตราคาซื้อขายงูบอลไพธ่อน (Ball Python) มอร์ฟสีต่างๆ สำหรับผู้เลี้ยง
รีวิวพร้อมราคา Yamaha PX10 เพาเวอร์แอมป์คุณภาพสูง เสียงดี กำลังขับแน่นทรงพลัง
รวมราคารถทัวร์กรุงเทพ-ภูเก็ต VIP ของทุกบริษัท พร้อมจุดขึ้นรถและเวลาเดินทาง
รวมราคาหลอดไฟ UVA UVB สำหรับสัตว์เลื้อยคลาน พร้อมแนะนำยี่ห้อและร้านค้า
อัปเดตราคารถมอเตอร์ไซค์ Honda CB400 Super Four มือสองในปัจจุบัน สภาพดีน่าใช้
ส่องราคาเหรียญหลวงปู่มหาสิลา รุ่นแรก วัตถุมงคลยอดนิยม พุทธคุณโดดเด่นน่าสะสม