logo

10 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ติดตั้งง่าย ปลอดภัยทุกการเดินทาง

user avatar
รวิสรา ศรีสมบัติ·06/16/2025 13:58
点赞
10 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ติดตั้งง่าย ปลอดภัยทุกการเดินทาง

สวัสดีค่า คุณพ่อคุณแม่สายช้อปยุคใหม่! ใกล้จะถึงช่วงเทศกาลเดินทางกันอีกแล้ว ไม่ว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัด พาเจ้าตัวเล็กตะลุยมิวเซียม หรือจะไปเที่ยวทะเลให้ชุ่มปอด สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ ‘คาร์ซีท’ ค่ะ! ไม่ใช่แค่เรื่องของกฎหมายที่กำลังจะเข้มงวดขึ้น แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยของลูกน้อยที่เราๆ ยอมกันไม่ได้แม้แต่มิลลิเมตรเดียว วันนี้เป้ในฐานะโปรเรื่องช้อปปิ้งออนไลน์ ขออาสาพามาส่อง “10 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ติดตั้งง่าย ปลอดภัยทุกการเดินทาง” ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดโดนใจคุณพ่อคุณแม่ชาวไทยแน่นอน พร้อมทริคเลือกซื้อแบบรู้ลึกรู้จริง และตอบทุกคำถามคาใจ จะได้ช้อปสบายใจ ปลอดภัยหายห่วงตลอดทริปกันไปเลยจ้า!

1. Joie – i-Spin 360

  • ชื่อแบรนด์: Joie
  • ชื่อสินค้า: i-Spin 360
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 15,000 - 20,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Joie i-Spin 360 คือคาร์ซีทระบบหมุน 360 องศา ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของคุณพ่อคุณแม่และปลอดภัยสูงสุดสำหรับลูกน้อย ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงประมาณ 4 ขวบ (หรือตามน้ำหนัก/ส่วนสูงที่กำหนด) ด้วยฟังก์ชันหมุนได้ ทำให้การอุ้มลูกเข้า-ออกจากคาร์ซีทเป็นเรื่องง่ายสุดๆ ไม่ต้องปีนป่ายให้เมื่อยหลัง ติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX แข็งแรงมั่นคง ได้มาตรฐานความปลอดภัยสากล ECE R129 (i-Size) มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะปลอดภัยในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เบาะนุ่มนั่งสบาย แถมผ้ายังถอดซักทำความสะอาดง่ายอีกด้วยนะ
  • จุดเด่นสินค้า: หมุนได้ 360 องศา、ติดตั้งง่ายด้วย ISOFIX、ผ่านมารตรฐาน i-Size、เบาะนุ่มนั่งสบาย、ถอดซักได้
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ระบบหมุน 360 องศา: ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกน้อยเข้าหรือออกจากคาร์ซีทได้สะดวก โดยไม่ต้องก้มหรือบิดตัว ทำให้ไม่ปวดหลัง โดยเฉพาะเวลาจอดรถในที่แคบๆ ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากๆ ในชีวิตประจำวัน
    • การติดตั้งแบบ ISOFIX พร้อม Support Leg: ระบบ ISOFIX ช่วยให้ติดตั้งคาร์ซีทเข้ากับโครงสร้างรถยนต์ได้โดยตรง ลดความผิดพลาดในการติดตั้ง ทำให้คาร์ซีทมั่นคง ไม่ขยับไปมา ส่วน Support Leg ช่วยกระจายแรงกระแทกและเพิ่มความเสถียร
    • ปรับเอนนอนได้หลายระดับ: สามารถปรับเอนพนักพิงได้ตามความเหมาะสม ทั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 15 เดือน และแบบหันหน้าออกจากเบาะสำหรับเด็กโตขึ้น เพื่อให้ลูกน้อยนอนหลับสบายตลอดการเดินทางไกล ไม่เมื่อยตัว
    • พนักพิงศีรษะและสายรัดปรับระดับได้: พนักพิงศีรษะสามารถปรับความสูงขึ้นได้ตามการเติบโตของเด็ก พร้อมปรับระดับสายรัดนิรภัย 5 จุด ให้กระชับพอดีตัวลูกน้อยอยู่เสมอ ช่วยให้การปกป้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกช่วงวัย
    • ระบบระบายอากาศในตัว: วัสดุผ้าและดีไซน์ที่ออกแบบมาให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ดี ช่วยลดความอับชื้นและความร้อน ทำให้ลูกน้อยนั่งสบาย ไม่งอแง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 4 ปี, คุณพ่อคุณแม่ที่เน้นความสะดวกในการใช้งาน, การเดินทางในเมืองและเดินทางไกล, รถยนต์ที่มีระบบ ISOFIX
กลุ่มอายุ/น้ำหนักมาตรฐานความปลอดภัยระบบติดตั้งการหมุนปรับเอนสายรัดการทำความสะอาด
แรกเกิด - 18 กก. (ประมาณ 4 ปี)ECE R129 (i-Size)ISOFIX + Support Leg360 องศาหลายระดับ (ทั้ง RWF & FWF)5 จุดผ้าหุ้มถอดซักเครื่องได้

2. Chicco – MyFit Zip Air

  • ชื่อแบรนด์: Chicco
  • ชื่อสินค้า: MyFit Zip Air
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 10,000 - 15,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Chicco MyFit Zip Air เป็นคาร์ซีทแบบ Combination Seat ที่คุ้มสุดๆ ใช้ได้ตั้งแต่เด็กวัยกำลังซน (ประมาณ 2 ขวบขึ้นไป) จนถึงเด็กโต (ประมาณ 10-12 ขวบ) จุดเด่นคือปรับการใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือแบบใช้สายรัด 5 จุด และแบบ Booster Seat ใช้กับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ ที่สำคัญคือมีระบบระบายอากาศแบบพิเศษ "Zip & Wash" ที่สามารถถอดผ้าคลุมออกไปซักทำความสะอาดได้ง่ายและรวดเร็ว แค่รูดซิปรอบๆ เบาะ! เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยและพ่อแม่ที่กังวลเรื่องความสะอาดมากๆ ติดตั้งได้ทั้งระบบ ISOFIX และ Belt ปลอดภัยหายห่วง ได้มาตรฐานสากล
  • จุดเด่นสินค้า: ใช้ได้นานหลายปี、ถอดผ้าซักง่ายด้วยซิป、ระบายอากาศได้ดี、ติดตั้งได้ 2 ระบบ、เป็น Booster ได้
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • 2-in-1 Combination Seat: เริ่มต้นใช้แบบ Forward-facing พร้อมสายรัด 5 จุดสำหรับเด็กเล็ก และปรับเปลี่ยนเป็น Booster Seat ที่ใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ได้เมื่อเด็กโตขึ้น ประหยัด ไม่ต้องซื้อคาร์ซีทหลายตัวตามช่วงวัย
    • ระบบ Zip & Wash Fabric: ผ้าหุ้มเบาะสามารถถอดออกได้ง่ายมากๆ ด้วยซิปโดยไม่ต้องถอดสายรัดนิรภัยให้ยุ่งยาก ทำให้ซักทำความสะอาดคราบสกปรก นม หรืออาหารที่หกเลอะได้สะดวกสุดๆ ลดการสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์
    • โครงสร้างระบายอากาศ Dual RideSide-Impact Protection: มีช่องระบายอากาศและวัสดุที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี ลดความอับชื้นเวลาลูกนั่งนานๆ พร้อมระบบป้องกันแรงกระแทกด้านข้างบริเวณศีรษะและลำตัว เพิ่มความปลอดภัยเป็นพิเศษในกรณีเกิดอุบัติเหตุชนด้านข้าง
    • ติดตั้งได้ทั้ง ISOFIX และ Belt: มีตัวยึด ISOFIX ที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยสูง พร้อมช่องสำหรับร้อยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์แบบ 3 จุด เพื่อให้สามารถติดตั้งในรถยนต์รุ่นเก่าที่ไม่มี ISOFIX ได้ หรือใช้ในกรณีที่ต้องการย้ายคาร์ซีทไปมาระหว่างรถหลายคันได้อย่างสะดวก
    • พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้ 9 ระดับ พร้อมระบบปรับสายรัดอัตโนมัติ: สามารถปรับความสูงของพนักพิงศีรษะให้พอดีกับส่วนสูงของเด็กแต่ละคนได้อย่างละเอียด พร้อมกับที่ระบบจะปรับความสูงของสายรัด 5 จุดตามไปด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่าสายรัดอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเสมอโดยไม่ต้องถอดร้อยใหม่
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กโต (น้ำหนัก 11.33-45.35 กก. หรือส่วนสูงตามมาตรฐาน), คุณพ่อคุณแม่ที่มองหาคาร์ซีทที่ใช้ได้นาน, การเดินทางทั่วไป, รถยนต์ที่มีหรือไม่มี ISOFIX
กลุ่มอายุ/น้ำหนักรูปแบบการใช้งานระบบติดตั้งมาตรฐานความปลอดภัยการทำความสะอาดปรับพนักพิงศีรษะระบบป้องกันด้านข้าง
11.33 - 45.35 กก.Forward-facing / BoosterISOFIX / Beltมาตรฐานสากลผ้าหุ้มถอดซักด้วยซิป9 ระดับมี

3. Fico – Style Bonito

  • ชื่อแบรนด์: Fico
  • ชื่อสินค้า: Style Bonito
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 3,000 - 5,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Fico Style Bonito เป็นคาร์ซีทอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาคาร์ซีทที่คุ้มค่า ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงประมาณ 7 ขวบ ปรับทิศทางการติดตั้งได้ทั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะสำหรับเด็กเล็ก และหันหน้าออกจากเบาะสำหรับเด็กโต โครงสร้างแข็งแรง ได้มาตรฐานความปลอดภัย ECE R44/04 เบาะหนานุ่ม นั่งสบาย ปรับเอนนอนได้หลายระดับ ติดตั้งด้วยระบบเข็มขัดนิรภัยรถยนต์แบบ 3 จุด เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่ต้องการคาร์ซีทฟังก์ชันครบในราคาที่เข้าถึงง่ายค่ะ
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาเป็นมิตร、ใช้ได้นานตั้งแต่แรกเกิด、ปรับหันได้ 2 ทิศทาง、เบาะหนานุ่ม、ผ่านมาตรฐาน ECE R44/04
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ติดตั้งแบบ Rearward-facing และ Forward-facing: รองรับการใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดโดยติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ ซึ่งเป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทารกและเด็กเล็กที่มีกระดูกคอและหลังยังไม่แข็งแรง เมื่อเด็กโตขึ้น (น้ำหนัก 9 กก. ขึ้นไป) สามารถปรับติดตั้งแบบหันหน้าออกจากเบาะได้
    • ปรับเอนนอนได้ 3 ระดับ: ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัว ไม่ว่าจะนั่งเล่นหรือนอนหลับ โดยเฉพาะในการเดินทางไกลๆ สามารถปรับองศาการเอนให้เหมาะสมกับช่วงวัยและความต้องการของเด็กได้
    • สายรัด Safety belt 5 จุด ปรับความสูงได้: มีระบบสายรัดนิรภัยแบบ 5 จุด ที่ช่วยยึดตัวเด็กให้อยู่กับที่อย่างมั่นคงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ สามารถปรับความสูงของสายรัดให้เข้ากับสรีระของเด็กที่เติบโตขึ้นได้อย่างง่ายดาย
    • ติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ 3 จุด: เหมาะสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ที่มีระบบเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองตามคู่มืออย่างถูกต้อง แม้รถจะไม่มีระบบ ISOFIX ก็ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงประมาณ 7 ปี, คุณพ่อคุณแม่ที่มองหาคาร์ซีทคุณภาพดีในงบประมาณจำกัด, การเดินทางทั่วไป, รถยนต์ที่ไม่มีระบบ ISOFIX
กลุ่มอายุ/น้ำหนักรูปแบบการติดตั้งมาตรฐานความปลอดภัยปรับเอนสายรัดน้ำหนักคาร์ซีทการทำความสะอาด
แรกเกิด - 25 กก. (ประมาณ 7 ปี)Rearward/Forward-facingECE R44/043 ระดับ5 จุดประมาณ 5 กก.ผ้าหุ้มถอดซักได้

4. GLOWY – Banana Smoothies Fix

  • ชื่อแบรนด์: GLOWY
  • ชื่อสินค้า: Banana Smoothies Fix
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 8,000 - 12,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: GLOWY Banana Smoothies Fix เป็นคาร์ซีทที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบายสุดๆ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 12 ขวบ หมุนได้ 360 องศา ทำให้การอุ้มลูกเข้าออกง่ายเหมือนปอกกล้วย! ติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX และ Top Tether เพิ่มความมั่นคงแข็งแรง ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ตัวเบาะหนานุ่ม ปรับเอนได้หลายระดับ พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้ มีหลังคากันแดดในบางรุ่น ช่วยปกป้องผิวบอบบางของลูกน้อยจากแสงแดด เหมาะมากๆ สำหรับครอบครัวที่เดินทางบ่อยๆ หรือไปเที่ยวในช่วงที่มีแดดแรงๆ ค่ะ
  • จุดเด่นสินค้า: หมุนได้ 360 องศา、ใช้ได้ยาวนานถึง 12 ปี、ติดตั้งง่ายด้วย ISOFIX + Top Tether、มีหลังคากันแดด (บางรุ่น)、เบาะนุ่มปรับเอนได้
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ระบบหมุน 360 องศา: เพิ่มความสะดวกสบายในการนำเด็กเข้า-ออกจากคาร์ซีทได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อต้องนำเด็กออกจากรถเพียงลำพัง หรือในพื้นที่จอดรถที่จำกัด ทำให้การจัดท่านั่งและคาดเข็มขัดทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
    • ติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX และ Top Tether: การติดตั้งสองจุดนี้ช่วยให้คาร์ซีทเชื่อมต่อกับตัวถังรถโดยตรง ทำให้มีความมั่นคงสูง ลดการเคลื่อนตัวของคาร์ซีทในกรณีที่เกิดการชน เพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กได้อย่างมีนัยสำคัญ
    • ปรับเอนและปรับความสูงพนักพิงศีรษะได้หลายระดับ: สามารถปรับเอนเบาะได้ถึง 4 ระดับ และปรับความสูงของพนักพิงศีรษะได้ถึง 7 ระดับ ทำให้รองรับสรีระและการเจริญเติบโตของเด็กได้อย่างเหมาะสม มั่นใจได้ว่าลูกน้อยนั่งสบายและปลอดภัยในทุกช่วงวัย
    • มีหลังคากันแดด (เฉพาะบางรุ่น): หลังคาที่สามารถปรับระดับได้ช่วยปกป้องผิวที่บอบบางและดวงตาของลูกน้อยจากแสงแดดโดยตรงในระหว่างการเดินทาง ทำให้ลูกรู้สึกสบายตัว ไม่ร้อน และหลับได้สนิทมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาเดินทางช่วงกลางวัน
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 12 ปี, คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการคาร์ซีทที่ใช้งานสะดวกและใช้ได้ยาวนาน, การเดินทางทุกประเภท, รถยนต์ที่มีระบบ ISOFIX และจุดยึด Top Tether
กลุ่มอายุ/น้ำหนักระบบติดตั้งการหมุนปรับเอนปรับพนักพิงศีรษะมีหลังคามาตรฐาน
แรกเกิด - 36 กก. (ประมาณ 12 ปี)ISOFIX + Top Tether / Belt360 องศา4 ระดับ7 ระดับบางรุ่นมาตรฐานสากล

5. Apramo – Ostara Fix

  • ชื่อแบรนด์: Apramo
  • ชื่อสินค้า: Ostara Fix
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 5,000 - 8,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Apramo Ostara Fix เป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กโต (ตั้งแต่ประมาณ 4 ขวบถึง 12 ขวบ) หรือที่เรียกว่า Booster Seat แบบมีพนักพิงหลัง ช่วยยกตัวเด็กให้สูงขึ้นเพื่อให้สามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้อย่างถูกต้อง พาดผ่านกระดูกเชิงกรานและไหล่ ไม่ใช่ที่คอ ติดตั้งง่ายด้วยระบบ ISOFIX ช่วยให้คาร์ซีทมั่นคง ไม่เลื่อนไปมาเมื่อรถเบรกกะทันหัน หรือเวลาเด็กขึ้นลง พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้ตามขนาดตัวเด็ก มีระบบป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูกโตแล้ว หรือต้องย้ายคาร์ซีทไปมาระหว่างรถหลายคัน
  • จุดเด่นสินค้า: Booster Seat สำหรับเด็กโต、ติดตั้งง่ายด้วย ISOFIX、น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก、พนักพิงศีรษะปรับได้、มีระบบป้องกันด้านข้าง
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • Booster Seat with Backrest: เป็นที่นั่งเสริมที่มีพนักพิงหลัง ช่วยจัดตำแหน่งของเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ให้เหมาะสมกับสรีระของเด็กโต ทำให้สายคาดพาดผ่านจุดที่ปลอดภัยที่สุด (กระดูกเชิงกราน หน้าอก และไหล่) ซึ่งเข็มขัดนิรภัยรถยนต์อย่างเดียวไม่สามารถทำได้หากเด็กยังตัวเล็กเกินไป
    • ติดตั้งง่ายด้วยระบบ ISOFIX: มีตัวยึด ISOFIX ที่พับเก็บได้ ช่วยให้ติดตั้งเข้ากับจุดยึด ISOFIX ในรถยนต์ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง คาร์ซีทจะถูกล็อกไว้อย่างมั่นคง ลดความเสี่ยงจากการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บในอุบัติเหตุ
    • น้ำหนักเบาและพกพาสะดวก: ด้วยน้ำหนักที่เบาเมื่อเทียบกับคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก ทำให้เคลื่อนย้ายคาร์ซีทจากรถคันหนึ่งไปยังอีกคันหนึ่งได้ง่าย สะดวกสำหรับผู้ปกครองที่ต้องใช้รถหลายคัน หรือเวลาที่ญาติมารับ-ส่งเด็ก
    • พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้: สามารถปรับความสูงของพนักพิงศีรษะให้เข้ากับส่วนสูงของเด็กที่เติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ศีรษะและคอได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสมเสมอ
    • ระบบป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง (Side Impact Protection): มีการเสริมวัสดุหรือออกแบบโครงสร้างบริเวณด้านข้าง เพื่อช่วยดูดซับแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ลำคอ และลำตัว ในกรณีที่เกิดการชนจากด้านข้าง ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่อันตรายมาก
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กโต (ประมาณ 4-12 ปี, น้ำหนัก 15-36 กก., ส่วนสูง 100-145 ซม.), ครอบครัวที่มีเด็กโต, การเดินทางทั่วไป, รถยนต์ที่มีระบบ ISOFIX
กลุ่มอายุ/น้ำหนักประเภทระบบติดตั้งปรับพนักพิงศีรษะน้ำหนักคาร์ซีทระบบป้องกันด้านข้างการทำความสะอาด
15 - 36 กก. (ประมาณ 4-12 ปี)Booster Seat with BackrestISOFIX / Beltปรับได้น้ำหนักเบามีผ้าหุ้มถอดซักได้

6. DAIICHI – First7 Plus

  • ชื่อแบรนด์: DAIICHI
  • ชื่อสินค้า: First7 Plus
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 15,000 - 20,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: DAIICHI First7 Plus เป็นคาร์ซีทสัญชาติเกาหลีที่ได้รับความไว้วางใจเรื่องความปลอดภัย ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงประมาณ 7 ขวบ จุดเด่นคือสามารถติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะได้ยาวนานกว่าคาร์ซีททั่วไป (Rearward-facing) ซึ่งเป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กเล็ก โครงสร้างแข็งแรงทนทาน ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง เบาะนั่งนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ปรับเอนได้หลายระดับ เหมาะกับการเดินทางไกล ติดตั้งได้ทั้งระบบ ISOFIX (บางรุ่น) และเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ เป็นคาร์ซีทที่เน้นความปลอดภัยและความสบายสำหรับลูกน้อยเป็นหลัก
  • จุดเด่นสินค้า: ติดตั้ง RWF ได้นาน、ปลอดภัยสูง、เบาะนุ่มสบาย ระบายอากาศ、ปรับเอนได้、โครงสร้างแข็งแรง
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • Extended Rearward-facing Use: อนุญาตให้ติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะได้ยาวนานถึงน้ำหนัก 18 กก. หรือประมาณ 4-5 ปี ซึ่งจากงานวิจัยทั่วโลกยืนยันแล้วว่าการนั่งแบบ RWF ช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บบริเวณศีรษะ คอ และกระดูกสันหลังในเด็กเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
    • ระบบป้องกันแรงกระแทกหลายชั้น: มีการออกแบบโครงสร้างและใช้วัสดุพิเศษเพื่อช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ทั้งการชนด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยจากทุกทิศทาง
    • เบาะนั่ง Ergonomic ระบายอากาศ: ดีไซน์เบาะนั่งตามหลักสรีรศาสตร์ รองรับสรีระของเด็กได้อย่างลงตัว พร้อมวัสดุผ้าที่ช่วยระบายอากาศได้ดี ลดความอับชื้น ทำให้เด็กนั่งสบาย ไม่งอแง แม้จะต้องเดินทางเป็นเวลานาน
    • ปรับเอนได้หลายระดับพร้อมตัวบ่งชี้องศา: สามารถปรับเอนเบาะได้หลายระดับเพื่อให้เหมาะกับการนั่งหรือนอนของเด็กในแต่ละช่วงวัย พร้อมมีตัวบ่งชี้ที่ชัดเจน ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าติดตั้งในองศาที่ถูกต้องและปลอดภัย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงประมาณ 7 ปี, คุณพ่อคุณแม่ที่เน้นความปลอดภัยสูงสุดและต้องการให้ลูกนั่ง RWF นานๆ, การเดินทางทุกประเภท, รถยนต์ที่รองรับการติดตั้งแบบ Belt และ/หรือ ISOFIX (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
กลุ่มอายุ/น้ำหนักรูปแบบการติดตั้งRWF สูงสุดปรับเอนระบบป้องกันวัสดุเบาะมาตรฐาน
แรกเกิด - 25 กก. (ประมาณ 7 ปี)Rearward/Forward-facing18 กก.หลายระดับป้องกันรอบด้านระบายอากาศมาตรฐานสากล

7. Camera – C-CS-737

  • ชื่อแบรนด์: Camera
  • ชื่อสินค้า: C-CS-737
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 4,000 - 6,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Camera C-CS-737 เป็นคาร์ซีทที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและคุ้มค่า ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงประมาณ 4 ขวบ ปรับทิศทางการติดตั้งได้ทั้งแบบหันหน้าเข้าและหันหน้าออกจากเบาะ โครงสร้างแข็งแรง ได้มาตรฐานสากล เบาะนั่งหนานุ่ม ให้ความสบายในการนั่ง ปรับเอนนอนได้ เหมาะสำหรับการเดินทางทั่วไปในชีวิตประจำวัน ติดตั้งด้วยระบบเข็มขัดนิรภัยรถยนต์แบบ 3 จุด เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาคาร์ซีทที่ฟังก์ชันพื้นฐานครบถ้วนในราคาที่ไม่สูงมาก
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาคุ้มค่า、ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด、ปรับหันได้ 2 ทิศทาง、เบาะนุ่ม、ติดตั้งง่ายด้วย Belt
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • รองรับการใช้งานแบบ Rearward-facing และ Forward-facing: สามารถติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงน้ำหนัก 13 กก. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และเปลี่ยนเป็นแบบหันหน้าออกจากเบาะเมื่อเด็กน้ำหนัก 9-18 กก. เพื่อให้เด็กมองเห็นด้านหน้าได้
    • ปรับเอนนอนได้หลายระดับ: มีกลไกสำหรับปรับเอนพนักพิงได้หลายระดับ ช่วยให้เด็กนั่งหรือนอนในท่าที่สบาย เหมาะกับการเดินทางทั้งใกล้และไกล ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เมื่อยล้า
    • สายรัดนิรภัย 5 จุด พร้อมตัวล็อคที่ใช้งานง่าย: ระบบสายรัด 5 จุดช่วยยึดเด็กไว้กับคาร์ซีทอย่างแน่นหนา ป้องกันการหลุดกระเด็นในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ตัวล็อคถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สะดวกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการคาดและปลดสายรัด
    • ติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์: การติดตั้งทำได้ง่ายโดยใช้เข็มขัดนิรภัยรถยนต์แบบ 3 จุด สามารถติดตั้งได้ในรถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อที่มีเข็มขัดนิรภัยมาตรฐาน ไม่จำเป็นต้องมีระบบ ISOFIX ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงประมาณ 4 ปี, คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการคาร์ซีทฟังก์ชันครบในงบประมาณปานกลาง, การเดินทางในชีวิตประจำวันและเดินทางไกลไม่บ่อยนัก, รถยนต์ที่ไม่มีระบบ ISOFIX
กลุ่มอายุ/น้ำหนักรูปแบบการติดตั้งมาตรฐานความปลอดภัยปรับเอนสายรัดระบบติดตั้งการทำความสะอาด
แรกเกิด - 18 กก. (ประมาณ 4 ปี)Rearward/Forward-facingมาตรฐานสากลหลายระดับ5 จุดเข็มขัดนิรภัยผ้าหุ้มถอดซักได้

8. Britax – Boulevard ClickTight

  • ชื่อแบรนด์: Britax
  • ชื่อสินค้า: Boulevard ClickTight
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 20,000 - 25,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Britax Boulevard ClickTight เป็นคาร์ซีทแบบ Convertible ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและติดตั้งง่ายสุดๆ ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด (แบบหันหน้าเข้าหาเบาะ) จนถึงเด็กโต (แบบหันหน้าออกจากเบาะ) จุดเด่นคือระบบติดตั้ง ClickTight ที่ทำให้การใช้เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ติดตั้งคาร์ซีททำได้ง่ายและแน่นหนาเหมือนใช้ ISOFIX เลยทีเดียว โครงสร้างแข็งแรงทนทาน มีระบบป้องกันแรงกระแทกด้านข้างหลายชั้น เบาะนุ่มสบาย ปรับเอนได้หลายระดับ เป็นคาร์ซีทระดับพรีเมียมที่เน้นความปลอดภัยสูงสุดและความสะดวกในการใช้งาน
  • จุดเด่นสินค้า: ระบบติดตั้ง ClickTight ง่ายและแน่นหนา、ปลอดภัยสูงสุด、ใช้ได้นานตั้งแต่แรกเกิด、ระบบป้องกันด้านข้างหลายชั้น、เบาะนุ่มสบาย
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ระบบติดตั้ง ClickTight: เป็นนวัตกรรมเฉพาะของ Britax ที่ทำให้การติดตั้งคาร์ซีทด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ง่ายและปลอดภัย เพียงแค่เปิดช่อง ClickTight สอดเข็มขัดนิรภัย ปิดฝา แล้วดันลง ระบบจะล็อกเข็มขัดให้แน่นหนาโดยอัตโนมัติ ช่วยลดความผิดพลาดในการติดตั้งได้อย่างมาก
    • ระบบป้องกันแรงกระแทก SafeCell Impact Protection: โครงสร้างแบบพิเศษและฐานที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดแรงที่ส่งผ่านไปยังตัวเด็ก พร้อมระบบป้องกันแรงกระแทกด้านข้างสองชั้น (2 Layers of Side Impact Protection) ครอบคลุมตั้งแต่ศีรษะ ลำคอ และลำตัว
    • ใช้ได้ทั้งแบบ Rearward-facing และ Forward-facing: รองรับการใช้งานแบบหันหน้าเข้าหาเบาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงน้ำหนัก 18 กก. (หรือสูงตามกำหนด) และแบบหันหน้าออกจากเบาะสำหรับเด็กน้ำหนัก 9-29.5 กก. (หรือสูงตามกำหนด) ปรับเปลี่ยนตามการเจริญเติบโตของเด็กได้อย่างเหมาะสม
    • ปรับเอนได้หลายระดับ พร้อมตัวบ่งชี้: สามารถปรับเอนพนักพิงได้หลายระดับเพื่อความสบายของเด็ก พร้อมมีตัวบ่งชี้ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการติดตั้งในแต่ละทิศทางมีองศาที่ถูกต้องและปลอดภัย
    • สายรัด No-Rethread Harness: สามารถปรับความสูงของพนักพิงศีรษะและสายรัดนิรภัย 5 จุดได้พร้อมกันในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องถอดสายรัดออกมาใหม่ สะดวกและช่วยให้มั่นใจว่าสายรัดอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเสมอ
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงประมาณ 7 ปี (ตามน้ำหนัก/ส่วนสูง), คุณพ่อคุณแม่ที่เน้นความปลอดภัยระดับสูงและต้องการคาร์ซีทติดตั้งง่าย, การเดินทางทุกประเภท, รถยนต์ที่มีเข็มขัดนิรภัยมาตรฐาน (ไม่จำเป็นต้องมี ISOFIX)
กลุ่มอายุ/น้ำหนักรูปแบบการติดตั้งระบบติดตั้งระบบป้องกันปรับเอนสายรัดมาตรฐาน
Rearward: 2.2 - 18 กก.
Forward: 9 - 29.5 กก.Rearward/Forward-facingClickTight (Belt) / ISOFIX (ขึ้นอยู่กับรุ่น)SafeCell + Side Impact Protectionหลายระดับ5 จุด (No-Rethread)มาตรฐานสากล (เช่น FMVSS 213)

9. Graco – 4Ever DLX 4-in-1

  • ชื่อแบรนด์: Graco
  • ชื่อสินค้า: 4Ever DLX 4-in-1
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 12,000 - 18,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Graco 4Ever DLX 4-in-1 คือคาร์ซีทที่ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ยันโตตามชื่อเลยค่ะ! ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงประมาณ 10-12 ขวบ ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ถึง 4 รูปแบบ: หันหน้าเข้า (แรกเกิด), หันหน้าออก (เด็กเล็ก), Booster แบบมีพนักพิง (เด็กโต), และ Booster แบบไม่มีพนักพิง คุ้มมากๆ! ติดตั้งง่ายด้วยระบบ InRight™ LATCH (ISOFIX) หรือเข็มขัดนิรภัย โครงสร้างแข็งแรง มีเหล็กเสริมเพื่อความทนทาน เบาะนุ่มสบาย ปรับเอนและปรับความสูงพนักพิงได้เยอะมาก เป็นคาร์ซีทที่ตอบโจทย์ครอบครัวที่ต้องการความคุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนานจริงๆ ค่ะ
  • จุดเด่นสินค้า: ใช้ได้ 4 รูปแบบ ยันโต、คุ้มค่า ใช้ได้นาน 10 ปี+、ติดตั้งง่ายทั้ง ISOFIX และ Belt、โครงสร้างเหล็กเสริม、ปรับเอนและปรับพนักพิงได้เยอะ
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • 4 Modes of Use: รองรับการใช้งานถึง 4 รูปแบบในคาร์ซีทตัวเดียว ได้แก่ Rear-facing Harness (สำหรับเด็กแรกเกิดถึงน้ำหนัก 18 กก.), Forward-facing Harness (สำหรับเด็กน้ำหนัก 9-29.5 กก.), Highback Booster (สำหรับเด็กน้ำหนัก 18-45 กก.), และ Backless Booster (สำหรับเด็กน้ำหนัก 18-54 กก.) ครอบคลุมทุกช่วงวัยจนเด็กพร้อมใช้เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ได้เอง
    • ระบบติดตั้ง InRight™ LATCH (ISOFIX) และ Belt: มีตัวเชื่อมต่อ LATCH (ISOFIX) ที่ติดตั้งง่ายและรวดเร็วด้วยคลิกเดียว พร้อมช่องทางเดินเข็มขัดนิรภัยที่ชัดเจน ทำให้ติดตั้งได้ถูกต้องและแน่นหนา ไม่ว่ารถจะมีระบบ ISOFIX หรือไม่ก็ตาม
    • โครงสร้างเหล็กเสริมความแข็งแรง: เฟรมคาร์ซีทเสริมด้วยเหล็กเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทาน และช่วยดูดซับแรงกระแทกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ทำให้คาร์ซีทมีความมั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้น
    • ปรับเอนได้ 6 ระดับ และพนักพิงศีรษะ 10 ระดับ: สามารถปรับเอนพนักพิงได้ถึง 6 ระดับ เพื่อความสบายของเด็กในการนั่งหรือนอน และปรับความสูงของพนักพิงศีรษะพร้อมกับสายรัด 5 จุดได้พร้อมกันถึง 10 ระดับ รองรับการเติบโตของเด็กได้อย่างแม่นยำ
    • เบาะนุ่ม ถอดซักได้ พร้อมที่วางแก้ว 2 ข้าง: เบาะนั่งใช้วัสดุที่นุ่มสบาย สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมที่วางแก้วแบบถอดได้ 2 ข้าง เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานจริง
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงประมาณ 10-12 ปี (หรือตามน้ำหนัก/ส่วนสูงที่กำหนด), คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการคาร์ซีทที่คุ้มค่า ใช้ได้ยาวนานมากๆ, การเดินทางทุกประเภท, รถยนต์ทุกรุ่น
กลุ่มอายุ/น้ำหนักรูปแบบการใช้งานระบบติดตั้งปรับเอนปรับพนักพิงศีรษะโครงสร้างการทำความสะอาดฟังก์ชันเสริม
แรกเกิด - 54 กก. (ประมาณ 12 ปี)4 รูปแบบ (RWF, FWF, HBB, BLB)LATCH (ISOFIX) / Belt6 ระดับ10 ระดับเหล็กเสริมผ้าหุ้มถอดซักได้ที่วางแก้ว 2 ข้าง

10. Nuna – Exec All-in-One

  • ชื่อแบรนด์: Nuna
  • ชื่อสินค้า: Exec All-in-One
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 25,000 - 30,000 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Nuna Exec All-in-One คือคาร์ซีทระดับพรีเมียมที่รวมทุกฟังก์ชันไว้ในหนึ่งเดียว ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดยันโต (ถึงประมาณ 12 ขวบ) วัสดุเกรดดี ดีไซน์สวยงามหรูหรา ปรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งหันหน้าเข้า หันหน้าออก และเป็น Booster ติดตั้งง่ายด้วยระบบ True lock™ base installation using vehicle’s ISOFIX or seat belt มีที่พักขาปรับได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้เด็กนั่งแบบหันหน้าเข้าได้สบายขึ้น เนื้อผ้าระบายอากาศดีเยี่ยม เหมาะกับอากาศเมืองไทย ถอดซักได้ เป็นคาร์ซีทตัวจบสำหรับครอบครัวที่มองหาความสะดวกสบาย ความปลอดภัยสูงสุด และดีไซน์ที่ลงตัว
  • จุดเด่นสินค้า: All-in-One ใช้ยันโต、วัสดุพรีเมียม ดีไซน์หรู、ที่พักขาปรับได้、ระบายอากาศดีเยี่ยม、ติดตั้งง่ายทั้ง ISOFIX และ Belt
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • All-in-One System: ออกแบบมาให้ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด (Rear-facing) ต่อเนื่องจนเป็นคาร์ซีทแบบ Forward-facing และ Booster Seat สำหรับเด็กโตในตัวเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนคาร์ซีทหลายครั้งตามช่วงวัย ทำให้ประหยัดและสะดวกสบายในระยะยาว
    • ระบบติดตั้ง True lock™ base installation: ฐานติดตั้งแบบพิเศษของ Nuna ที่ช่วยให้การติดตั้งคาร์ซีทเข้ากับรถยนต์ทำได้ง่ายและปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้ระบบ ISOFIX หรือเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ก็ตาม ลดความเสี่ยงจากการติดตั้งที่ไม่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ที่พักขาปรับได้: มีที่พักขาที่สามารถปรับยืดออกมาได้หลายระดับ ช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาให้กับเด็กที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ ทำให้เด็กนั่งได้สบายขึ้น ไม่งอเข่า หรือรู้สึกอึดอัด แม้จะนั่งแบบ RWF เป็นเวลานาน
    • วัสดุผ้า Greenguard Gold Certified และระบบระบายอากาศ: ผ้าคลุมคาร์ซีทใช้วัสดุที่ผ่านการรับรอง Greenguard Gold Certified ว่าปลอดภัย ปราศจากสารเคมีอันตราย พร้อมคุณสมบัติการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม ช่วยควบคุมอุณหภูมิ ทำให้เด็กนั่งสบาย ไม่ร้อน ไม่อับชื้น โดยเฉพาะเวลาเดินทางไกลในสภาพอากาศร้อน
    • ปรับเอนนอนและปรับความสูงพนักพิงศีรษะได้ง่าย: สามารถปรับเอนพนักพิงได้ด้วยมือเดียว และปรับความสูงของพนักพิงศีรษะพร้อมกับสายรัด 5 จุด ได้อย่างง่ายดายตามการเจริญเติบโตของเด็ก ทำให้ปรับคาร์ซีทให้เข้ากับสรีระของลูกได้อย่างแม่นยำเสมอ
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึงประมาณ 12 ปี (หรือตามน้ำหนัก/ส่วนสูง), คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการคาร์ซีทที่ดีที่สุด ครบวงจร และเน้นดีไซน์สวยงาม, การเดินทางทุกประเภท, รถยนต์ทุกรุ่น
กลุ่มอายุ/น้ำหนักรูปแบบการใช้งานระบบติดตั้งมาตรฐานวัสดุฟังก์ชันพิเศษปรับพนักพิงศีรฐานการทำความสะอาด
แรกเกิด - 54 กก. (ประมาณ 12 ปี)All-in-One (RWF, FWF, Booster)ISOFIX / BeltGreenguard Gold, มาตรฐานสากลพรีเมียม, ระบายอากาศดีที่พักขาปรับได้ปรับง่ายหลายระดับผ้าหุ้มถอดซักได้

คำแนะนำการเลือกซื้อคาร์ซีทคู่ใจปี 2025

  • 1. เช็กมาตรฐานความปลอดภัย สำคัญอันดับหนึ่ง!
    เรื่องความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้เด็ดขาดค่ะคุณพ่อคุณแม่! ก่อนตัดสินใจซื้อคาร์ซีทตัวไหนก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องพุ่งตัวไปดูก็คือ ‘มาตรฐานความปลอดภัย’ ที่คาร์ซีทตัวนั้นๆ ได้รับการรับรอง ปกติแล้วมาตรฐานที่นิยมและได้รับการยอมรับในระดับสากลมีหลักๆ อยู่ 2 มาตรฐานจากยุโรป นั่นก็คือ ECE R44/04 และ ECE R129 (i-Size) ค่ะ มาตรฐาน ECE R44/04 เป็นมาตรฐานเดิมที่ทดสอบการชนจากด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนมาตรฐาน ECE R129 หรือที่เรียกว่า i-Size เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดที่เข้มงวดกว่า มีการทดสอบการชนด้านข้างเพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งสำคัญมากๆ เพราะการชนด้านข้างเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บรุนแรงบริเวณศีรษะและลำคอของเด็ก แถม i-Size ยังกำหนดให้เด็กต้องนั่งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rearward-facing) จนกว่าจะมีอายุอย่างน้อย 15 เดือน ซึ่งเป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กเล็ก การเลือกคาร์ซีทที่ผ่านมารตรฐาน i-Size จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อีกระดับว่าคาร์ซีทนั้นๆ ได้รับการทดสอบมาอย่างเข้มงวดและให้การปกป้องที่ดีเยี่ยม นอกจากมาตรฐานยุโรปแล้ว ยังมีมาตรฐาน FMVSS 213 ของสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน เวลาดูคาร์ซีท ลองสังเกตสติกเกอร์หรือป้ายรับรองมาตรฐานเหล่านี้ที่ติดอยู่บนตัวคาร์ซีท หรือดูรายละเอียดในคู่มือสินค้า อย่าหลงเชื่อแค่คำโฆษณาว่า "ปลอดภัย" เฉยๆ นะคะ ต้องดูว่าผ่านมาตรฐานอะไรมาจริงๆ และถ้ามีผลทดสอบการชนจากสถาบันอิสระอย่าง ADAC ในยุโรป (ซึ่งเป็นที่ยอมรับมากๆ เรื่องการทดสอบคาร์ซีท) มาด้วย ก็ยิ่งมั่นใจไปอีกค่ะ จำไว้นะคะว่าคาร์ซีทที่ได้มาตรฐานคือด่านแรกในการปกป้องลูกน้อยของเราจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันค่ะ

  • 2. เลือกให้เหมาะกับวัย น้ำหนัก ส่วนสูง และประเภทของรถ สำคัญไม่แพ้กัน!
    การเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับขนาดตัวและช่วงวัยของเด็กเป็นสิ่งสำคัญมากๆ พอๆ กับมาตรฐานความปลอดภัยเลยค่ะ เพราะคาร์ซีทแต่ละประเภทออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระและให้การปกป้องที่แตกต่างกันไปตามการเจริญเติบโตของเด็ก ถ้าเลือกผิดขนาด ไม่เหมาะสมกับวัย ประสิทธิภาพในการป้องกันก็จะลดลงไปเยอะเลยค่ะ โดยทั่วไปคาร์ซีทแบ่งเป็นกลุ่มหลักๆ ตามน้ำหนักและส่วนสูงของเด็ก ดังนี้:

    • **กลุ่มเด็กแรกเกิด - ประมาณ 15 เดือน หรือน้ำหนักไม่เกิน 13 กก.:** ควรใช้คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rearward-facing infant carrier or convertible seat) ท่านี้ช่วยกระจายแรงกระแทกไปทั่วบริเวณหลังและศีรษะ ปกป้องกระดูกคอและกระดูกสันหลังที่ยังบอบบางของทารกได้อย่างดีเยี่ยม ควรให้ลูกนั่งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยทั่วไปคือจนกว่าเด็กจะตัวโตเกินข้อกำหนดด้านน้ำหนักหรือส่วนสูงของคาร์ซีท หรืออย่างน้อย 15 เดือนตามมาตรฐาน i-Size
    • **กลุ่มเด็กเล็ก ประมาณ 1-4 ปี หรือน้ำหนัก 9-18 กก.:** สามารถเปลี่ยนมาใช้คาร์ซีทแบบหันหน้าออกจากเบาะ (Forward-facing car seat) ได้ แต่ถ้าคาร์ซีทตัวเดิมยังรองรับการติดตั้งแบบหันหน้าเข้าและเด็กยังไม่เกินเกณฑ์ ก็ควรให้ลูกนั่งแบบหันหน้าเข้าต่อไปเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คาร์ซีทกลุ่มนี้จะมีสายรัดนิรภัย 5 จุดเพื่อยึดตัวเด็ก
    • **กลุ่มเด็กโต ประมาณ 4-12 ปี หรือน้ำหนัก 15-36 กก. และส่วนสูง 100-145 ซม.:** เมื่อเด็กตัวโตเกินกว่าจะใช้คาร์ซีทแบบมีสายรัด 5 จุดได้แล้ว ก็ถึงเวลาเปลี่ยนเป็น Booster Seat (เบาะเสริม) Booster Seat จะช่วยยกตัวเด็กให้สูงขึ้นเพื่อให้สามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้อย่างถูกต้อง โดยสายคาดส่วนล่างจะพาดผ่านกระดูกเชิงกราน และสายคาดส่วนบนจะพาดผ่านหน้าอกและไหล่ ไม่ใช่ที่คอ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ Booster Seat มีทั้งแบบมีพนักพิงหลัง (Highback Booster) และแบบไม่มีพนักพิง (Backless Booster) แบบมีพนักพิงจะให้การป้องกันด้านข้างที่ดีกว่า

    นอกจากขนาดตัวเด็กแล้ว ประเภทของรถยนต์ ก็สำคัญค่ะ ต้องดูว่ารถของเรามีระบบติดตั้งคาร์ซีทแบบไหนระหว่าง ISOFIX/LATCH หรือต้องใช้ เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ (Seatbelt) ระบบ ISOFIX/LATCH เป็นจุดยึดมาตรฐานที่ติดมากับตัวรถยนต์ ทำให้การติดตั้งคาร์ซีทที่มีระบบรองรับทำได้ง่ายและลดความผิดพลาดได้ดี คาร์ซีทบางรุ่นอาจมีจุดยึด Top Tether เพิ่มมาด้วยเพื่อเพิ่มความมั่นคง หากรถไม่มี ISOFIX ก็ต้องเลือกคาร์ซีทที่ติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ได้ ซึ่งก็ปลอดภัยเช่นกันหากติดตั้งอย่างถูกต้องตามคู่มือ ควรทดลองติดตั้งคาร์ซีทในรถของเราก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุดค่ะ จะได้รู้ว่าเข้ากันได้พอดีไหม และติดตั้งง่ายหรือยากแค่ไหน การเลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมกับทั้งเด็กและรถคือหัวใจสำคัญเพื่อให้คาร์ซีททำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพค่ะ

  • 3. ฟังก์ชันเสริมเพื่อความสบายและการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง
    นอกเหนือจากความปลอดภัยซึ่งเป็นปัจจัยหลักแล้ว ฟังก์ชันเสริมต่างๆ ก็มีส่วนช่วยให้การใช้งานคาร์ซีทง่ายขึ้นและเพิ่มความสบายให้กับลูกน้อยในการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางในเมืองไทยที่บางทีก็รถติดยาวนาน หรือเวลาต้องเดินทางข้ามจังหวัดช่วงเทศกาลยาวๆ ฟังก์ชันที่น่าสนใจและควรพิจารณามีดังนี้ค่ะ:

    • **การปรับเอนนอน:** สำคัญมากๆ สำหรับเด็กเล็กที่มักจะหลับในรถ คาร์ซีทที่ปรับเอนได้หลายระดับจะช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับสบายในท่าที่เหมาะสม ไม่ต้องนั่งตัวตรงเป็นเวลานาน บางรุ่นที่ปรับเอนได้มากหน่อยก็ยิ่งดีสำหรับการเดินทางไกล ลองดูว่าปรับเอนง่ายไหม และมีตัวบ่งชี้ระดับที่ชัดเจนหรือเปล่า
    • **การหมุนได้ 360 องศา:** ฟังก์ชันนี้สะดวกสุดๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการอุ้มเด็กเข้า-ออกจากคาร์ซีท โดยเฉพาะตอนที่เด็กหลับ หรือเวลาต้องเอาเด็กขึ้น-ลงจากรถในที่แคบๆ แค่หมุนคาร์ซีทมาด้านข้างก็อุ้มลูกออกได้เลย ไม่ต้องก้มๆ เงยๆ ให้ปวดหลัง แต่ฟังก์ชันนี้ส่วนใหญ่อยู่ในคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กถึงประมาณ 4 ปี และมักจะมีราคาสูงกว่ารุ่นปกติค่ะ
    • **ระบบระบายอากาศและวัสดุผ้า:** อากาศเมืองไทยค่อนข้างร้อนและชื้น เด็กๆ มักจะเหงื่อออกง่ายเวลาอยู่ในรถนานๆ เลือกคาร์ซีทที่ใช้วัสดุผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน ไม่อับชื้น หรือมีระบบระบายอากาศในตัวจะช่วยให้ลูกน้อยนั่งสบายขึ้นเยอะ ลดการงอแง แถมบางรุ่นยังใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อผิวเด็กและปราศจากสารเคมีอันตรายด้วย
    • **การถอดทำความสะอาด:** เด็กๆ ใช้คาร์ซีทมักจะมีคราบอาหาร นม หรือขนมหกเลอะเทอะเป็นเรื่องปกติ การเลือกคาร์ซีทที่ผ้าคลุมถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลรักษาคาร์ซีทให้สะอาดอยู่เสมอ ถูกสุขอนามัยสำหรับลูกน้อย บางรุ่นมีซิปรูดถอดผ้าได้เลย สะดวกสุดๆ
    • **ที่พักขา/ที่วางเท้า:** สำหรับคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ ฟังก์ชันที่พักขาที่ปรับได้จะช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาให้กับเด็กตัวโตขึ้น ทำให้เด็กนั่งแบบ RWF ได้สบายขึ้น ไม่อึดอัดนอกจากนี้ก็มีฟังก์ชันเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่วางแก้ว, ช่องเก็บของ หรือน้ำหนักของคาร์ซีทเอง (ถ้าต้องยกย้ายบ่อยๆ) ที่สามารถนำมาพิจารณาได้ค่ะ เลือกฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของครอบครัวเรามากที่สุดค่ะ

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับคาร์ซีท

  • Q: ต้องใช้คาร์ซีทตั้งแต่เมื่อไหร่ และใช้ถึงอายุเท่าไหร่?
    A: ควรใช้คาร์ซีทตั้งแต่ลูกน้อยออกจากโรงพยาบาลหลังคลอดเลยค่ะ เพราะคาร์ซีทออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของเด็กทารกโดยเฉพาะ ไม่ต้องรอให้คอแข็งก่อนก็ใช้ได้ โดยเลือกใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ ส่วนจะใช้ถึงอายุเท่าไหร่นั้น แนะนำให้ใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเด็กจะตัวโตพอที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยรถยนต์แบบผู้ใหญ่ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งโดยทั่วไปคือประมาณ 10-12 ปี หรือมีส่วนสูงมากกว่า 135 ซม. แล้วแต่เกณฑ์ของคาร์ซีทแต่ละรุ่นและกฎหมายกำหนดค่ะ นั่งคาร์ซีทปลอดภัยกว่าการคาดเข็มขัดนิรภัยผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียวแน่นอนค่ะ
  • Q: การติดตั้งแบบ ISOFIX กับ Belt แบบไหนปลอดภัยกว่ากัน?
    A: ทั้งระบบ ISOFIX และการติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลเหมือนกันค่ะ หากติดตั้งอย่างถูกต้องตามคู่มือ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยบางส่วนพบว่าการติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้มากกว่า ISOFIX เนื่องจาก ISOFIX เป็นจุดยึดมาตรฐานที่เชื่อมต่อคาร์ซีทกับโครงสร้างรถโดยตรง ทำให้ติดตั้งง่ายและลดความเสี่ยงจาก human error ได้ดีกว่า แต่ถ้าหากรถไม่มี ISOFIX การติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกวิธีก็ให้ความปลอดภัยที่เพียงพอค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือการติดตั้งที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นระบบไหนก็ตาม
  • Q: ควรติดตั้งคาร์ซีทไว้ตรงไหนในรถปลอดภัยที่สุด?
    A: ตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดในการติดตั้งคาร์ซีทคือเบาะหลังค่ะ โดยเฉพาะตำแหน่งตรงกลางเบาะหลัง หากสามารถติดตั้งได้อย่างแน่นหนา เพราะเป็นตำแหน่งที่อยู่ห่างจากจุดที่อาจเกิดการกระแทกจากการชนด้านข้างมากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถติดตั้งตรงกลางได้ ตำแหน่งเบาะหลังด้านข้าง (ฝั่งตรงข้ามคนขับจะดีกว่าฝั่งคนขับเล็กน้อย) ก็เป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยรองลงมา หลีกเลี่ยงการติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะที่เบาะหน้าที่มีถุงลมนิรภัยด้านหน้า เพราะถุงลมนิรภัยที่กางออกอาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อเด็กได้ค่ะ
  • Q: คาร์ซีทมีวันหมดอายุหรือไม่? ควรทำอย่างไรกับคาร์ซีทที่หมดอายุแล้ว?
    A: ใช่ค่ะ คาร์ซีทส่วนใหญ่มีวันหมดอายุค่ะ วันหมดอายุจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและยี่ห้อ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 6-10 ปีนับจากวันที่ผลิต คุณสามารถตรวจสอบวันหมดอายุได้จากสติกเกอร์ที่ติดอยู่บนตัวคาร์ซีท หรือในคู่มือสินค้า การใช้คาร์ซีทที่หมดอายุแล้วอาจไม่ปลอดภัย เนื่องจากวัสดุพลาสติกอาจเสื่อมสภาพและโครงสร้างอาจไม่แข็งแรงเหมือนเดิม หากคาร์ซีทหมดอายุแล้ว หรือเคยประสบอุบัติเหตุรุนแรงมาแล้ว ควรหยุดใช้งานทันทีและทำลายเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นนำไปใช้อีก เช่น ตัดสายรัด ฉีดขาดผ้า หรือเขียนว่า "ห้ามใช้" ก่อนนำไปทิ้งค่ะ ไม่แนะนำให้ซื้อคาร์ซีทมือสองถ้าไม่ทราบประวัติการใช้งานที่ชัดเจนและวันที่ผลิตค่ะ
  • Q: ควรให้ลูกนั่งคาร์ซีทนานแค่ไหนในการเดินทางแต่ละครั้ง?
    A: สำหรับเด็กทารกแรกเกิดถึงประมาณ 6 เดือน ไม่ควรให้นั่งในคาร์ซีทติดต่อกันเกิน 2 ชั่วโมง เนื่องจากทารกยังกระดูกอ่อนและอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน การอยู่ในท่าเดียวนานๆ อาจส่งผลต่อพัฒนาการของกระดูกสันหลัง และอาจจำกัดการไหลเวียนของอากาศได้ ในการเดินทางไกล ควรแวะพักทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่ออุ้มลูกออกจากคาร์ซีท เปลี่ยนผ้าอ้อม หรือให้ยืดเส้นยืดสายบ้าง สำหรับเด็กโตขึ้น สามารถนั่งในคาร์ซีทได้นานขึ้น แต่ก็ยังควรมีช่วงพักเป็นระยะในการเดินทางไกลมากๆ เพื่อให้เด็กรู้สึกสบายตัวและไม่อึดอัดค่ะ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่า คุณพ่อคุณแม่มือใหม่และมือเก๋าทั้งหลาย! วันนี้ดิฉันซึ่งเป็นกูรูเรื่องช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยงของเมืองไทย ขออาสาพาทุกคนมาเลือกช้อป "คาร์ซีทเด็กแรกเกิด" คู่ใจตัวน้อยปี 2025 กันค่ะ หัวข้อที่เราจะมาเม้าท์มอยกันวันนี้คือ 《10 คาร์ซีทเด็กแรกเ
10 คาร์ซีทเด็กแรกเกิด ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ปลอดภัยสูงสุด นั่งสบาย

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่หัวใจมุ้งมิ้งทุกคน! 👋 เข้าใจเลยว่าพอเจ้าตัวเล็กเริ่มขยับปากอยากลองชิมอาหารเสริมปุ๊บ คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านก็เริ่มมองหาตัวช่วยที่จะทำให้มื้ออาหารของลูกน้อยง่าย สะดวก แล้วก็ปลอดภัยกันใช่ไหมคะสมัยก่อนอุปกรณ์กินข้าวเด
10 อุปกรณ์กินข้าวทารก ปี 2025 สีสันสดใส ปลอดภัย เข้าไมโครเวฟได้
สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่และมือเก๋า! 🥰 เข้าใจเลยว่าพอเจ้าตัวน้อยลืมตาดูโลกเนี่ย ของใช้จิปาถะเต็มไปหมดจนตาลายไปหมดเลยใช่ไหมครับ? หนึ่งในไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ผ้าเช็ดตัวทารก นี่แหละ!ไม่ใช่แค่ผ้าธรรมดานะครับ ผ้าเช็ดตัวสำหรับผิวบอ
10 ผ้าเช็ดตัวทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ซับน้ำดีเยี่ยม แห้งไว
สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่และมือเก๋าที่กำลังรับมือกับเจ้าตัวเล็กที่บ้าน! 😊 ไหนใครเจอปัญหาลูกน้อยนอนหลับยาก หลับๆ ตื่นๆ สะดุ้งผวาจนคุณพ่อคุณแม่พลอยไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปด้วยบ้างครับ? ปัญหานี้ทำเอาหมดแรงกันเลยทีเดียว!ในครัวเรือนไทยยุคใหม่ท
10 หมอนกันสะดุ้ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 หลับยาวตลอดคืน

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ