logo

ค่าสัมภาระ AirAsia ราคาล่าสุด 2567 พร้อมวิธีคำนวณน้ำหนักและค่าธรรมเนียม

user avatar
ปวีณ์ ธีรกุล·07/09/2025T09:37Z
点赞
ค่าสัมภาระ AirAsia ราคาล่าสุด 2567 พร้อมวิธีคำนวณน้ำหนักและค่าธรรมเนียม

สวัสดีค่าเหล่านักเดินทางสายประหยัดและสายช้อปทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจจะมองข้ามเวลาจองตั๋วเครื่องบินโลว์คอสต์ นั่นก็คือเรื่อง ค่าสัมภาระ AirAsia ราคาล่าสุดปี 2567 นี่แหละจ้า! เพราะถ้าไม่วางแผนให้ดี กระเป๋าตุงๆ ที่คิดว่าจะหิ้วไปช้อปหรือขนของฝากกลับมา อาจจะกลายเป็นภาระหนักอึ้งที่ทำให้กระเป๋าตังค์แฟบแทนได้นะ! มาค่ะ มาดูกันว่าค่าโหลดกระเป๋าแอร์เอเชียปีนี้เป็นยังไง มีวิธีคำนวณน้ำหนักและค่าธรรมเนียมแบบไหนบ้าง พร้อมแล้ว ไปลุยกันเลย!

1. ค่าสัมภาระ AirAsia มันคืออะไร ทำไมต้องจ่าย?

เอาล่ะ มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าไอ้เจ้า "ค่าสัมภาระ" ของ AirAsia เนี่ย มันคืออะไรกันแน่? พูดง่ายๆ มันก็คือ ค่าบริการที่คุณต้องจ่ายเพิ่ม เพื่อนำกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ที่ไม่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ ไปโหลดใต้ท้องเครื่องบินนั่นเองจ้า. ทำไมต้องจ่ายเพิ่มเหรอ? ก็เพราะ AirAsia เป็นสายการบินราคาประหยัด (Low Cost Airline) เค้าก็เลยแยกบริการต่างๆ ออกมา เพื่อให้เราเลือกจ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ใครไม่โหลดกระเป๋า ก็ไม่ต้องจ่ายค่าโหลดไง ประหยัดไปอีก! เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางตัวเบาๆ สบายๆ เน้นประหยัดงบ.

ปกติแล้ว ค่าตั๋วเครื่องบิน AirAsia จะ รวมแค่ค่านำสัมภาระพกพา (Carry-On Baggage) ขึ้นเครื่อง ได้คนละ 2 ชิ้น น้ำหนักรวมกันไม่เกิน 7 กิโลกรัมนะ. ชิ้นใหญ่สุดต้องใส่ช่องเก็บของเหนือหัวได้ (ขนาดประมาณ 56x36x23 ซม.) ส่วนอีกชิ้นเป็นกระเป๋าเล็กๆ เช่น กระเป๋าโน้ตบุ๊ก หรือกระเป๋าถือ ที่ต้องวางไว้ใต้เบาะหน้าได้ (ขนาดไม่เกิน 40x30x10 ซม.). ถ้าสัมภาระของเราเกินกว่านี้ ไม่ว่าจะน้ำหนักเกิน หรืออยากเอาไปหลายๆ ใบ ก็ต้องซื้อน้ำหนักสัมภาระเช็คอินเพิ่มจ้า.

2. ราคาค่าสัมภาระ AirAsia ปี 2567 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ที่สุด! ราคาค่าสัมภาระ AirAsia ในปี 2567 เนี่ย ต้องบอกเลยว่ามัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ จ้า ไม่ได้มีราคาเดียวเป๊ะๆ. หลักๆ เลยคือขึ้นอยู่กับ:

  • เส้นทางการบิน: บินในประเทศ หรือต่างประเทศ ราคาไม่เท่ากันนะ. เส้นทางยอดฮิตอย่าง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หรือ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ราคาก็อาจจะต่างจาก กรุงเทพฯ-เกาหลี หรือ กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น
  • น้ำหนักที่ซื้อ: ยิ่งซื้อน้ำหนักเยอะ ราคาก็จะขยับสูงขึ้นตามไปด้วย. AirAsia มีให้เลือกหลายน้ำหนักเลย ตั้งแต่ 15 กก. (บางเส้นทางในประเทศ) 20 กก., 25 กก., 30 กก., 40 กก., 50 กก. ไปจนถึง 60 กก. (บางเส้นทาง).
  • ช่วงเวลาที่ซื้อ: อันนี้สำคัญมากกกก! ซื้อล่วงหน้าถูกกว่าซื้อที่สนามบินเยอะมากกกก!. บางทีราคาที่สนามบินแพงกว่าออนไลน์เป็นเท่าตัวเลยนะ!.

ราคาล่าสุดปี 2567 อาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยจากปีก่อนๆ แต่แนวโน้มคือซื้อออนไลน์ยังไงก็คุ้มสุดนะ. ยกตัวอย่างราคาคร่าวๆ (ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้) ถ้าซื้อออนไลน์สำหรับเส้นทางในประเทศ น้ำหนัก 20 กก. อาจจะอยู่ราวๆ สี่ร้อยถึงห้าร้อยกว่าบาทนะ แต่ถ้าไปซื้อหน้าเคาน์เตอร์สนามบิน น้ำหนัก 15 กก. อาจจะพุ่งไปถึงหลักพันได้เลยทีเดียว. เส้นทางต่างประเทศก็จะมีราคาที่สูงขึ้นไปอีก.


3. เทียบกับสายการบินอื่นแล้ว ค่าสัมภาระ AirAsia เป็นไง?

ถ้าให้เทียบกับสายการบินโลว์คอสต์เจ้าอื่นๆ ในไทย อย่างไทยไลอ้อนแอร์ หรือนกแอร์ ค่าสัมภาระของ AirAsia ก็ถือว่า ใกล้เคียงกัน นะจ๊ะ อยู่ในเรตของสายการบินราคาประหยัดที่คิดค่าบริการแยกตามการใช้งาน. แต่จุดที่ต้องดูคือ แพ็กเกจน้ำหนักที่แต่ละสายการบินมีให้เลือก และราคาในแต่ละช่วงน้ำหนัก. บางสายการบินอาจจะมีน้ำหนักฟรีสำหรับสัมภาระเช็คอินติดมาให้ในบางประเภทตั๋ว ซึ่ง AirAsia โดยปกติจะไม่มี ยกเว้นเราซื้อแพ็กเกจพิเศษอย่าง Value Pack, Premium Flex หรือ Premium Flatbed ที่จะรวมน้ำหนักสัมภาระมาให้แล้ว.

ดังนั้น การจะบอกว่าของใครถูกกว่า ต้องเปรียบเทียบราคาในน้ำหนักที่ต้องการจริงๆ และช่องทางการซื้อในช่วงนั้นๆ ด้วย. แต่ถ้าดูภาพรวมสำหรับคนที่ต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม AirAsia ก็ถือเป็นตัวเลือกที่มีความหลากหลายในเรื่องของน้ำหนักให้เลือกซื้อนะ.


4. จ่ายค่าสัมภาระแล้ว ได้อะไรบ้าง? มีของแถมไหม?

เอ้า! จ่ายค่าสัมภาระเช็คอินของ AirAsia ไปแล้ว เราก็ได้สิทธิ์ในการนำกระเป๋าใบที่เราซื้อน้ำหนักไว้ ไปโหลดใต้ท้องเครื่องไงจ๊ะ!. ก็คือได้บริการขนกระเป๋าของเราจากเคาน์เตอร์เช็คอินไปจนถึงสายพานรับกระเป๋าที่ปลายทางนั่นแหละ.

ส่วนเรื่อง "ของแถม" เนี่ย สำหรับค่าสัมภาระโดยตรง ไม่มีของแถมเป็นชิ้นเป็นอัน นะจ๊ะ. สิ่งที่เราได้ก็คือโควต้าน้ำหนักที่เราซื้อไปนั่นแหละ. แต่ถ้าเราซื้อแพ็กเกจตั๋วแบบพิเศษอย่าง Value Pack, Premium Flex หรือ Premium Flatbed อันนี้จะมีสิทธิ์พิเศษอื่นๆ แถมมาด้วย เช่น เลือกที่นั่งฟรี ประกันการเดินทาง หรือบริการอื่นๆ ซึ่งรวมน้ำหนักสัมภาระไว้ให้แล้วด้วย.

เรื่อง การรับประกัน สำหรับสัมภาระเช็คอิน สายการบินมีหน้าที่ดูแลสัมภาระของเราให้ปลอดภัยระหว่างการเดินทางนะ. หากเกิดความเสียหายหรือสูญหาย ก็จะมีระเบียบและขั้นตอนการชดใช้ตามข้อกำหนดของสายการบินและกฎการบินระหว่างประเทศ ซึ่งอันนี้เป็นมาตรฐานของสายการบินทั่วไป ไม่ใช่ "ของแถม" พิเศษจากการซื้อน้ำหนักเพิ่มจ้า.

ส่วนเรื่อง ฟรีค่าจัดส่ง อันนี้ไม่เกี่ยวกับการซื้อสัมภาระนะจ๊ะ ค่าสัมภาระคือค่าบริการขนส่งกระเป๋าของเราไปกับเครื่องบินอยู่แล้ว.


5. ช่วงไหนมีโปรโมชั่นค่าสัมภาระบ้าง?

ถ้าถามถึงโปรโมชั่น "ค่าสัมภาระ" โดยตรงที่ลดราคาแบบฮวบฮาบ อันนี้อาจจะไม่บ่อยเท่าโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินนะ. แต่สิ่งที่ AirAsia เค้าเน้นย้ำตลอดและถือเป็น "โปรโมชั่น" หรือ "ข้อเสนอสุดคุ้ม" ของเค้าก็คือ การให้ซื้อน้ำหนักสัมภาระล่วงหน้าทางออนไลน์ ซึ่งจะถูกกว่าการซื้อที่สนามบินมาก!. เค้าบอกว่าประหยัดได้สูงสุดถึง 80% เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับราคาเคาน์เตอร์สนามบิน.

ดังนั้น ช่วงเวลาที่ "น่าซื้อ" ค่าสัมภาระที่สุดก็คือ ตอนที่เราจองตั๋วเครื่องบินนี่แหละ. หรือถ้าพลาดตอนจอง ก็ให้ รีบกลับไปซื้อเพิ่มทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน AirAsia ก่อนเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง. ราคาจะยังถูกกว่าไปซื้อที่สนามบินในวันเดินทางเยอะมากๆ.

ส่วนช่วงเทศกาลไทยอย่างสงกรานต์ หรือช่วง Double Digit Sale ยอดฮิต 11.11, 12.12 เนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็นโปรโมชั่นสำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน หรือบริการเสริมอื่นๆ มากกว่า. แต่ก็ไม่เสียหายที่จะลองเข้าไปเช็คในเว็บไซต์หรือแอปฯ AirAsia ดู เผื่อจะมีเซอร์ไพรส์โปรโมชั่นค่าสัมภาระในช่วงนั้นๆ ก็ได้นะจ๊ะ!


6. คนไทยที่เคยโหลดกระเป๋า AirAsia เค้าว่ายังไงกันบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามกระทู้หรือรีวิวของคนไทยที่เคยเดินทางกับ AirAsia เรื่องค่าสัมภาระเนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือ:

  • ย้ำนักย้ำหนาว่า "ซื้อออนไลน์ล่วงหน้าเถอะ!" เสียดายเงินแทนถ้าต้องไปจ่ายที่สนามบิน.
  • น้ำหนักกระเป๋าถือ 7 กก. นี่ต้องชั่งดีๆ บางทีโดนสุ่มตรวจหน้าเกทก็มีนะจ๊ะ. ถ้าเกินคือต้องจ่ายหนักเลย หรือไม่ก็ต้องย้ายของออก.
  • บางคนก็บ่นว่าราคาค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับน้ำหนักที่ได้ โดยเฉพาะถ้าต้องซื้อน้ำหนักเยอะๆ.
  • การคำนวณน้ำหนักรวมทำได้ง่าย แค่เอากระเป๋าทุกใบที่จะโหลดไปชั่งรวมกัน แล้วเช็คว่าไม่เกินน้ำหนักที่เราซื้อไว้. แต่บางทีก็มีเรื่องน้ำหนักต่อชิ้นสูงสุด (ไม่เกิน 32 กก. ต่อใบเพื่อความปลอดภัย).
  • บริการ Xtra Carry-On (เพิ่มน้ำหนักถือขึ้นเครื่องเป็น 14 กก.) ก็น่าสนใจ สำหรับคนที่ไม่ต้องการโหลด หรือมีของมีค่าที่อยากเอาติดตัวขึ้นเครื่อง.

สรุปคือ คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจดีว่า AirAsia คิดค่าสัมภาระแยก แต่ก็เน้นย้ำเรื่อง ความคุ้มค่าของการซื้อล่วงหน้าออนไลน์ และ ความเป๊ะของน้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่อง จ้า.


7. จะซื้อค่าสัมภาระ AirAsia ได้จากช่องทางไหนบ้าง?

ช่องทางการซื้อค่าสัมภาระ AirAsia ที่แนะนำและสะดวกที่สุดคือ ช่องทางออนไลน์ จ้า. มี 2 ช่วงเวลาหลักๆ คือ:

  • ตอนที่กำลังจองตั๋วเครื่องบิน: อันนี้คือช่วงที่ราคาถูกที่สุดนะ.
  • หลังจากจองตั๋วแล้ว (แต่ก่อนเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง): สามารถเข้าไปจัดการบุ๊คกิ้งของเราผ่านเว็บไซต์ AirAsia หรือแอปพลิเคชัน AirAsia MOVE เพื่อซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มได้. ราคาก็ยังถูกกว่าไปซื้อที่สนามบินเยอะมากๆ.

ส่วนช่องทางอื่นๆ ก็มี:

  • ที่เคาน์เตอร์เช็คอินสนามบินในวันเดินทาง: อันนี้คือ ราคาแพงที่สุด จ้า เหมือนเป็นค่าปรับถ้าเราไม่ได้ซื้อล่วงหน้า. ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าไปซื้อที่นี่เลยนะจ๊ะ!
  • ผ่าน AVA (แชทบอทของ AirAsia): สามารถทำรายการซื้อหรือเพิ่มน้ำหนักสัมภาระได้ผ่าน AVA ด้วยนะ.

สำหรับคนไทย ช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือแอปฯ ถือว่าสะดวกและง่ายที่สุด เพราะสามารถทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และชำระเงินได้หลายช่องทาง.


8. สรุปแล้ว ควรซื้อค่าสัมภาระ AirAsia ไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้ว! ถามว่าควรซื้อค่าสัมภาระ AirAsia ไหม? คำตอบคือ ควรซื้อถ้าคุณมีสัมภาระที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง และ ควรซื้อล่วงหน้าทางออนไลน์เท่านั้น!.

ค่าสัมภาระ AirAsia เหมาะมากๆ สำหรับ:

  • คนที่จะเดินทางและมีกระเป๋าเกินน้ำหนักที่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง 7 กก.
  • คนที่ต้องขนของเยอะๆ ไม่ว่าจะไปเที่ยวแล้วช้อปหนัก หรือกลับบ้านช่วงเทศกาลแล้วต้องขนของฝากไปเยอะๆ
  • คนที่เดินทางไกลๆ และจำเป็นต้องเอาเสื้อผ้าหรือของใช้ส่วนตัวไปเยอะ

ส่วนจะซื้อน้ำหนักเท่าไหร่ดี ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของที่เรามีเลยจ้า. ลองคำนวณดูคร่าวๆ หรือถ้าไม่แน่ใจ ซื้อเผื่อไว้หน่อยก็ดีกว่าต้องไปจ่ายส่วนเกินที่สนามบินนะ.

ถ้าคุณเดินทางตัวเปล่า หรือมีแค่กระเป๋าเป้ใบเดียวที่น้ำหนักไม่เกิน 7 กก. และขนาดตามกำหนด ก็ไม่ต้องซื้อค่าสัมภาระเช็คอินเพิ่มเลยจ้า ประหยัดไปได้อีก!

จำไว้เสมอว่า "ซื้อออนไลน์ล่วงหน้าคือทางออกที่ดีที่สุด" สำหรับค่าสัมภาระ AirAsia ปี 2567 นี้จ้า! วางแผนดี ชีวิตดี กระเป๋าตังค์ก็ไม่ร้องไห้นะจ๊ะ! ขอให้ทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพและมีความสุขกับการช้อปปิ้งค่า!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ! สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนมือสองคุณภาพดีในงบประมาณที่คุ้มค่า วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง Samsung Galaxy A9s หรือที่รู้จักกันในชื่อ Samsung Galaxy A9 (2018) กันครับ โทรศัพท์รุ่นนี้เคยสร้างความฮือฮาในตลาดมาแล้วด้วยฟ
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A9s ราคามือสองล่าสุดตอนนี้เท่าไหร่
สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง แหวนทอง 2 กรัม กันค่ะ ใครที่กำลังมองหาเครื่องประดับทองคำชิ้นเล็กๆ น่ารักๆ ที่สวมใส่ได้ทุกวัน หรืออยากจะเริ่มต้นเก็บออมทองคำในรูปแบบที่จับต้องได้ ห้ามพลาดเลยนะคะ เพราะแหวนทอง 2 กรัม ถือเป็นตัวเลือกที
แหวนทอง 2 กรัม ราคาเท่าไหร่? อัปเดตราคาล่าสุดและลายยอดนิยม
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องตีที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์อย่าง "อังกะลุง" กันค่ะ ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่มักใช้ในการเรียนการสอน หรือพบเห็นตามงานแสดงวัฒนธรรมต่างๆ
อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้มาตรฐาน

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ