อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้มาตรฐาน

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องตีที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์อย่าง "อังกะลุง" กันค่ะ ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่มักใช้ในการเรียนการสอน หรือพบเห็นตามงานแสดงวัฒนธรรมต่างๆ วันนี้เราจะมาเจาะลึกทั้งอังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยว พร้อมบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับราคาและแหล่งซื้อขายที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุดค่ะ

1. อังกะลุงราวและอังกะลุงเดี่ยวคืออะไรกันนะ?

อังกะลุงเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องกระทบที่ทำจากไม้ไผ่ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินโดนีเซีย หรือที่ชาวชวาเรียกว่า "อุงคลุง" นั่นเองค่ะ อังกะลุงเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อราว พ.ศ. 2451 โดยหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ในสมัยรัชกาลที่ 5 และได้มีการพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาขึ้น และเพิ่มเสียงจนครบ 7 เสียงในสมัยรัชกาลที่ 6

อังกะลุงทั่วไป หรือที่บางครั้งเรียกว่า อังกะลุงเดี่ยว จะเป็นเครื่องดนตรีที่หนึ่งกระบอกให้หนึ่งเสียงโน้ต การเล่นอังกะลุงจึงต้องอาศัยการบรรเลงร่วมกันเป็นวง โดยผู้เล่นแต่ละคนจะถืออังกะลุงคนละ 1-2 ตัว และเขย่าเมื่อถึงโน้ตเสียงของตนเอง เพื่อสร้างเป็นทำนองเพลงที่ไพเราะ ทำให้ผู้เล่นต้องอาศัยความพร้อมเพรียงและการทำงานเป็นทีมสูง อังกะลุงเดี่ยวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้พื้นฐานการเล่นอังกะลุง การฝึกซ้อมเป็นกลุ่ม หรือใช้เป็นส่วนหนึ่งของวงอังกะลุงขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่

ส่วน อังกะลุงราว คืออังกะลุงที่ได้รับการพัฒนาให้หนึ่งเครื่องสามารถให้เสียงได้มากกว่าหนึ่งเสียง โดยจะมีลักษณะเป็นชุดอังกะลุงที่ติดตั้งอยู่บนราวไม้ ทำให้สามารถบรรเลงคนเดียวได้ อังกะลุงราวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกซ้อมหรือแสดงเดี่ยว, สำหรับโรงเรียน หรือสถาบันที่ต้องการเครื่องดนตรีที่พร้อมใช้งานได้ง่ายขึ้น และต้องการความสะดวกในการจัดเก็บและเคลื่อนย้าย เพราะตัวอังกะลุงจะถูกจัดเรียงไว้บนราวอย่างเป็นระเบียบ

2. ช่วงราคาสินค้า (ในตลาดไทย)

ราคาของอังกะลุงในตลาดไทยนั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับจำนวนคู่เสียง (จำนวนตัว) วัสดุที่ใช้ และคุณภาพเสียง โดยส่วนใหญ่แล้ว อังกะลุงจะทำจากไม้ไผ่ลายธรรมชาติซึ่งเป็นวัสดุที่ให้เสียงกังวานและมีความทนทาน

• อังกะลุงเดี่ยว (ชุด): มักจะขายเป็นชุดตามจำนวนคู่เสียง

• ชุด 7 คู่เสียง (14 ตัว): เป็นชุดมาตรฐานที่นิยมใช้สำหรับนักเรียนหรือวงเริ่มต้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 6,500 - 8,990 บาท (฿)

• ชุด 9 คู่เสียง (18 ตัว): ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 9,500 - 10,800 บาท (฿)

• ชุด 12 คู่เสียง (24 ตัว): ราคาประมาณ 12,000 - 12,500 บาท (฿)

• ชุด 14 คู่เสียง (28 ตัว): ชุดใหญ่สำหรับวงที่ต้องการเสียงที่ครบครันยิ่งขึ้น ราคาประมาณ 13,500 - 15,000 บาท (฿)

• อังกะลุงราว: มักจะมาพร้อมกับราวไม้เนื้อแข็งที่ออกแบบมาให้สวยงามและใช้งานสะดวก สามารถบรรเลงคนเดียวได้

• ชุด 7 คู่เสียง (14 ตัว) พร้อมราว: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15,500 บาท (฿)

• สำหรับชุดอังกะลุงราวที่มีจำนวนคู่เสียงหรือขนาดใหญ่กว่านี้ ราคาก็จะสูงขึ้นตามลำดับ

คุณสามารถหาซื้ออังกะลุงได้จากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ ในไทย เช่น Lazada และ Shopee รวมถึงร้านค้าเครื่องดนตรีไทยโดยเฉพาะ ซึ่งบางร้านมีหน้าร้านให้เยี่ยมชมและเลือกซื้อได้ด้วย

3. เปรียบเทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกัน

เมื่อเทียบกับเครื่องดนตรีไทยอื่นๆ ในประเภทเครื่องตีที่มักใช้ในการเรียนการสอนหรืองานแสดงทั่วไป อังกะลุงถือเป็นเครื่องดนตรีที่มีราคาที่สมเหตุสมผลและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับสถานศึกษาหรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้น ยกตัวอย่างเช่น:

• ระนาดเอก (ผืนไม้ชิงชันพร้อมรางไม้ขนุน) อาจมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นบาทขึ้นไป
• ขิม (ขิมคางหมูสายสแตนเลส) ราคาอาจเริ่มต้นที่ประมาณหลักพันถึงหลักหมื่นบาท
• ซออู้ไม้ประดู่ หรือ ซอด้วงไม้ประดู่ ราคาประมาณ 1,700 - 4,500 บาท

อังกะลุงมีข้อดีคือสามารถซื้อเป็นชุดที่ครบถ้วนสำหรับการเล่นเป็นวงได้ในงบประมาณที่ควบคุมได้ดีกว่าการจัดหาเครื่องดนตรีไทยอื่นๆ ที่มีราคาต่อชิ้นค่อนข้างสูงกว่า และยังให้ประสบการณ์การเล่นแบบกลุ่มที่ส่งเสริมความสามัคคี ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้เป็นที่นิยมในโรงเรียนและสถาบันการศึกษา

4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา

เมื่อคุณตัดสินใจซื้ออังกะลุง สิ่งที่ควรมองหาและสอบถามเพิ่มเติมจากผู้ขาย ได้แก่:

• ค่าจัดส่ง: โดยส่วนใหญ่แล้ว ร้านค้าที่จำหน่ายอังกะลุงมักจะรวมค่าบริการจัดส่งทั่วประเทศไว้ในราคาเรียบร้อยแล้ว แต่ควรยืนยันกับผู้ขายอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
• การรับประกัน: เนื่องจากอังกะลุงเป็นเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ไผ่ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติ จึงมีโอกาสเกิดความเสียหายได้จากการใช้งานหรือสภาพอากาศ ผู้ขายบางรายอาจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษา เช่น การฉีดพ่นยากันมอด หรือการเก็บรักษาอย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตาม การรับประกันสินค้าประเภทนี้อาจแตกต่างจากการรับประกันเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ควรสอบถามรายละเอียดการรับคืนสินค้าหรือการซ่อมแซมหากเกิดความเสียหายจากการผลิต
• ของแถมหรือโปรโมชั่น: บางร้านอาจมีของแถม เช่น คู่มือการเล่นเบื้องต้น หรือมีโปรโมชั่นสำหรับการสั่งซื้อจำนวนมากสำหรับสถานศึกษา

5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ

แม้ว่าอังกะลุงจะไม่ใช่สินค้าเทคโนโลยีที่มีโปรโมชั่นตามเทศกาล "Double Digit Sale" (เช่น 11.11, 12.12) อย่างชัดเจนเหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แต่คุณยังคงสามารถมองหาโอกาสในการซื้อที่คุ้มค่าได้ค่ะ:

• ร้านค้าเครื่องดนตรีไทย: ร้านค้าเฉพาะทางที่จำหน่ายเครื่องดนตรีไทยมักจะมีโปรโมชั่นหรือราคาพิเศษสำหรับลูกค้าสถาบันการศึกษา หรือในช่วงที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: บน Lazada หรือ Shopee บางครั้งร้านค้าต่างๆ อาจมีโค้ดส่วนลด หรือโปรโมชั่นส่งฟรีในช่วงเวลาที่จัดแคมเปญ การกดติดตามร้านค้าที่สนใจจะช่วยให้คุณไม่พลาดข่าวสารโปรโมชั่น
• ช่วงเวลาที่เหมาะสม: หากคุณมีแผนการจัดซื้อที่ยืดหยุ่น การสอบถามร้านค้าโดยตรงถึงช่วงเวลาที่มักจะมีส่วนลด หรือช่วงที่จัดโปรโมชั่นพิเศษ อาจช่วยให้คุณได้ราคาที่ดีขึ้น

โดยรวมแล้ว การซื้อในช่วงโปรโมชั่น หรือติดต่อสอบถามจากร้านค้าโดยตรงเมื่อคุณต้องการซื้ออังกะลุงเป็นชุดใหญ่ จะช่วยให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดค่ะ

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย

จากประสบการณ์ของผู้ใช้ในไทย อังกะลุงเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในหมู่เด็กนักเรียนและผู้สูงอายุ จุดเด่นที่มักได้รับการกล่าวถึง ได้แก่:

• เสียงไพเราะและกังวาน: อังกะลุงที่ทำจากไม้ไผ่ลายธรรมชาติจะให้เสียงที่ดังกังวาน มีคุณภาพเสียงที่ดี
• น้ำหนักเบา: โดยเฉพาะชุดสำหรับเด็กหรือชุดอนุบาล จะมีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับเด็กเล็ก
• ฝึกหัดไม่ยาก: อังกะลุงเป็นเครื่องดนตรีที่เรียนรู้ได้ไม่ยาก ทำให้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและสถานศึกษา
• ส่งเสริมความสามัคคี: การเล่นอังกะลุงต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมและความพร้อมเพรียง ทำให้เป็นเครื่องดนตรีที่ช่วยเสริมสร้างคุณค่าทางสังคมได้ดี
• ความคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับคุณภาพเสียงและการใช้งานในราคาที่จ่ายไป ผู้ใช้หลายคนมองว่าอังกะลุงเป็นเครื่องดนตรีที่คุ้มค่า

โดยรวมแล้ว อังกะลุงได้รับการตอบรับที่ดีในเรื่องของคุณภาพเสียง ความสะดวกในการเรียนรู้ และประโยชน์ในการส่งเสริมกิจกรรมกลุ่ม

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

สำหรับผู้ที่สนใจอังกะลุง สามารถหาซื้อได้จากช่องทางต่างๆ ดังนี้ค่ะ:

• ร้านค้าเครื่องดนตรีไทยโดยเฉพาะ: เช่น ร้านกิจเจริญดนตรี (www.dontrithai108.com) หรือ BNG Music (www.bngmusic.com) ร้านเหล่านี้มักจะมีอังกะลุงคุณภาพดีจากช่างผู้ชำนาญการ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาได้ ข้อดีคือได้เห็นสินค้าจริง (หากมีหน้าร้าน) และสอบถามข้อมูลได้ละเอียด

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ในไทย:

• Lazada (www.lazada.co.th) เป็นแหล่งรวมร้านค้าที่หลากหลาย มีทั้งร้านค้าโดยตรงจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย รวมถึงร้านค้าปลีกย่อย ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย และมีระบบการจัดส่งและการชำระเงินที่สะดวก

• Shopee (www.shopee.co.th) คล้ายกับ Lazada คือมีร้านค้าให้เลือกมากมาย มีโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่นให้ใช้บ่อยครั้ง ควรตรวจสอบรีวิวร้านค้าและสอบถามรายละเอียดสินค้าก่อนสั่งซื้อเสมอ

• ร้านค้าเครื่องดนตรีทั่วไปที่มีแผนกเครื่องดนตรีไทย: ร้านดนตรีขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น Music Arms หรือ CT Music อาจมีอังกะลุงและเครื่องดนตรีไทยอื่นๆ ให้เลือกซื้อพร้อมโปรโมชั่นบางอย่าง ข้อดีคือบางสาขาคุณสามารถไปทดลองเล่นหรือสอบถามข้อมูลจากพนักงานได้โดยตรง

สำหรับองค์กรหรือสถานศึกษาที่ต้องการใบเสนอราคา หรือสเปกสินค้าสำหรับการจัดซื้อ สามารถติดต่อสอบถามร้านค้าโดยตรง ซึ่งหลายร้านมีบริการรองรับการจัดซื้อสำหรับหน่วยงานราชการ เอกชน และโรงเรียน

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา

อังกะลุง ไม่ว่าจะเป็นแบบราวหรือแบบเดี่ยว ถือเป็นเครื่องดนตรีที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการเรียนรู้และสันทนาการในประเทศไทย หากคุณกำลังมองหาเครื่องดนตรีสำหรับ:

• เด็กนักเรียน/ผู้เริ่มต้น: แนะนำอังกะลุงเดี่ยวชุด 7 คู่เสียง (14 ตัว) ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้และมีราคาที่ไม่สูงมากนัก
• สถานศึกษา/วงดนตรีขนาดเล็ก: อังกะลุงเดี่ยวชุด 7-9 คู่เสียง หรืออังกะลุงราวชุด 7 คู่เสียง ก็เป็นตัวเลือกที่ดี โดยเฉพาะอังกะลุงราวที่ช่วยให้การจัดเก็บและดูแลรักษาง่ายขึ้น
• วงดนตรี/องค์กรที่ต้องการความสมบูรณ์ของเสียง: ควรพิจารณาอังกะลุงเดี่ยวชุด 12-14 คู่เสียง เพื่อให้ได้ช่วงเสียงที่กว้างขึ้นและสามารถบรรเลงบทเพลงที่ซับซ้อนได้มากขึ้น

โดยรวมแล้ว การลงทุนกับอังกะลุงนับเป็นการลงทุนในศิลปะและวัฒนธรรมที่ไม่เพียงให้ความไพเราะ แต่ยังเสริมสร้างทักษะการทำงานร่วมกันและความสามัคคี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเส้นทางดนตรีไทย หรือต้องการส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรมในกลุ่มต่างๆ ค่ะ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• คีย์บอร์ดขอวงเล่น ของเล่นแบบทีีแม่คิดว่าคุ้มเล่นได้ยาวๆ #ของมันต้อง ...
• 3 เครื่องดนตรีแปลกที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
• ร้าน Musicburi: อุปกรณ์ดนตรีครบวงจรในสระบุรี