10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ใช้งานง่าย ฟังชัด

สวัสดีค่าแม่ๆ พ่อๆ ทุกคน! วันนี้เจ๊คนเดิม เพิ่มเติมคือความรู้เรื่องเบบี๋นะคะ! ช่วงนี้กระแสการเตรียมตัวต้อนรับเจ้าตัวเล็กมาแรงแซงทุกโค้ง โดยเฉพาะไอเทมที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจหายห่วงอย่าง "เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์" ค่ะ! ไม่ต้องรอถึงวันหมอนัด ไม่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อยๆ อยู่บ้านก็แอบฟังเสียงลูกน้อยในพุงได้แบบเรียลไทม์! ฟังแล้วชื่นใจ หายกังวลไปได้เยอะเลยค่ะ แต่เดี๋ยวนะ! ปี 2025 แล้ว เครื่องฟังเสียงหัวใจเบบี๋เค้าไปถึงไหนกันแล้วนะ? ยี่ห้อไหนดี? ใช้ง่าย? ฟังชัด? วันนี้เจ๊รวบรวมมาให้ 10 รุ่นเด็ด ตัวตึงแห่งปี พร้อมไขข้อข้องใจให้หมดเปลือก! ตามมาดูกันเลยค่ะซิส!

1. Fetal Doppler Pro รุ่น Clarity 5000

• ชื่อแบรนด์: Fetal Doppler Pro
• ชื่อสินค้า: Clarity 5000
• ราคาสินค้า: 1,800 - 2,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: รุ่นฮิตตลอดกาลที่พัฒนามาเพื่อปี 2025 โดยเฉพาะ! Fetal Doppler Pro Clarity 5000 มาพร้อมเทคโนโลยีประมวลผลเสียงขั้นสูง ทำให้ได้ยินเสียงหัวใจลูกน้อยชัดเจนเหมือนอยู่ข้างๆ ตัว! ดีไซน์กะทัดรัด พกพาง่าย จับถนัดมือ หน้าจอใหญ่เห็นชัด ไม่ต้องเพ่งให้ปวดตา เหมาะกับคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและความแม่นยำในการติดตามพัฒนาการของลูกรักตั้งแต่เนิ่นๆ ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพดี ทนทาน ปลอดภัยต่อคุณแม่และเบบี๋ในครรภ์แน่นอนค่ะ ซื้อครั้งเดียวใช้คุ้มจนคลอดเลยจ้า
• จุดเด่นสินค้า: เสียงชัดเจนมาก, ใช้งานง่ายแค่ปุ่มเดียว, ดีไซน์สวยพกพาง่าย, แบตเตอรี่ทน, ปลอดภัยมาตรฐานสากล
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ฟังเสียงหัวใจทารก: ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่ต่ำที่ปลอดภัยเพื่อตรวจจับเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ โดยสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจน้อยๆ สร้างความผูกพันและความสบายใจ
  • แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ (BPM): หน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลจะแสดงตัวเลขอัตราการเต้นของหัวใจต่อนาที ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการติดตามสุขภาพของทารก หากตัวเลขอยู่นอกช่วงปกติ อาจเป็นสัญญาณให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที เพิ่มความอุ่นใจในทุกวัน
  • บันทึกเสียงหัวใจ: สามารถบันทึกเสียงหัวใจลูกน้อยเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือส่งให้คุณหมอฟังได้ ฟังก์ชันนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากเก็บโมเมนต์พิเศษ หรือใช้เป็นข้อมูลประกอบการปรึกษาแพทย์ เพิ่มความสะดวกสบายในการดูแลสุขภาพครรภ์
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการฟังเสียงลูกที่บ้าน, คุณพ่อที่อยากมีส่วนร่วมในการดูแล, ใช้ติดตามพัฒนาการทารก, ใช้สร้างความผูกพันในครอบครัว

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	น้ำหนัก	การเชื่อมต่อ	มาตรฐานความปลอดภัย
ดิจิทัล LED	12+ สัปดาห์	2.0 MHz	แบตเตอรี่ AA	กะทัดรัด	เบา	ไม่มี	CE, FDA

2. Sonoline B+ Advanced Doppler

• ชื่อแบรนด์: Sonoline
• ชื่อสินค้า: B+ Advanced Doppler
• ราคาสินค้า: 2,000 - 2,800 บาท
• คำอธิบายสินค้า: อีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและไว้วางใจมานาน Sonoline B+ Advanced Doppler รุ่นนี้อัปเกรดมาพร้อมฟังก์ชันครบครัน เสียงใส ฟังง่ายสุดๆ ค่ะแม่! จุดเด่นอยู่ที่โพรบรับสัญญาณที่ไวมาก หาตำแหน่งหัวใจน้องได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องวนหาจนเหนื่อย แถมมีหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ แสดงผลทั้งตัวเลข BPM และกราฟคลื่นเสียงให้ดูแบบเรียลไทม์ ละเอียดเว่อร์! เหมาะกับคุณแม่ที่ชอบดีเทล อยากเห็นภาพประกอบเสียง หรือคุณแม่ที่อายุครรภ์ยังน้อย อาจจะหายากหน่อย รุ่นนี้ช่วยได้เยอะค่ะ คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอน
• จุดเด่นสินค้า: โพรบไวหาเสียงง่าย, หน้าจอแสดงกราฟคลื่น, เสียงคมชัด, บันทึกเสียงได้, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ตรวจจับเสียงหัวใจทารก: ใช้เทคโนโลยี Doppler ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของเลือดในเส้นเลือดใหญ่บริเวณหัวใจทารก แล้วแปลงเป็นสัญญาณเสียงให้ได้ยินชัดเจน โพรบมีความไวสูง ช่วยให้คุณแม่ที่อาจมีชั้นไขมันหน้าท้องหนา หรือทารกอยู่ในท่าที่หายาก สามารถค้นหาตำแหน่งได้ง่ายขึ้น ลดความเครียดจากการหาไม่เจอ
  • แสดงอัตราหัวใจพร้อมกราฟ: นอกจากแสดงตัวเลข BPM แล้ว หน้าจอยังโชว์กราฟคลื่นเสียงเต้นของหัวใจ ทำให้คุณแม่เห็นรูปแบบการเต้นได้ชัดเจนขึ้น ข้อมูลนี้มีประโยชน์ในการสังเกตความสม่ำเสมอของการเต้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้สุขภาพเบื้องต้น ช่วยให้คุณแม่สบายใจมากขึ้นเมื่อเห็นกราฟปกติ
  • ปรับระดับเสียง: สามารถปรับความดังของเสียงหัวใจที่ได้ยินได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน หรือความชอบส่วนตัว ช่วยให้การฟังเสียงลูกน้อยเป็นไปอย่างผ่อนคลายและสะดวกสบาย จะฟังคนเดียวเงียบๆ หรือเปิดให้คนในครอบครัวฟังพร้อมกันก็ได้
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่ที่ต้องการฟังก์ชันครบครัน, คุณแม่มือใหม่, ใช้ติดตามพัฒนาการอย่างละเอียด, ใช้ร่วมกับคุณพ่อและครอบครัว

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	น้ำหนัก	ฟังก์ชันพิเศษ	มาตรฐานความปลอดภัย
LCD พร้อมกราฟ	10+ สัปดาห์	2.5 MHz	แบตเตอรี่ AAA	กะทัดรัด	เบา	แสดงคลื่นเสียง	CE, FDA

3. Angelsounds Fetal Doppler JPD-100S

• ชื่อแบรนด์: Angelsounds
• ชื่อสินค้า: Fetal Doppler JPD-100S
• ราคาสินค้า: 1,000 - 1,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: รุ่นยอดนิยมที่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าเงินสุดๆ! Angelsounds JPD-100S เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบพื้นฐานที่เน้นความง่ายในการใช้งาน ฟังก์ชันไม่ซับซ้อน เหมาะกับคุณแม่ที่ไม่ต้องการอะไรยุ่งยาก แค่อยากฟังเสียงลูกให้สบายใจ ตัวเครื่องเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA หาซื้อง่าย ข้อดีคือราคาเข้าถึงง่าย คุณภาพเสียงใช้ได้เลยค่ะ แม้จะไม่มีหน้าจอแสดงผล BPM แต่ก็ทำหน้าที่หลักคือการฟังเสียงหัวใจได้ดีมากๆ ใครที่งบน้อย แต่อยากมีเครื่องฟังเสียงลูกไว้ที่บ้าน ตัวนี้ตอบโจทย์เลยจ้า
• จุดเด่นสินค้า: ราคาเข้าถึงง่าย, ใช้งานง่ายสุดๆ, ขนาดเล็กพกพาสะดวก, ใช้แบตเตอรี่ AA, เสียงชัดเจนเพียงพอ
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ฟังเสียงหัวใจทารก: ทำหน้าที่หลักในการตรวจจับเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ โดยใช้โพรบวางบนหน้าท้องพร้อมเจลอัลตราซาวด์ ตัวเครื่องจะแปลงสัญญาณที่ตรวจจับได้เป็นเสียงให้คุณแม่ได้ยินผ่านหูฟัง ช่วยให้คุณแม่รู้สึกใกล้ชิดกับลูกน้อยได้ทุกเวลาที่ต้องการ
  • เชื่อมต่อหูฟัง: มีช่องเสียบสำหรับเชื่อมต่อหูฟังมาตรฐาน ทำให้คุณแม่สามารถฟังเสียงหัวใจลูกน้อยได้อย่างเป็นส่วนตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก หรือสามารถแชร์หูฟังกับคุณพ่อหรือคนในครอบครัวเพื่อฟังเสียงลูกน้อยพร้อมกัน สร้างช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน
  • ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย: ตัวเครื่องมีปุ่มควบคุมน้อยมาก ส่วนใหญ่มีแค่ปุ่มเปิด/ปิด และปุ่มปรับระดับเสียง ทำให้ไม่ยุ่งยากในการเรียนรู้และใช้งาน เหมาะกับคุณแม่มือใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถหยิบมาใช้ได้ทันทีที่ต้องการ เพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่ที่ต้องการเครื่องพื้นฐานราคาประหยัด, ใช้ฟังเสียงส่วนตัว, เหมาะกับการพกพาเดินทาง, คุณแม่มือใหม่

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	การเชื่อมต่อ	ฟังก์ชันพิเศษ
ไม่มี	12+ สัปดาห์	2.0 MHz	แบตเตอรี่ AA	เล็กมาก	หูฟัง	ปรับระดับเสียง

4. Medisana Fetal Doppler

• ชื่อแบรนด์: Medisana
• ชื่อสินค้า: Fetal Doppler
• ราคาสินค้า: 2,500 - 3,200 บาท
• คำอธิบายสินค้า: แบรนด์นี้เค้าดังเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่บ้านอยู่แล้วค่ะ Medisana Fetal Doppler ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มาพร้อมคุณภาพตามมาตรฐานเยอรมนี (แม้จะผลิตที่อื่นก็ตาม) จุดเด่นคือความเสถียรในการวัดและการรับสัญญาณเสียงค่ะ เสียงหัวใจลูกน้อยที่ได้ยินจะค่อนข้างชัดเจนและต่อเนื่อง มีหน้าจอ LCD แสดงผล BPM ขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน แม้ในที่แสงน้อย ตัวเครื่องทนทาน ใช้งานง่าย เหมาะกับคุณแม่ที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์และคุณภาพของสินค้าค่ะ ซื้อแล้วสบายใจ ใช้ได้ยาวๆ จ้า
• จุดเด่นสินค้า: แบรนด์น่าเชื่อถือ, วัดผลเสถียร, เสียงชัดต่อเนื่อง, หน้าจอ LCD ใหญ่, ทนทานใช้งานได้นาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ตรวจวัดอัตราหัวใจทารก: ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ในการตรวจจับการเต้นของหัวใจทารก แล้วประมวลผลเป็นตัวเลข BPM แสดงบนหน้าจอได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้คุณแม่สามารถติดตามสุขภาพเบื้องต้นของทารกได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ทำให้คลายความกังวลและรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นในแต่ละวัน
  • แสดงผลบนหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่: หน้าจอขนาดใหญ่ทำให้มองเห็นตัวเลข BPM ได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องเพ่งสายตา เหมาะกับคุณแม่ที่อาจมีปัญหาด้านสายตา หรือต้องการความสะดวกในการอ่านค่าได้อย่างรวดเร็วในทุกสภาพแสง การแสดงผลที่ชัดเจนช่วยลดข้อผิดพลาดในการอ่านค่าสำคัญนี้
  • สัญญาณเสียงคุณภาพสูง: ให้เสียงการเต้นของหัวใจทารกที่ชัดเจนและฟังง่าย ปราศจากเสียงรบกวนที่ไม่จำเป็น ช่วยให้คุณแม่สามารถแยกเสียงหัวใจทารกออกจากเสียงอื่นๆ ในร่างกายได้ง่ายขึ้น การได้ยินเสียงเต้นที่ชัดเจนช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานและสร้างความผูกพันกับลูกน้อย
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือ, ใช้ติดตามสุขภาพทารกอย่างสม่ำเสมอ, เหมาะกับการใช้งานในบ้าน, ผู้ที่ต้องการหน้าจอแสดงผลชัดเจน

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	น้ำหนัก	ฟังก์ชันพิเศษ	การรับรอง
LCD ดิจิทัล	14+ สัปดาห์	3.0 MHz	แบตเตอรี่	มาตรฐาน	มาตรฐาน	ตัวเลข BPM ใหญ่	มาตรฐานยุโรป

5. Summer Infant Heart to Heart

• ชื่อแบรนด์: Summer Infant
• ชื่อสินค้า: Heart to Heart
• ราคาสินค้า: 1,500 - 2,200 บาท
• คำอธิบายสินค้า: แบรนด์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ! Summer Infant Heart to Heart รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อคุณพ่อคุณแม่โดยตรง ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนค่ะ จุดเด่นคือเค้าเน้นเรื่องความปลอดภัยและเสียงที่สบายหูสำหรับลูกน้อย เสียงหัวใจที่ได้ยินจะนุ่มนวล ไม่กระโชกโฮกฮาก แถมยังมีช่องเสียบหูฟังสองช่อง ให้คุณพ่อคุณแม่ฟังพร้อมกันได้แบบโรแมนติกๆ! (ถ้าคุณพ่อไม่ง่วงก่อนนะ!) เหมาะกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่อยากได้เครื่องที่ไว้ใจได้ ใช้งานง่าย และอยากแชร์โมเมนต์ดีๆ กับคนที่รักค่ะ น่ารักอบอุ่นหัวใจสุดๆ
• จุดเด่นสินค้า: ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่, เสียงนุ่มสบายหู, ช่องเสียบหูฟังคู่, ปลอดภัยสำหรับทารก, ดีไซน์น่ารัก
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ฟังเสียงหัวใจทารก: ใช้เทคโนโลยี Doppler ในการรับสัญญาณเสียงหัวใจจากทารกในครรภ์ แปลงเป็นเสียงที่ได้ยินผ่านหูฟัง ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถติดตามเสียงเต้นของหัวใจลูกน้อยได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยเน้นความนุ่มนวลของเสียงเพื่อให้คุณแม่รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายขณะใช้งาน
  • ช่องเสียบหูฟังคู่: มีช่องเสียบหูฟังสองช่องในตัวเครื่อง ทำให้คุณพ่อคุณแม่ หรือสมาชิกในครอบครัวอีกคน สามารถเสียบหูฟังเพื่อฟังเสียงหัวใจลูกน้อยพร้อมกันได้ สร้างกิจกรรมพิเศษร่วมกันในครอบครัว เพิ่มความผูกพันและความตื่นเต้นในการรอคอยสมาชิกใหม่
  • ออกแบบเพื่อความปลอดภัย: ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และทารก คลื่นอัลตราซาวด์ที่ใช้มีความเข้มต่ำ อยู่ในระดับที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ให้คุณแม่ใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพของตนเองและลูกน้อยในครรภ์
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณพ่อคุณแม่มือใหม่, ใช้ฟังเสียงร่วมกับคู่รักหรือครอบครัว, ผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูง, ใช้สร้างความผูกพันในครอบครัว

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	น้ำหนัก	การเชื่อมต่อ	จำนวนหูฟัง
ไม่มี	12+ สัปดาห์	2.0 MHz	แบตเตอรี่ AA	กะทัดรัด	เบา	หูฟัง	2

6. Jumper Medical JPD-100S(Mini)

• ชื่อแบรนด์: Jumper Medical
• ชื่อสินค้า: JPD-100S(Mini)
• ราคาสินค้า: 1,200 - 1,800 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ถ้า Angelsounds JPD-100S คือรุ่นคลาสสิก Jumper JPD-100S(Mini) คือรุ่นอัปเกรดร่างมินิ! ชื่อก็บอกว่ามินิ ตัวเครื่องเลยเล็กจิ๋ว พกพาสะดวกยิ่งกว่าเดิม! แต่ความสามารถไม่มินิตามตัวนะจ๊ะ ยังคงให้เสียงที่ชัดเจนพอประมาณ ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะกับคุณแม่สายเดินทาง หรือคุณแม่ที่ต้องพกพาเครื่องฟังเสียงลูกไปทำงาน ไปเที่ยวต่างจังหวัด ตัวนี้คือเพื่อนซี้ที่ทำให้คุณอุ่นใจได้ทุกที่ทุกเวลา ราคาดีงาม ไม่แพงเลยค่ะ ใครที่เน้นพกพาสะดวก ไปไหนไปกัน ต้องมีตัวนี้ติดกระเป๋าไว้เลย
• จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็กพกพาสะดวกที่สุด, ราคาเป็นมิตร, ใช้งานง่าย, ใช้แบตเตอรี่ AA, เสียงชัดเจนพอใช้งาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ตรวจจับเสียงหัวใจทารก: ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่ต่ำในการตรวจจับการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ แล้วส่งสัญญาณเสียงออกมาทางช่องเสียบหูฟัง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ความสามารถในการตรวจจับเสียงก็อยู่ในระดับที่ดีสำหรับการใช้งานทั่วไปที่บ้านหรือระหว่างเดินทาง ช่วยให้คุณแม่คลายความกังวลได้ทุกที่ที่ต้องการ
  • ออกแบบเพื่อการพกพา: ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้สามารถพกพาไปในกระเป๋าถือได้สะดวกมากๆ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องเดินทางบ่อย หรือคุณแม่ที่อยากพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถฟังเสียงลูกน้อยได้ทุกเมื่อที่คิดถึง เพิ่มความสบายใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
  • ใช้งานง่ายด้วยหูฟัง: การใช้งานเน้นไปที่การฟังเสียงผ่านหูฟังโดยตรง ไม่มีหน้าจอแสดงผลที่ซับซ้อน มีเพียงปุ่มเปิด/ปิด และอาจมีปุ่มปรับระดับเสียง ทำให้การใช้งานง่ายมากๆ แม้คุณแม่ที่ไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์เทคโนโลยีก็สามารถหยิบมาใช้ได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้นาน
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่สายเดินทาง, ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการพกพา, คุณแม่ที่ต้องการเครื่องราคาย่อมเยา, ใช้ฟังเสียงส่วนตัว

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	น้ำหนัก	การเชื่อมต่อ
ไม่มี	12+ สัปดาห์	2.0 MHz	แบตเตอรี่ AA	เล็กจิ๋ว	เบามาก	หูฟัง

7. Bebek Fetal Doppler Home Use

• ชื่อแบรนด์: Bebek
• ชื่อสินค้า: Fetal Doppler Home Use
• ราคาสินค้า: 1,600 - 2,300 บาท
• คำอธิบายสินค้า: แบรนด์ Bebek อาจจะยังไม่คุ้นหูเท่าไหร่ในไทย แต่คุณภาพเค้าดีงามไม่แพ้ใครเลยค่ะ! รุ่น Home Use นี้ออกแบบมาให้ใช้ง่ายสำหรับคุณแม่ที่บ้านโดยเฉพาะ เสียงที่ได้ยินค่อนข้างชัดเจนดีเลยค่ะ มีหน้าจอ LED แสดงผล BPM ที่สว่างชัด มองเห็นง่าย แม้ตอนกลางคืนก็ดูได้สบายๆ ตัวเครื่องดีไซน์เรียบง่าย ดูสะอาดตา เหมาะกับบ้านที่เน้นความมินิมอล ราคาอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณแม่ที่มองหาเครื่องฟังเสียงลูกที่เน้นฟังก์ชันพื้นฐานที่ใช้งานได้ดีค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: เสียงชัดเจนดี, หน้าจอ LED สว่างชัด, ใช้งานง่ายที่บ้าน, ดีไซน์เรียบง่าย, ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • วัดอัตราหัวใจทารก: ใช้หลักการ Doppler ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ แล้วแสดงผลเป็นตัวเลข BPM บนหน้าจอ LED ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้คุณแม่สามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจลูกน้อยได้ด้วยตัวเองเป็นประจำ ทำให้รู้สึกอุ่นใจและมั่นใจในสุขภาพของทารกในครรภ์มากขึ้นในแต่ละวัน
  • หน้าจอแสดงผล LED: มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LED ที่ให้ความสว่างและคมชัดสูง ทำให้ตัวเลข BPM มองเห็นได้ชัดเจน แม้ในสภาพแสงน้อย หรือใช้งานตอนกลางคืน ช่วยให้คุณแม่สามารถอ่านค่าได้อย่างสะดวกสบายในทุกเวลาที่ต้องการ ลดข้อผิดพลาดในการอ่านค่าสำคัญนี้
  • เหมาะกับการใช้งานในบ้าน: ออกแบบมาให้มีขนาดและน้ำหนักที่พอเหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้านโดยเฉพาะ ตัวเครื่องจับถนัดมือ ไม่ลื่นหลุดง่าย การใช้งานไม่ซับซ้อน เพียงทาเจลและวางโพรบในตำแหน่งที่เหมาะสมก็สามารถฟังเสียงหัวใจลูกน้อยได้ทันที สร้างความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของคุณแม่ตั้งครรภ์
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่ที่เน้นใช้งานในบ้าน, ผู้ที่ต้องการหน้าจอแสดงผลสว่างชัด, คุณแม่ที่มองหาเครื่องราคากลางๆ คุณภาพดี, ใช้ติดตามพัฒนาการทารกที่บ้าน

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	น้ำหนัก	ฟังก์ชันพิเศษ
LED ดิจิทัล	12+ สัปดาห์	2.0 MHz	แบตเตอรี่	มาตรฐาน	มาตรฐาน	แสดง BPM

8. Clearview Fetal Monitor

• ชื่อแบรนด์: Clearview
• ชื่อสินค้า: Fetal Monitor
• ราคาสินค้า: 3,500 - 4,500 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ตัวนี้มาสายโปรหน่อยค่ะ Clearview Fetal Monitor ให้ความสำคัญกับความชัดเจนของเสียงและข้อมูลที่แสดงผลมากๆ เหมาะกับคุณแม่ที่อยากได้เครื่องที่คุณภาพใกล้เคียงกับที่ใช้ในโรงพยาบาล (แต่ยังไงก็แทนเครื่องมือแพทย์ไม่ได้ 100% นะคะ) จุดเด่นคือเสียงหัวใจที่ใส เคลียร์ ได้ยินทุกจังหวะการเต้น แถมหน้าจอยังแสดงกราฟคลื่นหัวใจได้ละเอียดมาก สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันในมือถือได้ด้วย! เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการข้อมูลครบถ้วน อยากเก็บข้อมูลไว้ดูเอง หรือปรึกษาคุณหมอค่ะ ราคาสูงนิดนึง แต่คุ้มค่ากับฟังก์ชันและคุณภาพที่ได้แน่นอน
• จุดเด่นสินค้า: เสียงใสเคลียร์คุณภาพสูง, แสดงกราฟคลื่นละเอียด, เชื่อมต่อแอปฯ ได้, เก็บข้อมูลย้อนหลังได้, คุณภาพใกล้เคียงเครื่องมือแพทย์
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • แสดงกราฟคลื่นหัวใจทารก: นอกจากจะแสดงตัวเลข BPM แล้ว ยังสามารถแสดงรูปคลื่นการเต้นของหัวใจทารกบนหน้าจอได้แบบละเอียด ช่วยให้คุณแม่สังเกตรูปแบบและความสม่ำเสมอของการเต้นได้ด้วยตาเปล่า ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการติดตามสุขภาพและความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ เพิ่มความมั่นใจในการดูแลตัวเอง
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชันบนมือถือ: สามารถเชื่อมต่อข้อมูลการวัดอัตราหัวใจและกราฟคลื่นไปยังแอปพลิเคชันเฉพาะของแบรนด์บนสมาร์ทโฟนได้ ช่วยให้คุณแม่สามารถบันทึก เก็บข้อมูลย้อนหลัง สร้างรายงาน หรือแชร์ข้อมูลกับคุณหมอได้สะดวก ทำให้การติดตามสุขภาพครรภ์เป็นระบบมากขึ้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ง่ายขึ้น
  • บันทึกและเล่นเสียงซ้ำ: ฟังก์ชันการบันทึกเสียงหัวใจทารกคุณภาพสูง ช่วยให้คุณแม่สามารถเก็บเสียงเต้นน้อยๆ ของลูกไว้ฟังได้ทุกเมื่อที่ต้องการ หรือเปิดให้คนในครอบครัวฟังได้ ทำให้ทุกคนได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของการมีชีวิตเล็กๆ อยู่ในครรภ์ สร้างความสุขและความผูกพันในครอบครัว
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่ที่ต้องการข้อมูลละเอียด, ผู้ที่ต้องการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน/แอปฯ, ใช้เก็บข้อมูลสุขภาพครรภ์, ผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงและกราฟ

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	การเชื่อมต่อ	ฟังก์ชันพิเศษ	บันทึกข้อมูล	มาตรฐานความปลอดภัย
LCD สีพร้อมกราฟ	10+ สัปดาห์	3.0 MHz	แบตเตอรี่ Li-ion	Bluetooth/App	แสดงกราฟละเอียด	ได้ (ผ่านแอปฯ)	มาตรฐานการแพทย์

9. Vandelay Fetal Doppler

• ชื่อแบรนด์: Vandelay
• ชื่อสินค้า: Fetal Doppler
• ราคาสินค้า: 1,800 - 2,600 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Vandelay อาจจะเป็นชื่อที่คุ้นๆ ในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่าง รุ่น Fetal Doppler ของเค้าก็ทำออกมาได้น่าสนใจค่ะ จุดเด่นคือความทนทานและแบตเตอรี่ที่อึดมาก! ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ คุณภาพเสียงอยู่ในระดับดี ฟังชัดเจนดีค่ะ มีหน้าจอแสดงผล BPM ที่อ่านง่าย ขนาดกำลังดี ตัวเครื่องดีไซน์เรียบๆ แข็งแรงทนทาน เหมาะกับคุณแม่ที่มองหาเครื่องฟังเสียงลูกที่เน้นความอึด ถึก ทน ใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดบ่อยๆ ซื้อทีเดียวใช้ลืมเลยค่ะ!
• จุดเด่นสินค้า: แบตเตอรี่ทนทานมาก, ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน, เสียงชัดเจนดี, หน้าจอแสดงผลอ่านง่าย, ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ตรวจจับเสียงหัวใจทารก: ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่ปลอดภัยในการรับสัญญาณเสียงหัวใจทารกในครรภ์ แล้วส่งออกเป็นเสียงให้ได้ยินผ่านช่องเสียบหูฟังหรือลำโพงขนาดเล็กที่ตัวเครื่อง คุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่ดี ทำให้คุณแม่สามารถฟังเสียงเต้นของหัวใจลูกน้อยได้อย่างชัดเจน สร้างความผูกพันและความสบายใจในการตั้งครรภ์
  • แสดงอัตราหัวใจบนหน้าจอ: มีหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลขนาดกำลังดี แสดงตัวเลข BPM ของอัตราการเต้นของหัวใจทารก ทำให้คุณแม่สามารถอ่านค่าได้อย่างง่ายดาย การแสดงผลที่ชัดเจนช่วยให้คุณแม่สามารถติดตามความเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นหัวใจลูกน้อยได้ด้วยตัวเองที่บ้านอย่างสะดวก
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: จุดเด่นคือแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานมากๆ ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้คุณแม่สามารถพกพาไปใช้งานนอกบ้าน หรือใช้ได้หลายครั้งโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดบ่อยๆ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเหมาะกับการพกพาเดินทาง
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่ที่ต้องการแบตเตอรี่อึด, ผู้ที่เน้นความทนทานของเครื่อง, ใช้ฟังเสียงลูกนอกบ้านบ่อยๆ, คุณแม่ที่ต้องการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	น้ำหนัก	แบตเตอรี่
ดิจิทัล	12+ สัปดาห์	2.5 MHz	แบตเตอรี่ Li-ion	มาตรฐาน	มาตรฐาน	ทนทานสูง

10. Generic Fetal Doppler (รุ่นสุดคุ้ม!)

• ชื่อแบรนด์: ไม่มีชื่อเฉพาะ (Generic)
• ชื่อสินค้า: Fetal Doppler Home Use (รุ่นสุดคุ้ม!)
• ราคาสินค้า: 800 - 1,200 บาท
• คำอธิบายสินค้า: มาถึงตัวสุดท้ายที่ต้องพูดถึงในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านช้อปปิ้งออนไลน์ นั่นก็คือ "รุ่นสุดคุ้ม!" หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าแบรนด์ Generic นั่นแหละค่ะ! ตัวนี้คือตัวเลือกสำหรับคุณแม่ที่งบประมาณจำกัดมากๆ แต่อยากลองใช้เครื่องฟังเสียงลูกที่บ้าน คุณภาพอาจจะไม่ได้พรีเมียมเท่าแบรนด์ดังๆ เสียงอาจจะไม่ได้ใสกิ๊ง แต่ก็พอฟังได้ค่ะ มีหน้าจอแสดงผล BPM ให้ด้วยนะ บางรุ่นอาจจะมีฟังก์ชันบันทึกเสียงเล็กๆ น้อยๆ เหมาะกับคุณแม่ที่อยากลองใช้ดูก่อน หรือใช้แค่บางครั้งบางคราว อย่าคาดหวังสูงมากนะคะ เน้นใช้งานพื้นฐานตามราคาค่ะ แต่ก็นับว่าเป็นอีกตัวเลือกที่ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
• จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกที่สุด, เข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน, มีหน้าจอแสดงผล BPM, ใช้งานพื้นฐานได้, เหมาะกับคนงบน้อย
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ฟังเสียงหัวใจทารก: ใช้เทคโนโลยี Doppler แบบพื้นฐานในการตรวจจับและส่งเสียงหัวใจทารกในครรภ์ออกมาทางหูฟังหรือลำโพง คุณภาพเสียงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ผลิต แต่โดยรวมแล้วสามารถใช้ฟังเสียงหัวใจเพื่อคลายความกังวลและสร้างความผูกพันเบื้องต้นได้ในราคาที่เข้าถึงง่าย
  • แสดงอัตราหัวใจ (บางรุ่น): บางรุ่นในกลุ่ม Generic ก็มีหน้าจอแสดงผล BPM แบบดิจิทัลให้ด้วย ทำให้คุณแม่สามารถเห็นตัวเลขการเต้นของหัวใจได้ ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยในการติดตามสุขภาพเบื้องต้นของทารก ทำให้รู้สึกอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง แม้ฟังก์ชันอาจจะไม่ซับซ้อนเท่ารุ่นราคาสูง
  • ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน: ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมากๆ ไม่มีปุ่มหรือฟังก์ชันที่ยุ่งยาก ทำให้คุณแม่มือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการใช้อุปกรณ์ลักษณะนี้สามารถหยิบมาใช้ได้ทันทีที่ต้องการ เพียงทาเจลและเลื่อนหาตำแหน่งบนหน้าท้อง ก็พร้อมฟังเสียงลูกน้อยแล้ว
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คุณแม่ที่มีงบประมาณจำกัดมาก, ผู้ที่อยากลองใช้เครื่องฟังเสียงลูกครั้งแรก, ใช้ชั่วคราว, เหมาะกับคนที่ไม่เน้นฟังก์ชันซับซ้อน

ประเภทจอแสดงผล	ช่วงสัปดาห์ที่ใช้ได้	ความถี่อัลตราซาวด์	แหล่งพลังงาน	ขนาด	น้ำหนัก	ราคา
ดิจิทัล (บางรุ่น)	14+ สัปดาห์	2.0 MHz	แบตเตอรี่ AA/AAA	หลากหลาย	หลากหลาย	ประหยัด

วิธีการเลือกซื้อเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกให้โดนใจ ปี 2025!

• 1. พิจารณาช่วงอายุครรภ์และสัญญาณที่ต้องการ: การเลือกซื้อเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกควรเริ่มจากการพิจารณาอายุครรภ์ของคุณแม่ค่ะ โดยทั่วไปแล้ว จะเริ่มได้ยินเสียงหัวใจทารกด้วยเครื่อง Doppler ที่บ้านได้ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ 12-14 ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ตำแหน่งของทารก ตำแหน่งของรก และชั้นไขมันหน้าท้องของคุณแม่ ดังนั้น หากอายุครรภ์ยังน้อยมากๆ อาจจะยังไม่ได้ยินเสียงนะคะ ต้องใจเย็นๆ ค่ะ นอกจากนี้ ให้คิดถึงสัญญาณที่คุณอยากได้ยินด้วย เครื่อง Doppler ส่วนใหญ่จะเน้นการได้ยินเสียงเต้นของหัวใจเป็นหลัก ซึ่งอาจมีเสียงอื่นๆ เช่น เสียงเลือดไหลในสายสะดือ (บางคนอาจสับสนว่าเป็นเสียงหัวใจ) หรือเสียงการเคลื่อนไหวของทารกปนมาด้วย แต่รุ่นที่ดีๆ จะมีเทคโนโลยีช่วยกรองเสียงรบกวน ทำให้ได้ยินเสียงหัวใจชัดเจนขึ้น หากคุณต้องการแค่ฟังเสียงเพื่อความสบายใจ รุ่นพื้นฐานก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลที่ละเอียดขึ้น เช่น อัตราการเต้นของหัวใจต่อนาที (BPM) ที่แสดงเป็นตัวเลข หรือเห็นกราฟคลื่นหัวใจ ก็ควรเลือกรุ่นที่มีหน้าจอแสดงผลเหล่านี้ ซึ่งมักจะเริ่มใช้ได้ในช่วงอายุครรภ์ที่มากขึ้นประมาณ 16-20 สัปดาห์เป็นต้นไป เครื่องที่มีฟังก์ชันแสดง BPM หรือกราฟจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ติดตามสุขภาพเบื้องต้นของลูกน้อยได้ดีขึ้น และนำข้อมูลไปปรึกษาคุณหมอได้หากมีข้อสงสัย การเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการและช่วงอายุครรภ์ จะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดความกังวลใจที่ไม่จำเป็นค่ะ
• 2. ตรวจสอบความปลอดภัยและมาตรฐาน: เรื่องความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งค่ะ! เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ที่จำหน่ายโดยทั่วไปในท้องตลาด ไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้งานส่วนตัวที่บ้านเพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลและสร้างความผูกพันกับลูกน้อย อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อควรคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยของตัวเครื่องค่ะ มองหาเครื่องที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสากล เช่น CE (Conformité Européenne) หรือ FDA (Food and Drug Administration) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้ผ่านการทดสอบและเป็นไปตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคหรือประเทศนั้นๆ การรับรองเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องใช้คลื่นอัลตราซาวด์ในความถี่และความเข้มที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์เมื่อใช้งานตามคำแนะนำ ไม่ควรใช้เครื่องเป็นเวลานานเกินไปในแต่ละครั้ง และไม่ควรกดโพรบลงบนหน้าท้องแรงๆ เพราะอาจทำให้ทารกไม่สบายตัวได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกเป็นเพียงเครื่องมือช่วยเสริม ไม่สามารถใช้แทนการตรวจสุขภาพครรภ์กับแพทย์ได้ หากมีข้อสงสัยหรือความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของทารก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีเสมอ การเลือกซื้อเครื่องที่มีมาตรฐานและใช้งานอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณแม่สบายใจได้อย่างแท้จริงค่ะ
• 3. ฟังก์ชันเสริมและการใช้งาน: นอกจากฟังก์ชันหลักในการฟังเสียงหัวใจแล้ว เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกรุ่นใหม่ๆ ในปี 2025 ยังมาพร้อมฟังก์ชันเสริมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประสบการณ์ในการใช้งานค่ะ ลองพิจารณาว่าฟังก์ชันเหล่านี้จำเป็นสำหรับคุณหรือไม่ เช่น หน้าจอแสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ (BPM) แบบดิจิทัลหรือแบบกราฟ ซึ่งช่วยให้คุณเห็นข้อมูลเป็นตัวเลขที่ชัดเจน หรือเห็นรูปแบบการเต้นของหัวใจ การมีหน้าจอจะช่วยให้คุณติดตามพัฒนาการเบื้องต้นได้ดีขึ้น ฟังก์ชันบันทึกเสียงก็เป็นที่นิยมมากค่ะ คุณแม่สามารถบันทึกเสียงเต้นของหัวใจลูกน้อยเก็บไว้ฟัง หรือแชร์ให้คนในครอบครัวฟังได้ เป็นการสร้างความทรงจำที่น่ารักมากๆ บางรุ่นอาจมีช่องเสียบหูฟังหลายช่อง ทำให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเสียงลูกพร้อมกันได้ ซึ่งเป็นการสร้างโมเมนต์พิเศษร่วมกันในครอบครัว นอกจากนี้ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในเครื่องรุ่นใหม่ๆ ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลการวัด ติดตามแนวโน้ม หรือแชร์ข้อมูลกับคุณหมอได้สะดวกขึ้น แหล่งพลังงานก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา มีทั้งแบบใช้แบตเตอรี่ AA/AAA ที่หาซื้อง่าย หรือแบบแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ในตัว ซึ่งสะดวกและประหยัดในระยะยาว ขนาดและน้ำหนักของเครื่องก็สำคัญ หากคุณต้องการพกพาไปใช้งานนอกบ้านบ่อยๆ ควรเลือกรุ่นที่เล็กและน้ำหนักเบา การพิจารณาฟังก์ชันเสริมเหล่านี้ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการ จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องที่คุ้มค่าและใช้งานได้อย่างมีความสุขตลอดช่วงตั้งครรภ์ค่ะ

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก

• Q: เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่บ้านปลอดภัยไหม?
  A: เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่จำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ส่วนตัวที่บ้าน ไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ค่ะ อุปกรณ์เหล่านี้ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่ต่ำในระดับที่ปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์ตามมาตรฐานสากลเมื่อใช้งานตามคำแนะนำ การใช้งานในระยะเวลาสั้นๆ ตามที่ระบุในคู่มือถือว่าปลอดภัยค่ะ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เครื่องนานเกินไปในแต่ละครั้ง และไม่ควรกดโพรบแรงๆ บนหน้าท้องค่ะ ที่สำคัญที่สุดคือ เครื่องนี้ใช้สำหรับคลายความกังวลและสร้างความผูกพัน ไม่สามารถใช้ทดแทนการตรวจสุขภาพครรภ์กับแพทย์ได้ หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของทารก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอค่ะ
• Q: เริ่มใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
  A: โดยทั่วไปแล้ว คุณแม่สามารถเริ่มใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่บ้านได้ตั้งแต่ช่วงอายุครรภ์ประมาณ 12-14 สัปดาห์ขึ้นไปค่ะ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการได้ยินเสียงหัวใจทารกในระยะแรกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของทารก ขนาดตัวของคุณแม่ ตำแหน่งของรก และคุณภาพของตัวเครื่องฟังเสียง บางครั้งอาจจะต้องใช้ความพยายามในการหาตำแหน่งสักหน่อยในระยะแรกๆ ค่ะ หากยังหาไม่เจอในช่วงสัปดาห์แรกๆ ที่เริ่มใช้ ไม่ต้องกังวลใจนะคะ ลองใหม่อีกครั้งในวันหลัง หรือรออายุครรภ์มากขึ้นอีกนิดก็จะหาได้ง่ายขึ้นค่ะ หากกังวลใจจริงๆ ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ
• Q: ทำไมบางครั้งถึงหาเสียงหัวใจทารกไม่เจอ?
  A: การหาเสียงหัวใจทารกด้วยเครื่องฟังเสียงที่บ้านต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างค่ะ สาเหตุที่อาจทำให้หาเสียงไม่เจอ เช่น อายุครรภ์ยังน้อยเกินไป ตำแหน่งของทารกในครรภ์เปลี่ยนไป (ทารกอาจจะหันหลังให้ หรืออยู่ในท่าที่โพรบเข้าถึงยาก) ตำแหน่งของรก (บางครั้งรกอาจจะอยู่ด้านหน้า ทำให้บังเสียงหัวใจ) ชั้นไขมันหน้าท้องของคุณแม่ หรืออาจจะยังหาตำแหน่งที่ถูกต้องไม่เจอค่ะ เสียงหัวใจทารกมักจะเต้นเร็วประมาณ 120-160 ครั้งต่อนาที และมักจะอยู่บริเวณท้องน้อยในช่วงไตรมาสที่สอง ลองทาเจลให้เพียงพอและเลื่อนโพรบช้าๆ ไปตามแนวท้องน้อย อาจจะลองหลังเข้าห้องน้ำแล้ว หรือตอนที่ทารกกำลังเคลื่อนไหว อาจจะหาได้ง่ายขึ้นค่ะ หากพยายามแล้วยังหาไม่เจอ และรู้สึกกังวลใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพครรภ์นะคะ
• Q: ควรใช้เจลอัลตราซาวด์ร่วมด้วยไหม?
  A: จำเป็นต้องใช้เจลอัลตราซาวด์ร่วมกับการใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกค่ะ เจลนี้มีหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำคลื่นอัลตราซาวด์จากโพรบผ่านชั้นผิวหนังไปยังมดลูกและตัวทารก ทำให้สามารถตรวจจับสัญญาณเสียงหัวใจได้ชัดเจนขึ้น หากไม่ใช้เจล หรือใช้ในปริมาณไม่เพียงพอ อาจจะไม่ได้ยินเสียง หรือได้ยินเสียงไม่ชัดเจน มีเสียงซ่ารบกวนเยอะค่ะ สามารถใช้เจลอัลตราซาวด์แบบเดียวกับที่ใช้ในการตรวจอัลตราซาวด์ตามโรงพยาบาลหรือคลินิกได้เลยค่ะ หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยาหรือร้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือซื้อพร้อมกับตัวเครื่องฟังเสียงก็ได้ค่ะ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ที่ควรมี
• รีวิวเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก 16 สัปดาห์
• เครื่องฟังเสียงหัวใจลูกในท้อง ใช้ง่ายและสะดวก
• เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก อุปกรณ์ที่คนท้องต้องมี ? #หมอสูติ #สูตินรี ...
• "Unbox เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ AOGEJIAN รุ่น AG-21B ...