สวัสดีค่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ หัวใจติ๊กต็อก! ปี 2025 นี้ โลกของการ์ตูนเด็กก็ยังคงหมุนติ้วไปข้างหน้า มีเรื่องใหม่ๆ น่ารักๆ มาให้เจ้าตัวเล็กได้ดูกันเพียบ แต่จะดูอะไรดีล่ะให้สนุกด้วย ได้สาระด้วย เสริมสร้างจินตนาการให้ลูกน้อยเติบโตแบบสมองฟู วันนี้ในฐานะตัวแม่สายคอนเทนต์และอินกับพัฒนาการเด็ก ขอคัดเน้นๆ 10 การ์ตูนที่บอกเลยว่าเด็ด ดูแล้วรับรองว่าลูกจะร้องว้าว แถมได้ใช้จินตนาการต่อยอดความสนุกได้อีกยาวๆ ค่ะ! เตรียมจดลิสต์ไว้เลย แล้วไปหาเปิดให้ลูกดูกันนะจ๊ะ!
1. Bluey
- ชื่อเรื่อง: Bluey
- แนว: แอนิเมชั่น / ชีวิตประจำวัน / ครอบครัว
- เหมาะสำหรับวัย: 3 ปีขึ้นไป
- คำอธิบายโดยย่อ: การ์ตูนสุดฮิตจากออสเตรเลีย เรื่องราวของบลูอี้ ลูกหมาพันธุ์ออสเตรเลียน แคทเทิล ด็อกส์ วัย 6 ขวบ ที่มาพร้อมพลังจินตนาการล้นเหลือ เธอชอบชวนน้องสาว บิงโก และคุณพ่อคุณแม่ เล่นสนุกไปกับเกมต่างๆ ที่สร้างสรรค์จากสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวัน การ์ตูนเรื่องนี้โดดเด่นในการนำเสนอการเล่นตามจินตนาการของเด็กๆ ได้อย่างสมจริงและสร้างสรรค์มากๆ คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นไอเดียการเล่นสนุกกับลูกเพียบ ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ แถมยังได้ข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับบทบาทของพ่อแม่ในการส่งเสริมพัฒนาการลูกผ่านการเล่นอีกด้วยนะ
- จุดเด่น: ส่งเสริมการเล่นตามจินตนาการ、นำเสนอความสัมพันธ์อบอุ่นในครอบครัว、ภาพสวย สีสันสดใส、เพลงประกอบน่ารักติดหู、สอดแทรกข้อคิดเรื่องการเลี้ยงลูก
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- กระตุ้นให้เด็กๆ ใช้สิ่งของรอบตัวมาเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นตามจินตนาการ โดยไม่ต้องมีของเล่นราคาแพง ก็สนุกสุดเหวี่ยงได้
- สอนให้เด็กๆ เรียนรู้การสวมบทบาทสมมติ (Role Play) ผ่านสถานการณ์ต่างๆ ที่บลูอี้และครอบครัวเล่นด้วยกัน ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะทางสังคมและความคิดสร้างสรรค์
- แสดงให้เห็นว่าการเล่นของเด็กๆ คือการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจและสนับสนุนการเล่นตามธรรมชาติของลูกมากขึ้น
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กเล็กและครอบครัวที่ต้องการหาการ์ตูนที่ดูสนุก ได้ข้อคิด และได้ไอเดียเล่นกับลูก, ช่วงเวลาเล่นกับลูก, กิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน (โดยประมาณ) | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | สตูดิโอ |
---|
Disney+, Disney Junior | 3+ | 7-8 นาที | 2018 | Ludo Studio |
2. Charlie's Colorforms City
- ชื่อเรื่อง: Charlie's Colorforms City
- แนว: แอนิเมชั่น / เรียนรู้ / สร้างสรรค์
- เหมาะสำหรับวัย: 3-5 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: ด.ช. ชาร์ลี ตัวละครหลักผู้ร่าเริง จะพาเด็กๆ ไปผจญภัยในเมืองที่ทุกสิ่งสร้างขึ้นจากรูปทรงและสีสันต่างๆ เด็กๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปทรงเรขาคณิตและสี ในขณะเดียวกันก็ใช้จินตนาการของตัวเองสร้างสิ่งของหรือตัวละครใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยชาร์ลีแก้ปัญหาหรือทำภารกิจให้สำเร็จ การ์ตูนเรื่องนี้ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการนำองค์ประกอบพื้นฐานมาต่อยอดเป็นสิ่งใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ภาพน่ารัก เพลงสนุก ดูเพลิน ได้ความรู้ แถมยังได้ฝึกสมองประลองจินตนาการไปด้วยในตัว
- จุดเด่น: สอนเรื่องรูปทรงและสี、ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์โดยตรง、ภาพและเพลงประกอบน่ารัก、เนื้อหาเข้าใจง่ายเหมาะกับเด็กเล็ก、กระตุ้นการมีส่วนร่วมของเด็ก
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- กระตุ้นให้เด็กๆ มองเห็นความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ จากรูปทรงและสีสันพื้นฐาน เหมือนกับการต่อบล็อกหรือการวาดรูป
- ส่งเสริมให้เด็กๆ คิดนอกกรอบและทดลองนำรูปทรงต่างๆ มาประกอบกันในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ ตามสถานการณ์ในเรื่อง
- ช่วยพัฒนาการคิดเชิงนามธรรม (Abstract Thinking) ของเด็กๆ ผ่านการใช้รูปทรงและสีมาแทนสิ่งของหรือตัวละครต่างๆ
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กวัยก่อนเข้าเรียนที่ต้องการเรียนรู้เรื่องรูปทรง สี และฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์, ช่วงเวลาเล่นหรือทำกิจกรรมศิลปะกับเด็ก
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน (โดยประมาณ) | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | รูปแบบ |
---|
Netflix | 5+ | ตอนย่อยละ ~10-15 นาที | 2019 | ซีรีส์ |
3. Ask the StoryBots
- ชื่อเรื่อง: Ask the StoryBots
- แนว: แอนิเมชั่น / สารคดีสำหรับเด็ก / เรียนรู้
- เหมาะสำหรับวัย: 3-6 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: การ์ตูนสุดเจ๋งที่จะมาตอบคำถาม "ทำไม?" "อย่างไร?" ที่เด็กๆ สงสัยเกี่ยวกับโลกรอบตัว เช่น ทำไมฟ้าถึงเป็นสีฟ้า? เราต้องแปรงฟันทำไม? โดยมีเหล่า StoryBots หุ่นยนต์ตัวน้อย 5 ตัวออกเดินทางไปหาคำตอบในรูปแบบแอนิเมชั่น ภาพสวย เพลงเพราะ แถมมีคนดังมาร่วมแจมด้วยนะ การ์ตูนเรื่องนี้ช่วยจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆ และสอนให้พวกเขาสังเกต ตั้งคำถาม และหาคำตอบ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการคิดวิเคราะห์และต่อยอดจินตนาการไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ๆ
- จุดเด่น: ตอบคำถามที่เด็กสงสัย、ส่งเสริมความอยากรู้อยากเห็น、สอดแทรกความรู้รอบตัว、ภาพสวย เพลงเพราะ、กระตุ้นการเรียนรู้ตลอดเวลา
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- กระตุ้นให้เด็กๆ ตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัว และสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาจินตนาการถึงวิธีการหาคำตอบหรือการสำรวจโลก
- เปิดโลกทัศน์ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวที่ไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นดีให้สมองได้นำไปต่อยอดจินตนาการ
- แสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและน่าตื่นเต้น ช่วยปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้และการค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กช่างสงสัย ช่างถาม และผู้ปกครองที่ต้องการหาการ์ตูนเสริมความรู้รอบตัวที่สนุกและน่าสนใจ
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน (โดยประมาณ) | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | รูปแบบ |
---|
Netflix | 3+ | 20-25 นาที | 2016 | ซีรีส์ |
4. Pocoyo
- ชื่อเรื่อง: Pocoyo
- แนว: แอนิเมชั่น / ผจญภัย / เรียนรู้
- เหมาะสำหรับวัย: 2-4 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: โปโคโย เด็กชายตัวน้อยในชุดสีฟ้า พร้อมผองเพื่อนสัตว์น่ารักๆ ทั้งเป็ด เอลลี่ ช้าง แพท สุนัข และพาลูล่า นกตัวน้อย พวกเขาจะพาเด็กๆ ไปสำรวจโลกรอบตัวและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันผ่านการผจญภัยแบบเรียบง่าย จุดเด่นคือภาพแอนิเมชั่น 3 มิติที่ดูสบายตา เสียงพากย์ที่เป็นมิตร และการเน้นการเรียนรู้ผ่านการสังเกตและการแก้ไขปัญหาง่ายๆ การ์ตูนเรื่องนี้ช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้เด็กๆ ได้จากการที่พวกเขาได้ติดตามการสำรวจสิ่งใหม่ๆ ของโปโคโย และคิดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในสถานการณ์ต่างๆ
- จุดเด่น: ภาพแอนิเมชั่นสบายตา、เนื้อหาเรียบง่ายเข้าใจง่าย、สอนเรื่องราวชีวิตประจำวัน、ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการสังเกต、ตัวละครน่ารัก
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- ชวนให้เด็กๆ จินตนาการตามว่าสิ่งของรอบตัวสามารถนำมาเล่นหรือทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง เหมือนที่โปโคโยและเพื่อนๆ ทำ
- กระตุ้นให้เด็กๆ คิดถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์ต่างๆ ที่โปโคโยเผชิญ และจินตนาการถึงวิธีการแก้ไขปัญหา
- ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการสำรวจ ทำให้เด็กๆ มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้และกล้าที่จะจินตนาการและทดลองทำสิ่งต่างๆ
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กเล็กมาก ที่เพิ่งเริ่มดูการ์ตูน ต้องการเนื้อหาที่เรียบง่ายและภาพที่ดูสบายตา, ช่วงเวลาผ่อนคลายก่อนนอนหรือระหว่างวัน
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน (โดยประมาณ) | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | รูปแบบ |
---|
YouTube, Netflix (บางภูมิภาค) | 4+ | 7-10 นาที | 2005 | ซีรีส์ |
5. Peppa Pig
- ชื่อเรื่อง: Peppa Pig
- แนว: แอนิเมชั่น / ชีวิตประจำวัน / ตลก
- เหมาะสำหรับวัย: 2-5 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: เรื่องราวของ เป๊ปป้า พิก ลูกหมูเพศหญิงจอมซน และครอบครัวของเธอ ทั้งน้องชายจอร์จ คุณพ่อหมู และคุณแม่หมู การ์ตูนเรื่องนี้จะพาเด็กๆ ไปพบกับเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของครอบครัวหมู ไม่ว่าจะเป็นการไปโรงเรียน ไปเที่ยว เล่นสนุกที่สนามเด็กเล่น หรือกระโดดลงไปในบ่อโคลน! ภาพวาดลายเส้นเรียบง่าย สีสันสดใส เนื้อหาสนุกสนาน สอดแทรกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และสอนเรื่องราวพื้นฐานเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน มิตรภาพ และการอยู่ร่วมกันในครอบครัว การได้เห็นเป๊ปป้าและเพื่อนๆ เล่นสนุก ทำให้เด็กๆ ได้ไอเดียในการเล่นและใช้จินตนาการกับสถานการณ์ใกล้ตัว
- จุดเด่น: นำเสนอชีวิตประจำวันของเด็ก、ภาพลายเส้นเรียบง่าย สีสันสดใส、เนื้อหาสนุก ตลก、สอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ、ปลูกฝังเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- กระตุ้นให้เด็กๆ นำเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของตัวเองมาปรับใช้กับการเล่นตามจินตนาการ เหมือนที่เป๊ปป้าแปลงกิจกรรมธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องสนุก
- ชวนให้เด็กๆ จินตนาการถึงบทบาทต่างๆ ที่ตัวละครในเรื่องเล่น เช่น เป็นคุณหมอ เป็นครู หรือเป็นนักสำรวจ
- ส่งเสริมการเล่าเรื่อง (Storytelling) โดยเด็กๆ สามารถนำเหตุการณ์จากการ์ตูนไปเล่าต่อ หรือสร้างเรื่องราวใหม่ๆ ในจินตนาการของตัวเองได้
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กเล็กมาก ที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันและคำศัพท์ง่ายๆ, ช่วงเวลาเล่นบทบาทสมมติหรือเล่าเรื่อง
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน (โดยประมาณ) | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | สตูดิโอ |
---|
Netflix, YouTube, อื่นๆ | หลายซีซัน | 5-7 นาที | 2004 | Astley Baker Davies |
6. My Little Pony: Friendship is Magic
- ชื่อเรื่อง: My Little Pony: Friendship is Magic
- แนว: แอนิเมชั่น / แฟนตาซี / มิตรภาพ
- เหมาะสำหรับวัย: 5-10 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: การผจญภัยของ ทไวไลท์ สปาร์เคิล ยูนิคอร์นนักเรียนผู้ขยันเรียน และเพื่อนๆ โพนี่หลากสายพันธุ์ในดินแดนเอเควสเทรีย การ์ตูนเรื่องนี้เน้นการสอนบทเรียนเกี่ยวกับมิตรภาพ การยอมรับความแตกต่าง และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และสิ่งมีชีวิตแฟนตาซี เด็กๆ จะได้ปลดปล่อยจินตนาการไปกับการผจญภัยสุดตื่นเต้นของเหล่าโพนี่ เรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์โลกในฝันของตัวเอง และเข้าใจคุณค่าของการเป็นเพื่อนที่ดี
- จุดเด่น: สอนเรื่องมิตรภาพและคุณธรรม、สร้างโลกแฟนตาซีที่น่าตื่นตา、ตัวละครมีเสน่ห์ หลากหลาย、เพลงประกอบเพราะ、เนื้อหาเข้มข้นขึ้นตามวัย
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้จินตนาการถึงดินแดนเวทมนตร์ สถานที่ ตัวละคร และเหตุการณ์แฟนตาซีต่างๆ นอกเหนือจากโลกความเป็นจริง
- กระตุ้นให้เด็กๆ สร้างเรื่องราวหรือการผจญภัยใหม่ๆ ให้กับตัวละครที่พวกเขาชื่นชอบ และนำคุณสมบัติพิเศษของโพนี่แต่ละตัวมาใช้ในจินตนาการ
- ส่งเสริมการคิดเชิงสัญลักษณ์ โดยเด็กๆ อาจใช้ของเล่นโพนี่หรือสิ่งของรอบตัวมาสวมบทบาทเป็นตัวละครและสถานการณ์ในการ์ตูน
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กที่ชอบเรื่องเวทมนตร์ แฟนตาซี และการผจญภัย, การเล่นบทบาทสมมติกับเพื่อนๆ, การเรียนรู้เรื่องมิตรภาพ
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | สตูดิโอ |
---|
Netflix, AIS PLAY, TRUE ID, อื่นๆ | 9 | 22 นาที | 2010 | Hasbro Studios, DHX Media |
7. Care Bears & Cousins
- ชื่อเรื่อง: Care Bears & Cousins
- แนว: แอนิเมชั่น / เรียนรู้อารมณ์ / มิตรภาพ
- เหมาะสำหรับวัย: 4-7 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: กลับมาอีกครั้งกับเหล่าหมีแคร์แบร์สุดน่ารัก พร้อมกับญาติๆ ของพวกเขา การ์ตูนเรื่องนี้เน้นการสอนเด็กๆ เกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึก และการแสดงความห่วงใยต่อผู้อื่น ในโลกที่เต็มไปด้วยสีสันและความนุ่มฟู เหล่าแคร์แบร์และญาติๆ จะช่วยเหลือกันและกันเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยใช้สัญลักษณ์บนท้องที่เป็นพลังพิเศษ การ์ตูนเรื่องนี้ช่วยส่งเสริมจินตนาการของเด็กๆ ผ่านโลกที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก และชวนให้พวกเขาคิดถึงวิธีการแสดงความรู้สึกดีๆ ต่อผู้อื่น
- จุดเด่น: สอนเรื่องอารมณ์และความรู้สึก、ส่งเสริมการแสดงความห่วงใย、ตัวละครน่ารัก สบายตา、เน้นการทำงานเป็นทีม、เพลงประกอบสดใส
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- ชวนให้เด็กๆ จินตนาการถึงการแสดงความรู้สึกต่างๆ ผ่านสัญลักษณ์หรือท่าทาง เหมือนที่แคร์แบร์ใช้สัญลักษณ์บนท้อง
- กระตุ้นให้เด็กๆ สร้างสถานการณ์จำลองในจินตนาการเพื่อฝึกการรับมือกับอารมณ์ต่างๆ หรือการช่วยเหลือเพื่อนๆ เมื่อพวกเขารู้สึกไม่ดี
- ส่งเสริมการคิดเชิงนามธรรมเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก และการนำไปเชื่อมโยงกับการแสดงออกในชีวิตจริง
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการเรียนรู้เรื่องอารมณ์ความรู้สึก, การแสดงความห่วงใย, และการทำงานร่วมกับผู้อื่น, ช่วงเวลาผ่อนคลาย, การเล่นบทบาทสมมติที่เน้นความรู้สึก
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | รูปแบบ |
---|
Netflix (ภาค Care Bears & Cousins) | 2 | 22 นาที | 2015 | ซีรีส์ |
8. Mickey Mouse Clubhouse
- ชื่อเรื่อง: Mickey Mouse Clubhouse
- แนว: แอนิเมชั่น / เรียนรู้ / ปริศนา
- เหมาะสำหรับวัย: 3-6 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: การ์ตูนคลาสสิกจาก Disney ที่นำตัวละครยอดนิยมอย่าง มิกกี้เมาส์ มินนี่เมาส์ โดนัลด์ดั๊ก กู๊ฟฟี่ และพลูโต มาชวนเด็กๆ ร่วมไขปริศนาและแก้ปัญหาต่างๆ โดยใช้เครื่องมือวิเศษ "เมาส์เก็ตทูลส์" การ์ตูนเรื่องนี้เน้นการสอนเรื่องตัวเลข รูปทรง การนับ และทักษะการแก้ปัญหาง่ายๆ ผ่านการโต้ตอบกับผู้ชม เด็กๆ จะได้ใช้ความคิดและจินตนาการเพื่อช่วยมิกกี้และเพื่อนๆ ทำภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งเป็นการส่งเสริมทักษะการคิดเชิงตรรกะและจินตนาการในการหาทางออก
- จุดเด่น: ตัวละครคลาสสิกเป็นที่รู้จัก、ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องตัวเลขและรูปทรง、เน้นการแก้ปัญหา、กระตุ้นการโต้ตอบกับผู้ชม、เพลงประกอบสนุก
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- ชวนให้เด็กๆ จินตนาการว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของทีมมิกกี้ และคิดหาวิธีใช้ "เมาส์เก็ตทูลส์" หรือสิ่งของอื่นๆ ในจินตนาการเพื่อช่วยแก้ปัญหา
- กระตุ้นให้เด็กๆ ใช้จินตนาการในการมองสถานการณ์ต่างๆ และคิดถึงความเป็นไปได้ของคำตอบหรือวิธีการแก้ไขปัญหา
- ส่งเสริมการคิดเชิงเหตุผลและการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งของกับฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการคิดสร้างสรรค์
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กที่ชื่นชอบตัวละครดิสนีย์คลาสสิก, การเรียนรู้เรื่องตัวเลขและรูปทรง, การฝึกทักษะการแก้ปัญหาเบื้องต้น
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | สตูดิโอ |
---|
Disney+, Disney Junior, อื่นๆ | 4 | 23 นาที | 2006 | Disney Television Animation |
9. Robocar Poli
- ชื่อเรื่อง: Robocar Poli
- แนว: แอนิเมชั่น / ผจญภัย / ปลอดภัย
- เหมาะสำหรับวัย: 3-6 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: เรื่องราวของทีมกู้ภัยแปลงร่างในเมืองบรูมส์ทาวน์ นำโดย โพลี่ รถตำรวจ โรบี้ รถดับเพลิง แอมเบอร์ รถพยาบาล และ เฮลลี่ เฮลิคอปเตอร์ พวกเขาพร้อมช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่กำลังเดือดร้อนจากอุบัติเหตุต่างๆ การ์ตูนเรื่องนี้เน้นการสอนเรื่องความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน การทำงานเป็นทีม และการช่วยเหลือผู้อื่น แม้จะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก แต่การที่ตัวละครเป็นยานพาหนะที่แปลงร่างได้ และมีการปฏิบัติภารกิจกู้ภัย ก็ช่วยกระตุ้นจินตนาการของเด็กๆ ในเรื่องการผจญภัยและการช่วยเหลือ
- จุดเด่น: สอนเรื่องความปลอดภัย、ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม、ตัวละครแปลงร่างได้น่าสนใจ、ภาพสวยงาม、เน้นการช่วยเหลือผู้อื่น
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- ชวนให้เด็กๆ จินตนาการถึงความสามารถพิเศษของยานพาหนะต่างๆ และคิดว่ายานพาหนะเหล่านั้นสามารถแปลงร่างหรือทำอะไรได้บ้าง
- กระตุ้นให้เด็กๆ สร้างสถานการณ์ฉุกเฉินจำลองในจินตนาการ และคิดถึงวิธีการที่ทีมโรโบคาร์โพลี่จะเข้ามาช่วยเหลือ
- ส่งเสริมการเล่นบทบาทสมมติเกี่ยวกับการกู้ภัย การช่วยเหลือผู้อื่น และการทำงานเป็นทีม
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กที่ชื่นชอบยานพาหนะ, เรื่องราวการกู้ภัยและการช่วยเหลือ, การเรียนรู้เรื่องความปลอดภัย, การเล่นบทบาทสมมติเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจ
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน (โดยประมาณ) | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | สตูดิโอ | ภาษา |
---|
YouTube, Netflix (บางภูมิภาค), อื่นๆ | 4+ | 11 นาที | 2011 | RoiVisual | มีพากย์ไทย |
10. Louie
- ชื่อเรื่อง: Louie
- แนว: แอนิเมชั่น / สอนวาดรูป / สร้างสรรค์
- เหมาะสำหรับวัย: 3-6 ปี
- คำอธิบายโดยย่อ: ลูอี้ กระต่ายน้อยนักวาดรูป และ โยโกะ เพื่อนเต่าทองของเขา จะมาชวนเด็กๆ เรียนรู้วิธีวาดรูปสิ่งต่างๆ รอบตัวทีละขั้นตอน ตั้งแต่สัตว์ สิ่งของ ไปจนถึงยานพาหนะ การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้เน้นเนื้อเรื่องซับซ้อน แต่เน้นการสอนทักษะการวาดรูปพื้นฐานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ภาพวาดดูเรียบง่าย น่ารัก และทำตามได้ไม่ยาก การ์ตูนเรื่องนี้เป็นเหมือนการจุดประกายให้นักวาดตัวน้อยได้ปลดปล่อยจินตนาการผ่านลายเส้นและสีสัน และเห็นว่าการวาดรูปไม่ใช่เรื่องยาก ใครๆ ก็เป็นศิลปินได้!
- จุดเด่น: สอนวาดรูปทีละขั้นตอน、ส่งเสริมทักษะศิลปะ、ภาพวาดน่ารัก ทำตามง่าย、กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์、เหมาะสำหรับเด็กที่ชอบวาดรูป
- ฟังก์ชัน/ข้อดีในการเสริมสร้างจินตนาการ:
- เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ อยากลองวาดรูปสิ่งต่างๆ ที่เห็นในการ์ตูน หรือวาดสิ่งที่พวกเขาจินตนาการขึ้นมาเอง
- ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาทักษะการใช้มือและตาให้ประสานกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายทอดสิ่งที่คิดในจินตนาการออกมาเป็นภาพ
- ส่งเสริมให้เด็กๆ คิดสร้างสรรค์ในการใช้สีหรือการดัดแปลงรูปทรงพื้นฐานที่เรียนรู้จากการ์ตูนไปสร้างผลงานของตัวเอง
- สถานการณ์หรือกลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะสม: เหมาะสำหรับเด็กที่สนใจศิลปะและการวาดรูป, กิจกรรมครอบครัวที่เกี่ยวกับการวาดรูป, การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานศิลปะ
แพลตฟอร์ม | จำนวนซีซัน (โดยประมาณ) | ความยาวต่อตอน | ปีที่เริ่มฉาย | รูปแบบ |
---|
YouTube, อื่นๆ | 3+ | 7-10 นาที | 2008 | Millimages |
แนะนำวิธีการเลือกซื้อ (หรือเลือกชม) การ์ตูนเสริมสร้างจินตนาการให้ลูกรัก
- 1. เลือกการ์ตูนให้ตรงกับวัยและพัฒนาการของลูก
อันนี้สำคัญสุดๆ ค่ะคุณพ่อคุณแม่ การ์ตูนที่ดีต้องเหมือนเสื้อผ้าที่พอดีตัวลูก ไม่หลวมไป ไม่คับไป หมายถึงเนื้อหาต้องเหมาะสมกับช่วงวัยของเขาด้วย เด็กเล็กมากๆ วัยเตาะแตะ 2-3 ขวบ อาจจะเหมาะกับการ์ตูนที่เน้นภาพ สีสันสดใส ตัวละครพูดช้าๆ เข้าใจง่ายๆ เนื้อหาไม่ซับซ้อน เน้นเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน เช่น การกิน การนอน การเล่น หรือเรียนรู้คำศัพท์ง่ายๆ อย่าง Peppa Pig หรือ Pocoyo เพราะสมองเขายังอยู่ในช่วงเรียนรู้สิ่งพื้นฐาน การ์ตูนแนวนี้จะช่วยให้เขาเชื่อมโยงสิ่งที่เห็นกับการใช้ชีวิตจริงได้ดี พอโตขึ้นมาหน่อย 4-6 ขวบ เริ่มเข้าสู่วัยอนุบาล เริ่มมีพัฒนาการด้านภาษาและสังคมมากขึ้น ก็สามารถดูการ์ตูนที่มีเนื้อเรื่องซับซ้อนขึ้นมาหน่อย มีตัวละครหลากหลาย มีปัญหาให้แก้ไข มีการผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ อย่าง Bluey, Charlie's Colorforms City หรือ Robocar Poli การ์ตูนแนวนี้จะช่วยกระตุ้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาง่ายๆ และส่งเสริมการเล่นตามบทบาทสมมติได้ดีเยี่ยม ส่วนเด็กประถม 7-10 ขวบ ก็จะดูการ์ตูนที่มีเนื้อหาที่หลากหลายขึ้น แฟนตาซี ผจญภัย หรือสอดแทรกความรู้เฉพาะทางได้แล้ว อย่าง My Little Pony หรือ Ask the StoryBots การเลือกให้เหมาะกับวัยจะทำให้ลูกไม่เบื่อ ไม่รู้สึกว่ายากเกินไป หรือบางเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปก็อาจทำให้เขากลัวหรือสับสนได้ ลองสังเกตปฏิกิริยาของลูกขณะดูก็ได้ค่ะ ถ้าลูกดูแล้วมีความสุข สงสัย อยากรู้ หรือชวนเราคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ดู แสดงว่ามาถูกทางแล้ว แต่ถ้าดูแล้วนิ่งเฉย ไม่สนใจ หรือมีท่าทีกลัวๆ ก็อาจจะต้องลองเปลี่ยนเรื่องอื่นดูนะคะ การเลือกที่ใช่จะช่วยให้การดูการ์ตูนเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการเรียนรู้ที่แท้จริงสำหรับลูกค่ะ
- 2. ดูเนื้อหาที่เน้นการส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
หัวข้อบทความเราก็บอกอยู่เนอะว่าเน้นเสริมจินตนาการ เพราะฉะนั้นเวลาเลือกการ์ตูนให้ลูก นอกจากความสนุกแล้ว ต้องดูด้วยว่าการ์ตูนเรื่องนั้นมีอะไรที่ช่วยต่อยอดจินตนาการของเขาได้บ้าง การ์ตูนที่ดีไม่จำเป็นต้องมีเวทมนตร์อลังการเสมอไปค่ะ การ์ตูนที่พาเด็กๆ ไปสำรวจสิ่งรอบตัว ชวนตั้งคำถาม ชวนคิดหาวิธีแก้ปัญหา หรือนำเสนอการเล่นแบบง่ายๆ แต่สร้างสรรค์ ก็ช่วยเสริมจินตนาการได้เหมือนกัน อย่าง Bluey ที่เอาแค่หมอน ผ้าห่ม มาเล่นเป็นภูเขา เป็นเรือ หรือ Charlie's Colorforms City ที่ใช้รูปทรงพื้นฐานมาสร้างเป็นสิ่งของต่างๆ การ์ตูนแนวนี้จะกระตุ้นให้ลูกคิดว่า "เออ ของแบบนี้ทำเป็นอะไรได้อีกนะ" หรือ "ถ้าเราเจอสถานการณ์แบบนี้ จะทำยังไงดี" มันเป็นการเปิดโลกความคิดของเขาให้กว้างขึ้น ไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งที่เห็นตรงหน้าอย่างเดียว การ์ตูนที่สอดแทรกความรู้รอบตัวแบบสนุกๆ อย่าง Ask the StoryBots ก็ดีนะ เพราะยิ่งรู้เยอะ ก็ยิ่งมีวัตถุดิบไปต่อยอดจินตนาการได้เยอะ หรือการ์ตูนที่สอนทักษะอย่าง Louie ที่สอนวาดรูป ก็เป็นการให้เครื่องมือกับเด็กๆ ในการถ่ายทอดจินตนาการออกมาเป็นรูปธรรม การ์ตูนบางเรื่องอาจจะเน้นความสนุกอย่างเดียว ไม่ได้มีเนื้อหาส่งเสริมตรงๆ อันนี้ก็อาจจะต้องอาศัยบทบาทคุณพ่อคุณแม่ชวนคุย ชวนเล่นต่อยอดจากสิ่งที่ลูกดูนะคะ สรุปง่ายๆ คือ มองหาการ์ตูนที่ดูแล้วลูกตาลุกวาว อยากรู้อยากเห็น อยากทำตาม หรือดูจบแล้วไปหยิบของมาเล่นต่อยอด นั่นแหละคือการ์ตูนที่ช่วยเสริมจินตนาการได้จริงค่ะ
- 3. สังเกตคุณภาพของงานสร้างและภาษาที่ใช้
เรื่องคุณภาพของงานสร้างนี่ก็มองข้ามไม่ได้นะคะคุณพ่อคุณแม่ ไม่ใช่แค่ภาพสวยอย่างเดียว แต่หมายถึงความเหมาะสมกับเด็กๆ ด้วย ภาพที่ใช้ควรมีสีสันสดใส แต่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป หรือมีแสงแฟลชที่อาจเป็นอันตรายต่อสายตา เนื้อหาต้องไม่มีความรุนแรง ฉากที่น่ากลัว หรือภาษาที่ไม่เหมาะสม เสียงพากย์ควรชัดเจน ฟังง่าย เป็นมิตร บางเรื่องอาจจะมีเพลงประกอบอันนี้ก็เป็นข้อดีค่ะ เพลงที่สนุกและมีความหมายดีๆ ก็ช่วยเสริมพัฒนาการด้านภาษาและอารมณ์ของเด็กได้ หรือถ้าอยากให้ลูกได้ฝึกภาษาต่างประเทศ การ์ตูนที่มีพากย์หลายภาษาหรือมีซับไตเติลให้เลือกก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ อย่าง Peppa Pig หรือ Pocoyo ที่มีหลายภาษาให้เลือก แต่ที่สำคัญคือเนื้อหาโดยรวมต้องเป็นไปในทางบวก สอนสิ่งดีๆ ให้กับเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิตรภาพ การแบ่งปัน ความพยายาม หรือการยอมรับความแตกต่างของผู้อื่น ลองดูรีวิวจากผู้ปกครองคนอื่นๆ หรือดูตัวอย่างสั้นๆ ก่อนตัดสินใจเปิดให้ลูกดูก็ได้นะคะ การลงทุนลงแรงเลือกการ์ตูนที่มีคุณภาพ จะส่งผลดีต่อพัฒนาการและสุขภาพจิตของลูกน้อยในระยะยาวแน่นอนค่ะ จำไว้ว่าการ์ตูนเป็นได้ทั้งเพื่อนและครูที่ดี แต่เราในฐานะผู้ปกครองต้องเป็นคนคัดกรองและแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขาค่ะ
- 4. ใช้การ์ตูนเป็นสื่อกลางในการพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน
อย่าปล่อยให้ลูกนั่งดูการ์ตูนอยู่คนเดียวเหงาๆ นะคะคุณพ่อคุณแม่ การ์ตูนจะเป็นประโยชน์สูงสุดเมื่อเราได้ใช้เวลาร่วมกับลูกในขณะที่เขาดูด้วย หรือหลังจากดูจบแล้ว ลองชวนลูกคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ดู ถามความคิดเห็นเขา เช่น "ลูกชอบตัวละครตัวไหนที่สุด" "ทำไมถึงชอบ" "เกิดอะไรขึ้นในตอนนี้" หรือ "ถ้าลูกเป็นตัวละครตัวนี้ ลูกจะทำยังไง" การชวนคุยแบบนี้เป็นการกระตุ้นให้ลูกได้คิดวิเคราะห์ แสดงความคิดเห็น และฝึกการใช้ภาษาได้ดีมากๆ นอกจากนี้ยังสามารถนำเนื้อหาจากการ์ตูนมาต่อยอดเป็นกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น ถ้าดูการ์ตูนเกี่ยวกับสัตว์ ก็ชวนลูกวาดรูปสัตว์ ปั้นดินน้ำมันเป็นรูปสัตว์ หรือไปสวนสัตว์จำลอง ถ้าดูการ์ตูนสอนเรื่องรูปทรง ก็เอาบล็อกไม้มาต่อกันเป็นรูปทรงต่างๆ หรือหาของใช้ในบ้านที่เป็นรูปทรงตามที่เห็นในการ์ตูน หรือถ้าดูการ์ตูนสอนทำอาหาร ก็ชวนลูกเข้าครัวทำอาหารง่ายๆ ด้วยกัน การทำกิจกรรมร่วมกันแบบนี้ ไม่ใช่แค่เสริมสร้างจินตนาการและทักษะต่างๆ ให้ลูกเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาคุณภาพที่ได้สร้างความผูกพันและความทรงจำที่ดีในครอบครัวด้วยค่ะ อย่าลืมว่าเราคือแบบอย่างที่ดีที่สุดของลูก การที่เราให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และการเล่นของเขา ก็เหมือนเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้และการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ให้กับเขาตั้งแต่ยังเล็กค่ะ ใช้การ์ตูนให้เป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ความสุขและการเรียนรู้ในบ้านเรานะคะ!
คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการ์ตูนสำหรับเด็กเสริมสร้างจินตนาการ
- Q: ควรให้ลูกดูการ์ตูนตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
A: ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่า ควรจำกัดการดูสื่อหน้าจอสำหรับเด็กเล็กมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการดูเลยค่ะ ยกเว้นการวิดีโอคอลกับคนในครอบครัว พอเข้าสู่ช่วง 18-24 เดือน หากจะให้ดู ก็ควรเลือกเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง และต้องนั่งดูไปกับลูกด้วย เพื่ออธิบายสิ่งที่เขาเห็นและส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน สำหรับเด็กวัย 2-5 ปี ควรจำกัดเวลาดูสื่อหน้าจอรวมกันไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง และควรเลือกเนื้อหาที่มีประโยชน์และมีการโต้ตอบ เช่น การ์ตูนเสริมพัฒนาการต่างๆ ที่เราแนะนำไป และอย่าลืมว่าการเล่นกับผู้ปกครอง การสำรวจโลกแห่งความเป็นจริง และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ยังคงมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กมากกว่าการดูการ์ตูนเสมอค่ะ
- Q: ดูการ์ตูนเยอะๆ จะทำให้ลูกสมาธิสั้นจริงไหม?
A: การดูการ์ตูนเยอะเกินไป หรือการดูเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับวัย อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กได้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการ์ตูนมีฉากรวดเร็ว เปลี่ยนไปมาตลอดเวลา อาจทำให้เด็กเคยชินกับการกระตุ้นที่รวดเร็ว และมีปัญหาในการจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ที่ใช้เวลานานขึ้นในชีวิตจริง นอกจากนี้ การใช้เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป ยังทำให้เด็กมีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ที่สำคัญต่อพัฒนาการน้อยลง เช่น การเล่นกลางแจ้ง การอ่านนิทาน การทำกิจกรรมศิลปะ หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม การดูการ์ตูนอย่างเหมาะสม เลือกเนื้อหาที่ดี และมีการดูแลจากผู้ปกครอง ก็สามารถเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และจินตนาการของเด็กได้ค่ะ หัวใจสำคัญคือความสมดุลและการจำกัดเวลาที่เหมาะสมค่ะ
- Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าการ์ตูนเรื่องไหนช่วยเสริมสร้างจินตนาการได้จริง?
A: การ์ตูนที่ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ มักจะมีลักษณะที่ชวนให้เด็กๆ คิดตาม คิดต่อยอด หรือนำไปเล่นตามได้ค่ะ ลองสังเกตว่าหลังจากที่ลูกดูการ์ตูนเรื่องนั้นแล้ว เขามีพฤติกรรมอย่างไร เช่น เขามีการเลียนแบบท่าทางหรือบทพูดของตัวละครไหม เขาเอาของเล่นหรือสิ่งของรอบตัวมาสมมติเป็นสิ่งต่างๆ ในการ์ตูนไหม เขาสร้างเรื่องราวต่อจากที่ดูจบในจินตนาการของตัวเองไหม หรือเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเห็นและอยากรู้เพิ่มเติมไหม หากมีพฤติกรรมเหล่านี้ แสดงว่าการ์ตูนเรื่องนั้นได้กระตุ้นจินตนาการของเขาได้สำเร็จค่ะ นอกจากนี้ การ์ตูนที่เปิดโอกาสให้เด็กได้คิดหาวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ มีฉากที่ชวนให้สงสัย หรือนำเสนอโลกที่แตกต่างจากความเป็นจริง ก็มีแนวโน้มที่จะช่วยเสริมสร้างจินตนาการได้ดีค่ะ การอ่านรีวิวหรือสอบถามจากผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็เป็นอีกวิธีในการค้นหาการ์ตูนดีๆ ได้นะคะ
- Q: มีการ์ตูนไทยเรื่องไหนแนะนำบ้างไหมที่ช่วยเสริมจินตนาการ?
A: ปัจจุบันมีการ์ตูนไทยดีๆ ที่สร้างสรรค์และสอดแทรกแง่คิด รวมถึงส่งเสริมจินตนาการอยู่หลายเรื่องเหมือนกันค่ะ แม้บางเรื่องอาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าการ์ตูนต่างประเทศ แต่ก็มีคุณภาพและเหมาะสมกับเด็กไทย เช่น การ์ตูนที่สร้างจากนิทานพื้นบ้านไทย การ์ตูนที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรมไทย หรือการ์ตูนที่สอนเรื่องคุณธรรมจริยธรรมผ่านตัวละครที่น่ารัก ลองค้นหาดูตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ หรือช่องทีวีสำหรับเด็กของไทยนะคะ การสนับสนุนการ์ตูนไทยนอกจากจะช่วยเสริมสร้างจินตนาการแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังความเป็นไทยให้กับลูกน้อยด้วยค่ะ การ์ตูนบางเรื่องอาจจะไม่ได้เน้นจินตนาการโดยตรง แต่อาจจะเน้นด้านภาษา หรือสังคม ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการในด้านอื่นๆ เช่นกัน ลองเลือกที่ลูกชอบและเหมาะสมกับวัยดูนะคะ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง