10 เราเตอร์ใส่ซิม 5G ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ความเร็ว 5G สัญญาณแรง

สวัสดีครับทุกคน! 👋 ยุค 5G มาแล้ว ชีวิตก็ต้องเร็วขึ้นตาม! ไม่ว่าจะดูหนัง 4K แบบไม่กระตุก ประชุมออนไลน์แบบภาพคมชัด หรือเล่นเกมนอกบ้านแบบ Low Latency การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสาย Fiber Optic อาจจะไม่ใช่ทางเลือกเดียวที่ตอบโจทย์อีกต่อไปแล้วนะครับ

ตอนนี้มีอีก Gadget นึงที่มาแรงแซงทางโค้งมากๆ นั่นก็คือ "เราเตอร์ใส่ซิม 5G" นี่แหละครับ! เจ้าเครื่องนี้มันก็คือเราเตอร์ Wi-Fi ดีๆ นี่แหละ แต่ความพิเศษคือมันมีช่องให้เราเอาซิมมือถือ 5G ที่เราใช้อยู่นี่แหละเสียบเข้าไป แล้วมันก็จะแปลงสัญญาณมือถือเป็น Wi-Fi ความแรงสูงให้เราใช้ได้ทันที! สะดวกสุดๆ ไม่ต้องเดินสายให้ยุ่งยาก จะพกไปทำงานที่ไหนก็ได้ หรือจะใช้เป็นเน็ตบ้านสำรองตอนเน็ตหลักล่มก็ยังไหว บอกเลยว่าชีวิตง่ายขึ้นเยอะ!

แต่พอจะซื้อปุ๊บ อ้าว... ในตลาดมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นเหลือเกิน ทั้งแบรนด์คุ้นหู แบรนด์ใหม่ๆ จนเลือกไม่ถูกว่าจะเอาตัวไหนดีที่ สัญญาณแรงจริง เน็ตเร็วโดนใจ แถมคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป ไม่ต้องกลัวซื้อมาแล้วผิดหวังใช่ไหมล่ะครับ 🤔

ไม่ต้องกังวลครับ! บทความนี้ผมที่เป็นมนุษย์ติดเน็ตแบบเข้าเส้น จะขออาสาพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกทำความรู้จักกับเราเตอร์ใส่ซิม 5G พร้อมแนะนำ 10 ตัวเด็ดที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ มีลิสต์ในใจพร้อมพุ่งตัวไปช้อปแน่นอน!

ตลาดเราเตอร์ใส่ซิม 5G ในไทย มาแรงแค่ไหน?

บอกเลยว่าตลาดเราเตอร์ใส่ซิม โดยเฉพาะที่รองรับ 5G เนี่ย กำลัง บูมสุดๆ ในไทย เลยครับ ด้วยความที่เครือข่าย 5G ครอบคลุมมากขึ้น แถมยังมี "ซิมรายปี" หรือแพ็กเกจเน็ตมือถือแบบไม่จำกัดปริมาณออกมาให้เลือกเยอะและคุ้มค่ากว่าเมื่อก่อน ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยหันมามองเราเตอร์ใส่ซิมเป็นทางเลือกแทนอินเทอร์เน็ตบ้านแบบเดิมๆ ครับ

กลุ่มที่นิยมใช้ก็หลากหลายครับ ทั้งคนที่อยู่หอพัก คอนโด หรือบ้านที่เดินสาย Fiber Optic ไม่สะดวก, กลุ่มคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ อยากมีเน็ตพกพาแรงๆ ไว้ใช้, หรือแม้แต่ร้านค้า ร้านกาแฟที่ต้องการเน็ตสำรองหรือเน็ตหลักที่ยืดหยุ่น

แบรนด์ที่เห็นในตลาดส่วนใหญ่ก็ยังเป็นแบรนด์ต่างชาติเจ้าใหญ่ๆ ที่ทำอุปกรณ์ Network อยู่แล้ว เช่น TP-Link, D-Link, Tenda, Huawei, ZTE, Zyxel ครับ ส่วนแบรนด์จากค่ายมือถือไทยอย่าง AIS หรือ True ก็มีเราเตอร์ใส่ซิม 4G/5G ออกมาให้เลือกเหมือนกัน

แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิต แน่นอนว่าต้องเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ขวัญใจคนไทยอย่าง Lazada และ Shopee ที่มีร้านค้า Official Store และร้านอื่นๆ ให้เลือกเยอะ มีโปรโมชั่นส่วนลดมาเรื่อยๆ หรือถ้าใครอยากเห็นของจริง สัมผัสตัวเครื่องก่อน ก็ต้องไปตามร้านอุปกรณ์ไอทีชั้นนำ เช่น JIB, Advice, BaNANA หรือ Power Buy ครับ

เลือกเราเตอร์ใส่ซิม 5G ยังไงให้ได้ของดี?

ก่อนจะเสียบซิมแล้วท่องโลกอินเทอร์เน็ตแบบ Non-Stop เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้เราเตอร์ใส่ซิม 5G ที่ตรงใจที่สุดครับ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจได้เลย:

จัดมา! 10 เราเตอร์ใส่ซิม 5G น่าสอย ปี 2025!

ถึงเวลาพระเอกของงานแล้วครับ! ผมคัดมาให้แล้ว 10 รุ่น (มีทั้ง 5G และ 4G ที่น่าสนใจเผื่อเป็นตัวเลือก) จากแบรนด์ยอดนิยมในตลาดไทย ที่ได้รับการพูดถึงเรื่องความแรงและความเสถียร ลองดูแล้วเลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณได้เลยครับ!

1. TP-Link Deco X50-5G

• เกี่ยวกับแบรนด์: TP-Link (แบรนด์จากจีน) เจ้าตลาดอุปกรณ์ Network มีสินค้าหลากหลาย คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล.
• สินค้ารุ่นเด่น: Deco X50-5G
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นเราเตอร์ระบบ Mesh Wi-Fi รองรับ 5G ในตัว ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวาง ติดตั้งง่ายผ่านแอป Deco รองรับ Wi-Fi 6 ความเร็วสูง. เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เยอะถึง 150+ เครื่อง.
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าเราเตอร์ 5G แบบเดี่ยว. สเปกอาจจะสูงเกินไปถ้าไม่ได้ใช้ Mesh และเน้นใช้งานธรรมดา.
• เหมาะกับใคร: บ้านขนาดใหญ่ที่ต้องการ Wi-Fi ครอบคลุมทั้งบ้าน, คนที่ใช้อุปกรณ์ Smart Home เยอะ, ต้องการความเสถียรของสัญญาณสูง.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee, Central Online. Offline: BaNANA IT, JIB, Advice, Power Buy.
• ช่วงราคา: ประมาณ 8,xxx - 1x,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เอามาใช้กับบ้านพักตากอากาศ สัญญาณดี ครอบคลุมทั้งบ้านเลย ประทับใจมาก" "ตั้งค่าง่ายผ่านแอป Deco สะดวกสุดๆ"

2. ZYXEL FWA505

• เกี่ยวกับแบรนด์: Zyxel (แบรนด์จากไต้หวัน) มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ Network สำหรับองค์กรและผู้ใช้ทั่วไป.
• สินค้ารุ่นเด่น: FWA505
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รองรับ 5G ความเร็วสูงถึง 4.7 Gbps และ Wi-Fi 6 แบบ Dual-Band ความเร็วรวม 1,774 Mbps. มีพอร์ต LAN/WAN ครบ เหมาะกับออฟฟิศหรือธุรกิจขนาดเล็ก. มีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง WPA3.
  • ข้อเสีย: ราคาสูง. ดีไซน์อาจจะดูธรรมดาไปหน่อย.
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเราเตอร์ 5G ประสิทธิภาพสูงมากๆ สำหรับ Work From Home, สตรีมเมอร์, หรือใช้งานในออฟฟิศ/ร้านค้าที่ต้องการเน็ตแรงและเสถียร.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee. Offline: ร้านอุปกรณ์ Network เฉพาะทาง, บางร้านใน Advice/JIB.
• ช่วงราคา: ประมาณ 7,xxx - 9,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ได้รีวิว 5 ดาวส่วนใหญ่ แรงดี รองรับซิมหลายเครือข่าย สัญญาณเสถียรดี" "พอร์ต LAN ครบ ต่ออุปกรณ์ได้เยอะดี"

3. D-Link DWR-X2000

• เกี่ยวกับแบรนด์: D-Link (แบรนด์จากไต้หวัน) เป็นอีกแบรนด์ใหญ่ในวงการ Network มีสินค้าหลากหลายระดับราคา.
• สินค้ารุ่นเด่น: DWR-X2000
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รองรับ 5G ความเร็วสูงสุด 2.6 Gbps. มี Built-in Wi-Fi 6. เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 32 เครื่อง. มีพอร์ต LAN/WAN ให้เชื่อมต่อ.
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง. ใช้ได้เฉพาะ Nano SIM.
• เหมาะกับใคร: คนที่ชอบความเร็ว 5G พร้อม Wi-Fi 6 ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ารุ่น Hi-End บางตัว, ใช้ในบ้านหรือหอพักที่ต้องการเน็ตแรงและเสถียร.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee. Offline: BaNANA IT, JIB, Advice, Power Buy.
• ช่วงราคา: ประมาณ 4,xxx - 6,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เร้าเตอร์ใส่ซิม 5G น้องใหม่ เร็วแรงง" "รองรับ 5G + Wi-Fi 6 สเปกดีในราคานี้"

4. TP-Link Archer NX200 5G

• เกี่ยวกับแบรนด์: TP-Link (แบรนด์จากจีน) เน้นความคุ้มค่าและเทคโนโลยีใหม่ๆ.
• สินค้ารุ่นเด่น: Archer NX200 5G
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รองรับ 5G ความเร็วสูงสุด 4.67 Gbps. มาพร้อม Wi-Fi 6 (AX1800) แบบ Dual-Band. รองรับ EasyMesh. มีพอร์ต LAN ให้เชื่อมต่อ. ติดตั้งง่ายแบบ Plug & Play.
  • ข้อเสีย: ราคายังถือว่าสูงอยู่.
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการ 5G แบบเต็มสปีด พร้อมเทคโนโลยี Wi-Fi 6 และฟีเจอร์ Mesh ในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น เหมาะกับบ้านหรือออฟฟิศ.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee. Offline: BaNANA IT, JIB, Advice, Power Buy.
• ช่วงราคา: ประมาณ 5,xxx - 7,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เร็วแรงตามสเปกเลยครับ ใช้ดีไม่มีปัญหา" "รองรับ EasyMesh เอามาต่อกับตัวอื่นในบ้านได้สะดวก"

5. Tenda 5G03

• เกี่ยวกับแบรนด์: Tenda (แบรนด์จากจีน) นำเสนออุปกรณ์ Network ในราคาที่เข้าถึงง่าย.
• สินค้ารุ่นเด่น: 5G03
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รองรับ 5G และ 4G. มาพร้อม Wi-Fi 6 (AX1800) Dual-Band ความเร็ว 1.2 Gbps. ติดตั้งง่ายแค่ใส่ซิมก็ใช้งานได้เลย. มีพอร์ต LAN ให้เชื่อมต่อ.
  • ข้อเสีย: ความเร็ว Wi-Fi อาจไม่สูงเท่าบางรุ่น. การรับประกันอาจมีระยะเวลาสั้นกว่าบางแบรนด์.
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเราเตอร์ใส่ซิม 5G พร้อม Wi-Fi 6 ในราคาที่คุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในบ้านหรือหอพัก.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee. Offline: ร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไป.
• ช่วงราคา: ประมาณ 5,xxx - 6,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ใส่ซิมแล้วใช้ได้เลย ง่ายมาก สัญญาณดี" "ราคากับสเปก 5G+Wi-Fi 6 ถือว่าคุ้ม"

6. HUAWEI 5G CPE Pro 2

• เกี่ยวกับแบรนด์: Huawei (แบรนด์จากจีน) เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G มีอุปกรณ์ Network คุณภาพสูง.
• สินค้ารุ่นเด่น: 5G CPE Pro 2
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รองรับ 5G และ 4G ความเร็วสูง. ดีไซน์มินิมอลสวยงาม. มีพอร์ต LAN หลายพอร์ต รองรับอุปกรณ์ได้เยอะถึง 128 เครื่อง. รองรับทั้ง 2.4GHz และ 5GHz.
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง. บางคนอาจกังวลเรื่องความเสถียรในระยะยาว (จากรีวิวรุ่นเก่า).
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเราเตอร์ 5G ดีไซน์สวย ประสิทธิภาพดี รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก เหมาะกับบ้านหรือออฟฟิศที่เน้นความสวยงามและฟังก์ชันครบครัน.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Huawei Store, Lazada, Shopee. Offline: บางร้านใน BaNANA IT, JIB, Advice.
• ช่วงราคา: ประมาณ 7,xxx - 1x,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ดีไซน์สวยมาก วางตรงไหนก็ดูดี" "สัญญาณดี เชื่อมต่อมือถือ Huawei ง่ายด้วย"

7. ZTE MU5002 / MU5120

• เกี่ยวกับแบรนด์: ZTE (แบรนด์จากจีน) เป็นอีกผู้เล่นหลักในตลาดอุปกรณ์ Network และ 5G.
• สินค้ารุ่นเด่น: MU5002 (Pocket WiFi), MU5120 (Pocket WiFi)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: เป็นแบบ Pocket WiFi ขนาดเล็ก พกพาสะดวกมาก. รองรับ 5G และ 4G. มีแบตเตอรี่ในตัว ใช้งานได้ต่อเนื่อง. MU5120 แบตเตอรี่อึด 10,000 mAh. มีจอแสดงผลสถานะ.
  • ข้อเสีย: รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้น้อยกว่าเราเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (ประมาณ 10-32 เครื่อง). ราคาอาจสูงกว่า Pocket WiFi 4G ทั่วไป.
• เหมาะกับใคร: คนที่เน้นพกพาไปใช้นอกสถานที่บ่อยๆ ต้องการ Pocket WiFi 5G ความเร็วสูง แบตอึด เหมาะกับนักเดินทาง หรือคนที่ต้องทำงานนอกบ้าน.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee. Offline: บางร้านใน BaNANA IT, JIB, Advice.
• ช่วงราคา: ประมาณ 5,xxx - 8,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ตัวเล็กมาก พกใส่กระเป๋าสบาย แบตอึดใช้ได้นาน" "เน็ต 5G แรงดี เวลาออกไปทำงานข้างนอก"

8. T3 Smart 5G CPE Pro C56

• เกี่ยวกับแบรนด์: T3 Smart (แบรนด์ไทย) มีสินค้า Smart Home และอุปกรณ์ Network ที่เน้นความง่ายในการใช้งาน.
• สินค้ารุ่นเด่น: 5G CPE Pro C56
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รองรับ 5G และ 4G. ติดตั้งง่าย แค่ใส่ซิมก็ใช้ได้เลย. รองรับ Mesh. รองรับอุปกรณ์ได้สูงสุด 128 เครื่อง. มีพอร์ต LAN ให้เชื่อมต่อ.
  • ข้อเสีย: อาจจะยังไม่คุ้นหูเท่าแบรนด์ใหญ่ๆ บางแบรนด์. ข้อมูลเชิงลึกอาจจะน้อยกว่า.
• เหมาะกับใคร: คนที่มองหาเราเตอร์ใส่ซิม 5G ที่ใช้งานง่ายมากๆ ไม่ยุ่งยาก เน้นเสียบแล้วใช้เลย เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือคนที่ไม่ถนัดตั้งค่าอุปกรณ์ Network ซับซ้อน.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee.
• ช่วงราคา: ประมาณ 4,xxx - 6,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "เสียบซิมปุ๊บ ใช้ได้เลย ง่ายจริงๆ" "สัญญาณดีครับ ใช้ในบ้านไม่มีปัญหา"

9. TOTOLINK LR1200

• เกี่ยวกับแบรนด์: TOTOLINK (แบรนด์จากเกาหลีใต้) มีอุปกรณ์ Network คุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้.
• สินค้ารุ่นเด่น: LR1200
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: รองรับ 5G, 4G, และ 3G. รองรับ Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 867 Mbps. เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 32 เครื่อง. ใช้งานง่ายกับซิมทุกค่าย. ราคาเป็นมิตร.
  • ข้อเสีย: ความเร็ว Wi-Fi อาจไม่สูงเท่ารุ่นที่เป็น Wi-Fi 6. ดีไซน์อาจจะไม่โดดเด่นนัก.
• เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเราเตอร์ใส่ซิมที่รองรับ 5G ในงบประมาณจำกัด เน้นใช้งานทั่วไปในบ้าน หรือหอพัก และต้องการรุ่นที่รองรับซิมได้หลากหลาย.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee.
• ช่วงราคา: ประมาณ 2,xxx - 3,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "คุ้มค่ามากครับ ใช้งานกับซิมรายปีได้ดีเลย" "รองรับ 5G ด้วย ในราคานี้ถือว่าโอเคเลย"

10. Ajiko Router RT1 / RT2

• เกี่ยวกับแบรนด์: Ajiko (แบรนด์ไทย) เน้นอุปกรณ์ Network ที่ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง.
• สินค้ารุ่นเด่น: Router RT1 (รองรับ 4G/5G ความเร็ว 150Mbps), Router RT2 (รองรับ 4G/5G ความเร็ว 300Mbps)
• วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
  • ข้อดี: ราคาถูกมาก เข้าถึงง่าย. รองรับซิมทุกเครือข่าย. ติดตั้งง่าย ไม่ต้องตั้งค่า. มีพอร์ต LAN ให้เชื่อมต่อ.
  • ข้อเสีย: ความเร็วสูงสุดไม่สูงเท่ารุ่นอื่นๆ ที่เป็น 5G แท้ๆ เน้นที่ 4G เป็นหลัก. รองรับอุปกรณ์ได้ 32 เครื่อง (รุ่น RT2).
• เหมาะกับใคร: คนที่งบประมาณจำกัดมากๆ แต่อยากได้เราเตอร์ใส่ซิมไว้ใช้งาน เน้นการใช้งานทั่วไป ไม่ได้ต้องการความเร็วสูงระดับ 5G แท้ๆ หรือใช้เป็นเน็ตสำรอง.
• ช่องทางการซื้อ: Online: Lazada, Shopee.
• ช่วงราคา: ประมาณ 8xx - 1,xxx บาท
• รีวิวผู้ใช้งาน: "ราคาหลักร้อย แต่ใช้งานได้จริง สัญญาณดีตามราคา" "ซื้อมาใช้กับกล้องวงจรปิด โอเคเลย"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทยใจเน็ต!

Q: เราเตอร์ใส่ซิม 5G จำเป็นต้องใช้กับซิม 5G เท่านั้นไหม?
A: ส่วนใหญ่แล้ว เราเตอร์ใส่ซิม 5G จะรองรับสัญญาณ 4G และ 3G ได้ด้วยครับ ถ้าพื้นที่ไหน 5G ยังไม่ถึง มันก็จะปรับไปจับสัญญาณ 4G/3G ให้เองอัตโนมัติ ไม่ต้องกังวลครับ

Q: เราเตอร์ใส่ซิม 5G ดีกว่าปล่อย Hotspot จากมือถือยังไง?
A: ดีกว่าแน่นอนครับ! เราเตอร์ใส่ซิมถูกออกแบบมาให้กระจายสัญญาณ Wi-Fi โดยเฉพาะ ทำให้สัญญาณเสถียรและแรงกว่าการปล่อย Hotspot จากมือถือที่มักจะร้อน เครื่องค้าง หรือแบตหมดไว. แถมเราเตอร์ยังรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้หลายอุปกรณ์กว่าด้วยครับ

Q: เราเตอร์ใส่ซิม 5G ยี่ห้อไหนสัญญาณแรงสุด ครอบคลุมพื้นที่กว้าง?
A: อันนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งตัวเราเตอร์เอง (จำนวนเสา, เทคโนโลยี Wi-Fi), คลื่นความถี่ที่ใช้ (2.4GHz ไปไกลกว่า 5GHz), และสภาพแวดล้อม (กำแพง สิ่งกีดขวาง). ถ้าเน้นครอบคลุมพื้นที่กว้างๆ ลองดูรุ่นที่เป็น Mesh อย่าง TP-Link Deco X50-5G หรือรุ่นที่มีเสาสัญญาณภายนอกหลายๆ เสาครับ.

Q: ซื้อเราเตอร์ใส่ซิม 5G ใน Lazada/Shopee เชื่อถือได้ไหม? มีของปลอมเยอะไหม?
A: บน Lazada/Shopee มีร้าน Official Store ของแบรนด์ต่างๆ เยอะครับ เลือกร้านที่เป็นทางการ หรือร้านที่มีเรตติ้งดีๆ ได้เลยครับ ส่วนเรื่องของปลอมก็มีโอกาสเจอได้บ้างในร้านที่ไม่น่าเชื่อถือ ราคาถูกเวอร์วังเกินจริง ให้เช็คดีๆ อ่านรีวิวเยอะๆ หรือถ้าไม่มั่นใจ ซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะปลอดภัยกว่าครับ

Q: เราเตอร์ใส่ซิม 5G กินไฟเยอะไหม?
A: เราเตอร์ใส่ซิมแบบตั้งโต๊ะที่เสียบปลั๊กตลอดจะกินไฟไม่มากครับ ใกล้เคียงกับเราเตอร์อินเทอร์เน็ตบ้านทั่วไป ส่วนแบบ Pocket WiFi ก็จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในตัวครับ.

สรุปและคำแนะนำ เลือกเราเตอร์ใส่ซิม 5G ให้โดนใจฉบับปี 2025!

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 เราเตอร์ใส่ซิม 5G ที่ผมคัดมาให้? หวังว่าจะพอเห็นภาพและมีตัวเลือกในใจกันบ้างแล้วนะครับ การจะเลือกรุ่นที่ "ใช่" ที่สุด ก็ต้องกลับมาดูที่ความต้องการและงบประมาณของตัวเองเป็นหลักครับ

• ถ้า งบประมาณจำกัดมากๆ แต่อยากลองใช้เราเตอร์ใส่ซิม ดูรุ่น Ajiko Router RT1/RT2 หรือ TOTOLINK LR1200 ครับ ราคาเป็นมิตรสุดๆ.
• ถ้าเน้น พกพาสะดวก ไปไหนมาไหนบ่อยๆ ต้องการ Pocket WiFi 5G ที่แบตอึดๆ ต้อง ZTE MU5002/MU5120 เลยครับ.
• ถ้าต้องการ เน็ตแรง สัญญาณดี ครอบคลุมทั้งบ้าน และมีงบประมาณหน่อย แนะนำ TP-Link Deco X50-5G ครับ เป็น Mesh Wi-Fi ในตัว.
• ถ้าเน้น สเปกดี ได้ 5G เต็มสปีด พร้อม Wi-Fi 6 ในราคาที่สมเหตุสมผล ดู D-Link DWR-X2000 หรือ TP-Link Archer NX200 5G ครับ.
• ถ้าชอบ ดีไซน์สวยงาม พรีเมียม พร้อมฟังก์ชันครบครัน และใช้อุปกรณ์ Huawei อยู่แล้ว ลองดู HUAWEI 5G CPE Pro 2.

ที่สำคัญมากๆ คือ เช็คพื้นที่ให้บริการ 5G ของค่ายซิมที่เราใช้ก่อนนะครับ ว่ามีสัญญาณครอบคลุมบริเวณที่เราจะใช้งานหรือไม่. และอย่าลืมดูเรื่อง การรับประกัน ด้วยนะครับ ซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือจะได้ไม่ปวดหัวทีหลัง และช่วงเทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12, หรือช่วงปีใหม่ สงกรานต์ ใน Lazada Shopee มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาเราเตอร์ใส่ซิมออกมาเพียบ! เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปจัดกันได้เลยครับ! 😉

มาเมาท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อย!

เพื่อนๆ คนไหนใช้เราเตอร์ใส่ซิม 5G รุ่นไหนอยู่บ้าง? เป็นยังไง แชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ คนอื่นฟังหน่อยครับ! ชอบไม่ชอบตรงไหน สัญญาณแรงจริงไหม หรือมีเคล็ดลับอะไรดีๆ คอมเมนต์บอกกันได้เลยนะ! 👇

ถ้าใครอ่านแล้วอยากได้พิกัดร้านหรือลิงก์โปรโมชั่นเด็ดๆ ของเราเตอร์รุ่นไหนเป็นพิเศษ หรือมีคำถามเพิ่มเติมที่อยากรู้ พิมพ์คำว่า "อยากได้ลิงก์" หรือ "มีคำถาม!" ใต้โพสต์นี้ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะพยายามหาข้อมูลมาตอบและรวบรวมลิงก์ดีๆ มาให้เป็นพิเศษจ้าาา! แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า ขอให้ทุกคนมีเน็ตแรงๆ ใช้กันนะครับ สวัสดีครับ! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เลือก 4G Router part1 2025 ตัวไหนเหมาะกับเรา speedtest NT VS ...
• เราเตอร์ Wifi ใส่ซิมราคาถูก เทียบมือถือ ต่างกันขนาดไหน
• การเลือก ซื้อ Router ใส่ซิม ไม่ให้หลังหัก “ ให้คุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไป ...
• เร้าเตอร์ใส่ซิม 12 อันดับ ยี่ห้อไหนดี ใส่ซิม 4G และ 5G เน็ตแรง กระจาย ...
• เปรียบเทียบ Router TP-LINK TL-MR105 กับ Router ไม่มียี่ห้อ | ซื้อ ...