10 แปรงสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ขนนุ่มพิเศษ ถนอมเหงือก


สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองทุกท่าน! 👋 เคยไหมครับที่ต้องมานั่งปวดหัวกับการเลือกซื้อแปรงสีฟันให้เจ้าตัวเล็ก? เห็นยี่ห้อเต็มไปหมดในเชลฟ์ ทั้งแบบธรรมดา แบบไฟฟ้า ขนแปรงนุ่มม้ากกก นุ่มน้อยหน่อย ลายการ์ตูนน่ารักเต็มไปหมด จนไม่รู้จะคว้าอันไหนดีมาให้ลูกน้อยคู่ใจ
การเลือกแปรงสีฟันเด็กนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะครับ! เพราะช่องปากและเหงือกของเด็กๆ ยังบอบบาง การได้แปรงสีฟันที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มี ขนแปรงนุ่มพิเศษ จะช่วยถนอมเหงือกและฟันน้ำนมซี่น้อยๆ ให้แข็งแรง ป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจตามมาในอนาคตได้
แต่ในเมื่อตัวเลือกมันเยอะขนาดนี้ แถมแต่ละแบรนด์ก็งัดจุดเด่นมาแข่งกันเต็มที่ ทั้งแบรนด์ไทยในตำนานและแบรนด์นำเข้าจากทั่วโลก แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนคือ "ของจริง" ที่คนไทยใช้แล้วบอกต่อ ลูกน้อยแฮปปี้กับการแปรงฟัน?
ไม่ต้องกังวลครับ! ในฐานะที่ผมก็เป็นหนึ่งในทีมที่ต้องเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เจ้าตัวเล็ก (และแอบสิงตามกลุ่มรีวิวต่างๆ) วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลและคัดมาให้แล้วเน้นๆ กับ 10 แปรงสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ขนนุ่มพิเศษ ถนอมเหงือก ที่รับรองว่าถูกใจทั้งเด็ก ทั้งคุณพ่อคุณแม่ แถมหาซื้อง่ายในไทยอีกด้วยครับ ตามมาดูกันเลย!
ตลาดแปรงสีฟันเด็กในไทย: เขาซื้ออะไรกันนะ?
บอกเลยว่าตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากในไทยนี่คึกคักมากนะครับ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าสำหรับเด็ก เพราะคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพช่องปากลูกน้อยตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นกันเลยทีเดียว
แนวโน้มที่เห็นได้ชัดคือ ผู้บริโภคชาวไทยมองหาผลิตภัณฑ์ที่มี ขนแปรงนุ่มหรือนุ่มพิเศษ มากขึ้นถึงร้อยละ 52 จากผลสำรวจเมื่อปี 2554 และสิ่งที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 57 ของคนไทยยังไม่เคยอ่านข้อมูลบนฉลากแปรงสีฟันก่อนตัดสินใจซื้อ ทั้งๆ ที่ข้อมูลสำคัญอย่างความนุ่มของขนแปรง วัสดุที่ใช้ และช่วงอายุที่เหมาะสม ระบุไว้ชัดเจนบนฉลาก
แบรนด์ที่ครองตลาดและเป็นที่นิยมในไทยก็มีหลากหลาย ทั้งแบรนด์ระดับโลกอย่าง Colgate-Palmolive ที่เป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากโดยรวม และแบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีอย่าง Jordan, KODOMO, Oral-B, Pigeon, Darlie, Systema และ Kao นอกจากนี้ยังมีแบรนด์นำเข้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ช่องทางในการเลือกซื้อก็สะดวกสุดๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee ที่มีสินค้าให้เลือกละลานตา มีโปรโมชั่นดีๆ ตลอดปี หรือจะเป็นร้านค้าออฟไลน์ตามห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต (Big C, Tops), ร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven บางสาขาอาจมีรุ่นพื้นฐาน), ร้านขายผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก รวมถึงร้านขายยาและคลินิกทันตกรรมสำหรับบางแบรนด์
พฤติกรรมของผู้บริโภคไทยยังให้ความสำคัญกับส่วนผสมจากธรรมชาติและออร์แกนิกมากขึ้นด้วยนะครับ และสำหรับแปรงสีฟันไฟฟ้าสำหรับเด็กก็เริ่มเป็นที่นิยมเช่นกัน โดยเฉพาะรุ่นที่มีฟังก์ชันเสริมที่ช่วยให้เด็กๆ สนุกกับการแปรงฟันมากขึ้น เช่น มีแอปพลิเคชันช่วยจับเวลา
เคล็ดลับเลือกแปรงสีฟันเด็กยังไงให้โดนใจลูกน้อยและสบายกระเป๋า!
ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป เรามาเช็คลิสต์ปัจจัยสำคัญในการเลือกแปรงสีฟันเด็กที่เหมาะกับลูกของเราที่สุดกันก่อนครับ รับรองว่าดูตามนี้แล้วไม่พลาดแน่นอน!
ปัจจัยที่ควรพิจารณา | รายละเอียด (สำหรับแปรงสีฟันเด็ก) | ความสำคัญ |
---|---|---|
ช่วงวัยของเด็ก | แปรงสีฟันแต่ละรุ่นออกแบบมาสำหรับช่วงอายุที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 0-2 ปี, 3-5 ปี, 6-12 ปี ควรเลือกให้ตรงกับวัยเพื่อขนาดหัวแปรงและด้ามจับที่เหมาะสม | ⭐⭐⭐⭐⭐ |
ความนุ่มของขนแปรง | สำคัญที่สุด! ควรเลือกขนแปรงที่นุ่มพิเศษ (Ultra Soft / Soft) เพื่อไม่ให้ระคายเคืองเหงือกและเคลือบฟันที่ยังบอบบาง ขนแปรงปลายเรียวแหลมเล็ก 0.01 มม. หรือ 10,000 เส้นใย จะช่วยทำความสะอาดซอกฟันและร่องเหงือกได้ดี | ⭐⭐⭐⭐⭐ |
ขนาดและรูปทรงหัวแปรง | ควรมีขนาดเล็กพอดีกับช่องปากของเด็ก เพื่อให้เข้าถึงฟันซี่ในสุดและซอกต่างๆ ได้ง่าย หัวแปรงมนเพื่อป้องกันการกระแทก | ⭐⭐⭐⭐ |
ลักษณะด้ามจับ | ควรออกแบบให้เด็กจับถนัดมือ หรือผู้ปกครองจับได้สะดวกเมื่อต้องแปรงให้เด็กเล็ก อาจมีแถบกันลื่นด้วยก็จะดีมาก | ⭐⭐⭐ |
วัสดุและความปลอดภัย | ควรผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก (Food Grade, BPA free) บางรุ่นอาจมีคอแปรงที่งอได้เพื่อลดแรงกระแทก | ⭐⭐⭐⭐ |
ประเภท (ธรรมดา vs. ไฟฟ้า) | แปรงสีฟันธรรมดาใช้งานง่าย แปรงสีฟันไฟฟ้า (สำหรับเด็ก 3 ปีขึ้นไป) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาด และอาจมีฟังก์ชันเสริมให้เด็กสนุกกับการแปรงฟัน | ⭐⭐⭐ |
ชื่อเสียงแบรนด์และรีวิว | เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ จากผู้ใช้งานจริงในไทย จะช่วยให้มั่นใจในคุณภาพ | ⭐⭐⭐ |
ราคา | มีตั้งแต่ราคาหลักสิบไปจนถึงหลักร้อยหรือพันสำหรับแปรงไฟฟ้า เลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณและความถี่ในการเปลี่ยนแปรง (ควรเปลี่ยนทุก 3-4 เดือน หรือเมื่อขนแปรงบาน) | ⭐⭐⭐ |
หาซื้อง่าย | สะดวกในการหาซื้อตามช่องทางที่เราสะดวก ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ | ⭐⭐⭐ |
เปิดตัว 10 แปรงสีฟันเด็กน่าใช้ ขนนุ่มพิเศษ ถนอมเหงือก ปี 2025!
ได้เวลามาดูตัวเต็งที่เราคัดมาให้แล้วครับ! ทั้ง 10 แบรนด์นี้คือตัวท็อปในตลาดแปรงสีฟันเด็กที่เน้นเรื่องขนแปรงนุ่มและถนอมเหงือก รับรองว่ามีตัวเลือกที่เหมาะกับลูกน้อยของคุณแน่นอนครับ
1. Jordan Step Series
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จากสแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์) มีประวัติยาวนานและเป็นที่รู้จักในด้านผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับทุกคนในครอบครัว มีการแบ่ง Step ตามช่วงวัยอย่างชัดเจน
- สินค้ารุ่นเด่น: Jordan Step 1 (0-2 ปี), Step 2 (3-5 ปี), Step 3 (6-9 ปี)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือแบ่งช่วงวัยชัดเจน ด้ามจับออกแบบมาให้เหมาะกับแต่ละวัย ขนแปรงนุ่ม หัวแปรงเล็กปลอดภัย รุ่น Step 1 มีด้ามจับเป็นยางกัดได้และมีจุดบอกปริมาณยาสีฟัน มีรุ่น Green Clean ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลด้วย ข้อเสียคือราคาอาจจะสูงกว่าแบรนด์ไทยบางยี่ห้อ
- เหมาะกับใคร: ผู้ปกครองที่ต้องการแปรงสีฟันที่ออกแบบตามหลักสรีระและช่วงวัยของเด็กอย่างแท้จริง
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Lazada, Shopee) , ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ
- ช่วงราคา: ประมาณ 60 - 150 บาทต่อด้าม (ขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่น)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "ใช้ Jordan Step 1 ตั้งแต่ลูกฟันซี่แรกขึ้น ด้ามจับถนัดมือมากค่ะ" "ชอบตรงที่แบ่ง Step ชัดเจน ไม่ต้องสับสน"
2. KODOMO Soft & Slim Toothbrush
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยในเครือ Lion ที่อยู่คู่คนไทยมานาน มีผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กหลากหลาย เน้นราคาเข้าถึงง่ายและคุณภาพที่ดี
- สินค้ารุ่นเด่น: KODOMO Soft & Slim Toothbrush (มีหลายช่วงอายุ เช่น 1.5-3 ปี, 3-6 ปี)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือหาซื้อง่าย ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า ขนแปรงเรียวเล็กและนุ่ม เข้าถึงซอกฟันได้ดี มีจุกดูดที่ฐานแปรงช่วยให้วางตั้งได้ ข้อเสียคือความนุ่มของขนแปรงอาจจะไม่นุ่มเท่าแบรนด์ที่เน้นขนแปรงละเอียดพิเศษจริงๆ
- เหมาะกับใคร: ผู้ปกครองที่มองหาแปรงสีฟันคุณภาพดีในราคาประหยัด หาซื้อง่ายทั่วไป
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Lazada, Shopee) , ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อ
- ช่วงราคา: ประมาณ 30 - 60 บาทต่อด้าม
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "โคโดโมะใช้ดีค่ะ ขนแปรงนุ่มดี ลูกไม่เจ็บเหงือก" "ราคาถูก หาซื้อง่าย เปลี่ยนได้บ่อยๆ"
3. Oral-B Electric Toothbrush for Kids
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ระดับโลกจากอเมริกาในเครือ Procter & Gamble มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากทั้งแปรงสีฟันธรรมดาและไฟฟ้า
- สินค้ารุ่นเด่น: Oral-B Electrical Toothbrush for Kids (สำหรับเด็ก 3 ปีขึ้นไป)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ หัวแปรงกลมเล็ก ขนแปรงนุ่มพิเศษ แรงสั่นนุ่มนวล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดคราบพลัค มีแอปพลิเคชัน Disney Magic Timer ช่วยให้เด็กสนุกกับการแปรงฟันนานขึ้น ข้อเสียคือราคาสูงกว่าแปรงสีฟันธรรมดา ต้องเปลี่ยนหัวแปรงเป็นประจำ และเด็กบางคนอาจไม่ชอบแรงสั่น
- เหมาะกับใคร: ผู้ปกครองที่ต้องการแปรงสีฟันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด และต้องการตัวช่วยกระตุ้นให้เด็กสนุกกับการแปรงฟัน (เหมาะสำหรับเด็ก 3 ปีขึ้นไป)
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Lazada, Shopee) , ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า
- ช่วงราคา: ประมาณ 700 - 1,500 บาท (สำหรับด้ามพร้อมหัวแปรง)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "ลูกชอบมากค่ะ มีลายการ์ตูน แถมมีแอปจับเวลาด้วย" "แปรงไฟฟ้าช่วยให้แปรงได้สะอาดขึ้นจริงๆ"
4. Dr. RAY ANIMAL KIDS
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์นี้มีแปรงสีฟันเด็กที่น่ารักและเน้นเรื่องขนแปรงนุ่ม
- สินค้ารุ่นเด่น: Dr. RAY ANIMAL KIDS (สำหรับเด็ก 3-7 ปี)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือดีไซน์น่ารัก มีปลายหัวแปรงเป็นรูปสัตว์ ด้ามจับเข้ากับสรีระมือเด็ก ขนแปรงนุ่ม ปลายเรียวเล็ก 0.01 มม. ช่วยดึงดูดให้เด็กอยากแปรงฟัน ข้อเสียคือช่วงอายุที่รองรับอาจไม่หลากหลายเท่าบางแบรนด์
- เหมาะกับใคร: เด็กๆ ที่ชอบแปรงสีฟันดีไซน์น่ารัก ผู้ปกครองที่มองหาแปรงขนนุ่มที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กชอบการแปรงฟัน
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Lazada, Shopee) , ร้านขายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก
- ช่วงราคา: ประมาณ 50 - 100 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "ลูกสาวชอบลายสัตว์มากค่ะ ยอมแปรงฟันง่ายขึ้นเยอะเลย" "ขนแปรงนุ่มดีค่ะ ไม่บาดเหงือก"
5. Colgate Minions Electric Toothbrush
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ระดับโลกที่คนไทยคุ้นเคยมายาวนาน มีผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากครบวงจร
- สินค้ารุ่นเด่น: Colgate Minions Electric Toothbrush (สำหรับเด็ก 5-9 ปี)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือลาย Minions เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ เป็นแปรงไฟฟ้าแบบโซนิคที่ช่วยขจัดคราบพลัคได้ดี ขนแปรงนุ่ม ด้ามจับถนัดมือ ข้อเสียคือเหมาะสำหรับเด็กโตหน่อย (5-9 ปี) และเป็นแปรงไฟฟ้าที่มีราคาสูงกว่าแปรงธรรมดา
- เหมาะกับใคร: เด็กอายุ 5-9 ปีที่ชื่นชอบตัวการ์ตูน Minions และผู้ปกครองที่ต้องการแปรงไฟฟ้าที่ช่วยทำความสะอาดได้ดีขึ้น
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Lazada, Shopee) , ห้างสรรพสินค้า, ซูเปอร์มาร์เก็ต
- ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท (สำหรับด้าม)
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "ลูกชายตื่นเต้นกับลายมินเนี่ยนมากค่ะ แปรงฟันสนุกขึ้น" "แปรงไฟฟ้าคอลเกตถือว่าใช้ดีเลยค่ะ ขนแปรงนุ่มกำลังดี"
6. DODOLOVE แปรงสีฟันเด็ก 10,000 เส้นใย
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กหลากหลาย รวมถึงแปรงสีฟันที่เน้นความนุ่มพิเศษ
- สินค้ารุ่นเด่น: DODOLOVE แปรงสีฟัน สำหรับเด็ก 10,000 เส้นใย (สำหรับเด็กประมาณ 3-7 ปี)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือจุดเด่นที่จำนวนขนแปรงละเอียดมากถึง 10,000 เส้นใย ทำให้ขนแปรงหนาแน่นและนุ่มเป็นพิเศษ สามารถซอกซอนทำความสะอาดได้ดี ด้ามจับซิลิโคนกันลื่น ราคาไม่แพง ข้อเสียคืออาจจะต้องเช็คความทนทานของขนแปรงเมื่อใช้ไปนานๆ
- เหมาะกับใคร: ผู้ปกครองที่มองหาแปรงสีฟันเด็กที่เน้นความนุ่มเป็นพิเศษมากๆ ในราคาที่จับต้องได้
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Shopee, Lazada เป็นหลัก)
- ช่วงราคา: ประมาณ 30 - 80 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "ขนนุ่มจริงค่ะ นุ่มกว่าที่คิดเยอะเลย ลูกชอบมาก" "ราคาดีมาก ซื้อตุนไว้ได้เลย"
7. Pigeon แปรงสีฟันสำหรับฟันน้ำนม
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก
- สินค้ารุ่นเด่น: Pigeon แปรงสีฟัน สำหรับฟันน้ำนม ขั้นที่ 1, 2, 3 (แบ่งตามพัฒนาการและจำนวนฟันที่ขึ้น)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือแบ่งตามพัฒนาการของเด็กอย่างละเอียด มีรุ่นที่เหมาะกับเด็กเล็กมากๆ ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น ขนแปรงนุ่มอ่อนโยนต่อเหงือกและฟันน้ำนม ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์ไทย
- เหมาะกับใคร: ผู้ปกครองที่ต้องการแปรงสีฟันที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเด็กเล็กมากๆ ตามพัฒนาการของช่องปาก
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Lazada, Shopee), ห้างสรรพสินค้าแผนกเด็ก, ร้านขายผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก
- ช่วงราคา: ประมาณ 100 - 200 บาทต่อด้าม
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "ใช้พีเจ้นท์ตั้งแต่ลูกฟันขึ้นซี่แรกเลยค่ะ มั่นใจในคุณภาพแบรนด์ญี่ปุ่น" "ขนแปรงนุ่มดีค่ะ ขนาดพอดีกับปากลูก"
8. Molar Bear Toothbrush
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แปรงสีฟันเด็กที่พัฒนาโดยทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมเด็ก
- สินค้ารุ่นเด่น: Molar Bear toothbrush (มีหลายขนาดสำหรับ 0-3+, 3-6+, 6-12+ ขวบ)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือออกแบบโดยทันตแพทย์เด็ก ทำให้มั่นใจได้ว่าเหมาะสมกับช่องปากเด็กในแต่ละวัย ขนแปรงนุ่ม หน้าตัดตรง ปลายมน ด้ามจับออกแบบให้ผู้ปกครองจับถนัดมือเมื่อต้องแปรงให้เด็กเล็ก มีครบทุกช่วงวัย ข้อเสียคือเป็นแบรนด์ที่อาจจะใหม่กว่าบางแบรนด์ในตลาด
- เหมาะกับใคร: ผู้ปกครองที่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญ และต้องการแปรงที่มีขนาดและรูปแบบเหมาะสมตามช่วงวัยของเด็ก
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Shopee, Lazada) , ร้านขายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก
- ช่วงราคา: ประมาณ 40 - 80 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "คุณหมอเด็กแนะนำมาค่ะ ใช้ดีจริงๆ ลูกไม่เจ็บเหงือกเลย" "ด้ามจับถนัดมือคุณพ่อคุณแม่มากๆ ค่ะ"
9. Master Rabbit Toothbrush
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ที่เน้นดีไซน์และฟังก์ชันที่คำนึงถึงความปลอดภัยและความสบายของเด็ก
- สินค้ารุ่นเด่น: Master Rabbit Toothbrush (สำหรับ 0-3 ปี และ 3-6 ปี)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือหัวแปรงมีคออ่อน งอได้ ช่วยลดการกระแทกและปรับตามสรีระช่องปากเด็ก ขนแปรงนุ่ม ไม่ระคายเคงเหงือก ด้ามจับถนัดมือทั้งผู้ปกครองและเด็ก ข้อเสียคืออาจจะยังมีรุ่นให้เลือกไม่มากเท่าบางแบรนด์
- เหมาะกับใคร: ผู้ปกครองที่กังวลเรื่องการกระแทกขณะแปรงฟันให้ลูกเล็ก และต้องการแปรงที่มีความยืดหยุ่นสูง
- ช่องทางการซื้อ: ออนไลน์ (Shopee, Lazada)
- ช่วงราคา: ประมาณ 50 - 100 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "ชอบตรงคอแปรงงอได้ค่ะ แปรงให้ลูกสบายใจขึ้นเยอะ" "ขนนุ่มมากค่ะ ลูกชอบกัดด้ามเล่นด้วย"
10. MANMOU แปรงสีฟันพรีเมียมจากญี่ปุ่น
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์แปรงสีฟันคุณภาพจากญี่ปุ่น เน้นขนแปรงละเอียดพิเศษ
- สินค้ารุ่นเด่น: MANMOU PT Nano toothbrush for baby (Size S สำหรับ 2y+)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย: ข้อดีคือใช้ขนแปรง Ultrafine ขนาดเล็ก 0.08 มม. จำนวนมากถึง 10,000 เส้น ทำให้แปรงนุ่มมากๆ ให้สัมผัสที่อ่อนโยนสุดๆ เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการความนุ่มเป็นพิเศษจริงๆ ข้อเสียคือราคาสูงกว่าแปรงสีฟันเด็กทั่วไปมาก และเหมาะสำหรับเด็กที่ฟันขึ้นเยอะแล้ว (ประมาณ 10 ซี่ขึ้นไป หรือ 2 ขวบขึ้นไปสำหรับรุ่น Baby S)
- เหมาะกับใคร: ผู้ปกครองที่ต้องการแปรงสีฟันคุณภาพพรีเมียมจากญี่ปุ่น เน้นความนุ่มละมุนของขนแปรงเป็นพิเศษ และมีงบประมาณค่อนข้างสูง
- ช่องทางการซื้อ: ร้านค้าออนไลน์ที่นำเข้าสินค้าญี่ปุ่น
- ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 300 บาทต่อด้าม
- รีวิวผู้ใช้งาน (จากข้อมูลออนไลน์): "แปรง Manmou คือนุ่มที่สุดที่เคยใช้มาเลยค่ะ นุ่มกว่าทุกยี่ห้อ ลูกชอบมาก" "ราคาแรงหน่อย แต่คุ้มค่ากับความนุ่มค่ะ"
คำถามฮิตติดปากคุณพ่อคุณแม่ (ฉบับแปรงสีฟันเด็ก)!
Q: ลูกกี่ขวบถึงควรใช้แปรงสีฟันเด็กคะ?
A: ทันตแพทย์แนะนำให้เริ่มทำความสะอาดช่องปากเด็กตั้งแต่ก่อนมีฟัน โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดเหงือกและลิ้น พอฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น ก็เริ่มใช้แปรงสีฟันเด็กที่มีขนแปรงนุ่มและหัวแปรงเล็กได้เลยครับ
Q: ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเด็กบ่อยแค่ไหน?
A: ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3-4 เดือน หรือเมื่อขนแปรงเริ่มบาน ผิดรูป หรือสีซีดจาง เพราะขนแปรงที่เสื่อมสภาพจะทำความสะอาดได้ไม่ดี และยังเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียด้วยครับ
Q: แปรงสีฟันไฟฟ้าจำเป็นสำหรับเด็กไหม?
A: ไม่ได้จำเป็นเสมอไปครับ แปรงสีฟันธรรมดาที่เลือกขนาดและขนแปรงเหมาะสมกับวัยและแปรงอย่างถูกวิธีก็สะอาดเพียงพอแล้ว แปรงไฟฟ้าเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาด และอาจช่วยจูงใจให้เด็กสนุกกับการแปรงฟันมากขึ้น เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป
Q: เลือกแปรงสีฟันขนนุ่มให้ลูกแล้ว จะสะอาดจริงเหรอคะ?
A: สะอาดแน่นอนครับ! การวิจัยยืนยันว่าแปรงสีฟันขนแปรงนุ่ม ปานกลาง และแข็ง สามารถกำจัดคราบจุลินทรีย์ได้เหมือนกัน แต่ขนแปรงนุ่มจะปลอดภัยที่สุด ไม่ทำอันตรายต่อเหงือกและฟันที่ยังบอบบางของเด็กครับ
Q: ซื้อแปรงสีฟันเด็กออนไลน์ต้องระวังอะไรบ้าง?
A: ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ และที่สำคัญคือเช็คฉลากสินค้าว่ามีข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้และเหมาะกับช่วงวัยของลูกครับ
สรุปปิดท้าย เลือกแปรงสีฟันคู่ใจให้เจ้าตัวเล็ก ง่ายนิดเดียว!
การเลือกแปรงสีฟันเด็กที่มี ขนแปรงนุ่มพิเศษ เป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากลูกน้อยตั้งแต่เริ่มต้นนะครับ จาก 10 แบรนด์ที่เราคัดมาให้ หวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีไอเดียในการเลือกมากขึ้นนะครับ
- สำหรับน้องเล็ก 0-2 ปี หรือเพิ่งมีฟันซี่แรก ลองดู Jordan Step 1, Pigeon ขั้นที่ 1, Molar Bear (0-3+), Master Rabbit (0-3 ปี) หรือ Giffarine Junior (0-3 ปี) ที่ออกแบบมาเฉพาะช่วงวัย
- สำหรับเด็ก 3-6 ปี ที่เริ่มแปรงเองได้บ้างแล้ว ลองดู Jordan Step 2, KODOMO Soft & Slim, Dr. RAY ANIMAL KIDS, DODOLOVE 10,000 เส้นใย, Molar Bear (3-6+), Master Rabbit (3-6 ปี) หรือ Oral-B / Colgate Electric (ถ้าสนใจแปรงไฟฟ้า)
- สำหรับเด็กโต 6 ปีขึ้นไป ที่ฟันแท้เริ่มขึ้น ลองดู Jordan Step 3, Molar Bear (6-12+), Oral-B / Colgate Electric
- ถ้าเน้น ความนุ่มพิเศษขั้นสุด และมีงบประมาณ ลองดู MANMOU หรือ DODOLOVE 10,000 เส้นใย
อย่าลืมสังเกตพฤติกรรมของลูกด้วยนะครับว่าชอบแปรงสีฟันแบบไหน ลายการ์ตูนช่วยได้เยอะเลย! และที่สำคัญที่สุดคือ สอนให้ลูกแปรงฟันอย่างถูกวิธี แปรงให้ทั่วถึง และแปรงเป็นประจำวันละ 2 ครั้งนะครับ
มาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยจ้าาา!
คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนใช้แปรงสีฟันเด็กยี่ห้อไหน รุ่นไหนอยู่บ้าง? ประทับใจตรงไหน หรือมีเคล็ดลับในการแปรงฟันให้ลูกยังไง มาคอมเมนต์เล่าสู่กันฟังหน่อยนะครับ แบ่งปันประสบการณ์กันเพื่อประโยชน์ของเพื่อนๆ ผู้ปกครองคนอื่นๆ ด้วยนะค้าบ 👇
ถ้าบทความนี้เป็นประโยชน์ อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันเยอะๆ นะครับ! และถ้าอยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ที่มีโปรโมชั่นดีๆ หรือลิงก์สำหรับเปรียบเทียบราคาแปรงสีฟันเด็กแต่ละรุ่น พิมพ์คำว่า "อยากได้พิกัด!" ไว้ได้เลย เดี๋ยวผมจะหามาให้พิเศษเลยจ้าาา! แล้วพบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
10 ที่ตรวจครรภ์ในเซเว่น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 แม่นยำ รู้ผลเร็ว ใช้งานง่าย
10 ขวดนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ทนความร้อนสูง ป้องกันโคลิค
10 ชุดว่ายน้ำเด็ก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ดีไซน์น่ารัก ป้องกันรังสียูวี
10 ของเล่นเชิงวิทยาศาสตร์ มีอะไรบ้าง ปี 2025 สนุกท้าทาย เสริมทักษะ
รีวิว iPhone 13 ปี 2025: คุ้มค่าน่าซื้อไหม?
แปรงล้างหน้า Foreo ราคาล่าสุด รุ่นไหนดีที่สุด?