ในปี 2025 iPhone 12 ที่เปิดตัวไปแล้วกว่า 4 ปียังคงเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจในตลาดมือสอง ด้วยราคาที่ลดลงอย่างมากจากเดิมทำให้กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ iPhone ระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องจ่ายราคาแพง การวิเคราะห์ความคุ้มค่าของ iPhone 12 ในปัจจุบันจำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัยตั้งแต่สมรรถนะ การสนับสนุนซอฟต์แวร์ ไปจนถึงราคาในตลาด

A vibrant array of iPhone 12 models showcasing their color options and vivid displays

การออกแบบและคุณภาพการสร้าง

iPhone 12 นำเสนอการออกแบบที่โดดเด่นด้วยขอบเหลี่ยมแบน (flat-edge design) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 4 และ iPhone 5 ดีไซน์นี้ไม่เพียงแต่ดูทันสมัยแต่ยังให้ความรู้สึกพรีเมียมและแข็งแรง โครงสร้างของเครื่องทำจากอลูมิเนียมเกรดการบินที่มีความทนทานสูง ส่วนด้านหน้าป้องกันด้วยเทคโนโลยี Ceramic Shield ที่มีความแข็งแกร่งกว่ากระจกทั่วไปถึง 4 เท่า

The blue iPhone 12 (left) and iPhone 12 Pro (right) showcasing their distinctive flat-edged design and rear camera systems

มาตรฐานการกันน้ำและฝุ่น IP68 ช่วยให้ iPhone 12 สามารถทนต่อน้ำได้ในระดับความลึก 6 เมตรเป็นเวลา 30 นาที การออกแบบที่เรียบง่ายแต่หรูหราทำให้ iPhone 12 ยังคงดูทันสมัยแม้ในปี 2025

Two iPhone 12 series models, in dark blue and light blue, showcasing their rear designs and camera systems 

คุณภาพหน้าจอ

หน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้วของ iPhone 12 ยังคงเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญ ด้วยความละเอียด 2532×1170 พิกเซลและความหนาแน่น 460 PPI หน้าจอให้ความคมชัดและสีสันที่สดใส อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 ทำให้สีดำดูเข้มขนและสีสันต่างๆ ดูสมจริง

ความสว่างสูงสุด 625 nits ในการใช้งานทั่วไปและ 1200 nits เมื่อดูเนื้อหา HDR ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในแสงแดดจัด เทคโนโลยี True Tone และ Wide Color (P3) ช่วยให้สีสันดูธรรมชาติและถูกต้อง

ประสิทธิภาพในปี 2025

ชิป A14 Bionic ที่ใช้เทคโนโลยี 5 นาโนเมตรยังคงให้ประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในปี 2025 แม้ว่าจะไม่ใช่ชิปใหม่ล่าสุด แต่ A14 Bionic ยังสามารถรันแอปพลิเคชันและเกมส์ปัจจุบันได้อย่างลื่นไหล RAM 4GB อาจดูน้อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่การเพิ่มประสิทธิภาพของ iOS ทำให้การทำงานยังคงราบรื่น

การรองรับ iOS 18 และการประกันการอัปเดตจนถึงปี 2027 ทำให้ iPhone 12 ยังคงได้รับฟีเจอร์ใหม่และการแพทช์ความปลอดภัย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญเมื่อเทียบกับโทรศัพท์ Android ในช่วงราคาเดียวกัน

ระบบกล้อง

ระบบกล้องคู่ 12MP ของ iPhone 12 ประกอบด้วยกล้องหลักมุมกว้าง f/1.6 และกล้องมุมกว้างพิเศษ f/2.4 แม้ว่าจะไม่ใช่ระบบกล้องล่าสุด แต่ยังสามารถถ่ายภาพได้คุณภาพดีในสภาพแสงเพียงพอ ฟีเจอร์ Night Mode และ Deep Fusion ช่วยเพิ่มคุณภาพการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย

An iPhone displaying its camera interface capturing a long exposure shot of Grand Central Terminal

การบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 60fps พร้อมกับ HDR Video Recording with Dolby Vision ยังคงเป็นมาตรฐานที่ดีในปี 2025 ส่วนกล้องหน้า 12MP สามารถถ่ายเซลฟี่และบันทึกวิดีโอ 4K ได้เช่นกัน

อายุการใช้งานแบตเตอรี่และการชาร์จ

แบตเตอรี่ 2815 mAh ของ iPhone 12 เป็นจุดอ่อนที่สำคัญเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน ในการใช้งานจริงสามารถใช้งานได้ประมาณ 8-9 ชั่วโมง ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ใช้หนัก อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้ทั่วไปยังสามารถใช้งานได้ตลอดวัน

iPhone 12 with a blue case being charged wirelessly by a black MagSafe charger, illustrating its magnetic charging compatibility

เทคโนโลยี MagSafe ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในขณะนั้นยังคงมีประโยชน์ในปี 2025 การชาร์จไร้สาย 15W และการชาร์จเร็ว 20W ผ่านสาย Lightning ให้ความสะดวกในการเติมพลังงาน

A white Apple MagSafe charger and its packaging, highlighting its 15W wireless charging capability

การเชื่อมต่อและเครือข่าย 5G

iPhone 12 เป็น iPhone รุ่นแรกที่รองรับ 5G ซึ่งยังคงเป็นข้อได้เปรียบในปี 2025 ความเร็วเครือข่าย 5G ที่วัดได้ในหลายประเทศแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ดีของระบบการเชื่อมต่อ การรองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0 ยังคงทันสมัยสำหรับการใช้งานปัจจุบัน

Median 5G download and upload speeds for iPhone 12 devices in select world capitals during Q4 2020

An iPhone 12 displays a 5G network speed test result of 166.69 Mbps on the T-Mobile network

การวิเคราะห์ราคาและความคุ้มค่า

หนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของ iPhone 12 ในปี 2025 คือราคาที่ลดลงอย่างมาก จากราคาเปิดตัวที่ 29,900 บาทในปี 2020 ปัจจุบันสามารถหาซื้อเครื่องมือสองได้ในราคา 8,000-12,000 บาท

ราคาเปรียบเทียบ iPhone รุ่นต่างๆ ในตลาดไทย ปี 2025 (บาท)

แนวโน้มราคา iPhone 12 ในประเทศไทย 2020-2025

เมื่อเปรียบเทียบกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ iPhone 12 ให้ความคุ้มค่าที่ดีกว่ามาก ราคาที่ถูกลงแต่ยังได้ฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

จุดเด่นและจุดด้อย

จุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดคือราคาที่ลดลงมากจากเดิม ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง iPhone ได้ง่ายขึ้น หน้าจอ OLED ที่สวยงามและการรองรับ 5G ยังคงเป็นจุดขายที่สำคัญ ชิป A14 Bionic ยังให้ประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

ในด้านจุดด้อย อายุแบตเตอรี่ที่สั้นเป็นปัญหาหลักที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ RAM เพียง 4GB อาจไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานหนักในอนาคต การใช้ Lightning Port แทน USB-C และการไม่รองรับ Apple Intelligence เป็นข้อจำกัดเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่

ใครควรซื้อ iPhone 12 ในปี 2025

iPhone 12 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ระบบนิเวศ Apple โดยไม่ต้องจ่ายราคาแพง นักเรียน นักศึกษา และผู้ใช้ทั่วไปที่ใช้งานพื้นฐานจะพอใจกับประสิทธิภาพของเครื่อง ผู้ที่ต้องการโทรศัพท์สำรองหรืออัปเกรดจากโทรศัพท์รุ่นเก่ามากจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพการถ่าย รูปขั้นสูง อายุแบตเตอรี่ที่ยาวนาน หรือฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดควรพิจารณา iPhone รุ่นใหม่กว่า ผู้ใช้หนักที่ต้องการ RAM มากกว่าและการทำงานหลายงานพร้อมกันอาจพบข้อจำกัด

สรุปความคิดเห็น

iPhone 12 ในปี 2025 ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ iPhone ในราคาที่เข้าถึงได้ แม้ว่าจะไม่ใช่โทรศัพท์ที่ทันสมัยที่สุด แต่ก็ยังให้ประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับการใช้งานปกติ การรองรับการอัปเดตจนถึงปี 2027 ทำให้การลงทุนยังคงมีค่า

สำหรับผู้ที่งบประมาณจำกัดหรือต้องการเข้าสู่ระบบนิเวศ Apple เป็นครั้งแรก iPhone 12 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุดและฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดควรพิจารณารุ่นที่ใหม่กว่า แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก