ราคา แมวพันธุ์เล็ก ยอดนิยม: เลี้ยงพันธุ์ไหนดี เหมาะกับคุณ


สวัสดีค่าทาสแมวมือใหม่และมือเก๋า! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องของ น้องแมวพันธุ์เล็กยอดฮิต ที่กำลังมาแรงในตลาดไทยกันค่ะ ใครที่กำลังมองหาน้องเหมียวไซส์มินิ น่ารักปุ๊กปิ๊กมาเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะคนที่อยู่คอนโดหรือมีพื้นที่จำกัด มามุงทางนี้เลย! เราจะพาไปดูกันว่ามีพันธุ์ไหนน่าสนใจ ราคาประมาณเท่าไหร่ แล้วจะเลือกเลี้ยงน้องแบบไหนดีถึงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด ตามมาดูกันเลยจ้า!
1. น้องๆ เหล่านี้คือใครกันนะ?
พูดถึงแมวพันธุ์เล็กยอดนิยมในไทย ก็ต้องยกให้แก๊งนี้เลยค่ะ ที่เห็นบ่อยๆ ตามฟาร์มหรือตามเพจซื้อขายก็จะมี:
- มันช์กิ้น (Munchkin): เจ้าแมวขาสั้น สุดน่ารัก ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ที่ขาสั้นกุด เหมือนน้องกำลังเตาะแตะตลอดเวลา นิสัยขี้เล่น ซน ถึงขาจะสั้นแต่ก็ปีนป่ายเก่งไม่เบานะ
- สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold): แมวหน้ากลม แก้มยุ้ย หูพับที่เป็นซิกเนเจอร์ บางตัวก็หูตั้งนะ นิสัยน่ารัก เป็นมิตร ชอบอยู่ใกล้คน เป็นที่นิยมมากๆ ในไทย
- สิงคโปร์ (Singapura): น้องจิ๋วไซส์มินิ ที่ว่ากันว่าเป็นสายพันธุ์แมวบ้านที่ตัวเล็กที่สุดในโลก หน้าตาน่ารัก ตาโต นิสัยขี้เล่น พลังงานสูง ในไทยอาจจะยังไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่เพราะค่อนข้างหายากและราคาสูง
- คอร์นิช เร็กซ์ (Cornish Rex) / เดวอน เร็กซ์ (Devon Rex): สองสายพันธุ์นี้มีเอกลักษณ์ที่ขนหยิกเป็นลอนๆ เหมือนลูกแกะ หน้าตาจะออกแนวเอเลี่ยนนิดๆ หูใหญ่ นิสัยขี้เล่น ขี้ประจบ และชอบอยู่กับคน เดวอน เร็กซ์ในไทยเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น
น้องๆ เหล่านี้เหมาะกับคนที่อยากได้แมวตัวไม่ใหญ่มาก เลี้ยงในพื้นที่จำกัดอย่างคอนโดได้สบาย และชอบแมวที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว ไม่ว่าจะขาสั้น หูพับ หรือขนหยิก แถมส่วนใหญ่นิสัยเป็นมิตร ขี้อ้อน เข้ากับคนได้ดีด้วยจ้า
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทาสแมวต้องเตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม! ราคาของน้องแมวพันธุ์เล็กเนี่ย มีความหลากหลายมากๆ เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ เกรดของแมว (เลี้ยงเล่น พ่อแม่พันธุ์ ประกวด) เพศ สี ลวดลาย แหล่งที่มา (ฟาร์มใหญ่ ร้านทั่วไป ผู้เลี้ยงเอง) และใบเพ็ดดีกรี
โดยประมาณแล้ว ราคาคร่าวๆ ในตลาดไทยจะเป็นแบบนี้ค่ะ:
- มันช์กิ้น: ราคาเริ่มต้นอาจจะเจอตั้งแต่หลักพันปลายๆ ถึงหมื่นต้นๆ สำหรับเกรดเลี้ยงเล่นทั่วไป แต่ถ้าขาสั้นมากๆ ทรงสวย หรือมีใบเพ็ดเต็มใบ ราคาพุ่งไป 20,000 - 50,000 บาท (฿) หรือมากกว่านั้นก็มีค่ะ
- สก็อตติช โฟลด์: ราคาค่อนข้างกว้างมากค่ะ หูตั้งอาจจะเริ่มต้น หลักพันปลายๆ ถึงหมื่นกว่าบาท ส่วนหูพับเนี่ยแหละตัวดี! ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1x,xxx บาท ไปจนถึง 5x,xxx บาท หรือเป็นแสนก็มีถ้าหูพับสนิท หน้าหวาน โครงสร้างเป๊ะ
- สิงคโปร์: เป็นพันธุ์ที่ค่อนข้างหายากในไทย ราคาเลยจะสูงหน่อย เท่าที่เจอข้อมูล ราคาอาจจะเริ่มต้นที่ 60,000 บาทขึ้นไป เลยค่ะ
- คอร์นิช เร็กซ์ / เดวอน เร็กซ์: ราคาก็หลากหลายค่ะ เริ่มต้นที่ หมื่นต้นๆ ไปจนถึง 30,000 - 50,000 บาท หรือสูงกว่านั้นก็มีค่ะ
ถ้าไปส่องตามแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Kaidee หรือกลุ่มซื้อขายแมวใน Facebook จะเจอราคาที่หลากหลายมากๆ ค่ะ ตั้งแต่ราคาเบาๆ ไปจนถึงราคาสูงลิ่ว ส่วนร้านเพ็ทช็อปใหญ่ๆ หรือฟาร์มที่ได้มาตรฐาน ราคามักจะสูงกว่า แต่ก็มักจะมาพร้อมการรับประกันที่ดีกว่าค่ะ
3. แล้วเทียบกับพันธุ์อื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าเทียบกับแมวไทยบ้านๆ ทั่วไปที่อาจจะหาบ้านได้ฟรีๆ หรือเสียแค่ค่าทำวัคซีนเนี่ย ราคาแมวพันธุ์เล็กต่างประเทศถือว่าสูงกว่ามากอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าเทียบกับแมวพันธุ์ต่างประเทศขนาดใหญ่ยอดนิยมอื่นๆ อย่าง เมนคูน หรือ บริติช ช็อตแฮร์ ราคาของแมวพันธุ์เล็กอย่าง มันช์กิ้น หรือ สก็อตติช โฟลด์ เกรดทั่วๆ ไป ก็อาจจะอยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน หรือบางทีพันธุ์ใหญ่บางเกรดก็อาจจะราคาเริ่มต้นพอๆ กันได้ค่ะ
แต่สิ่งที่ทำให้ราคาแมวพันธุ์เล็กบางตัวพุ่งกระฉูดเนี่ย มักจะมาจากลักษณะเด่นเฉพาะสายพันธุ์ที่ชัดเจนมากๆ เช่น ขาสั้นกุดของมันช์กิ้น หรือหูพับมากๆ ของสก็อตติช โฟลด์ ซึ่งลักษณะเหล่านี้แหละที่ทำให้ราคาสูงกว่าแมวในพันธุ์เดียวกันแต่มีลักษณะเด่นน้อยกว่า พูดง่ายๆ คือ จ่ายแพงเพื่อความเป๊ะตามมาตรฐานสายพันธุ์นั่นเองจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
เวลาซื้อน้องแมวพันธุ์เล็ก สิ่งที่เราควรได้รับจากผู้ขายโดยทั่วไป (โดยเฉพาะจากฟาร์มหรือร้านที่น่าเชื่อถือ) ก็คือ:
- ตัวน้องแมว: แน่นอนว่าต้องได้ตัวน้องมาแหละเนอะ!
- วัคซีนและถ่ายพยาธิ: ส่วนใหญ่น้องที่พร้อมย้ายบ้านควรได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกๆ และถ่ายพยาธิมาแล้ว ควรมีสมุดวัคซีนให้ด้วยค่ะ
- ใบรับรองสุขภาพ: บางที่อาจจะมีใบรับรองสุขภาพจากคุณหมอ หรือมีการตรวจโรคเบื้องต้นมาแล้ว
- ใบเพ็ดดีกรี (Pedigree): ถ้าซื้อจากฟาร์มที่จดทะเบียนและต้องการความมั่นใจว่าเป็นพันธุ์แท้จริงๆ และตรวจสอบสายเลือดได้ ควรขอใบเพ็ดดีกรีด้วยค่ะ อันนี้มีผลต่อราคาและความน่าเชื่อถือของผู้ขายมากๆ
- อาหารเม็ดที่น้องทานอยู่: ผู้ขายมักจะแบ่งอาหารที่น้องทานอยู่ให้มาด้วย เพื่อให้เราเอาไปผสมกับอาหารใหม่ที่บ้านให้น้องปรับตัวได้ง่ายขึ้น
- คำแนะนำการเลี้ยงดู: โดยเฉพาะกับพันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษ ผู้ขายที่ดีควรให้คำแนะนำในการดูแลอย่างถูกต้องค่ะ
สิ่งที่อาจจะรวมหรือไม่รวมก็ได้คือ:
- ค่าจัดส่ง: ถ้าอยู่คนละจังหวัด หรือไม่สะดวกไปรับเอง อาจจะต้องมีค่าจัดส่ง ซึ่งราคาก็แตกต่างกันไป
- ของแถม: บางทีอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ของเล่นชิ้นโปรด ผ้าห่มที่คุ้นเคย หรือคูปองส่วนลดอาหารและอุปกรณ์เสริม
- การรับประกันสุขภาพ: อันนี้สำคัญมากค่ะ! ฟาร์มหรือร้านที่ดีมักจะมีการรับประกันสุขภาพน้องแมวให้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (เช่น 7 วัน หรือ 15 วัน) หากน้องป่วยเป็นโรคที่มาจากฟาร์ม ต้องสอบถามและทำความเข้าใจเงื่อนไขให้ชัดเจนนะคะ เพราะบางทีโรคประจำสายพันธุ์บางโรคอาจจะไม่รวมอยู่ในการรับประกันค่ะ
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
สำหรับแมวพันธุ์เล็กเนี่ย การจัดโปรโมชั่นลดราคาตามเทศกาลแบบ 12.12 หรือสงกรานต์อาจจะไม่ได้ชัดเจนเหมือนสินค้าทั่วไปค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ราคาดีๆ เลยนะ:
- งาน Pet Expo หรือ งานสัตว์เลี้ยง: บางทีฟาร์มหรือร้านที่มาร่วมงานอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษ หรือให้ส่วนลดถ้าจองในงานค่ะ
- ช่วงที่ฟาร์มมีลูกแมวเยอะ: บางช่วงที่ลูกแมวเกิดเยอะ ผู้ขายอาจจะพิจารณาปรับราคาลงเล็กน้อยเพื่อระบายลูกแมวให้ได้บ้านเร็วขึ้น
- การซื้อพร้อมพี่น้อง: บางทีถ้าซื้อสองตัวพร้อมกัน ผู้ขายอาจจะมีส่วนลดพิเศษให้
- แมวโต หรือ แมวปลดระวาง: หากไม่ติดว่าต้องเป็นลูกแมว ลองมองหาแมวโตที่ฟาร์มประกาศหาบ้านใหม่ ราคาจะถูกลงเยอะมากๆ ค่ะ
- ติดตามเพจ/กลุ่มซื้อขาย: หมั่นติดตามเพจหรือกลุ่มซื้อขายแมวพันธุ์นั้นๆ ใน Facebook บ่อยๆ บางทีอาจจะมีผู้ขายรายย่อยที่ลงขายราคาดีๆ หรือมีโปรโมชั่นส่วนตัวค่ะ
คำแนะนำในการซื้อ:
- อย่าเห็นแก่ของถูกเกินไป: ราคาที่ถูกผิดปกติมักจะมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ เช่น สุขภาพไม่ดี ไม่ได้รับการดูแลที่ดี หรือเป็นแมวที่ไม่ได้มีลักษณะตามมาตรฐานสายพันธุ์
- ขอวิดีโอคอลดูน้อง: ถ้าไม่สะดวกไปดูตัวจริง ควรขอวิดีโอคอลเพื่อดูสภาพน้องและสิ่งแวดล้อมที่น้องอยู่ค่ะ
- สอบถามประวัติสุขภาพ: ถามเรื่องการทำวัคซีน การถ่ายพยาธิ และสอบถามประวัติสุขภาพของพ่อแม่พันธุ์ด้วยค่ะ
- ศึกษาโรคประจำสายพันธุ์: แมวพันธุ์เล็กบางพันธุ์มีโรคประจำสายพันธุ์ที่ควรระวัง เช่น โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อในมันช์กิ้นและสก็อตติช โฟลด์ หรือโรคหัวใจ ควรศึกษาและสอบถามผู้ขายเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยค่ะ
- ขอใบรับประกันสุขภาพ: ย้ำอีกทีว่าสำคัญมากๆ ค่ะ!
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากที่ส่องๆ ดูตามรีวิวของทาสแมวในไทย ส่วนใหญ่จะแฮปปี้กับน้องแมวพันธุ์เล็กในหลายๆ ด้านเลยค่ะ
- ความน่ารักคูณล้าน: อันนี้ไม่ต้องพูดถึง! ใครๆ ก็แพ้ความน่ารักปุ๊กปิ๊กของน้องๆ ค่ะ
- เหมาะกับชีวิตคอนโด/พื้นที่จำกัด: เป็นจุดเด่นที่หลายคนพูดถึงว่าน้องตัวไม่ใหญ่ เลี้ยงง่าย ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ
- นิสัยขี้อ้อน เข้ากับคนง่าย: ส่วนใหญ่รีวิวจะบอกว่าน้องๆ พันธุ์เล็กเป็นมิตร ชอบอยู่กับเจ้าของ
- สร้างสีสันในบ้าน: ความซน ขี้เล่นของน้องทำให้บ้านไม่เงียบเหงาเลยค่ะ
แต่ก็มีบางส่วนที่เจอปัญหาเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ เนื่องจากบางพันธุ์มีโรคประจำสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง เช่น ปัญหาเรื่องขาในมันช์กิ้น หรือปัญหาข้อต่อและหัวใจในสก็อตติช โฟลด์ บางคนซื้อน้องมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือก็อาจจะเจอปัญหาสุขภาพตามมาได้ค่ะ
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
สำหรับช่องทางการซื้อน้องแมวพันธุ์เล็กที่แนะนำในไทย มีหลายแบบให้เลือกค่ะ:
- ฟาร์มแมวที่ได้มาตรฐาน: เป็นช่องทางที่น่าเชื่อถือที่สุด มักจะมีใบเพ็ดดีกรี รับประกันสุขภาพ และให้คำแนะนำที่ดี ราคามักจะสูงกว่า แต่ก็แลกมากับความสบายใจค่ะ ควรเลือกฟาร์มที่ดูสะอาด สภาพแวดล้อมดี และดูว่าพ่อแม่พันธุ์มีสุขภาพแข็งแรง
- ร้านเพ็ทช็อป: สะดวกสบาย สามารถไปดูตัวน้องได้เลย มีให้เลือกหลากหลาย แต่ต้องเลือกดูร้านที่สะอาดและดูแลน้องดีๆ ค่ะ บางทีราคาก็จะกลางๆ ไม่สูงเท่าฟาร์มใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ถูกเท่าผู้ขายรายย่อย
- แพลตฟอร์มออนไลน์ (Kaidee, กลุ่ม Facebook): เป็นแหล่งรวมผู้ขายเยอะมากๆ ทั้งฟาร์ม ผู้เลี้ยงเอง หรือคนกลาง ข้อดีคือตัวเลือกเยอะ ราคาหลากหลาย มีโอกาสเจอราคาดีๆ แต่ข้อเสียคือความเสี่ยงสูง ต้องคัดกรองผู้ขายให้ดีมากๆ ค่ะ แนะนำให้นัดดูตัวจริงและเช็คสุขภาพน้องด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อถ้าเป็นไปได้ค่ะ
- กลุ่มหาบ้าน/สถานสงเคราะห์สัตว์: อันนี้เป็นอีกทางเลือกที่ดีมากๆ ค่ะ บางทีอาจจะเจอแมวพันธุ์แท้หรือลูกผสมที่ต้องการบ้านใหม่ เสียแค่ค่าทำหมันหรือค่าดูแลเบื้องต้น เป็นการทำบุญด้วยค่ะ
ช่องทาง Official ของแบรนด์แมวโดยตรงจะไม่มีนะคะ เพราะแมวเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่สินค้าที่ผลิตจากโรงงานค่ะ
8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา
โดยสรุปแล้ว การซื้อน้องแมวพันธุ์เล็กยอดนิยมในไทยเนี่ย ราคาไม่ได้ fix ตายตัว เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ อย่างที่กล่าวมา ถ้าถามว่าคุ้มค่าที่จะซื้อไหม? อันนี้ต้องตอบว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ เลยค่ะ
- ถ้าคุณมีงบประมาณจำกัด และอยากได้แมวตัวเล็กๆ มาเป็นเพื่อน ลองมองหาแมวไทยตัวเล็กๆ หรือแมวลูกผสมตามกลุ่มหาบ้านดูก่อนก็ได้ค่ะ น่ารักไม่แพ้กันเลย หรือถ้าอยากได้พันธุ์แท้จริงๆ อาจจะต้องทำใจว่าราคาเริ่มต้นก็มีหลักพันปลายๆ ถึงหมื่นต้นๆ แล้ว
- ถ้าพร้อมจ่ายเพื่อความสวยงามและลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์ การซื้อน้องแมวพันธุ์เล็กจากฟาร์มที่น่าเชื่อถือ พร้อมใบเพ็ดและใบรับประกันสุขภาพ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปค่ะ ได้น้องที่ตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์และลดความเสี่ยงเรื่องสุขภาพในระยะยาว
- สำหรับคนที่ลังเลระหว่างรุ่นสูง (ราคาแพง) กับรุ่นต่ำ (ราคาถูกลง) ในสายพันธุ์เดียวกัน ให้พิจารณาว่าลักษณะเด่นที่คุณต้องการนั้นสำคัญกับคุณแค่ไหน และความเสี่ยงเรื่องสุขภาพที่อาจมาพร้อมกับราคาที่ถูกลง คุณรับได้หรือไม่ บางทีการจ่ายแพงขึ้นอีกนิดเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของน้อง ก็อาจจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาวนะคะ
ไม่ว่าจะเลือกเลี้ยงน้องพันธุ์ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือความรักและการดูแลเอาใจใส่ค่ะ น้องแมวคือสมาชิกในครอบครัวที่จะอยู่กับเราไปอีกหลายปี การตัดสินใจเลี้ยงจึงต้องมาพร้อมความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ (แต่ก็มาพร้อมความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่านะ!) ขอให้ทุกคนได้พบน้องเหมียวคู่ใจที่เหมาะกับตัวเองนะคะ บ๊ายบายค่า!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิวรองเท้าผ้าใบ Puma Carina: สวยคลาสสิก แมทช์ได้ทุกลุค
รีวิว YSL Pure Shots: เซรั่มกู้ผิวโทรม บูสต์ผิวใสในข้ามคืน
เปิดกรุรีวิวไอเทมเด็ดจาก Watsons: ตัวไหนน่าสอย ตัวไหนต้องลอง?
รีวิว Hiby R3: เครื่องเล่นเพลงพกพาเสียงดี เหมาะกับคนรักเสียงเพลง
รีวิว มาร์คเท้ากู้ชีพ: เปลี่ยนเท้าหยาบกร้าน เป็นเท้าเนียนนุ่มน่าสัมผัส
รีวิว Yamaha Nouvo Elegance 135cc: ออโตเมติกยอดนิยม ดีไซน์สปอร์ต ขี่สบาย