ราคา Maserati รถสปอร์ตหรู แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่?

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเปิดโลกยานยนต์สุดหรูระดับตัวพ่อจากอิตาลีกัน กับแบรนด์ที่มีสัญลักษณ์เป็นตรีศูลสุดเท่ นั่นก็คือ Maserati นั่นเอง! ใครที่กำลังใฝ่ฝันอยากมีรถสปอร์ตหรูๆ ขับไปไหนมาไหนแล้วคนต้องเหลียวหลัง มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะพาไปเจาะลึกว่าเจ้าปลาฉลาม (จริงๆ คือตรีศูลนะ!) แต่ละรุ่นในไทยราคาเท่าไหร่กันบ้าง เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปส่องความอลังการกันเลย!

1. Maserati คืออะไร มาจากไหน เหมาะกับใคร?

เอาล่ะ มารู้จัก Maserati กันก่อน แบรนด์นี้เค้ามาจากประเทศอิตาลี ดินแดนแห่งแฟชั่น ศิลปะ และรถยนต์ซูเปอร์คาร์สุดเร้าใจ Maserati ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1914 โน่นแน่ะ! เรียกว่าเก๋าจริงอะไรจริงนะจ๊ะ เค้าขึ้นชื่อเรื่องการผสมผสานความหรูหราแบบผู้ดีอิตาลีเข้ากับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เร้าใจสไตล์รถแข่ง ขับแล้วรู้สึกเหมือนเป็นฟาสต์แอนด์ฟิวเรียสเวอร์ชันผู้บริหารประมาณนั้นเลย

รถ Maserati เนี่ย ไม่ใช่รถสำหรับทุกคนนะจ๊ะ บอกเลย! เค้าเหมาะกับคนที่ ชื่นชอบความแตกต่าง ไม่เหมือนใคร ชอบรถที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ เส้นสายพริ้วไหว มีความอาร์ตอยู่ในตัว แถมยังต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ขับสนุก เหยียบเป็นมา ที่สำคัญคือ ต้องมี กำลังทรัพย์ระดับหนึ่ง เพราะรถเค้าไม่ใช่แค่แพงตอนซื้อ แต่ค่าดูแลรักษาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันจ้า

2. ราคา Maserati ในตลาดไทย แต่ละรุ่นเท่าไหร่กันนะ?

มาถึงช่วงที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือเรื่อง "ราคา" นั่นเอง! ต้องบอกก่อนว่า Maserati ที่ขายในไทยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าแบบ CBU (Complete Built Unit) หรือนำเข้ามาทั้งคันจากอิตาลีเลยจ้า ทำให้ราคาค่อนข้างสูง และแน่นอนว่าราคาก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและแต่ละปี

จากข้อมูลล่าสุด (อัปเดตต้นปี 2025) พอจะแจกแจงราคาคร่าวๆ ได้ประมาณนี้จ้า (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะ ควรสอบถามผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกที):

• Maserati Ghibli: ซีดาน 4 ประตูสุดหรู รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ทำให้หลายคนเข้าถึงแบรนด์ Maserati ได้ง่ายขึ้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านกลางๆ ไปจนถึงเกือบ 10 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชันนะ รุ่น Ghibli Hybrid ก็มีนะจ๊ะ ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.99 ล้านบาท
• Maserati Quattroporte: ซีดาน 4 ประตูรุ่นใหญ่ ดีไซน์หรูหรา ภูมิฐาน แต่ยังแฝงความสปอร์ตเอาไว้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.6 ล้านบาท ไปจนถึงกว่า 4.2 ล้านบาท สำหรับรุ่นปัจจุบัน (เคยมีรุ่นตัวแรงราคาสูงกว่านี้ด้วยนะ)
• Maserati Grecale: SUV รุ่นเล็ก ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทยได้ไม่นาน เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบรถยกสูงแต่ยังอยากได้ความหรูหราและสมรรถนะสไตล์ Maserati ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.89 ล้านบาท ไปจนถึง 8.89 ล้านบาท สำหรับรุ่น Trofeo ตัวแรง
• Maserati Levante: SUV รุ่นพี่ ที่ออกมาก่อน Grecale เป็นรถ SUV คันแรกของ Maserati ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในไทย ราคาเริ่มต้นประมาณ 6.49 ล้านบาท ไปจนถึง 7.99 ล้านบาท สำหรับรุ่น Hybrid (รุ่นตัวแรง Trofeo ราคาก็พุ่งไปอีกนะ)
• Maserati GranTurismo: รถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู ดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฟฟ้า Folgore ที่เป็น EV 100% เลยนะ ราคาเริ่มต้นนี่มีตั้งแต่ 5.99 ล้านบาท ไปจนถึง 14.5 ล้านบาท สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ 12.9 ล้านบาท สำหรับรุ่น Folgore
• Maserati GranCabrio: รถสปอร์ตเปิดประทุนสุดชิลล์ มาพร้อมสองทางเลือกเหมือน GranTurismo คือเครื่องยนต์ Nettuno และรุ่นไฟฟ้า Folgore ราคาเริ่มต้นประมาณ 14.9 ล้านบาท สำหรับรุ่น Folgore และ 18.9 ล้านบาท สำหรับรุ่น Trofeo
• Maserati MC20: ซูเปอร์คาร์ตัวแรงที่สุดในไลน์อัปปัจจุบัน ดีไซน์ล้ำ อัตราเร่งกระชากวิญญาณ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 21.5 ล้านบาท สำหรับรุ่นคูเป้ และ 26.5 ล้านบาท สำหรับรุ่นเปิดประทุน MC20 Cielo

จะเห็นว่าช่วงราคากว้างมากๆ เลยจ้า ตั้งแต่หลักหลายล้าน ไปจนถึงหลายสิบล้านบาท ซึ่งราคานี้คือราคาที่รวมภาษีนำเข้าและภาษีต่างๆ ในไทยแล้วนะจ๊ะ ถ้าเทียบกับราคาในต่างประเทศ ส่วนต่างค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว อันนี้เป็นเรื่องปกติของรถนำเข้าในบ้านเราจ้า

3. เทียบราคากับคู่แข่งในตลาดเป็นยังไงบ้าง?

ถ้าให้เทียบกับแบรนด์รถหรู หรือรถสปอร์ตอื่นๆ ในตลาดไทย Maserati จะอยู่ในกลุ่มพรีเมียมที่เน้นความหรูหรา มีสไตล์ และสมรรถนะที่แตกต่าง ตัวอย่างคู่แข่งในแต่ละเซกเมนต์ก็อาจจะมี Porsche, Mercedes-AMG, BMW M บางรุ่น, หรือพวก Aston Martin ในรุ่นเริ่มต้นๆ

Maserati อาจจะไม่ได้เน้นตัวเลขแรงม้า หรือเวลาในสนามแข่งแบบสุดโต่งเท่าบางแบรนด์ แต่เค้าเน้นที่ คาแรคเตอร์ของรถ ความเป็นอิตาเลียน ความประณีตในรายละเอียด และเสียงเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันตีเป็นตัวเลขยาก แต่เป็นสิ่งที่คนรัก Maserati เค้าสัมผัสได้

เมื่อเทียบราคากับคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน Maserati อาจจะมีราคาที่ใกล้เคียงกันในบางรุ่น หรืออาจจะสูงกว่าเล็กน้อยในบางรุ่น แต่สิ่งที่ได้คือ ความพิเศษและความไม่โหล คนที่เลือก Maserati มักจะไม่ใช่คนที่แค่ต้องการรถแพงๆ แต่เค้าต้องการรถที่มีเรื่องราว มีจิตวิญญาณ และสะท้อนตัวตนที่ชอบความแตกต่างนั่นเองจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาด้วย? อุปกรณ์เสริม บริการ การรับประกัน

เวลาซื้อ Maserati ในไทยจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ สิ่งที่ได้มาหลักๆ แน่นอนก็คือ ตัวรถ พร้อมออปชันมาตรฐานตามสเปกของรุ่นนั้นๆ

เรื่องสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ คือ การรับประกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Maserati ในไทยจะมีการรับประกันคุณภาพตัวรถให้ประมาณ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และบางรุ่นอาจจะมีประกันแบตเตอรี่ (สำหรับรุ่น Hybrid หรือ EV) ให้นานขึ้น เช่น 8 ปี หรือ 160,000 กม. นอกจากนี้ ยังมักจะมีบริการ ฟรีค่าบำรุงรักษา ให้ด้วยในช่วงระยะเวลาหรือระยะทางที่กำหนด เช่น 3 ปี หรือ 60,000 กม. ซึ่งอันนี้สำคัญมากๆ เพราะค่าบำรุงรักษารถหรูนั้นไม่ธรรมดาเลยจ้า!

ส่วน อุปกรณ์เสริม เช่น ล้อลายพิเศษ, เบาะหนังเกรดพรีเมียมขึ้น, ระบบเครื่องเสียงที่ดีขึ้น หรือชุดตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์ต่างๆ พวกนี้มักจะเป็นออปชันที่ต้อง จ่ายเงินเพิ่ม นะจ๊ะ ราคาตัวรถที่เห็นมักจะเป็นราคาเริ่มต้น ถ้าอยากได้ออปชันจัดเต็ม ราคาก็จะพุ่งขึ้นไปอีกจ้า ส่วนเรื่องค่าขนส่ง รถระดับนี้คงไม่มีมาส่งถึงบ้านแบบใส่กล่องนะ เค้าก็จะมีการนัดรับรถที่โชว์รูมอย่างเป็นทางการนั่นแหละ

5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษไหม?

สำหรับรถหรูระดับ Maserati เนี่ย โปรโมชั่นลดราคาแบบฮาร์ดคอร์เหมือนตอนช้อป 11.11 หรือ 12.12 ใน Lazada/Shopee อาจจะไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนักนะจ๊ะ เค้าไม่ได้เน้นจัดโปรโมชั่นตามเทศกาลไทยจ๋าๆ แบบนั้นเท่าไหร่

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโปรโมชั่นเลยนะ! ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยอาจจะมี แคมเปญพิเศษ ออกมาเป็นช่วงๆ เช่น โปรแกรมทางการเงินที่น่าสนใจ, การขยายระยะเวลาการรับประกัน, การแถมแพ็กเกจบำรุงรักษาเพิ่มเติม, หรือการเสนอออปชันพิเศษในราคาที่ดีขึ้น อันนี้ต้องหมั่นติดตามข่าวสารจากผู้จำหน่ายโดยตรง หรือลองเข้าไปสอบถามที่โชว์รูมดูนะจ๊ะ

ร้านค้าแฟลกชิพใน Lazada/Shopee ที่ขาย Maserati (ถ้ามีนะ) ก็คงจะเน้นการให้ข้อมูล หรือขายสินค้าไลฟ์สไตล์ของแบรนด์มากกว่าตัวรถยนต์จ้า ดังนั้น ถ้าอยากได้รถจริงๆ ช่องทางผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการคือคำตอบ ส่วนช่วงที่น่าซื้อเป็นพิเศษ ก็อาจจะเป็นช่วงที่เค้าเปิดตัวรุ่นใหม่ หรือมีแคมเปญส่งเสริมการขายประจำปีจ้า

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้าง?

ฟีดแบ็กจากผู้ใช้ Maserati ในไทยเท่าที่พอจะรวบรวมได้ มักจะไปในทิศทางที่ว่า เค้าชอบ ดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ขับไปไหนคนก็มอง เพราะมันไม่ได้มีเยอะเหมือนรถหรูบางแบรนด์ เสียงเครื่องยนต์นี่หลายคนบอกว่า เพราะมาก ฟังแล้วใจละลาย เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์เลยทีเดียว

สมรรถนะการขับขี่ก็เป็นอีกจุดที่คนพูดถึงว่า ขับสนุก เร้าใจ โดยเฉพาะเวลาใช้ความเร็ว หรือเข้าโค้ง การตกแต่งภายในก็มีความหรูหรา ใช้วัสดุดี พรีเมียมตามสไตล์อิตาเลียน

แต่สิ่งที่มาพร้อมกับรถระดับนี้ และมักจะถูกพูดถึงเช่นกัน ก็คือเรื่อง ค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง และบางทีอาจจะต้องใช้เวลาในการสั่งอะไหล่บางชิ้น อันนี้เป็นเรื่องปกติของรถนำเข้าและรถหรูนะจ๊ะ ต้องทำใจยอมรับจุดนี้ให้ได้

โดยรวมแล้ว คนที่ซื้อ Maserati ในไทย มักจะพอใจกับ ความพิเศษ ความแตกต่าง และประสบการณ์ในการขับขี่ ที่ได้รับ ซึ่งเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ง่ายๆ ในรถยนต์ทั่วไป

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

สำหรับ Maserati ช่องทางการซื้อที่ดีที่สุด และแนะนำมากๆ ก็คือการซื้อจาก ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย นั่นเองจ้า

• ช่องทางทางการ (ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ): การซื้อผ่านช่องทางนี้ ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นรถใหม่แท้ ได้รับการรับประกันจากศูนย์บริการโดยตรง มีบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน มีช่างผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะ และมั่นใจได้ว่าใช้อะไหล่แท้ สามารถเข้าไปชมรถ ทดลองขับ และปรึกษาเรื่องการเงินกับพนักงานได้โดยตรง
• แพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ (Lazada, Shopee): อย่างที่บอกไปตอนต้น แพลตฟอร์มเหล่านี้อาจจะมีสินค้าไลฟ์สไตล์ หรืออุปกรณ์เสริมบ้าง แต่ไม่มีตัวรถขายจ้า
• ช่องทางร้านค้าปลีก: เช่น Central, Big C, The Mall หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy ก็ไม่ใช่ช่องทางในการขายรถยนต์ Maserati นะจ๊ะ คนละหมวดหมู่กันเลย
• ตลาดรถมือสอง: แน่นอนว่ามี Maserati มือสองขายในตลาด ราคาจะถูกลงมาเยอะ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา เช่น สภาพรถ ประวัติการใช้งาน การหมดระยะเวลารับประกันศูนย์ และค่าซ่อมบำรุงที่อาจจะต้องเจอ ใครที่จะซื้อรถมือสองต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และพาผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดูนะจ๊ะ

ดังนั้น ถ้าอยากได้ Maserati ใหม่แกะกล่อง พร้อมการรับประกันและบริการหลังการขายที่อุ่นใจ พุ่งตรงไปที่โชว์รูมผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ได้เลยจ้า

8. สรุปความคุ้มค่าและคำแนะนำเรื่องราคา

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า Maserati คุ้มค่าที่จะซื้อไหม? คำตอบคือ คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่ใช่ จ้า! ถ้าคุณเป็นคนที่มีงบประมาณถึง ต้องการรถที่ไม่เหมือนใคร เน้นความหรูหราสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะเร้าใจ และอยากได้รถที่สะท้อนรสนิยมที่แตกต่าง Maserati คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์สุดๆ

Maserati ไม่ได้แข่งที่ราคาที่ถูกที่สุด แต่แข่งที่ คุณค่าทางจิตใจและประสบการณ์ในการขับขี่ ที่มอบให้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ประเมินค่าเป็นตัวเงินได้ยาก

แล้วควรเลือกรุ่นไหนดี?

• ถ้าเพิ่งเริ่มต้นอยากสัมผัสแบรนด์ หรือต้องการซีดานที่หรูหรา ขับในเมืองได้ดี Ghibli ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น
• ถ้าต้องการซีดาน 4 ประตูที่ภูมิฐาน นั่งสบาย เหมาะสำหรับผู้บริหาร หรือครอบครัวเล็กๆ Quattroporte ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
• ถ้าชอบรถยกสูง ลุยได้นิดหน่อย นั่งสบาย ขนของได้บ้าง แต่ยังอยากได้ความสปอร์ต Grecale หรือ Levante คือคำตอบ
• ถ้าหัวใจเรียกร้องรถสปอร์ตคูเป้ หรือเปิดประทุน ดีไซน์สวยคลาสสิก ขับชิลล์ๆ หรืออยากสัมผัสรถไฟฟ้าสุดแรง GranTurismo หรือ GranCabrio คือสิ่งที่คุณตามหา
• ถ้าอยากได้ที่สุดของที่สุด ซูเปอร์คาร์ตัวแรง สมรรถนะจัดเต็ม ไม่ซ้ำใคร MC20 คือรถในฝัน

ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ไปทดลองขับ ทุกรุ่นที่สนใจเลยนะจ๊ะ จะได้รู้ว่าคันไหนตอบโจทย์สไตล์การขับขี่และความต้องการของเรามากที่สุด อย่าลืมพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาในระยะยาวด้วยนะจ๊ะ จะได้แฮปปี้กับการเป็นเจ้าของตรีศูลสุดหล่อคันนี้ไปนานๆ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเล็งๆ Maserati อยู่นะจ๊ะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ ขับขี่ปลอดภัย และมีความสุขกับการเป็นเจ้าของรถสปอร์ตหรูจากอิตาลีจ้า! Ciao!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ตลาดหรูเดือด! Maserati เตรียมเปิดตัว SUV ไฟฟ้า 557 ม้า วิ่งไกลสุด ...
• ลอง Maserati Grecale GT!!รถSUV หรู แรง 300 ม้า หน้าสวย แต่ถ้า ...
• 1 Day With 300 : กับ Maserati Ghibli ดี ไม่ดี คุ้มค่าไหม ซื้อขายใน ...
• [spin9] พาชม Maserati GranTurismo โฉมใหม่ เริ่มต้น 12.9 ล้าน ...
• มาฟังเสียงรถสปอร์ตคันละ 16 ล้านกับป้าตือ มันคือ Maserati 4 รุ่นแรง ...