ราคา เมมโมรี่การ์ด 16GB อัปเดตปี 2568 เลือกซื้อแบบไหนดี สำหรับกล้องและมือถือ

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ! วันนี้เราจะมาเปิดวาร์ปไอเทมจิ๋วแต่แจ๋ว ที่ขาดไม่ได้สำหรับคนรักกล้องรักมือถือ นั่นก็คือ "เมมโมรี่การ์ด" นั่นเอง! โดยเฉพาะไซส์ 16GB ที่ถึงแม้ปี พ.ศ. 2568 นี้ความจุอื่นๆ จะใหญ่ยักษ์ขึ้นไปแค่ไหน เจ้า 16GB ก็ยังมีที่ยืนเล็กๆ ของมันอยู่จ้า แต่มันยังน่าใช้อยู่ไหม แล้วจะเลือกซื้อแบบไหนดีให้คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋า มาดูกันเลย!

1. ไอเทมจิ๋วแต่แจ๋ว มันคืออะไรกันนะ?

พูดถึงเมมโมรี่การ์ด หลายคนก็น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว มันก็คืออุปกรณ์เล็กๆ ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนคลังเก็บสมบัติของเรา ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ เพลง หรือไฟล์ต่างๆ เอาไว้ใส่ในกล้องดิจิทัล โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการพื้นที่เพิ่มนั่นแหละจ้า สำหรับเมมโมรี่การ์ดขนาด 16GB เนี่ย ถือเป็นความจุแบบเริ่มต้นมากๆ ในยุคนี้ เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานไม่หนักหน่วงมากนัก หรืออุปกรณ์ที่รองรับความจุไม่สูงมาก เช่น กล้องรุ่นเก่าหน่อย หรือมือถือที่เน้นใช้งานทั่วไป ไม่ได้ถ่ายวิดีโอ 4K แบบจัดเต็มอะไรขนาดนั้นนะ

แบรนด์ดังๆ ในตลาดเมมโมรี่การ์ดก็หนีไม่พ้นแบรนด์ระดับโลกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น SanDisk จากอเมริกา ที่เป็นผู้นำด้านโซลิดสเตตมานาน หรือ Kingston และ Transcend จากไต้หวัน ที่ก็เป็นที่รู้จักเรื่องคุณภาพและความทนทาน ส่วนใหญ่แบรนด์เหล่านี้มีประวัติยาวนานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลเลยจ้า

2. ราคาในตลาดไทย ปี 2568 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้! ราคาของเมมโมรี่การ์ด 16GB ในไทยปี 2568 เนี่ย บอกเลยว่า ถูกมากๆ! เพราะความจุนี้ถือว่าน้อยแล้วในยุคที่ไฟล์รูปไฟล์วิดีโอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทของการ์ด (SD Card สำหรับกล้องใหญ่ หรือ MicroSD Card สำหรับมือถือ/กล้องขนาดเล็ก) และความเร็ว (Class) นะ โดยส่วนใหญ่เมมโมรี่การ์ด 16GB ในท้องตลาดตอนนี้จะเป็นแบบ MicroSD Class 10 ซึ่งเป็นความเร็วมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป

ลองไปส่องดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย จะเจอราคาตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงร้อยต้นๆ เลยจ้า อย่างของแบรนด์ดังๆ บางทีก็เริ่มต้นแค่ประมาณ 80-150 บาทแล้วนะ ส่วนตามร้านค้าไอทีเจ้าใหญ่ๆ อย่าง JIB หรือ Banana IT เนี่ย อาจจะต้องลองเช็คดูว่าเค้ายังมีขนาด 16GB ขายอยู่ไหม เพราะส่วนใหญ่เค้าจะเน้นไปที่ความจุที่สูงกว่านี้แล้ว แต่ถ้ามีก็คาดว่าราคาจะไม่หนีจากออนไลน์มากนัก หรืออาจจะมีโปรโมชั่น bundling กับสินค้าอื่นบ้าง

สำหรับตามห้างร้านอย่าง Central หรือ Big C, The Mall แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็อาจจะมีขายบ้าง แต่ตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าร้านไอทีเฉพาะทาง หรือแพลตฟอร์มออนไลน์นะ ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคานานาชาติ สำหรับเมม 16GB ที่ราคาถูกขนาดนี้ ส่วนต่างนั้นน้อยมากๆ จนแทบไม่ต้องกังวลเลยจ้า

3. เทียบราคากับความจุอื่น คุ้มไหมเนี่ย?

อันนี้แหละคือจุดที่ต้องคิด! เมมโมรี่การ์ด 16GB ราคาถูกจริง แต่ถ้าลองเทียบกับความจุที่สูงขึ้นมาหน่อยอย่าง 32GB หรือ 64GB เนี่ย จะเห็นว่าราคาไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยนะ บางทีเพิ่มเงินอีกไม่กี่สิบบาท หรือร้อยสองร้อยบาท ก็ได้ความจุเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัวหรือหลายเท่าตัวเลย อย่าง 32GB อาจจะเริ่มต้นที่ร้อยกว่าบาทปลายๆ หรือสองร้อยกว่าบาท ซึ่งถ้ามองในแง่ความคุ้มค่าต่อพื้นที่เก็บข้อมูลแล้ว ความจุที่มากกว่าอาจจะดูน่าสนใจกว่ามากๆ ในปี 2568 นี้ การ์ด 16GB เลยเหมาะกับคนที่ เน้นประหยัดสุดๆ หรือ ใช้งานน้อยจริงๆ เท่านั้นแหละจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันไหมนะ?

เวลาซื้อเมมโมรี่การ์ด 16GB เนี่ย สิ่งที่ได้หลักๆ ก็คือ ตัวการ์ด นั่นแหละ บางรุ่นที่เป็น MicroSD อาจจะมี ตัวแปลงเป็น SD Card แถมมาให้ด้วย อุปกรณ์เสริมอื่นๆ หรือของแถมเนี่ย ไม่ค่อยมีนะสำหรับเมมความจุเริ่มต้นแบบนี้ ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ก็ต้องเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้าน บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นส่งฟรีเมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนดนะ

ที่สำคัญมากๆ สำหรับคนไทยอย่างเราๆ ก็คือ การรับประกัน นี่แหละ! แบรนด์ดังๆ อย่าง SanDisk, Kingston, Transcend มักจะมีการรับประกันสินค้าให้ด้วยนะ บางทีรับประกันยาวนานถึง 5 ปี หรือ 10 ปีเลยก็มี ซึ่งอันนี้อุ่นใจมากๆ เลย เพราะเมมโมรี่การ์ดก็เป็นอุปกรณ์ที่อาจจะมีปัญหาเรื่องการอ่านเขียนข้อมูลได้ การมีการรับประกันที่ดีก็ช่วยให้เราไม่ต้องกังวลมากนัก เวลาซื้อก็อย่าลืมเช็คเงื่อนไขการรับประกันกับผู้ขายให้ดีล่ะ

5. ช่วงไหนน่าช้อป มีโปรโมชั่นโดนๆ ไหม?

ถ้าอยากได้เมมโมรี่การ์ด 16GB ในราคาที่ถูกลงไปอีก (ซึ่งปกติก็ถูกอยู่แล้ว!) ก็ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น เลยจ้า! แพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee นี่เค้าจัดหนักจัดเต็มเรื่องโปรโมชั่นอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ร้านค้าที่เป็น Official Store ของแบรนด์ดังๆ บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มักจะมีส่วนลด หรือแจกคูปองพิเศษอยู่เรื่อยๆ นะ

ถึงแม้เมม 16GB จะราคาไม่สูงมากจนต้องรอโปรใหญ่ขนาดนั้น แต่ถ้าซื้อพร้อมกับสินค้าอื่นๆ ที่มีโปรโมชั่น หรือใช้โค้ดส่วนลดค่าส่ง ก็ช่วยประหยัดไปได้อีกเล็กน้อยนะจ๊ะ สรุปคือถ้าเจอโปรโมชั่นดีๆ หรือต้องซื้อพร้อมสินค้าอื่นในช่วงลดราคา ก็จัดไปได้เลย!

6. คนไทยใช้แล้วเป็นไงบ้าง? รีวิวบอกว่า...

จากที่ไปส่องๆ ดูตามรีวิวของผู้ใช้คนไทยใน Shopee/Lazada เนี่ย สำหรับเมมโมรี่การ์ด 16GB ส่วนใหญ่ก็จะประมาณว่า "ใช้ได้ดี", "ราคาถูก", "ตรงปก" อะไรทำนองนี้ คือด้วยความที่มันเป็นความจุเริ่มต้น ฟังก์ชันมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ส่วนใหญ่ซื้อมาก็เสียบแล้วใช้ได้เลย

แต่ข้อที่ต้องระวังตามที่หลายรีวิวบอก (สำหรับเมมความจุไม่สูงมาก หรือราคาถูกมากๆ) คือเรื่อง ความเร็วในการเขียนข้อมูล ที่อาจจะไม่สูงมากนัก ทำให้เวลาถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงมากๆ อาจจะมีปัญหากระตุกได้นะ แล้วก็เรื่อง ความทนทาน ที่บางทีก็เหมือนวัดดวง บางคนใช้ได้นานไม่มีปัญหา บางคนก็อาจจะเจอปัญหาเร็วหน่อย แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นแบรนด์ดังๆ คุณภาพก็จะไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง และมีการรับประกันช่วยให้อุ่นใจขึ้นนะ

7. จะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีนะ?

ช่องทางการซื้อเมมโมรี่การ์ด 16GB ที่สะดวกที่สุดในยุคนี้ก็ต้องยกให้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ อย่าง Shopee และ Lazada เลยจ้า ข้อดีคือมีร้านค้าเยอะมากๆ มีตัวเลือกหลากหลายราคาให้เปรียบเทียบ แถมยังส่งตรงถึงบ้าน ไม่ต้องเสียเวลาออกไปเดินหา บางทีมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นดีๆ ด้วย

ส่วนร้านค้าไอทีเจ้าใหญ่ๆ อย่าง JIB หรือ Banana IT ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี ถึงแม้เมม 16GB อาจจะไม่ใช่สินค้าหลักของเค้าแล้ว แต่ถ้ามีขายก็มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน และมีบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้นะ (เช็คสาขาใกล้บ้านได้ตามเว็บไซต์เลย) ส่วนตามห้างร้านทั่วไปก็ลองแวะดูได้ แต่ตัวเลือกอาจจะไม่หลากหลายเท่าสองช่องทางแรกจ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงคำถามสุดท้าย! เมมโมรี่การ์ด 16GB ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2568 นี้? ถ้าถามว่า "ยังใช้ได้ไหม" คำตอบคือ "ใช้ได้" จ้า แต่มัน เหมาะกับใคร ล่ะ?

• คนที่ มีงบประมาณจำกัดมากๆ และต้องการแค่พื้นที่เก็บข้อมูลพื้นฐานจริงๆ
• คนที่มี กล้องรุ่นเก่า หรือ อุปกรณ์ที่รองรับความจุไม่สูง
• คนที่ เน้นถ่ายรูปไม่เยอะ หรือถ่ายวิดีโอสั้นๆ ความละเอียดไม่สูง
• คนที่อยากได้เมม สำรองไว้ใช้ชั่วคราว

ถ้าคุณจัดอยู่ในกลุ่มนี้ เมม 16GB ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋ามากๆ เลยจ้า เพราะราคาถูกแบบสุดๆ ไปเลย แต่ถ้าถามว่า "คุ้มค่าที่สุด" ไหม ถ้ามองระยะยาวและเปรียบเทียบกับราคาของความจุที่สูงขึ้นเล็กน้อยอย่าง 32GB หรือ 64GB แล้วเนี่ย อาจจะต้องบอกว่า ความจุที่มากกว่านั้นจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว นะ เพราะไฟล์ต่างๆ ในปัจจุบันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ซื้อความจุที่เยอะหน่อยก็จะใช้งานได้ครอบคลุมและไม่ต้องคอยลบไฟล์บ่อยๆ

ดังนั้น สรุปง่ายๆ คือ เมม 16GB เหมาะกับคน งบน้อย เน้นใช้งานพื้นฐานกับอุปกรณ์เก่าๆ จ้า แต่ถ้าพอมีงบขยับขึ้นมาอีกนิด การเลือกความจุที่สูงกว่านั้น อาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนานกว่านะ! หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้เมมที่ถูกใจไปใช้งานกันถ้วนหน้าจ้า! บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ถูก vs แพง Micro SD Card แต่ละแบบต่างกันไง ?
• เมมโมรี่การ์ดกล้อง ราคาหลัก 100 / 1000 / 10000 ต่างกันยังไง ...
• Memory Card ราคาถูก VS แพง ต่างกันอย่างไร?
• เทคนิคมือใหม่เลือกซื้อ Memory Card ยังไง ? ไม่ให้ซื้อผิดใช้งานไม่ ...
• วิธีเลือกซื้อ Memory card Micro SD เมมโมรี่การ์ด แก้ไขกล้องร้อน ...