ราคา Dunlop Enasave EC300+ ยางประหยัดน้ำมัน นุ่มเงียบ

สวัสดีจ้าพ่อแม่พี่น้องงงง! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องยางรถยนต์กันบ้าง ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวสุดๆ โดยเฉพาะกับคนไทยที่ใช้รถกันเป็นชีวิตจิตใจ! และยางที่เราจะมาเจาะลึกวันนี้คือยางสุดฮิตที่เคลมว่า ประหยัดน้ำมัน นุ่มเงียบ นั่นก็คือ Dunlop Enasave EC300+ นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหายางใหม่ให้รถคันโปรด มาฟังทางนี้ให้ไวเลยจ้า เพราะเราจะมาแฉ เอ้ย! มาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก ทั้งเรื่องราคา โปรโมชั่น และความรู้สึกหลังใช้จริงจากปากคนไทยด้วยกันนี่แหละ! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า Dunlop Enasave EC300+ นี่มันคือยางรถยนต์ประเภทไหน? พูดง่ายๆ มันคือยางที่เค้าเน้นเรื่อง ความประหยัดน้ำมัน เป็นหลักเลยจ้า ตามชื่อรุ่น Enasave ที่ย่อมาจาก Energy Saving นั่นแหละ! เค้าออกแบบมาให้มีแรงต้านทานการหมุนต่ำ ทำให้รถวิ่งได้ไหลลื่นขึ้น กินน้ำมันน้อยลง นอกจากเรื่องประหยัดแล้ว เค้ายังเคลมว่า นุ่มเงียบ ด้วยนะ ขับแล้วรู้สึกสบาย ไม่กระด้าง ไม่ดังหึ่งๆ ให้รำคาญหู เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ใช้รถในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ขับไปทำงาน ขับไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง อยากได้ยางที่ขับสบายๆ ไม่เน้นซิ่งอะไรมากมาย แบรนด์ Dunlop เนี่ยก็เป็นแบรนด์ยางเก่าแก่จากประเทศอังกฤษนะ มีประวัติยาวนานมากๆ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และก็เป็นแบรนด์ยอดนิยมในตลาดเมืองไทยของเราด้วยจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนกระเป๋าตังค์สั่น นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Dunlop Enasave EC300+ เนี่ย ต้องบอกก่อนว่าราคาจะขึ้นอยู่กับ ขนาดยาง เป็นหลักเลยจ้า ยางขอบเล็ก ราคาก็จะถูกหน่อย ขอบใหญ่ขึ้นมา ราคาก็จะขยับขึ้นไปอีก โดยทั่วไปแล้วราคาต่อเส้นในตลาดไทยจะอยู่ประมาณ:

• ยางขอบ 14-15 นิ้ว: ประมาณ 1,xxx - 2,xxx บาท (฿) ต่อเส้น
• ยางขอบ 16-17 นิ้ว: ประมาณ 2,xxx - 3,xxx บาท (฿) ต่อเส้น
• ยางขอบ 18 นิ้วขึ้นไป: ราคาอาจจะสูงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับซีรีส์ยางด้วยนะ

ลองไปส่องตามแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตในไทยดูสิ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย จะมีร้านค้า official ของ Dunlop หรือร้านตัวแทนจำหน่ายมาลงขายเพียบเลยจ้า สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านได้ง่ายมากๆ นอกจากนี้ ตามศูนย์บริการรถยนต์ หรือร้านยางชั้นนำทั่วไปอย่าง B-Quik หรือ Cockpit ก็มีขายเหมือนกันนะ ราคาหน้าร้านอาจจะแตกต่างจากออนไลน์นิดหน่อย แต่ก็แลกมากับบริการติดตั้งและเช็คช่วงล่างให้พร้อมเลยจ้า

3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับยางประเภทเดียวกันที่เน้นประหยัดน้ำมันและนุ่มเงียบจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาดเนี่ย Dunlop Enasave EC300+ ถือว่ามีราคาที่ อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ถูกที่สุด แต่ก็ไม่ได้แพงจนเกินไปนะ เมื่อเทียบกับแบรนด์พรีเมียมอย่าง Michelin หรือ Bridgestone ที่มักจะมีราคาสูงกว่า เจ้า EC300+ ก็เป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ามากๆ เลยจ้า ถ้าเทียบกับยางแบรนด์รองลงมา ราคาก็อาจจะใกล้เคียงกัน หรือ EC300+ อาจจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่ก็แลกมากับชื่อชั้นแบรนด์และความมั่นใจในคุณภาพที่มากกว่าได้นะ สรุปคือเป็นยางที่เน้น ความคุ้มค่า จ่ายในราคาที่สมเหตุสมผล ได้ยางคุณภาพดีที่ตอบโจทย์เรื่องประหยัดน้ำมันและขับสบายจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้แหละคือจุดที่ต้องสอบถามผู้ขายให้ละเอียดเลยนะเวลาซื้อยาง เพราะสิ่งที่ได้มาอาจจะไม่เหมือนกันในแต่ละช่องทางเลย สิ่งที่ควรเช็คเลยก็คือ:

• ราคายาง: อันนี้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าเป็นราคาต่อเส้น หรือราคาต่อชุด (4 เส้น) นะ
• ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะ นอกจากร้านจะจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี ก็ต้องลองดูเงื่อนไขดีๆ จ้า แต่ถ้าซื้อที่ร้านยางก็ไม่ต้องเสียค่าส่งจ้า
• ค่าบริการติดตั้ง: ถ้าซื้อออนไลน์ บางร้านอาจจะมีบริการติดตั้งให้ฟรี หรือมีคูปองส่วนลดค่าติดตั้งให้ตามร้านยางพันธมิตร ลองสอบถามดูนะ แต่ถ้าซื้อที่ร้านยาง ส่วนใหญ่เค้าจะ รวมค่าติดตั้ง ถ่วงล้อ และเติมลมไนโตรเจน มาให้แล้วจ้า อันนี้สะดวกสบายมากๆ
• การรับประกัน: อันนี้สำคัญมากสำหรับคนไทยที่ค่อนข้างกังวลเรื่องคุณภาพและการใช้งาน! ยาง Dunlop ส่วนใหญ่จะมีการรับประกัน ความเสียหายจากการผลิต ประมาณ 5 ปี นับจากวันที่ผลิตยาง หรือจนกว่าดอกยางจะเหลือต่ำกว่าที่กำหนด แล้วแต่เงื่อนไขไหนถึงก่อน ต้องสอบถามรายละเอียดการรับประกันกับร้านค้าอีกทีนะ และบางร้านยางก็อาจจะมี ประกันอุบัติเหตุ เพิ่มเติมให้ด้วย เช่น บาด บวม แตก เคลมเส้นใหม่ได้ อันนี้ต้องลองเช็คโปรโมชั่นของร้านนั้นๆ ดูจ้า
• ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ร้านเลย บางร้านอาจจะมีแถมจุกลมเหล็ก หรือให้ส่วนลดบริการตั้งศูนย์ล้อ เมื่อเปลี่ยนยางครบ 4 เส้น ลองสอบถามโปรโมชั่นก่อนตัดสินใจซื้อนะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ยางดีราคาโดน ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า! ร้านค้าออนไลน์และร้านยางส่วนใหญ่มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยนะ เช่น ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ที่คนนิยมเปลี่ยนยางก่อนเดินทางกลับบ้าน หรือช่วง วันหยุดยาวอื่นๆ นอกจากนี้ ช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) และ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มกันทุกปี! ช่วงนี้แหละที่อาจจะมีร้านค้าเอายางมาลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้ ก็ต้องหมั่นเข้าไปเช็ค เข้าไปส่องบ่อยๆ นะจ๊ะ

ร้านยางชั้นนำอย่าง B-Quik หรือ Cockpit เองก็มักจะมีโปรโมชั่น ลดราคายาง หรือ ผ่อน 0% ในช่วงต่างๆ เหมือนกันนะ ลองติดตามข่าวสารจากช่องทางโซเชียลมีเดียของเค้าดูก็ได้ สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ รอช่วงโปรโมชั่น เนี่ย มีโอกาสได้ของดีราคาถูกลงเยอะเลยจ้า!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Dunlop Enasave EC300+ ถือว่าดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

• นุ่มเงียบจริงตามคำเคลม: หลายคนบอกว่ารู้สึกได้เลยว่ายางนุ่มขึ้น เสียงยางบดถนนเงียบลง ขับสบายขึ้นเยอะ
• ประหยัดน้ำมันได้จริง: แม้จะไม่ใช่การประหยัดแบบฮวบฮาบ แต่หลายคนก็รู้สึกว่าอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีขึ้นเล็กน้อย
• ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้ในราคาที่เราจ่ายไป ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับยางเก๋งขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
• ประสิทธิภาพบนถนนเปียกโอเค: แม้จะเน้นนุ่มเงียบประหยัด แต่ก็ยังให้ความมั่นใจในการขับขี่บนถนนเปียกได้ดีในระดับหนึ่ง

แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ จากบางคนเหมือนกันนะ เช่น ยางอาจจะมีอาการย้วยเล็กน้อยเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง (ซึ่งก็เป็นปกติของยางที่เน้นนุ่ม) หรือบางคนก็บอกว่าดอกยางอาจจะหมดเร็วกว่ายางที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษเล็กน้อย (อันนี้ก็ต้องแลกกับความนุ่มนวลนะจ๊ะ)

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางหลักๆ ที่น่าไปส่องก็คือ:

• ร้านยางและศูนย์บริการรถยนต์ชั้นนำ: เช่น B-Quik, Cockpit, หรือร้านยางท้องถิ่นทั่วไป ข้อดีคือสามารถไป ดูยางของจริง ได้เลย มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ และมีบริการติดตั้ง ถ่วงล้อ เติมลมไนโตรเจนให้พร้อมสรรพ แถมบางทีมีโปรโมชั่นผ่อน 0% ด้วยนะ
• แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada อันนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้า official และร้านตัวแทนจำหน่ายเยอะมากๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านได้ง่าย มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัย และบางทีมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นส่งฟรีให้ใช้ด้วย แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้เห็นของจริงก่อน ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ และต้องหาที่ติดตั้งยางเอง หรือใช้บริการติดตั้งตามที่ร้านค้าออนไลน์กำหนด
• เว็บไซต์ Official ของ Dunlop ประเทศไทย: สามารถเข้าไปดูข้อมูลยาง รุ่นต่างๆ และค้นหาร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้จ้า

แต่ละช่องทางก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนะ ถ้าเน้นความสะดวกครบวงจร จบในที่เดียว ก็ไปร้านยางได้เลย แต่ถ้าเน้นเปรียบเทียบราคา อยากได้โปรโมชั่นเด็ดๆ การช้อปออนไลน์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า Dunlop Enasave EC300+ น่าซื้อไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
• เน้นการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก หรือเดินทางข้ามจังหวัดบ้าง
• อยากได้ยางที่ช่วยประหยัดน้ำมัน
• ให้ความสำคัญกับความนุ่มนวลและความเงียบขณะขับขี่
• มองหายางที่คุ้มค่าคุ้มราคา ไม่ได้ต้องการยางสมรรถนะสูงสำหรับสนามแข่ง

เจ้า Dunlop Enasave EC300+ คือตัวเลือกที่ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า! มันเป็นยางที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปของคนไทยส่วนใหญ่ได้ดีมากๆ ให้ความสบายในการขับขี่ ช่วยประหยัดน้ำมันได้นิดหน่อย และมาในราคาที่เข้าถึงได้

ส่วนจะคุ้มค่าที่จะซื้อไหม ก็ต้องบอกว่าถ้าเงื่อนไขตรงตามที่คุณต้องการข้างบน คือ คุ้มค่าแน่นอน จ้า! แต่ถ้าคุณเป็นสายซิ่ง ชอบเข้าโค้งแรงๆ หรือเน้นยางที่ทนทานสุดๆ วิ่งได้เป็นแสนกิโล อาจจะต้องลองดูยางรุ่นอื่นที่ออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์นั้นๆ โดยเฉพาะนะ แต่สำหรับยางที่เน้น ประหยัด นุ่ม เงียบ ในงบที่เป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ เจ้า EC300+ นี่แหละคือพระเอกตัวจริง!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อยาง Dunlop Enasave EC300+ นะจ๊ะ ขอให้ได้ยางที่ถูกใจ ขับขี่ปลอดภัย ประหยัดน้ำมัน นุ่มเงียบ ตลอดการเดินทางจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ยางนุ่มเงียบ ประหยัดน้ำมัน กับราคาสุดคุ้มค่า (DUNLOP ENASAVE ...
• ยางนุ่มเงียบ ประหยัดน้ำมัน กับราคาสุดคุ้มค่า (DUNLOP ENASAVE ...
• บ่นไปเรื่อย : รีวิวยาง Dunlop Enasave EC300+
• DUNLOP Enasave ท้าพิสูจน์ นุ่มสบายกว่า / ปลอดภัยกว่า / ประหยัด ...
• Top 3 ยางนุ่มเงียบ พาเด็ก ๆ เที่ยวชิล ชิล นุ่มมมสบายทุกเส้นทาง ...