รีวิว MX10 Android TV Box: กล่องทีวีดูหนังฟังเพลง รุ่นเล็ก ราคาประหยัด ดีพอไหม?


สวัสดีค่า! วันนี้เราจะมาเจาะลึกกล่องทีวีแอนดรอยด์รุ่นเล็ก ราคาน่ารักน่าลุ้นอย่าง MX10 Android TV Box กันค่ะ หลายคนคงสงสัยว่าเจ้ากล่องจิ๋วตัวนี้เนี่ย จะแปลงร่างทีวีธรรมดาๆ ที่บ้านให้กลายเป็นสมาร์ททีวีสุดล้ำได้จริงดิ? แล้วมันจะดูหนังฟังเพลงแบบไม่กระตุก ไม่ค้าง ให้หงุดหงิดอารมณ์เสียตอนซีรีส์กำลังพีคได้ไหม? มาค่ะ! เราจะพาไปไขข้อข้องใจแบบหมดเปลือก สไตล์บ้านๆ เข้าถึงง่าย พร้อมแอบสอดแทรกมุกเสี่ยวๆ ให้ได้อมยิ้มกันไปค่ะ
1. ภาพรวมแบบไวๆ: รู้จัก MX10 กันก่อนที่จะรัก (หรือเท?)
แบรนด์: จริงๆ มันคือกล่องโนเนมที่ใช้ชิปและบอร์ดทั่วไปนะคะ ไม่ได้มียี่ห้อดังอะไรเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะเห็นแปะชื่อรุ่น MX10 เฉยๆ นี่แหละ
รุ่น: MX10 (มีหลายเวอร์ชันย่อยๆ ออกมาเรื่อยๆ ทั้ง MX10 Pro, MX10 Mini แล้วแต่ผู้ขายจะตั้งชื่อ แต่สเปกพื้นฐานจะคล้ายๆ กัน)
ปีที่วางขาย: มีมานานหลายปีแล้วค่ะ เห็นตั้งแต่ Android เวอร์ชั่นเก่าๆ ยันเวอร์ชันใหม่ๆ แต่สเปกภายในไม่ค่อยเปลี่ยนมาก
ช่วงราคา: โคตรถูก! เจอได้ตั้งแต่ไม่ถึงพันบาท บางทีจัดโปรเหลือไม่กี่ร้อยก็มี เห็นใน Shopee, Lazada เพียบ
การวางตำแหน่งสินค้า: รุ่นเริ่มต้น / ราคาประหยัดสุดๆ / เหมาะกับคนงบน้อย หรืออยากลองใช้กล่องแอนดรอยด์ทีวีเป็นครั้งแรก
จุดเด่นที่เขาเคลมมา (ส่วนจะจริงไหม ไปดูกันต่อ):
- ราคาถูกมาก: อันนี้ของจริง ไม่จกตา
- แปลงร่างทีวีเก่าให้เป็นสมาร์ททีวี: เสียบสาย HDMI ก็ดู YouTube, Netflix ได้ (ถ้าเครื่องรองรับและเสถียรพอ)
- รองรับความละเอียด 4K: อันนี้ต้องดูสเปกดีๆ บางรุ่นรองรับ แต่จะดูได้ลื่นแค่ไหนอีกเรื่อง
- มีพอร์ต USB หลายช่อง: เสียบเมาส์ คีย์บอร์ด แฟลชไดรฟ์ ได้สะดวก
2. ดีไซน์และรูปลักษณ์: เล็กๆ ดำๆ ไม่เน้นสวย
ตัวกล่อง MX10 ส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกสีดำด้านๆ ขนาดเล็กกะทัดรัด ประมาณฝ่ามือผู้ชาย (ผู้หญิงมือเล็กๆ ก็พอๆ กันแหละค่ะ) น้ำหนักเบาหวิว ถือแล้วเหมือนจะปลิวตามลม ไม่ได้ดูพรีเมียมอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ได้ก๊องแก๊งจนน่าเกลียด
ขนาดและน้ำหนัก: เล็กและเบา วางตรงไหนก็ได้บนชั้นวางทีวี หรือจะแอบไว้หลังทีวีก็ได้ค่ะ
สี: ส่วนใหญ่มีแต่สีดำนี่แหละค่ะ นานๆ ทีอาจเจอสีขาวบ้าง แต่หลักๆ คือดำ เน้นขรึม (และดูแอบซ่อนง่าย)
ความสะดวกในการพกพา: พกไปบ้านเพื่อน บ้านญาติ ตอนปีใหม่ สงกรานต์ ก็สะดวกดีค่ะ แต่ต้องพกสายไฟไปด้วยนะ
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ส่วนใหญ่จะมีตัวกล่อง, รีโมท (อันเล็กๆ ใช้ถ่าน AAA), สาย HDMI (เส้นสั้นๆ), อะแดปเตอร์แปลงไฟ, และคู่มือ (ส่วนใหญ่อ่านไม่รู้เรื่อง)
3. ประสบการณ์ใช้งานฟังก์ชันหลัก: ดูหนังฟังเพลง ได้... แต่?
ฟังก์ชันหลักของกล่องนี้คือการดูหนัง ฟังเพลง เล่นแอปสตรีมมิ่งต่างๆ ค่ะ ลองเปิด YouTube ดูคลิปทั่วไปก็พอไหวค่ะ (ถ้าเน็ตแรงพอ) ส่วนแอปดูหนังยอดฮิตอย่าง Netflix อันนี้ต้องลุ้นเอานะคะ บางเครื่องลงได้ บางเครื่องไม่ได้ หรือถ้าลงได้ก็อาจจะดูแบบ HD หรือ 4K ไม่ได้ หรือกระตุกเป็นช่วงๆ ก็มีค่ะ
สเปกภายในส่วนใหญ่เป็น CPU Rockchip RK3328 หรือ Allwinner H313 ซึ่งเป็นชิประดับเริ่มต้น การรองรับ 4K เนี่ย เขาเคลมมาก็จริง แต่ในการใช้งานจริง อาจจะไม่ได้ลื่นไหลขนาดนั้น โดยเฉพาะไฟล์บิตเรตสูงๆ หรือแอปที่ต้องการพลังประมวลผลเยอะๆ อาจมีอาการหน่วง กระตุก หรือภาพไม่คมชัดเท่าที่ควรค่ะ
ลองเสียบแฟลชไดรฟ์ดูหนังไฟล์ MKV ก็พอได้ค่ะ ถ้าไฟล์ไม่ใหญ่มาก แต่ถ้าเป็นหนัง 4K แบบบิตเรตสูงๆ อาจมีปัญหาได้
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: งงบ้าง ค้างบ้าง ตามประสา
เรื่องความง่ายในการใช้งาน... สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ Android TV Box มาก่อน อาจมีงงๆ บ้างค่ะ ตัว UI (หน้าตาอินเทอร์เฟซ) ค่อนข้างพื้นฐาน ไอคอนใหญ่ๆ ไม่ได้สวยงามหรูหราเหมือนกล่องแบรนด์ดังๆ การนำทางด้วยรีโมทที่แถมมาก็ค่อนข้างยากและไม่ค่อยแม่นยำ ต้องกดย้ำๆ หรือสลับไปใช้โหมดเมาส์ ซึ่งค่อนข้างลำบาก
ระบบซอฟต์แวร์คือ Android ค่ะ แต่ส่วนใหญ่เป็นเวอร์ชันเก่าๆ หน่อย เช่น Android 7, 8, 9 แม้จะมีบางเจ้าเคลมว่าเป็น Android 10 หรือ 11 แต่ก็เป็น Android เวอร์ชันดัดแปลงที่ไม่ใช่ Android TV แท้ๆ ทำให้การรองรับแอปอาจมีปัญหา หรือแอปบางตัวอาจไม่เสถียรเท่าที่ควรค่ะ ความลื่นไหลในการใช้งานเมนูต่างๆ ก็มีหน่วงๆ บ้างค่ะ
เรื่องความร้อน ตัวเครื่องอาจมีอุ่นๆ บ้างเวลาใช้งานนานๆ แต่ไม่ถึงกับร้อนจัดจนน่าตกใจค่ะ เสียงพัดลมไม่มี เพราะส่วนใหญ่ไม่มีพัดลมค่ะ
รองรับภาษาไทยไหม? เมนูส่วนใหญ่รองรับภาษาไทยค่ะ แต่การพิมพ์ค้นหาในแอปต่างๆ อาจจะต้องใช้คีย์บอร์ดเสริม หรือใช้แอปควบคุมจากมือถือช่วย
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าระยะยาว: ใช้ไฟน้อย แต่จะทนไหม?
กล่อง Android TV Box ใช้พลังงานน้อยมากค่ะ เสียบไฟบ้านตลอด ไม่ได้ใช้แบตเตอรี่เหมือนมือถือหรือโน้ตบุ๊ก ดังนั้นเรื่องการชาร์จอะไรก็ไม่ต้องกังวลค่ะ
ส่วนเรื่องความคุ้มค่าระยะยาว... อันนี้ต้องทำใจนิดนึงค่ะ ด้วยความที่เป็นสินค้าราคาประหยัด สเปกไม่ได้แรงมาก และไม่มีการอัปเดตเฟิร์มแวร์จากผู้ผลิตอย่างเป็นทางการเท่าไหร่ ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป แอปต่างๆ อัปเดตเวอร์ชันใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ตัวกล่องอาจจะไม่สามารถใช้งานแอปใหม่ๆ ได้ หรือประสิทธิภาพแย่ลงไปอีกค่ะ อายุการใช้งานอาจจะไม่ได้ยืนยาวเหมือนกล่องแบรนด์ดังๆ ค่ะ
เทียบกับราคาแล้ว ถ้าซื้อมาราคาไม่ถึงพันบาท แล้วใช้งานได้สักปีสองปี ก็อาจจะพอคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปค่ะ แต่ถ้าคาดหวังว่าจะใช้ได้ยาวๆ แบบ 3-5 ปีขึ้นไป อาจจะต้องมองหารุ่นที่สเปกดีกว่านี้ มีแบรนด์หน่อยค่ะ
6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งใจก่อนกดสั่ง!
ข้อดี:
- ราคาถูกสุดๆ: จุดเด่นอันดับหนึ่งเลยค่ะ
- เปลี่ยนทีวีธรรมดาให้ดู YouTube, Netflix ได้ (ถ้าดวงดี): ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานได้
- มีพอร์ต USB เยอะ: สะดวกต่อการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม
- ขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย: ไม่เปลืองพื้นที่ วางตรงไหนก็ได้
- เหมาะกับการลองใช้ Android TV Box ครั้งแรก: ถ้าราคานี้ เสียแล้วไม่เสียดายมาก
ข้อเสีย:
- ประสิทธิภาพไม่แรง: อาจมีอาการหน่วง ค้าง กระตุก โดยเฉพาะแอปหนักๆ หรือไฟล์ความละเอียดสูง
- รีโมทใช้งานยาก: ต้องกดซ้ำๆ หรือสลับโหมดบ่อยๆ
- ไม่มี Bluetooth: เชื่อมต่อหูฟังไร้สาย ลำโพงบลูทูธไม่ได้
- ซอฟต์แวร์เก่า ไม่มีการอัปเดต: อาจมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้กับแอปใหม่ๆ ในอนาคต
- คุณภาพของภาพและเสียงอาจไม่ดีเท่าที่ควร: แม้เคลมว่ารองรับ 4K แต่อาจจะไม่ได้คมชัด ลื่นไหลจริง
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีไหมนะ?
เหมาะกับ:
- คนที่งบจำกัดมากๆ อยากได้กล่องทีวีไว้ดู YouTube เบาๆ
- คนที่มีทีวีเครื่องเก่าที่ไม่มีสมาร์ททีวีฟังก์ชัน และไม่ได้คาดหวังประสิทธิภาพสูง
- คนที่อยากลองใช้ Android TV Box เป็นครั้งแรก ไม่อยากลงทุนเยอะ
- เหมาะกับการใช้งานในห้องนอน หรือทีวีเครื่องสำรอง ที่ไม่ได้ดูจริงจังมาก
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:
- ดู YouTube
- ดูแอปสตรีมมิ่งพื้นฐาน (ถ้าแอปนั้นๆ รองรับและเครื่องไหว)
- เปิดเพลงฟัง
- เสียบแฟลชไดรฟ์ดูหนัง (ไฟล์ไม่ใหญ่มาก)
ควรซื้อเลยไหม? ถ้าเจอราคาโปรโมชั่นที่ถูกมากๆ เช่น ไม่ถึง 500 บาท และคุณยอมรับข้อจำกัดต่างๆ ได้ เน้นดู YouTube เป็นหลัก ก็จัดไปค่ะ! แต่ถ้าต้องการความเสถียร ดูหนังชัดๆ ลื่นๆ ใช้แอปได้หลากหลาย อาจจะต้องพิจารณารุ่นอื่นที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อยค่ะ คำแนะนำคือ รอช่วงโปรโมชั่นเลขเบิ้ล (เช่น 9.9, 10.10, 11.11, 12.12) หรือช่วงแคมเปญใหญ่ๆ จะได้ราคาดีที่สุดค่ะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มีตัวเลือกอื่นไหม?
ในตลาดกล่อง Android TV Box รุ่นเล็กราคาประหยัด ก็มีอีกหลายยี่ห้อค่ะ เช่น MXQ Pro, H96 Mini, X96 Mini ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้ชิปและสเปกใกล้เคียงกับ MX10 คุณภาพและประสบการณ์การใช้งานก็มักจะพอๆ กัน คือราคาถูก แต่ประสิทธิภาพก็จำกัดตามราคาค่ะ
ถ้าเทียบกับกล่องแบรนด์ดังที่แพงขึ้นมาหน่อย เช่น Xiaomi Mi Box S หรือกล่อง Android TV แท้ๆ จากค่ายมือถือ/ผู้ให้บริการต่างๆ อันนั้นจะให้ประสบการณ์ที่ดีกว่ามาก ทั้งความลื่นไหลของซอฟต์แวร์ การรองรับแอป การอัปเดต และคุณภาพของภาพและเสียงค่ะ แต่ราคาก็จะสูงกว่า MX10 หลายเท่าตัวเลยค่ะ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?
กล่อง MX10 ส่วนใหญ่หาซื้อได้ตามร้านค้าออนไลน์ใน Shopee, Lazada เป็นหลักค่ะ การรับประกันสินค้าอาจจะแตกต่างกันไปตามร้านค้าผู้ขาย ส่วนใหญ่จะรับประกัน 7 วัน หรือ 1 เดือน ถ้ามีปัญหาอาจจะต้องติดต่อร้านค้าโดยตรง ซึ่งบางทีอาจจะยุ่งยากนิดหน่อยค่ะ
ตามแพลตฟอร์มออนไลน์พวกนี้ มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี, คูปองส่วนลด, เงินคืน (Cashback) อยู่เรื่อยๆ ค่ะ โดยเฉพาะช่วงแคมเปญใหญ่ๆ หรือช่วงเทศกาลต่างๆ ลองเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ ระยะเวลาการจัดส่งก็แล้วแต่ร้านค้าและพื้นที่ค่ะ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล อาจจะ 1-2 วันทำการ ต่างจังหวัดก็อาจจะนานกว่านั้นค่ะ
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วน่าตำไหม?
จากที่รีวิวมาทั้งหมด สรุปว่า MX10 Android TV Box เหมาะสำหรับ:
- ผู้เริ่มต้น / งบน้อยสุดๆ: ที่ต้องการลองใช้งานกล่อง Android TV Box เป็นครั้งแรก และเน้นดู YouTube เป็นหลัก หรือดูแอปสตรีมมิ่งเบาๆ ที่ไม่ได้ต้องการความละเอียดสูงมากนัก
- ผู้ที่ไม่เน้นความเสถียร / ความลื่นไหลมากนัก: ยอมรับอาการหน่วง ค้าง หรือรีโมทที่ใช้งานยากได้
ไม่แนะนำให้ซื้อ:
- ถ้าคุณต้องการประสิทธิภาพสูง ดูหนัง 4K ลื่นๆ
- ถ้าคุณต้องการความเสถียร ใช้งานได้ยาวๆ มีการอัปเดตซอฟต์แวร์
- ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน Bluetooth
- ถ้าคุณต้องการกล่องที่ใช้งานง่ายมากๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ (รีโมทค่อนข้างใช้ยาก)
คำแนะนำสุดท้าย: ถ้าเห็นราคาดี๊ดีแบบตาแตกในช่วงโปรโมชั่น แล้วรับข้อเสียต่างๆ ได้ อยากมีกล่องแปลงทีวีเก่าไว้ดู YouTube ขำๆ ก็จัดไปค่ะ ถือเป็นการลงทุนที่ไม่ได้สูงมาก แต่ถ้ามีงบเพิ่มขึ้นมาหน่อย ลองมองหารุ่นที่สเปกดีกว่านี้ มีแบรนด์ที่น่าเชื่อถือกว่านี้ จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าในระยะยาวแน่นอนค่ะ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Charlotte Tilbury Magic Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ผิวอิ่มฟู ฉ่ำโกลว์จริงไหม?
รีวิว Nutri Master Astaxanthin Plus: อาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวและสายตา ได้ผลจริงไหม?
Garmin GDR E530 รีวิวกล้องติดรถยนต์: ชัด ทน อุ่นใจทุกการเดินทางไหม?
รีวิว Harley-Davidson Sportster Iron 1200: ตำนานคลาสสิก สไตล์ดุดัน
รีวิว กระเป๋าเป้ Anello กันน้ำ: สะพายไปเที่ยว ลุยฝน ของข้างในปลอดภัยจริงหรือ?
รีวิว Argus Car Hire: บริการเช่ารถต่างประเทศ ประสบการณ์เป็นอย่างไร?