รีวิว Dyson Pure Cool TP04: พัดลมฟอกอากาศ อัจฉริยะ กรองฝุ่น PM 2.5 กำจัดสารก่อภูมิแพ้ ได้จริงไหม?


โอ๊ยยย... อยู่เมืองไทยนี่มันอะไรกันนักหนา! เดี๋ยวก็ร้อนตับแตก เดี๋ยวก็ฝุ่น PM 2.5 ลอยมาทักทายจนแสบจมูก แถมด้วยสารพัดสารก่อภูมิแพ้ที่มองไม่เห็นตัวอีก นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องอากาศแล้วนะ แต่มันคือเรื่องของสุขภาพ! วันนี้เราเลยขอจับเจ้า Dyson Pure Cool TP04 ตัวฮิตตัวดัง มาลองของจริงจังกันไปเลยว่าที่เขาว่าดีอย่างงั้นอย่างงี้เนี่ย มันกรองฝุ่น PM 2.5 กำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้จริงไหม? แล้วในฐานะคนไทยที่ต้องเจอสารพัดปัญหานี้ เจ้าเครื่องนี้มันจะตอบโจทย์ชีวิตเราได้แค่ไหน? มาดูกันแบบหมดเปลือก ไม่ต้องอวย ไม่ต้องกั๊ก!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักเจ้า Dyson Pure Cool TP04 กันก่อน
หลายคนคงคุ้นชื่อ Dyson ในฐานะแบรนด์เครื่องดูดฝุ่นสุดล้ำ แต่จริงๆ แล้วเขามีไลน์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกเพียบ หนึ่งในนั้นก็คือพัดลมฟอกอากาศนี่แหละ ซึ่งเจ้า Dyson Pure Cool TP04 เนี่ย เป็นรุ่นพี่กลางๆ ที่ออกมาสักพักแล้ว แต่ความสามารถยังจี๊ดจ๊าดอยู่เลย
แบรนด์: Dyson
รุ่น: Pure Cool TP04
ปีที่วางขาย: เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018-2019 แล้วนะ
ช่วงราคา: ตอนเปิดตัวแรงอยู่ 2 หมื่นปลายๆ แต่ตอนนี้ราคาลงมาเยอะแล้ว เจอโปรดีๆ ไม่ถึง 2 หมื่นก็มี
ตำแหน่งในตลาด: จัดเป็นรุ่นกลางๆ ค่อนไปทางสูง เป็นพัดลมฟอกอากาศแบบทาวเวอร์ เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้เล็กจิ๋ว เหมาะกับคนที่อยากได้ทั้งลมเย็นๆ และอากาศสะอาดๆ ไปพร้อมกันในเครื่องเดียว
จุดเด่นคร่าวๆ ที่เขากล่าวขวัญถึง:
- ฟอกอากาศได้จริงจัง: ดักจับฝุ่น PM 2.5 และอนุภาคเล็กถึง 0.1 ไมครอน ได้ถึง 99.95% พวกสารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรีย ควัน กลิ่นต่างๆ ก็เอาอยู่
- เป็นทั้งพัดลมและเครื่องฟอก: ได้ทั้งลมเย็นๆ และอากาศสะอาดในเครื่องเดียว ไม่ต้องตั้งหลายตัวเปลืองพื้นที่
- ดูคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์: มีหน้าจอ LCD บอกค่า PM2.5, PM10, VOCs, NO2 ให้ดูจะๆ
- ควบคุมผ่านแอปได้: ปรับตั้งค่า ดูคุณภาพอากาศนอกบ้านในบ้าน สั่งเปิด-ปิด ได้จากมือถือเลย สะดวกสุดๆ
- ดีไซน์สวยล้ำ: สไตล์ Dyson แหละ เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นของ Dyson วางตรงไหนก็ดูดี
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ล้ำสมัย สไตล์ Dyson
ดีไซน์ต้องยอมเขาเลยจริงๆ Dyson ทำออกมาได้มินิมอล ล้ำยุค ไม่มีใบพัดให้กังวลใจเรื่องความปลอดภัย ทรงทาวเวอร์ตั้งพื้น ดูเพรียวๆ วางเข้ามุมห้องได้ไม่เกะกะ
การออกแบบ: ไร้ใบพัด ทรงสูงเพรียว มีช่องวงรีด้านบนเป็นตัวปล่อยลม วัสดุแข็งแรงดูพรีเมียมสมราคา มีหน้าจอ LCD กลมๆ บอกข้อมูลอยู่ด้านหน้า
ขนาดและน้ำหนัก: สูงประมาณ 1 เมตรนิดๆ เส้นผ่านศูนย์กลางไม่กว้างมาก น้ำหนักประมาณ 5 กก. ก็ไม่ได้เบาหวิว แต่ยกย้ายได้ไม่ลำบากมาก
สีที่มีให้เลือก: หลักๆ ที่เห็นบ่อยคือสีขาว/เงิน กับสี Iron/Blue
ความสะดวกในการพกพา/การวาง: ไม่ได้ออกแบบมาให้พกไปไหนมาไหน แต่ย้ายไปมาระหว่างห้องในบ้านได้สะดวก เหมาะกับวางไว้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องทำงานที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์และลมเย็นๆ
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: มีตัวเครื่อง, ฟิลเตอร์ (มาแบบแยก 2 ชิ้น ต้องประกอบเองง่ายๆ), รีโมทคอนโทรลดีไซน์โค้งสวยมีแม่เหล็กดูดติดกับเครื่องได้, สายไฟ, คู่มือ
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ทั้งฟอก ทั้งเป่า ครบจบ!
จุดเด่นคือเป็น 2 in 1 นี่แหละ ทั้งฟอกอากาศ ทั้งเป็นพัดลม
เรื่องฟอกอากาศ: อันนี้ต้องชมเลยว่าเซ็นเซอร์เขาไวมาก! แค่ทำอะไรที่มีฝุ่นหน่อยๆ เช่น จัดเตียง ดูดฝุ่น หรือเดินไปมาแรงๆ หน้าเครื่อง ค่า PM2.5 เด้งขึ้นปุ๊บ เครื่องก็เร่งทำงานปั๊บเลย แสดงว่ามันตรวจจับมลพิษได้จริง ฟิลเตอร์เป็นแบบ 360 องศา (HEPA และ Carbon) เขาเคลมว่าดักจับได้ถึง 99.95% ของอนุภาคเล็กสุดๆ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ด้วย จากที่ลองใช้ช่วงหน้าฝุ่น PM 2.5 หรือช่วงที่รู้สึกว่าจมูกคันๆ จากภูมิแพ้ เปิดเครื่องไว้สักพัก คุณภาพอากาศในห้องก็ดีขึ้นจริงๆ รู้สึกได้ว่าหายใจโล่งขึ้น กลิ่นอับ กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นอื่นๆ ก็จางลง
เรื่องพัดลม: ลมเป็นแบบนุ่มๆ ไม่ได้แรงปะทะเหมือนพัดลมทั่วไป เพราะเป็นแบบไร้ใบ ปรับแรงลมได้ 10 ระดับ ตั้งส่ายได้สูงสุด 350 องศา กระจายลมได้ทั่วห้องอยู่ เหมาะกับเปิดในห้องแอร์เพื่อช่วยหมุนเวียนอากาศ หรือเปิดในวันสบายๆ ที่ไม่ได้ร้อนมาก แต่ถ้าเจออากาศร้อนจัดๆ แบบเมืองไทย บางทีก็รู้สึกว่าลมยังไม่สะใจเท่าพัดลมตัวใหญ่ๆ ทั่วไป
ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ไฮเทคแต่ไม่ซับซ้อน
ถึงแม้จะดูไฮเทค แต่การใช้งานจริงๆ ไม่ได้ยากเลย
ใช้ง่ายมั้ย? ง่ายมาก! เสียบปลั๊ก เปิดเครื่อง กดปุ่ม เปิดโหมด Auto ก็ทำงานแล้ว หน้าจอ LCD ก็แสดงข้อมูลชัดเจน
ระบบซอฟต์แวร์/แอป: ใช้แอป Dyson Link บนมือถือได้เลย เชื่อมต่อง่าย ดูข้อมูลคุณภาพอากาศย้อนหลังได้ ตั้งเวลา เปิด-ปิด ปรับโหมดต่างๆ ได้หมด แอปใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน รองรับภาษาไทยด้วย (บางส่วน) เป็นมิตรกับผู้ใช้ดี
เสียงดังมั้ย? ตอนเปิดแรงลมเบาๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงเลยค่ะ เงียบมาก! เหมาะกับเปิดตอนนอน แต่ถ้าเปิดแรงลมระดับสูงๆ เสียงก็จะดังขึ้นตามปกติของพัดลม แต่ก็ไม่ได้ดังจนรบกวนมากนัก
4. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ค่าตัวแรง ค่าฟิลเตอร์ก็ไม่เบา
รุ่นนี้ใช้ไฟบ้านค่ะ ไม่มีแบตเตอรี่ เรื่องการใช้พลังงานก็ปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ค่าใช้จ่ายระยะยาว นั่นคือ ค่าเปลี่ยนไส้กรอง
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ไส้กรองของ Dyson มีอายุการใช้งาน และต้องเปลี่ยนตามระยะเวลาหรือปริมาณการใช้งาน ราคาไส้กรอง HEPA + Carbon ของแท้ค่อนข้างสูง (หลายพันบาท) แต่ก็มีไส้กรองเทียบในตลาดที่ราคาถูกลงมาหน่อย อันนี้แล้วแต่จะเลือกเลยค่ะ แต่แนะนำว่าควรเช็คราคาไส้กรองล่วงหน้าก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายในระยะยาวด้วย
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: เทียบกับราคาเครื่องฟอกอากาศหรือพัดลมฟอกอากาศอื่นๆ ในตลาด TP04 ราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ได้ฟังก์ชัน 2 in 1, ดีไซน์สวยล้ำ, แอปควบคุม, และความสามารถในการกรองที่ได้มาตรฐาน ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้าใช้ทุกวัน เจอฝุ่นเยอะ เป็นภูมิแพ้ ลงทุนกับสุขภาพก็ถือว่าคุ้มค่า แต่ถ้าเน้นแค่พัดลมอย่างเดียว หรือไม่ได้ซีเรียสเรื่องคุณภาพอากาศมากนัก อาจมีตัวเลือกอื่นที่คุ้มกว่าในแง่ราคาเริ่มต้น
5. ข้อดี-ข้อเสีย: อะไรที่ทำให้รัก อะไรที่อาจทำให้ลังเล
ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:
- เป็นทั้งพัดลมและเครื่องฟอกอากาศในเครื่องเดียว: ประหยัดพื้นที่ ไม่ต้องตั้งหลายตัวในห้องเดียว
- กรองฝุ่น PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้จริง: หายใจสะดวกขึ้น ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้
- ดีไซน์สวยล้ำ วางตรงไหนก็ดูดี: เป็นของแต่งบ้านไปในตัวด้วย
- ควบคุมผ่านแอปได้สะดวก: เช็คคุณภาพอากาศ สั่งการได้จากนอกบ้าน
- ทำงานเงียบมากในโหมดปกติ: ไม่รบกวนเวลานอน
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:
- ราคาสูง: เมื่อเทียบกับเครื่องฟอกอากาศหรือพัดลมทั่วไป
- ค่าเปลี่ยนไส้กรองค่อนข้างแพง: เป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวที่ต้องเตรียมใจ
- แรงลมอาจจะไม่สะใจเท่าพัดลมทั่วไป: ถ้าต้องการลมแรงๆ สู้ร้อน อาจจะต้องพิจารณา
- ขนาดค่อนข้างสูง: ต้องหาพื้นที่วางที่เหมาะสม
- ประสิทธิภาพการฟอกอาจไม่ได้ดีกว่ารุ่นที่ถูกกว่ามากนักในบางการทดสอบ: แม้จะเคลมว่าดี แต่บางรีวิวก็ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้
6. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรสอย? ใครควรรอ?
เหมาะกับ:
- คนที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพอากาศในบ้านมากๆ
- คนที่เป็นภูมิแพ้ หรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
- คนที่อยากได้ทั้งพัดลมและเครื่องฟอกในเครื่องเดียว ประหยัดพื้นที่
- คนที่ชอบดีไซน์สวยล้ำ ทันสมัย
- คนที่มีงบประมาณถึงและพร้อมจ่ายค่าบำรุงรักษา (ค่าไส้กรอง)
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน: ใช้ในบ้านเป็นหลัก ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องทำงาน เพื่อฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ และเพิ่มการหมุนเวียนอากาศ
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า? ถ้าต้องการใช้ด่วนช่วงฝุ่นหนักๆ หรือช่วงที่อากาศไม่ดี และมีงบประมาณพอ ก็ซื้อเลยค่ะ แต่ถ้าไม่รีบ แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เช่น Mid-Year Sale, 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลต่างๆ เพราะ Dyson มักจะมีส่วนลดหรือของแถมที่ทำให้ราคาน่ารักขึ้นเยอะ!
7. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้): TP04 อยู่ตรงไหน?
เทียบกับแบรนด์อื่นที่ราคาใกล้เคียง: ในช่วงราคาใกล้เคียงกันก็มีเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์อื่นๆ ที่อาจจะเน้นการฟอกอากาศอย่างเดียว แต่มี CADR (อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์) ที่สูงกว่า หรือมีเทคโนโลยีฆ่าเชื้อโรคเพิ่มเติม ซึ่งอันนี้ต้องไปเทียบเป็นรุ่นๆ ไป ขึ้นอยู่กับว่าเราเน้นฟังก์ชันไหนมากกว่ากัน
เทียบกับรุ่นอื่นของ Dyson เอง:
- Dyson Pure Cool TP00: เป็นรุ่นประหยัดกว่า TP04 ฟังก์ชันพื้นฐานเหมือนกันคือเป็นพัดลมฟอกอากาศ แต่ TP04 จะมีหน้าจอ LCD บอกคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และเชื่อมต่อแอปได้ ซึ่ง TP00 จะไม่มี ถ้าไม่ได้เน้นดูค่าอากาศแบบละเอียด หรือควบคุมผ่านแอป TP00 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าในแง่ราคาเริ่มต้น
- Dyson รุ่นใหม่กว่า (เช่น TP07, TP09, TP10, BP04): รุ่นใหม่ๆ จะมีการพัฒนาไปอีกขั้น เช่น กรองละเอียดขึ้น, มีฟังก์ชันตรวจจับและทำลายสารฟอร์มาลดีไฮด์, ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้น หรือออกแบบมาให้เงียบกว่าเดิม แต่ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก ถ้ามีงบถึงและอยากได้เทคโนโลยีล่าสุด ก็ข้ามไปดูรุ่นใหม่กว่าได้เลยค่ะ
สรุปคือ TP04 อยู่ตรงกลาง เป็นรุ่นที่ได้ฟังก์ชันพื้นฐานของพัดลมฟอกอากาศ Dyson ครบถ้วน ทั้งการฟอก การเป็นพัดลม การควบคุมผ่านแอป ในราคาที่จับต้องง่ายกว่ารุ่นท็อปๆ
8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนสบายใจสุด?
การรับประกัน: Dyson ให้การรับประกัน 2 ปีสำหรับ TP04 มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง
ช่องทางการซื้อ: หาซื้อ Dyson TP04 ได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Dyson รวมถึงบนแพลตฟอร์ม E-commerce ยอดนิยมอย่าง Lazada และ Shopee ก็มีร้านค้าทางการ หรือร้านตัวแทนจำหน่ายให้เลือกซื้อ
โปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์: อย่างที่บอกว่าราคา Dyson มักมีโปรโมชั่น ซื้อในห้างบางช่วงอาจได้ของแถม หรือส่วนลดเงินสด ถ้าซื้อออนไลน์ช่วงโปรโมชั่นก็จะมีโค้ดส่วนลด, ส่วนลดจากร้าน, ส่วนลดจากแพลตฟอร์ม, มีตัวเลือกผ่อนชำระ 0%, หรือได้ Coins/Cashback คืน ลองเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นแต่ละช่องทางดูค่ะ บางทีออนไลน์จัดหนักกว่าก็มี!
การจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์จากร้านค้าทางการหรือแพลตฟอร์มใหญ่ๆ มักจะมีบริการจัดส่งฟรี และค่อนข้างรวดเร็วค่ะ
9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สอยดีไหมนะ?
หลังจากที่ลองเล่น ลองใช้เจ้า Dyson Pure Cool TP04 มาพักใหญ่ๆ ถามว่าคุ้มไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่ใส่ใจสุขภาพมากๆ โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพอากาศในบ้าน เป็นภูมิแพ้ หรืออยู่ในพื้นที่ที่ฝุ่นเยอะ มลพิษแยะ แล้วกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันพัดลมในตัว ดีไซน์สวยล้ำ และสะดวกสบายในการใช้งานด้วยแอปพลิเคชัน
คำแนะนำสุดท้ายคือ:
- ควรซื้อ! ถ้าคุณมีงบประมาณพอสมควร ยอมรับค่าใช้จ่ายเรื่องไส้กรองได้ และต้องการเครื่องเดียวจบ ครอบคลุมทั้งการฟอกอากาศและให้ลมเย็นๆ ในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน เจ้า TP04 ตอบโจทย์ได้ดีแน่นอนค่ะ มันช่วยให้อากาศในบ้านสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ
- เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น (ที่มีงบ): ถ้าไม่เคยใช้เครื่องฟอกอากาศมาก่อน แต่อยากได้ตัวที่ดีๆ ไปเลย TP04 ก็เป็นตัวเลือกที่ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อนเกินไป
- ยังไม่แนะนำทันทีถ้า: งบจำกัดมากๆ เพราะยังมีเครื่องฟอกอากาศแบรนด์อื่นที่ราคาถูกกว่า หรือถ้าเน้นแค่พัดลมอย่างเดียว ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการฟอกอากาศขนาดนั้น อันนี้อาจจะต้องพิจารณาตัวเลือกอื่นค่ะ หรือถ้าต้องการเทคโนโลยีล่าสุดสุดๆ ก็อาจจะต้องขยับไปดูรุ่นใหม่ๆ ของ Dyson แทน
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ ใครมีประสบการณ์ใช้ Dyson TP04 หรือรุ่นอื่นๆ คอมเมนต์มาแชร์กันได้เลยนะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว Dyson Pure Cool™ Air Purifier Tower Fan TP04 - พัดลม ...
- แกะกล่องรีวิว "เครื่องกรองฝุ่นละออง PM 2.5 Dyson Pure Cool ...
- Unbox | Dyson TP-04 Air purifier ในราคาหลักร้อยบาท ของแท้ ...
- รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Dyson Big & Quiet BP04 ที่สุดของคุณภาพชีวิต
- รีวิว Dyson Pure Cool™ Air Purifier Tower Fan TP04 - พัดลม ...
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว กระเป๋าเป้ Anello กันน้ำ: สะพายไปเที่ยว ลุยฝน ของข้างในปลอดภัยจริงหรือ?
รีวิว Brother MFC-J3930DW: ปริ้นเตอร์ Inkjet พิมพ์งานใหญ่ ฟังก์ชันครบ
รีวิว Park Origin ทองหล่อ: คอนโดหรูใจกลางเมือง ชีวิตดี๊ดีสมราคาไหม?
รีวิว Argus Car Hire: บริการเช่ารถต่างประเทศ ประสบการณ์เป็นอย่างไร?
Fresh Black Tea Mask รีวิว: มาส์กหน้าใส ฟูอิ่ม เห็นผลในครั้งแรก?
รีวิว Charlotte Tilbury Magic Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ผิวอิ่มฟู ฉ่ำโกลว์จริงไหม?