รีวิว Sony KD-43X7000F: ทีวี 4K HDR รุ่นนี้ยังน่าใช้ไหมในปี 2024?


สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้เรามาพร้อมกับรีวิวที่หลายคนอาจจะแบบ...เอ๊ะ? รุ่นนี้ยังมีขายอยู่เหรอ? ใช่แล้วค่ะ! เพราะวันนี้เราจะมาล้วงลึกทีวี 4K HDR รุ่นเก๋าอย่าง Sony KD-43X7000F ที่เปิดตัวมาหลายปีแสงแล้วเนี่ย! แล้วในปี 2024 ที่ทีวีใหม่ๆ ฟีเจอร์ล้ำๆ ออกมาเพียบเหมือนดอกเห็ดหลังฝนตกเนี่ย เจ้าตัวนี้ยังจะน่าคบ น่าสอย หรือน่าปล่อยผ่านไปดี? ใครที่กำลังเจอทีวีเก่าพัง หรืออยากได้ทีวีเครื่องที่สองแบบงบไม่บานปลายต้องมาดู! เราจะรีวิวแบบบ้านๆ ใช้จริง เจ็บจริง ไม่ใช้สแตนด์อินค่ะ!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: เก๋าแต่เก๋าจริงดิ?
แบรนด์: Sony (แน่นอน!)
รุ่น: KD-43X7000F
ปีที่วางขาย: โน่นนนน... ปี 2018 จ้ะพี่จ๋า
ช่วงราคาขาย: ถ้ายังมีของใหม่ส่วนใหญ่จะเป็น Clearance หรือถ้ารุ่นมือสอง ราคาก็จะหล่นมาเยอะอยู่ แต่สมัยเปิดตัวก็ตัวเลขหลายหมื่นอยู่นะ
การวางตำแหน่งสินค้า: ตอนเปิดตัวน่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้นถึงกลางของ 4K HDR Smart TV แต่ตอนนี้...ก็นับเป็นรุ่นเริ่มต้นแบบเริ่มต้นมากๆ อ่ะนะ เหมาะกับคนที่อยากได้ทีวี 4K แบบพอเพียง ไม่ต้องฟีเจอร์ล้นโลก
สรุปจุดเด่นหลัก (เท่าที่เขายังคุยได้ในปี 2024):
- เป็นทีวี 4K HDR จอใหญ่ 43 นิ้ว ภาพคมชัด สีสันพอใช้ได้
- มีระบบประมวลผลภาพ 4K X-Reality PRO ช่วยอัปสเกลภาพจากแหล่งที่มาที่ความละเอียดต่ำให้ดูดีขึ้น
- รองรับ Wi-Fi และมีพอร์ต HDMI หลายช่อง (ส่วนใหญ่ให้มา 3 ช่อง) ต่อพวกกล่อง Android/Apple TV หรือเครื่องเกมได้สบาย
- ดีไซน์ขอบจอบางใช้ได้นะตอนนั้น ดูไม่เทอะทะ
- ระบบเสียง ClearAudio+ พอถูไถ ไม่ได้แย่เวอร์
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ไม่หล่อเท่ารุ่นใหม่ แต่ไม่ขี้เหร่นะ!
ต้องบอกว่าดีไซน์ตอนปี 2018 มันก็ดูดีแหละ ขอบจอบางๆ เฟรมสีดำ วางตรงไหนก็เข้ากับบ้านได้อยู่ ไม่ได้ดูแก่กะโหลกกะลาอะไร ตัวเครื่องไม่ได้หนามาก แต่ก็ไม่บางเฉียบเท่ารุ่นใหม่ๆ น้ำหนักตัวเครื่องประมาณ 9-10 กก. ไม่รวมขาตั้ง ยกคนเดียวได้อยู่ แต่ก็เมื่อยหน่อยนะถ้าต้องขนย้ายไกลๆ
ขนาด: 43 นิ้ว กำลังดีสำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่นเล็กๆ หรือคอนโด
น้ำหนัก: ประมาณ 9.8 - 10.4 กก. รวมขาตั้ง
อุปกรณ์ในกล่อง (ถ้ายังมี): ก็จะมีตัวทีวี ขาตั้ง รีโมท และคู่มือต่างๆ เหมือนทีวีทั่วไปแหละ
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: 4K HDR ยังไหวอยู่มั้ย?
เรื่องภาพ 4K HDR เนี่ย ในปี 2024 ถามว่ายังไหวอยู่มั้ย? ก็ต้องบอกว่า "พอไหว" นะ คือถ้าเทียบกับทีวีรุ่นใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยีภาพล้ำๆ อย่าง QLED, OLED หรือ Mini LED เนี่ย แน่นอนว่าสู้ไม่ได้เลย ทั้งเรื่องความสว่าง คอนทราสต์ และสีสันที่จัดจ้านกว่า
แต่ถ้าดูคอนเทนต์ 4K ทั่วไป เช่น ดูหนังใน Netflix, YouTube ที่เป็น 4K หรือต่อกับเครื่อง PS4/Xbox One รุ่นก่อนๆ ก็ยังให้ภาพที่คมชัด รายละเอียดดีอยู่ ระบบ 4K X-Reality PRO ก็ช่วยอัปสเกลพวกช่องทีวีดิจิทัล หรือไฟล์หนังเก่าๆ ให้ดูเนียนขึ้นได้นิดหน่อย
ส่วนเรื่อง HDR (High Dynamic Range) คือมันรองรับแหละ (HDR10, HLG) แต่ด้วยข้อจำกัดของพาเนลและการควบคุมแสงของรุ่นนี้ ทำให้ความ "ว้าว" ของ HDR มันอาจจะไม่เท่าทีวีรุ่นใหม่ๆ นะ คือมันดูดีขึ้นจาก SDR แหละ แต่ไม่ได้แบบแสงจ้า รายละเอียดในที่มืดสุดๆ เท่าไหร่
สำหรับคอเกม ถ้าเล่นเกมที่ไม่ได้ต้องการรีเฟรชเรตสูงๆ มากมาย รุ่นนี้ก็พอได้ เพราะมีโหมด Game ให้เลือก แต่ถ้าหวังภาพลื่นปรื๊ด หรือรองรับ HDMI 2.1 หรือ VRR แบบทีวีเกมมิ่งรุ่นใหม่ๆ ก็ต้องบอกว่า "ข้ามไปก่อนจ้ะ"
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: Smart TV ยุค 2018 ยังไหวเหรอ?
จุดนี้แหละที่ต้องทำใจนิดนึง! เพราะ Sony KD-43X7000F เนี่ยใช้ระบบปฏิบัติการ Smart TV ที่ไม่ใช่ Android TV หรือ Google TV ซึ่งระบบของมันเองในตอนนี้ก็ต้องบอกว่า ค่อนข้างจะเก่าแล้ว แอปพลิเคชันที่มีให้เลือกอาจจะไม่เยอะเท่า และความลื่นไหลในการใช้งานเมนูต่างๆ ก็อาจจะหน่วงบ้างอะไรบ้าง เมื่อเทียบกับ Smart TV รุ่นใหม่ๆ
แต่! มันก็มีแอปหลักๆ ที่คนไทยใช้บ่อยอย่าง YouTube กับ Netflix ติดมาให้ (หรือลงเพิ่มได้ถ้ายังมีใน Store เก่า) การเข้าใช้งาน YouTube ก็มีปุ่มลัดบนรีโมทให้กดง่ายๆ ส่วนการใช้งานเมนูต่างๆ ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ถ้าไม่เคยใช้ Smart TV มาก่อนก็น่าจะเรียนรู้ได้ไม่ยาก มีคู่มือภาษาไทยให้ดู (ถ้าหาเจอ)
เรื่องเสียงดัง หรือความร้อน ตัวเครื่องก็ทำงานปกติ ไม่ได้มีเสียงรบกวนผิดปกติ (นอกจากเสียงจากหนัง/ละครที่เราดู) หรือเครื่องร้อนจนน่าตกใจอะไร
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ใช้ไฟประมาณไหน? ซื้อแล้วจะคุ้มค่าซ่อมมั้ย?
ทีวี 43 นิ้วก็ไม่ได้กินไฟเยอะมากมายอะไร กำลังไฟปกติอยู่ที่ประมาณ 95W - 101W แล้วแต่การตั้งค่า ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติของทีวี LED ทั่วไป มีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้ด้วย
ส่วนเรื่องความคุ้มค่าในระยะยาว อันนี้ต้องพิจารณาดีๆ เพราะเป็นรุ่นปี 2018 แล้ว ถ้าซื้อของใหม่แบบ Clearance ที่ราคาลงมาเยอะมากๆ แล้วมีการรับประกันเหลืออยู่บ้าง ก็อาจจะพอน่าสน แต่ถ้าเป็นมือสอง อันนี้ต้องทำใจเผื่อเรื่องค่าซ่อมในอนาคต เพราะอะไหล่อาจจะเริ่มหายาก หรือมีราคาสูงได้
ความคุ้มค่าเนี่ย ต้องดูว่าเราได้มาราคาเท่าไหร่ ถ้าได้มาราคาแบบ "ถูกตาแตก" เมื่อเทียบกับทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นในปัจจุบัน ที่อาจจะให้ภาพหรือฟีเจอร์ Smart TV ที่ดีกว่านิดหน่อย แต่ราคาแพงกว่าเยอะ ก็อาจจะยังน่าสนใจอยู่ ถ้าเน้นแค่จอ 4K ไว้ดูหนังดูซีรีส์แบบพื้นฐาน
6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งน้ำหนักกันชัดๆ!
ข้อดี (ที่ยังพอมีภาษีในปี 2024):
- เป็นทีวี 4K HDR ราคาอาจจะจับต้องง่ายมาก ถ้าเจอช่วง Clearance หรือมือสองราคาดี
- ภาพ 4K ยังให้ความคมชัด รายละเอียดดี สำหรับการดูคอนเทนต์ทั่วไป
- มีระบบ 4K X-Reality PRO ช่วยให้ภาพดูดีขึ้นได้บ้าง
- ดีไซน์ไม่ตกยุคมากนัก ขอบจอบางกำลังดี
- มีพอร์ตเชื่อมต่อที่จำเป็นครบ ทั้ง HDMI และ USB
ข้อเสีย (ที่ต้องทำใจในปี 2024):
- ระบบ Smart TV ค่อนข้างเก่า แอปไม่เยอะเท่ารุ่นใหม่ๆ การใช้งานอาจไม่ลื่นไหล
- ประสิทธิภาพ HDR ไม่ได้โดดเด่นเท่าทีวีรุ่นใหม่ๆ
- ไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับการเล่นเกม เช่น HDMI 2.1, VRR
- อาจจะหาของใหม่ได้ยากแล้ว ส่วนใหญ่อาจเจอแต่มือสอง
- ถ้าเป็นเครื่องมือสอง ต้องเผื่อใจเรื่องความทนทานและค่าซ่อมในอนาคต
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรไปต่อ ใครควรพอแค่นี้?
Sony KD-43X7000F เหมาะกับ:
- คนที่ งบจำกัดมากๆ และอยากได้ทีวี 4K ไว้ดูหนัง ดูซีรีส์ หรือต่อกล่องทีวี/เครื่องเกมแบบพื้นฐาน
- คนที่กำลังหา ทีวีเครื่องที่สอง ไว้ใช้ในห้องนอน หรือห้องรับแขกเล็กๆ ที่ไม่ได้ใช้งานหนัก เน้นดูทีวี ดู YouTube เป็นหลัก
- คนที่โอเคกับระบบ Smart TV ที่ค่อนข้างเก่า และไม่ได้คาดหวังฟีเจอร์ล้ำๆ
ไม่เหมาะกับ:
- คอเกมที่ต้องการภาพลื่นไหล ฟีเจอร์เกมมิ่งครบๆ
- คนที่ต้องการ Smart TV ที่ทันสมัย ลงแอปได้หลากหลาย ใช้งานลื่นปรื๊ด
- คนที่เน้นภาพ HDR แบบจัดเต็ม แสงจ้า คอนทราสต์สุดยอด
- คนที่อยากได้เครื่องที่รับประกันยาวๆ ใช้งานสบายใจไร้กังวลเรื่องซ่อม
ควรซื้อเลยไหม?: ถ้าเจอเครื่องใหม่แบบ Clearance ในราคาที่ "ถูกมากจริงๆ" จนคิดว่าคุ้มกับสิ่งที่ได้ และยอมรับข้อจำกัดของ Smart TV เก่าๆ ได้ ก็อาจจะน่าสนใจ แต่ถ้าเป็นมือสอง ต้องพิจารณาราคาและสภาพเครื่องดีๆ ถ้าได้มาราคาแพงกว่าทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นของแบรนด์อื่นๆ ในปี 2024 ไม่มากนัก อาจจะมองข้ามไปได้เลยจ้ะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ในตลาดปัจจุบัน): รุ่นใหม่เบียดเยอะ!
ถ้าเทียบกับทีวี 4K HDR รุ่นเริ่มต้นของแบรนด์อื่นๆ ที่ออกมาในปี 2023-2024 เนี่ย ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับระบบ Smart TV ที่ใหม่กว่า (เช่น Google TV, webOS, Tizen) ซึ่งใช้งานได้ลื่นไหลกว่า มีแอปให้เลือกเยอะกว่า แถมเทคโนโลยีภาพพื้นฐานก็พัฒนาขึ้นนิดหน่อย แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นเหมือนกัน
ดังนั้น ถ้าดูที่ฟีเจอร์ Smart TV หรือเทคโนโลยีภาพที่ทันสมัยกว่า ทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นของปีปัจจุบันมักจะ "น่าใช้กว่า" Sony KD-43X7000F เว้นเสียแต่ว่า...คุณจะเจอเจ้าตัวนี้ในราคาที่แบบว่า... "ยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในราคานี้!"
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ (ในปี 2024): อาจจะยากหน่อยนะ!
เนื่องจากเป็นรุ่นเก่ามากแล้ว การหาซื้อเครื่อง "ใหม่เอี่ยมแกะกล่อง" ในปี 2024 แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าจะหาซื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นช่องทางของร้านค้าที่ยังมีสินค้าค้างสต็อกแบบ Clearance Sale หรือไม่ก็ตลาดมือสองตามกลุ่มต่างๆ
การรับประกัน: ถ้าเป็นเครื่อง Clearance อาจจะยังมีการรับประกันจากร้านค้าหรือผู้จัดจำหน่ายเหลืออยู่บ้าง (ต้องสอบถามให้ชัดเจน!) แต่ถ้าเป็นมือสอง ส่วนใหญ่จะไม่มีการรับประกันจากศูนย์ Sony แล้วนะ ต้องดูที่การรับประกันจากผู้ขายมือสองเอง
ช่องทางการซื้อ: ลองดูตามร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ ที่อาจจะมีจัดโปร Clearance (แต่โอกาสน้อยแล้ว) หรือไม่ก็ดูตามกลุ่มขายทีวีมือสองใน Facebook หรือแพลตฟอร์มขายของมือสองต่างๆ
คำแนะนำเพิ่มเติม: ถ้าซื้อจากช่องทางที่ไม่ใช่ร้านค้าทางการ ต้องตรวจสอบสภาพเครื่องให้ดีมากๆ ทดสอบฟังก์ชันต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจจ่ายเงิน และสอบถามเรื่องการรับประกันให้เคลียร์ที่สุดนะจ๊ะ
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ยังน่าโดนอยู่มั้ย?
เอาล่ะ! สรุปแบบฟันธงเลยนะสำหรับ Sony KD-43X7000F ในปี 2024 เนี่ย...
ถ้าคุณเจอในราคาที่ "ถูกโคตรๆ" แบบถูกจนน่าตกใจ และคุณไม่ได้คาดหวัง Smart TV ที่ล้ำสมัย หรือฟีเจอร์เกมมิ่งสุดปัง แต่แค่ต้องการทีวีจอ 4K ภาพคมๆ ไว้ดูหนัง ดูซีรีส์ หรือต่อกล่องทีวี/เครื่องเกมรุ่นเก่าๆ ในงบที่จำกัดที่สุดๆๆๆๆ รุ่นนี้ก็ พอจะแนะนำให้ซื้อได้ (โดยเฉพาะถ้าได้เครื่องใหม่แบบ Clearance ที่ยังมีประกัน)
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ที่อยากลองสัมผัสทีวี 4K ในราคาเป็นมิตร หรือคนที่ต้องการทีวีเครื่องสำรองที่เน้นใช้งานพื้นฐาน
แต่!!! ถ้าคุณต้องการ Smart TV ที่ใช้งานง่าย ลื่นไหล ลงแอปได้เยอะ มีฟีเจอร์ครบๆ ภาพ HDR สวยๆ หรือเป็นคอเกมที่ต้องการสเปกสูงๆ ขอแนะนำว่า ไม่แนะนำ ให้ซื้อรุ่นนี้ในปี 2024 นะจ๊ะ เก็บเงินเพิ่มอีกนิดไปถอยทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นของปีปัจจุบันดีกว่า ได้ของใหม่ ฟีเจอร์ใหม่ ประกันยาวกว่า สบายใจกว่าเยอะเลย!
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะค้า ใครเคยใช้รุ่นนี้ หรือมีความเห็นเพิ่มเติม มาเมนต์บอกกันหน่อยจ้า!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว Sony BRAVIA 7 รุ่นใหม่ 2024 | เปรียบดั่ง...'ยกโรงหนังมาไว้ที่บ้าน'
- พรีวิว #lineup TV #sony ปี 2024 มีรุ่นอะไรบ้าง ไปดูกัน
- สรุป 10 ทีวีที่ดีที่สุดแห่งปี 2023-2024 | ซื้อตามได้เลย
- รีวิว Sony BRAVIA 3 ทีวี 4K สายดูหนังตัวเริ่ม ได้ทั้ง Dolby Vision ...
- รู้ก่อนซื้อ: ลองก่อนใคร! BRAVIA 9 ทีวีรุ่นท็อป SONY 2024
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Akyra Manor Chiang Mai: โรงแรมบูติคสุดฮิปในเชียงใหม่ บรรยากาศดี น่าพักไหม?
Bath & Body Works กลิ่นไหนหอม? รีวิวกลิ่นยอดนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
รีวิว Grande Pleno วัชรพล-สุขาภิบาล 5: โครงการบ้านน่าอยู่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไหม
Fresh Black Tea Mask รีวิว: มาส์กหน้าใส ฟูอิ่ม เห็นผลในครั้งแรก?
รีวิว Nike Quest 2: รองเท้าวิ่งราคาเข้าถึงง่าย ใส่สบาย เหมาะกับวิ่งเบาๆ หรือใส่เดินไหม?
รีวิว Samsung 32N4300 ทีวี HD 32 นิ้ว: ขนาดกะทัดรัด ภาพชัด เหมาะกับห้องเล็กไหม?