รีวิว LG 65UK6540PTD: ทีวีจอใหญ่ 4K HDR รุ่นนี้ยังน่าสนใจไหม?
สวัสดีครับทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันถึงทีวีจอใหญ่ไซส์บิ๊กเบิ้ม นั่นก็คือ LG 65UK6540PTD ที่เคยเป็นขวัญใจหลายคนเมื่อนานมาแล้ว (เอ่อ...ก็นานอยู่แหละ!) คำถามคือ ในปี 2025 ที่ทีวีรุ่นใหม่ๆ พากันอัปเกรดไปไกลลิบ รุ่นเก๋าตัวนี้ยังน่าสนใจอยู่ไหม? ซื้อแล้วจะคุ้มหรือจะโบกมือลา? บทความนี้มีคำตอบให้แบบหมดเปลือกสไตล์บ้านๆ พร้อมแล้วไปดูกันเลย!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก LG 65UK6540PTD ตัวตึงยุคก่อน
แบรนด์: LG
รุ่น: 65UK6540PTD
เปิดตัว: ปี 2018 ครับพี่น้อง! (ก็ประมาณ 7 ปีที่แล้ว)
ช่วงราคาตอนเปิดตัว: แตะครึ่งแสนไปนิดๆ (ประมาณ 49,990 บาท) แต่ช่วงหลังๆ เห็นลดเยอะอยู่ครับ
ตำแหน่งในตลาดตอนนั้น: ถือเป็นรุ่นกลางๆ จอใหญ่ 4K ที่เข้าถึงง่าย ฟังก์ชันครบ
สรุปจุดเด่น (เมื่อครั้งยังหนุ่ม!):
- จอใหญ่สะใจ 65 นิ้ว: ดูหนัง ดูบอลมันส์เต็มตา
- ความละเอียด 4K UHD: ภาพคมชัด เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า Full HD ถึง 4 เท่า
- รองรับ HDR: ดูคอนเทนต์ที่มี HDR ได้ ภาพมีมิติขึ้น (HDR10 Pro, HLG Pro)
- Smart TV webOS + ThinQ AI: ใช้งานง่าย มีแอปหลักๆ ครบ สั่งงานด้วยเสียงได้
- มี Magic Remote: รีโมทสุดเจ๋ง ชี้ได้ เลื่อนได้ เหมือนเมาส์
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ใหญ่แบบมีสไตล์
เจ้า 65UK6540PTD มาพร้อมดีไซน์ที่ดูดีในยุคนั้น ขอบจอบางพอสมควร วัสดุเป็นโลหะดูแข็งแรง พรีเมียมใช้ได้เลยครับ มีขาตั้งที่ดูมั่นคง สีเงินๆ เข้าได้กับหลายห้องในบ้าน
ขนาดและน้ำหนัก: ตัวเครื่องกว้างประมาณ 1.45 เมตร สูงเกือบเมตร (รวมขาตั้ง) น้ำหนัก 27.5 กก. (รวมขาตั้ง) บอกเลยว่ายกคนเดียวมีหลังเคล็ด! ต้องหาที่วางดีๆ หรือติดผนังไปเลย
อุปกรณ์ในกล่อง (เท่าที่จำได้!): ตัวทีวี, ขาตั้ง, น็อตต่างๆ, สายไฟ, คู่มือ, และที่เด็ดสุดคือ Magic Remote พร้อมแบตเตอรี่ มาให้เลย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: จอใหญ่ 4K ดูกีฬาเพลิน!
หัวใจหลักของทีวีก็คือภาพนี่แหละ! ด้วยความละเอียด 4K บนจอ 65 นิ้ว ถือว่าได้ภาพที่คมชัด ดูรายการทีวีปกติก็สวยขึ้น ยิ่งถ้าได้ดูคอนเทนต์ 4K แท้ๆ จาก Netflix หรือ YouTube นี่คือชัดบาดตาเลยครับ
ช่วงเทศกาลหรือดูบอลยูโรที่ผ่านมา (ปี 2024 นะ ไม่ใช่ปี 2025... เอ๊ะ ปีไหน?) จอใหญ่ๆ แบบนี้คือสะใจมากครับ ดูพร้อมเพื่อนหลายคนก็ยังเห็นชัดทั่วถึง เพราะเค้าเคลมว่ามีมุมมองกว้าง สีไม่เพี้ยนเท่าไหร่ เรื่อง HDR เค้าก็รองรับ HDR10 Pro และ HLG นะ ช่วยให้ภาพส่วนที่มืดและสว่างดูมีรายละเอียดมากขึ้น แต่ด้วยความที่เป็นทีวี LED ทั่วไป ความสว่างอาจจะไม่ได้สูงปรี๊ดเหมือนรุ่นใหม่ๆ ทำให้เอฟเฟกต์ HDR ไม่ได้โดดเด่นเท่าทีวีพรีเมียมครับ แล้วก็อาจจะมีเรื่องแสงรั่ว (backlighting issues) ให้เห็นบ้างในฉากมืดๆ
เรื่องเสียง ลำโพงติดเครื่อง 20W 2.0ch พร้อม DTS Virtual:X ถือว่าพอใช้ดูข่าว ดูละครได้ แต่ถ้าอยากได้อรรถรสดูหนังแบบกระหึ่มๆ แนะนำต่อ Soundbar เพิ่มจะดีกว่าครับ
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: webOS ตอนนั้นเป็นไงบ้าง?
จุดแข็งของ LG มาตลอดคือระบบ Smart TV ที่เป็น webOS รุ่นนี้มาพร้อม webOS 4.0 ซึ่งในยุคนั้นถือว่าทันสมัย ใช้งานง่าย เมจิกรีโมทช่วยให้ควบคุมได้สะดวกมากๆ ครับ จะชี้ จะเลื่อน จะกด ก็ง่ายไปหมด
ระบบ ThinQ AI ก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ LG ชูโรง สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ (น่าจะรองรับภาษาไทยด้วยนะ!) และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Home อื่นๆ ได้ แต่ในปี 2025 ความสามารถและแอปพลิเคชันของ webOS 4.0 อาจจะเริ่มมีข้อจำกัดบ้างแล้ว ความลื่นไหลอาจจะไม่เท่า webOS รุ่นใหม่ๆ ที่ประมวลผลแรงกว่า
เรื่องความร้อน เสียงดัง ตอนใช้งานทั่วไปถือว่าปกติ ไม่ได้ร้อนหรือเสียงดังรบกวนอะไรครับ
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: คุ้มไหมถ้าจะสอยตอนนี้?
ทีวี 65 นิ้ว แน่นอนว่ากินไฟมากกว่าจอเล็กๆ ครับ รุ่นนี้มีค่าการใช้พลังงานอยู่เหมือนกัน (ข้อมูลจากสเปกอยู่ที่ประมาณ 301 kWh/ปี หรือ 87.29 USD ต่อปี ซึ่งเป็นค่าในต่างประเทศนะ) ถือว่าเป็นเรื่องปกติของทีวีจอใหญ่
ความคุ้มค่าในระยะยาว... อันนี้แหละที่ต้องคิดหนัก เพราะเป็นทีวีปี 2018 เท่ากับหมดระยะประกันปกติไปนานแล้ว ถ้าซื้อตอนนี้ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นมือสอง หรือสต็อกเก่าค้างโกดัง ความเสี่ยงเรื่องอะไหล่ หรือจอเสียย่อมมีมากกว่ารุ่นใหม่ๆ ครับ
เมื่อเทียบกับทีวีรุ่นใหม่ๆ ในปี 2025 ที่ราคาหมื่นปลายๆ ถึงสองหมื่นนิดๆ คุณจะได้ทีวี 65 นิ้ว 4K ที่มีฟังก์ชันใหม่กว่า เช่น HDMI 2.1 (เหมาะกับเล่นเกมยุคใหม่) , ชิปประมวลผลภาพที่ดีกว่า, ระบบ Smart TV ที่ลื่นและอัปเดตกว่า, หรือเทคโนโลยีจอที่ดีขึ้น (เช่น QLED ในบางแบรนด์) ดังนั้น ความคุ้มค่าของ 65UK6540PTD ตอนนี้ขึ้นอยู่กับ "ราคา" ที่คุณหาได้ล้วนๆ ครับ! ถ้าได้มาราคาดีแบบตาแตก ก็อาจจะน่าสนสำหรับบางคน
6. ข้อดี-ข้อเสีย (แบบตรงไปตรงมา ไม่ได้อวย!)
ข้อดี (ในมุมมองปี 2025 ถ้าได้ราคาดี):
- จอใหญ่ 65 นิ้วในราคาที่อาจจะถูกมาก: นี่คือจุดเด่นสุด ถ้าเจอมือสองราคาดี
- ความละเอียด 4K: ยังไงก็ชัดกว่า Full HD เยอะ
- มี Smart TV (webOS): ยังพอใช้ดูแอปสตรีมมิ่งหลักๆ ได้
- มี Magic Remote: ใช้ง่าย สะดวกดี
- รองรับ HDR (เบื้องต้น): ดูคอนเทนต์ HDR ได้ดีกว่าทีวี SDR
ข้อเสีย (ที่ต้องทำใจ ถ้าจะซื้อตอนนี้):
- รุ่นเก่า ปี 2018: เทคโนโลยีภาพและเสียงสู้รุ่นใหม่ๆ ไม่ได้แล้ว
- ระบบ Smart TV (webOS 4.0) อาจจะอืดหรือไม่ได้รับการอัปเดต: แอปใหม่ๆ อาจไม่รองรับ
- ไม่มี HDMI 2.1: ไม่เหมาะกับคนเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ๆ ที่ต้องการฟีเจอร์นี้
- คุณภาพ HDR ไม่ได้โดดเด่น: ด้วยข้อจำกัดของพาเนล
- หมดประกัน / ความเสี่ยงเรื่องอะไหล่สูง: ซื้อแล้วต้องภาวนาว่าอย่าเพิ่งเสีย!
- การควบคุมแสง (Local Dimming/Edge Lit) อาจมีปัญหา Backlight Bleeding: เห็นแสงรั่วในฉากมืดๆ ได้
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อดีไหมในยุคนี้?
LG 65UK6540PTD เหมาะกับ:
- คนงบน้อยมากๆ: ที่อยากได้ทีวีจอใหญ่ 65 นิ้ว 4K ในราคาประหยัดสุดๆ
- คนที่เน้นดูหนัง/ซีรีส์ทั่วไป: ไม่ได้ซีเรียสเรื่องคุณภาพของภาพระดับเทพ
- คนที่หาทีวีรอง: ไว้ดูในห้องนอน ห้องรับแขกเล็กๆ หรือร้านค้า
- คนที่โอเคกับการซื้อทีวีมือสอง: และยอมรับความเสี่ยงเรื่องประกัน/อะไหล่ได้
ไม่เหมาะกับ:
- คนเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ๆ (PS5, Xbox Series X): ที่ต้องการ HDMI 2.1
- คนที่เน้นคุณภาพของภาพสูงสุด: ต้องการ HDR ที่สว่างจัดเต็ม สีดำสนิท
- คนที่ต้องการ Smart TV ที่ลื่นปรี๊ด อัปเดตตลอด: webOS เก่าอาจไม่ตอบโจทย์
- คนที่ซีเรียสเรื่องการรับประกัน: รุ่นนี้ส่วนใหญ่หมดประกันแล้ว
ควรซื้อเลยไหม?: ถ้าเจอในสภาพดี ราคาไม่เกินหมื่นบาท (หรืออาจจะถูกกว่านั้นเยอะๆ) และยอมรับข้อจำกัดเรื่องความเก่าได้ ก็อาจจะน่าสอยครับ แต่ถ้าต้องจ่ายแพงกว่าหมื่น หรือพอมีงบเพิ่มอีกหน่อย แนะนำให้ไปดูทีวี 65 นิ้ว 4K รุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวในปี 2023-2025 จะคุ้มกว่าในระยะยาวครับ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ถ้าต้องสู้กับรุ่นใหม่)
ถ้าเอารุ่นนี้ไปเทียบกับทีวี 65 นิ้ว 4K รุ่นเริ่มต้นปี 2024-2025 จากแบรนด์คู่แข่งอย่าง TCL หรือ Hisense ในราคาใกล้เคียงกัน (หมื่นปลายๆ ถึงสองหมื่นนิดๆ) คุณจะได้:
- คุณภาพของภาพที่ดีกว่า: รุ่นใหม่อาจใช้พาเนลที่ดีขึ้น มีเทคโนโลยี Dimming ที่ช่วยให้มิติดีขึ้น หรือเป็น QLED ไปเลย
- รองรับ HDR ที่ดีกว่า: สว่างกว่า สีสันสดใสกว่า
- ระบบ Smart TV ที่ใหม่กว่า ลื่นกว่า: แอปครบ อัปเดตนานกว่า
- มี HDMI 2.1: สำคัญสำหรับคอเกม
- มีการรับประกันเต็มปี: สบายใจกว่าเยอะ
ดังนั้น การซื้อ 65UK6540PTD ในปี 2025 เท่ากับคุณยอมแลกเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า การรับประกัน และฟังก์ชันบางอย่าง เพื่อให้ได้จอใหญ่ในราคาถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเองครับ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: หาซื้อที่ไหนดี?
เนื่องจากเป็นทีวีปี 2018 ช่องทางการซื้อหลักๆ ในปี 2025 คงไม่ใช่ร้านค้าทางการแบบมือหนึ่งแล้วครับ ส่วนใหญ่จะเจอตามนี้:
- ตลาดมือสองออนไลน์: เช่น Facebook Marketplace, Kaidee, กลุ่มซื้อขายทีวีมือสอง อันนี้ต้องเช็คสภาพดีๆ ไปลองดูก่อนซื้อ
- ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง: อาจจะมีหลงเหลืออยู่
- ร้านที่ขายสต็อกค้างเก่า/เคลียร์สินค้า: นานๆ จะเจอทีครับ
การรับประกัน: ถ้าซื้อตอนเปิดตัว ประกัน 1 ปีหมดไปนานแล้วครับ ซื้อตอนนี้คือไม่มีประกันจากศูนย์ LG แล้วนะ ต้องลุ้นเอาเอง หรือถ้าซื้อร้านมือสองอาจจะมีประกันร้านให้สั้นๆ ครับ
โปรโมชั่นล่าสุดใน Lazada, Shopee, JD Central ส่วนใหญ่จะเป็นทีวีรุ่นใหม่ๆ แล้วครับ รุ่นนี้คงต้องไปหาตามช่องทางมือสอง ซึ่งก็แล้วแต่ผู้ขายว่าจะใจดีแถมอะไรให้บ้าง หรือมีส่วนลดเยอะแค่ไหน
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!
สรุปง่ายๆ คือ LG 65UK6540PTD ในปี 2025 ยังน่าสนใจ... ถ้าคุณได้มาราคาถูกมากๆ จริงๆ ครับ!
ถ้าคุณคือคนที่มีงบจำกัดสุดๆ อยากได้ทีวีจอใหญ่ 65 นิ้ว 4K ไว้ดูหนังฟังเพลงทั่วๆ ไป ไม่ได้เป็นคอเกม ไม่ได้ซีเรียสเรื่องภาพต้องสมบูรณ์แบบที่สุด และโอเคกับการซื้อทีวีที่ไม่มีประกันศูนย์แล้ว รุ่นนี้ที่ได้มาราคาดีแบบถูกจนน่าตกใจ ก็เป็นตัวเลือกที่พอน่าพิจารณาครับ
แต่ถ้าคุณมีงบประมาณพอที่จะขยับไปเล่นทีวี 65 นิ้ว 4K รุ่นเริ่มต้นของปี 2023-2025 ที่ราคาหมื่นปลายๆ ถึงสองหมื่นต้นๆ แนะนำให้ไปซื้อรุ่นใหม่ดีกว่าครับ คุณจะได้เทคโนโลยีที่สดใหม่กว่า ฟังก์ชันครบกว่า ประสิทธิภาพดีกว่า และที่สำคัญคือ มีการรับประกันเต็มปี ให้คุณสบายใจหายห่วงครับ
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ LG 65UK6540PTD ลองชั่งน้ำหนักระหว่าง "ราคา" กับ "ความเก่า" และ "การรับประกัน" ดูนะครับ ขอให้ได้ทีวีที่ถูกใจและคุ้มค่าครับ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick: รองพื้นสติ๊ก ปกปิดเรียบเนียน คุมมัน กันน้ำไหม
รีวิว Charlotte Tilbury Magic Cream: ครีมบำรุงผิวตัวดัง ผิวอิ่มฟู ฉ่ำโกลว์จริงไหม?
รีวิว iPhone 13 ปี 2025: คุ้มค่าน่าซื้อไหม?
รีวิว Xiaomi Air Purifier 2S: เครื่องฟอกอากาศดีไซน์มินิมอล กรองอากาศสะอาด
รีวิว Nutri Master Astaxanthin Plus: อาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวและสายตา ได้ผลจริงไหม?
Garmin GDR E530 รีวิวกล้องติดรถยนต์: ชัด ทน อุ่นใจทุกการเดินทางไหม?
บทความยอดนิยม
บทความที่แนะนำ